ถ้าต้องให้คำจำกัดความหรืออธิบาย ความเป็นตัวตนของสาวไฮโซอย่าง แป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ แล้วคงเป็นเรื่องยากมาก เพราะความเรียบง่าย อ่อนโยน ที่หลายคนได้พบเห็นเป็นประจำนั้น ดูขัดแย้งกับตัวตนเธออย่างสิ้นเชิง
ใครเล่าจะเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้จะมีพลังยิ่งใหญ่ มีความสามารถหลากหลาย นอกจากช่วยดูแลธุรกิจประกันของครอบครัวแล้ว ครั้งหนึ่งเธอยังทำงานการเมือง ช่วยเหลือสังคม และล่าสุดยังสร้างความสุขให้คนไทยสร้างประวัติศาสตร์ส่งทีมฟุตบอลสาวไทยไปฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกปี 2015 ที่แคนาดาได้สำเร็จอีกด้วย คอลัมน์ The People ฉบับนี้จะพาไปคุย แป้ง-นวลพรรณ ทายาทรุ่น 5 แห่งตระกูลล่ำซำ
นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ บัณฑูร ล่ำซำ ปัจจุบันนั่งแท่นกรรมการผู้จัดการบริษัทเมืองไทยประกันภัย และมีบริษัท วรรณมานี จำกัด และบริษัท ซังออนอเร่ (กรุงเทพ) ของตัวเองนำเข้าสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ Hermes อีกทั้ง Emporio Armani, Rodo, Chirstofle, Chole, Bluemarine และ Tod’s เป็นต้น
"ภาพตรงนี้ทำให้หลายคนมองว่าแป้งเป็นไฮโซใช้ของแบรนด์เนมราคาแพงแต่ความจริงแป้งก็เป็นแค่คนทำงานธรรมดาคนหนึ่ง งานประกันภัยเป็นงานบริการ หลายครั้งต้องลุยลงไปดูแลลูกค้า ไกลแค่ไหน ลำบากยังไงก็ต้องไป บางทีไปเห็นปัญหาแล้วอดไม่ได้กลับมาบริษัทก็ปรึกษาน้องๆทำงานช่วยสังคมอีก ส่วนใหญ่จะเน้นงานด้านสตรี เด็ก และคนพิการค่ะ"
แม้ว่าภารกิจที่ทำอยู่จะมีมากมาย ด้วยความเป็นคนทำงานแคล่วคล่องว่องไว ตัดสินใจเฉียบขาด ทำให้มีคนทาบทามเธอไปสู่ถนนการเมืองด้วยการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ "ไปทำตรงนั้นได้ไม่นานค่ะ พอดีมีเหตุการณ์ยุ่งๆ ก็เลยหยุด ขอออกมาทำงานของตัวเองก่อน"
เมื่อกลับมาทำงานประจำที่บริษัทประกันภัยพร้อมๆกับดูแลบริษัทของตัวเอง แป้งก็ยังทำงานสังคมสม่ำเสมอ โดยครั้งหลังสุดเธอเข้าไปเป็นผู้จัดการกีฬาให้คนพิการอีกด้วย จากผลงานที่ปรากฏ ทำให้ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ชักชวนให้เธอมาช่วยดูแลฟุตบอล ทีมชาติหญิงไทย แม้จะเป็นกีฬาที่ไม่ถนัดนัก แต่นวลพรรณก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ "พอได้เข้ามาเจอน้องๆนักกีฬาก็รู้สึกประทับใจทุกคนเป็นเด็กน่ารักตั้งใจฝึกซ้อม แป้งฝันอยากทำทีมดีๆช่วงแรก ใช้โค้ชบราซิลเลยแต่มีปัญหาเรื่องภาษาเลยเปลี่ยนมาใช้โค้ชคนไทยแทนซึ่งก็ไม่ผิดหวังทำให้ทีมฟุตบอลหญิงชาติไทย ไปบอลโลกได้" แป้งเล่าย้อนถึงวันแรกที่เข้ามาทำทีม
ไฮโซสาวผู้จัดการทีมบอลหญิงร่างเล็กยังเล่าถึงฟุตบอลแมทซ์สำคัญที่ประทับใจมากมี 2 ครั้ง คือ การแข่งขันซีเกมส์ ที่กรุงมัณฑเลย์ ประเทศพม่า ที่ไทยเข้าชิงเหรียญทองกับเวียดนาม ปรากฏแพ้ยิงจุดโทษไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ทำให้ลูกทีมของเธอร่ำไห้ ครั้งนั้นแป้งก็ร้องไห้ด้วยเช่นกัน
สำหรับแมทซ์ที่ประทับใจตื่นเต้นมากไม่มีวันลืมเลยก็คือซีเกมส์ที่พม่า แต่เป็นรอบรองชนะเลิศ ทีมไทยต้องพบกับพม่าเจ้าภาพ ครั้งนั้นแป้งได้เห็นได้สัมผัสภาพคนดูชาวพม่าที่ดูกีฬาด้วยความคาดหวังเมื่อผิดหวังก็มีอารมณ์รุนแรง "ตอนนั้นบอลชายของพม่าเพิ่งแพ้ตกรอบไป เพราะฉะนั้นฟุตบอลหญิงก็เป็นสิ่งที่คนพม่าคาดหวังมาก เราแข่งกันใช้เวลา 90 นาทีเสมอกัน 2 ต่อ 2 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาทีจบเกมส์ก็ยังเสมอเลยต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษไทยเราชนะด้วยคะแนน 10 ต่อ 9 ช่วงต่อเวลาแป้งเองแทบไม่อยากดูต่อเลยค่ะ เพราะเป็นกีฬาที่กดดันและบีบหัวใจมาก คนดูพม่าก็อารมณ์รุนแรง พอเรานำก็เริ่มโหร้อง ขว้างปาสิ่งของ แป้งเองก็ห่วงไม่อยากเสี่ยงให้น้องลงสนามแข่งแล้ว เพราะมีทั้งขวดน้ำ เก้าอี้เขวี้ยงลงมาถ้าโดนเด็กๆ เป็นอะไรขึ้นมาก็ไม่คุ้มเลย" แป้งกล่าว
นวลพรรณในวันนี้ แม้วัยเข้าเลข 4 แล้วก็ตามแต่เธอยังคงความสาวความสวยและความเก่งได้เป็นอย่างเป็นอมตะ ซึ่งเธอยอมรับว่าทำงานหนักและใช้เวลาเพียงเล็กน้อยสำหรับการพักผ่อนเท่านั้น วันไหนหากมีเวลาว่าง ก็อยู่บ้านกับครอบครัว เธอเลือกพักผ่อนด้วยการเล่นเทนนิสและอ่านหนังสือเป็นการพักผ่อน แทนการท่องเที่ยว
ในวันนี้แม้จะภาคภูมิใจกับผลงานที่ลูกทีมสร้างไว้ แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น ภารกิจหลังจากนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เธอและน้องๆต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อความสุขของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งแป้งบอกว่าจะต้องทำให้สำเร็จไม่ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานสักเพียงใด
