คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
ถุงยางอนามัยนั้นราคาไม่แพง หาซื้อง่ายและใช้สะดวก มันจึงเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนที่ต้องการมีเซ็กซ์โดยไม่มีลูกหรือติดเชื้อกามโรค ตราบใดที่คุณใช้มันอย่างเคร่งครัดและถูกต้อง จะช่วยป้องกันเชื้อ HIV และกามโรคอื่นๆได้ถึง 94% และช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 98%
เจ้ายางชิ้นเล็กๆบางๆธรรมดานี่แหละ
โปรดสังเกต ผมเน้นคำว่า “อย่างเคร่งครัดและถูกต้อง” ถ้าล้มเหลวในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง (หรือทั้งสอง) ถุงยางก็จะมีประสิทธิภาพน้อยลง อย่างเช่น “ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 98% ก็จะลดลงเหลือ 82% เมื่อใช้อย่างไม่สมบูรณ์แบบ และ 94% ในการป้องกันกามโรคก็จะลดลงเหลือ 80% เป็นต้น
“อย่างเคร่งครัด” นั้นก็ง่ายๆ มันหมายถึงการใช้ถุงยางทุกครั้ง ที่องคชาตกำลังจะเข้าไปในร่างกายของอีกคน (และไม่ใช่เฉพาะกับองคชาต ของเล่นทางเพศที่มีการใช้ร่วมกันก็ควรถูกสวมถุงด้วย) สำหรับคำว่า “ถูกต้อง” ก็หมายความตรงตัวว่าอย่าใช้มันอย่างโง่ๆ
ก็อย่างที่บอก มันเป็นเพียงยางชิ้นเล็กๆบางๆธรรมดา แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ใช้มันอย่างผิดๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกขนาดผิด
ผู้ชายที่ซื้อถุงยางขนาด XXL นั้นต้องการจะแสดงอหังการว่าเจ้าโลกของเขานั้นมหึมาขนาดไหน ทั้งๆที่จริงๆแล้วของตัวเองแค่ไซส์ S เท่านั้น มันจึงมีปัญหาใหญ่ 3 ประการสำหรับการใช้ถุงยางขนาดใหญ่เกินไป คุณเคยสวมรองเท้าที่มีขนาดใหญ่กว่าเท้าของคุณ 1 เบอร์มั้ยล่ะ ผลของการเดินจะเป็นอย่างไร
หนึ่งในปัญหาก็คือการเสียดสี องคชาตของคุณอาจถลอก และถุงยางสามารถฉีกขาดได้เมื่อมีการเสียดสีมากเกินไป และด้วยเหตุที่มันไม่แน่นกระชับ ถุงยางใหญ่เกินจึงรั่วได้ แต่ที่ร้ายที่สุดก็คือ ถุงยางที่หลวมเกินไปอาจหลุดระหว่างมีเซ็กซ์ได้ แค่อย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ประเภทนี้ การร่วมเพศของคุณก็ไม่ราบรื่นแล้ว
ถุงยางอนามัยนั้นยืดหยุ่นได้ดีและควรมีความแน่นกระชับ ดังนั้นโปรดอย่าอายคนขายเมื่อคุณต้องการซื้อถุงยางไซส์ S จะเล็กจะใหญ่มันก็เรื่องของกู ว่างั้นเถอะ
2. เก็บถุงยางในกระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสตางค์ เป็นที่เก็บของสำคัญหลายอย่างนอกจากเงิน เช่น บัตรประจำตัว ใบขับขี่ นามบัตร ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ติดตัวเมื่อคุณออกนอกบ้าน มันจึงดูเหมือนฉลาดที่คุณเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน
แต่จริงๆแล้วการเดินไปไหนต่อไหนโดยมีกระเป๋าสตางค์ที่เต็มไปด้วยถุงยางอนามัยเป็นเรื่องไม่ฉลาดเอาเสียเลย โดยเฉพาะเมื่อพวกมันถูกยัดอยู่ในกระเป๋าหลัง
กระเป๋าสตางค์เป็นแหล่งของการเสียดสี ความร้อนและแรงกดทับ ทั้ง 3 อย่างนี้ทำให้ยางอ่อนแอลง ดังนั้นการเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์จึงเป็นอะไรที่ไม่ควรทำมากที่สุด
ถุงยางควรถูกเก็บไว้ในสถานที่เย็นและแห้ง
3. ใช้ถุงยางเก่า
ถุงยางที่ถูกวางซุกไว้ในลิ้นชักใต้กองเอกสารอย่างโดดเดี่ยวน่าสงสารนั้น ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนกัน เมื่อเวลาผ่านไปนานๆอายุการใช้งานของมันก็หมดลง เสื่อมประสิทธิภาพไปเรียบร้อย
วันหมดอายุของถุงยางมีเหตุผลข้อหนึ่งคือ ยางลาเท็กซ์เก่าๆจะแข็งตัวและเปราะ แม้ว่ามันจะถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่ากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าหลังก็ตาม
ขั้นแรก ตรวจดูวันที่บนซอง ถ้าหมดอายุ ก็ทิ้งมันไป ขั้นที่สอง ดูที่ตัวถุงยางเอง ถ้ามันแห้ง มียางเหนียวหรือแข็งเปราะ มันก็เก่าเกินใช้งานแล้ว ทิ้งมันไปเช่นกัน อย่าเสียดายเงินเล็กๆน้อยๆที่จะต้องซื้อใหม่
4. แกะด้วยฟัน
รีบใช้ใช่มั้ย? อยากทำเท่รึไง? มือไม่ว่าง? สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดีในการใช้ฟันแกะเปิดซองถุงยาง ลาเท็กซ์เป็นปราการที่ดีในการสกัดกั้นน้ำอสุจิและเชื้อกามโรค แต่ไม่ใช่กับฟัน แม้ว่าจะมองไม่เห็นรอยฉีกขาด แต่ถุงยางที่ถูกกัดอาจถูกทำลายมากพอที่จะฉีกขาดเมื่อโดนเสียดสีในเวลาต่อมาได้
นอกจากความเสี่ยงดังกล่าวแล้ว สารหล่อลื่นในถุงยางอาจมีรสเฝื่อนลิ้นด้วย
อย่าหาอะไรที่คมมาตัดซองแทนการใช้ฟัน กรรไกร มีด ที่ตัดเล็บหรือเล็บยาวๆ รวมทั้งสิ่งอื่นๆ ที่คมกว่าปลายนิ้ว ล้วนอยู่ในรายการ “ห้ามใช้” ทั้งสิ้น มันเหมือนเป็นกฎแบบห้ามใส่อะไรที่เล็กกว่าข้อศอกลงในหูของคุณนั่นแหละ
ซองถุงยางโดยทั่วไปจะมีขอบฟันปลาเพื่อช่วยให้แกะเปิดซองได้ง่ายขึ้น อลูมิเนียมฟอยล์หรือพลาสติกที่ใช้ทำซองถุงยางนั้นแกะเปิดง่ายด้วยมือเปล่าอยู่แล้ว มันคือ ปฏิบัติการ “สองมือ ศูนย์ฟัน” ครับ
ยิ่งกว่านั้น เดี๋ยวนี้นักออกแบบ อย่าง เบน พอว์ล ยังดำเนินการออกแบบให้เปิดซองง่ายขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้แกะซองถุงยางได้ด้วยมือเดียว สำหรับคนที่ไม่ยอมลำบากแม้แต่จะปลอกกล้วยเข้าปาก
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ถุงยางอนามัยนั้นราคาไม่แพง หาซื้อง่ายและใช้สะดวก มันจึงเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนที่ต้องการมีเซ็กซ์โดยไม่มีลูกหรือติดเชื้อกามโรค ตราบใดที่คุณใช้มันอย่างเคร่งครัดและถูกต้อง จะช่วยป้องกันเชื้อ HIV และกามโรคอื่นๆได้ถึง 94% และช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 98%
เจ้ายางชิ้นเล็กๆบางๆธรรมดานี่แหละ
โปรดสังเกต ผมเน้นคำว่า “อย่างเคร่งครัดและถูกต้อง” ถ้าล้มเหลวในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง (หรือทั้งสอง) ถุงยางก็จะมีประสิทธิภาพน้อยลง อย่างเช่น “ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 98% ก็จะลดลงเหลือ 82% เมื่อใช้อย่างไม่สมบูรณ์แบบ และ 94% ในการป้องกันกามโรคก็จะลดลงเหลือ 80% เป็นต้น
“อย่างเคร่งครัด” นั้นก็ง่ายๆ มันหมายถึงการใช้ถุงยางทุกครั้ง ที่องคชาตกำลังจะเข้าไปในร่างกายของอีกคน (และไม่ใช่เฉพาะกับองคชาต ของเล่นทางเพศที่มีการใช้ร่วมกันก็ควรถูกสวมถุงด้วย) สำหรับคำว่า “ถูกต้อง” ก็หมายความตรงตัวว่าอย่าใช้มันอย่างโง่ๆ
ก็อย่างที่บอก มันเป็นเพียงยางชิ้นเล็กๆบางๆธรรมดา แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ใช้มันอย่างผิดๆ ดังต่อไปนี้
1. เลือกขนาดผิด
ผู้ชายที่ซื้อถุงยางขนาด XXL นั้นต้องการจะแสดงอหังการว่าเจ้าโลกของเขานั้นมหึมาขนาดไหน ทั้งๆที่จริงๆแล้วของตัวเองแค่ไซส์ S เท่านั้น มันจึงมีปัญหาใหญ่ 3 ประการสำหรับการใช้ถุงยางขนาดใหญ่เกินไป คุณเคยสวมรองเท้าที่มีขนาดใหญ่กว่าเท้าของคุณ 1 เบอร์มั้ยล่ะ ผลของการเดินจะเป็นอย่างไร
หนึ่งในปัญหาก็คือการเสียดสี องคชาตของคุณอาจถลอก และถุงยางสามารถฉีกขาดได้เมื่อมีการเสียดสีมากเกินไป และด้วยเหตุที่มันไม่แน่นกระชับ ถุงยางใหญ่เกินจึงรั่วได้ แต่ที่ร้ายที่สุดก็คือ ถุงยางที่หลวมเกินไปอาจหลุดระหว่างมีเซ็กซ์ได้ แค่อย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ประเภทนี้ การร่วมเพศของคุณก็ไม่ราบรื่นแล้ว
ถุงยางอนามัยนั้นยืดหยุ่นได้ดีและควรมีความแน่นกระชับ ดังนั้นโปรดอย่าอายคนขายเมื่อคุณต้องการซื้อถุงยางไซส์ S จะเล็กจะใหญ่มันก็เรื่องของกู ว่างั้นเถอะ
2. เก็บถุงยางในกระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสตางค์ เป็นที่เก็บของสำคัญหลายอย่างนอกจากเงิน เช่น บัตรประจำตัว ใบขับขี่ นามบัตร ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ติดตัวเมื่อคุณออกนอกบ้าน มันจึงดูเหมือนฉลาดที่คุณเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน
แต่จริงๆแล้วการเดินไปไหนต่อไหนโดยมีกระเป๋าสตางค์ที่เต็มไปด้วยถุงยางอนามัยเป็นเรื่องไม่ฉลาดเอาเสียเลย โดยเฉพาะเมื่อพวกมันถูกยัดอยู่ในกระเป๋าหลัง
กระเป๋าสตางค์เป็นแหล่งของการเสียดสี ความร้อนและแรงกดทับ ทั้ง 3 อย่างนี้ทำให้ยางอ่อนแอลง ดังนั้นการเก็บถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์จึงเป็นอะไรที่ไม่ควรทำมากที่สุด
ถุงยางควรถูกเก็บไว้ในสถานที่เย็นและแห้ง
3. ใช้ถุงยางเก่า
ถุงยางที่ถูกวางซุกไว้ในลิ้นชักใต้กองเอกสารอย่างโดดเดี่ยวน่าสงสารนั้น ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนกัน เมื่อเวลาผ่านไปนานๆอายุการใช้งานของมันก็หมดลง เสื่อมประสิทธิภาพไปเรียบร้อย
วันหมดอายุของถุงยางมีเหตุผลข้อหนึ่งคือ ยางลาเท็กซ์เก่าๆจะแข็งตัวและเปราะ แม้ว่ามันจะถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่ากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าหลังก็ตาม
ขั้นแรก ตรวจดูวันที่บนซอง ถ้าหมดอายุ ก็ทิ้งมันไป ขั้นที่สอง ดูที่ตัวถุงยางเอง ถ้ามันแห้ง มียางเหนียวหรือแข็งเปราะ มันก็เก่าเกินใช้งานแล้ว ทิ้งมันไปเช่นกัน อย่าเสียดายเงินเล็กๆน้อยๆที่จะต้องซื้อใหม่
4. แกะด้วยฟัน
รีบใช้ใช่มั้ย? อยากทำเท่รึไง? มือไม่ว่าง? สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดีในการใช้ฟันแกะเปิดซองถุงยาง ลาเท็กซ์เป็นปราการที่ดีในการสกัดกั้นน้ำอสุจิและเชื้อกามโรค แต่ไม่ใช่กับฟัน แม้ว่าจะมองไม่เห็นรอยฉีกขาด แต่ถุงยางที่ถูกกัดอาจถูกทำลายมากพอที่จะฉีกขาดเมื่อโดนเสียดสีในเวลาต่อมาได้
นอกจากความเสี่ยงดังกล่าวแล้ว สารหล่อลื่นในถุงยางอาจมีรสเฝื่อนลิ้นด้วย
อย่าหาอะไรที่คมมาตัดซองแทนการใช้ฟัน กรรไกร มีด ที่ตัดเล็บหรือเล็บยาวๆ รวมทั้งสิ่งอื่นๆ ที่คมกว่าปลายนิ้ว ล้วนอยู่ในรายการ “ห้ามใช้” ทั้งสิ้น มันเหมือนเป็นกฎแบบห้ามใส่อะไรที่เล็กกว่าข้อศอกลงในหูของคุณนั่นแหละ
ซองถุงยางโดยทั่วไปจะมีขอบฟันปลาเพื่อช่วยให้แกะเปิดซองได้ง่ายขึ้น อลูมิเนียมฟอยล์หรือพลาสติกที่ใช้ทำซองถุงยางนั้นแกะเปิดง่ายด้วยมือเปล่าอยู่แล้ว มันคือ ปฏิบัติการ “สองมือ ศูนย์ฟัน” ครับ
ยิ่งกว่านั้น เดี๋ยวนี้นักออกแบบ อย่าง เบน พอว์ล ยังดำเนินการออกแบบให้เปิดซองง่ายขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้แกะซองถุงยางได้ด้วยมือเดียว สำหรับคนที่ไม่ยอมลำบากแม้แต่จะปลอกกล้วยเข้าปาก
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net