>>แม้ปัจจุบันนี้เราจะเห็นข่าวการ“คอร์รัปชัน”กันไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นของเมืองไทยเราเองหรือประเทศเพื่อนบ้าน การคอร์รัปชันโกงกินกับการเมืองและผู้มีอำนาจบริหารงานบ้านเมืองดูจะเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ออก แต่ก็ถือได้ว่ามีอัตราส่วนที่ลดน้อยลงจากในอดีต ที่การเข้าถึงการศึกษา ข้อมูลข่าวสารของประชาชนและการพัฒนาทางเทคโนโลยียังไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อสังคมโลกเราพัฒนาไปอย่างไม่หยุดหย่อนการโกงกินทั้งหลายก็ถูกจับได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อความเลวร้ายปรากฎขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวนักการเมืองหรือผู้มีอำนาจต่างๆ จะได้รับผลกรรม แต่ยังรวมไปถึงคนใกล้ชิดที่มีส่วนเอี่ยวในเงินอันไม่บริสุทธิ์ที่กอบโกยไปจากประเทศชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนอย่าง 3 คนนี้
1. ทอมมี ซูฮาร์โต
เห็นนามสกุลซูฮาร์โตแบบนี้ ใครๆ ก็คงเดาได้ว่า ทอมมี คือ ลูกชายของ โมฮัมเหม็ด ซูฮาร์โต อดีตประธานาธิบดีของประเทศอินโดนีเซีย ผู้ติดอันดับนักการเมืองทึ่คอร์รัปชันที่สุดในโลก มีการคำนวณกันว่าเงินที่ซูฮาร์โตโกงประเทศชาติเข้ากระเป๋าส่วนตัวไปน่าจะสูงถึง 7 แสนล้านบาท!!!
ตัวทอมมีเองด้วยความที่โตมาในยุคที่พ่อกำลังรุ่งเรืองในอำนาจทางการเมือง และมีการกอบโกยความร่ำรวย ทำให้เขามีนิสัยฟุ้งเฟ้อ และชอบใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์หรูหรา ความคลั่งไคล้อย่างหนึ่งของเขาที่เป็นที่รู้กันทั่วคือ นิยมรถหรู ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ตคันละหลายสิบล้าน และรถรุ่นพิเศษ รถแต่งต่างๆ ถึงขนาดที่เขาได้ทุ่มซื้อหุ้นลัมบอร์กินีมาถือครองไว้เป็นจำนวนมูลค่านับพันล้านบาท แถมยังลงทุนเปิดบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอินโด “Timor”
แต่เมื่อถึงคราวซูฮาร์โตหมดสิ้นอำนาจ ตัวทอมมีเองซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานและธุรกิจทั้งหลายเจริญเติบโตได้เพราะบารมีและเส้นสายของพ่อ ก็เริ่มโดนตามเช็กบิลด้วยกระบวนการยุติธรรม ทั้งในเรื่องการหลบหนีภาษี ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีเรื่องการฉ้อโกงไม่ต่างจากซูฮาร์โตผู้พ่อแต่อย่างใด และเขายังถูกจำคุกเป็นนักโทษในคดีจ้างวานฆ่าผู้พิพากษาผู้ตัดสินข้อหาคอร์รัปชันและติดสินบน โดยโดนโทษเป็นระยะเวลา 15 ปี
2. อิเมลดา มาร์กอส
หนึ่งในตำนานสตรีหมายเลข 1 ที่มีคนจดจำมากที่สุดในโลก แต่ไม่ใช่ในเรื่องที่ดีนัก เนื่องจากภรรยาของอดีตประธานาธิบดีประเทศฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินาน มาร์กอส เป็นที่รู้จักกันในฐานะสาวผู้มีรองเท้ามากที่สุดในโลก เธอเป็นตัวแทนของความฟุ้งเฟ้อของชนชั้นผู้มีอำนาจที่ร่ำรวยขึ้นมาจากความเดือดร้อนของผู้คนทั้งประเทศ ในสมัยที่สามีเธอครองอำนาจ ครอบครัวมาร์กอสกอบโกยผลประโยชน์เข้าบัญชีเงินฝากในต่างประเทศ และเป็นเจ้าของทรัพย์สินมูลค่านับแสนล้านบาท
ว่ากันว่าในวันที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานหลบหนีสละอำนาจเนื่องมาจากการต่อต้านของประชาชนฟิลิปปิส์นับล้านนั้น เขาและอิเมลดาบินออกนอกประเทศพร้อมทรัพย์สินเพชรนิลจินดาและเงินทองมหาศาล โดยต้องทิ้งกระเป๋าแบรนด์เนมนับพันใบ ชุดราตรีกว่า 500 ตัว และรองเท้าอีกพันกว่าคู่ไว้โดยไม่สามารถนับไปด้วยได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีรองเท้าในครอบครองอีกกว่า 2,700 คู่ จนทำให้เธอคนนี้ถูกล้อเลียนในเรื่องบ้ารองเท้าเสมอมา จนกลายเป็นเรื่องขบขันของคนทั้งโลก
หลังจากที่สามีถูกเนรเทศไปเสียชีวิตที่ต่างแดน แม้อิเมลดาและบุตรธิดาที่ยังคงมั่งคั่งจากเงินภาษีของประชาชนนั้นได้ใช้ชีวิตเลิศหรูในหมู่เพื่อนเศรษฐี ก็พยายามกลับไปครองอำนาจทางการเมืองฟิลิปปินส์ โดยเธอยังมีฐานเสียงอยู่ในท้องถิ่นต่างจังหวัด แต่ด้วยผลงานฉ้อราษฎร์บังหลวงของสามีในสมัยครองอำนาจ ทำให้ทุกวันนี้อิเมลดาในวัย 80 กว่าปียังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีโกงเงินแผ่นดินอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน
3. โป กัวกัว
ชายหนุ่มผู้นี้มีบิดาคือ นักการเมืองจีนผู้อื้อฉาว โป ซีไหล ผู้นำพรรคการเมืองถูกถอดออกจากตำแหน่งเนื่องจากการรับสินบน การใช้อำนาจโดยมิชอบ และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ส่วนมารดาของเขา กู ไคไหล ก็เป็นฆาตกรฆ่า เนล เฮย์วูด นักธุรกิจชาวอังกฤษด้วยการวางยาพิษ เนื่องจากขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ
นายโป กัวกัว นั้นเรียกได้ว่ามีชีวิตที่แตกต่างจากเด็กชายชาวจีนทั่วไป ด้วยความเป็นบรรพบุรุษในแวดวงการเมืองมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ที่เป็นลูกน้องของเหมา เจ๋อ ตุง มาจนถึงพ่อที่มีบทบาทสำคัญในรัฐบาล โปนั้นถูกส่งไปศึกษาที่ต่างประเทศ เขาคือชาวจีนคนแรกที่ได้เข้าเรียนที่แฮร์โรว์ โรงเรียนชั้นนำสุดหรูของอังกฤษ และศึกษาต่อที่ออกซฟอร์ดและฮาร์วาร์ดในเวลาต่อมา
โป ใช้ชีวิตหรูหราอยู่กับเพื่อนนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดปาร์ตี้แชมเปญสนุกสนานในหอพัก เที่ยวในคลับชั้นนำ เป็นเจ้าของรถสปอร์ตหรู เดตกับลูกทูต และรับบทพ่อบุญทุ่มเป็นเจ้าภาพขนเอาเพื่อนๆ และอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยไปเที่ยวเมืองจีนแบบเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทริป เที่ยวทริปหรูหราจ้างเครื่องบินเจ็ตบินจากดูไบไปเที่ยวแอฟริกา รวมไปถึงมีข่าวลือเรื่องการใช้เงินโกงการเลือกตั้งตัวแทนนักศึกษา เรียกได้ว่าเดินตามรอยพ่อแบบลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ
ทุกวันนี้ โป ยังใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน โดยเรียนต่อด้านกฎหมายอยู่ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของคนจีนให้ตรวจสอบการเงินของโป กัวกัว เนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในต่างแดน และการมีเงินทุนศึกษาต่อทั้งที่ครอบครัวถูกดำเนินคดีและยึดทรัพย์แล้ว จึงเชื่อได้ว่ากัวกัวถือครองทรัพย์สินที่มาจากการคอร์รัปชันของบิดาครอบครองอยู่อีกไม่น้อยเลยทีเดียว
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/