xs
xsm
sm
md
lg

ผบร.29 กกล.สุรสีห์ ติดยศ “พันโท” ให้ทหารกล้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ผบ.ร.29 กกล.สุรสีห์ ติดยศ “พันโท” ให้ทหารกล้า หลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบใน 3 จังหวัดชายแดน และถูกระเบิดขาขาด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (14 พ.ย.) พ.อ.วุฒิชัย นาควานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีประดับยศให้แก่จ่าสิบโทอุเทน แก้ววิเชียร ตามที่ได้มีพระพรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานชั้นยศเป็นพันโท ยังความปลาบปลื้ม และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อครอบครัวแก้ววิเชียร

พ.อ.วุฒิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2555 เวลา 11.30 น. จ่าสิบโทอุเทน ผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 29 และกำลังพลอีก 7 นาย เดินทางไปรณรงค์ต้านยาเสพติดให้กับมัสยิดตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ขณะเดินทางกลับกองร้อยถูกระเบิดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางไว้บนรถเข็นผัก ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีแผลบริเวณแขนซ้าย และขาซ้ายหัก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ หลังจากนั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า จึงส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

คณะแพทย์ที่ทำการรักษาได้ลงความเห็นว่า ขาซ้ายขาดเหนือเข่า ถือว่าพิการ ตามกฎกระทรวงกลาโหม ฉบับที่ 74 (พ.ศ.2540) ข้อ 2 (7)(ข) ไม่สามารถรับราชการในตำแหน่งหน้าที่ซึ่งปฏิบัติอยู่นั้นต่อไปได้

กองทัพบก โดยกรมทหารราบที่ 29 ได้ดูแลอาการบาดเจ็บตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้บังคับบัญชา ตลอดจนเพื่อนร่วมงานได้เยี่ยม และติดตามอาการบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะตามที่ผู้บัญชาการทหารบก เป็นห่วงกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน ในเรื่องการติดตามสิทธิอันพึงได้รับนั้น ทางหน่วยได้ดำเนินการติดตามสิทธิได้ทันเวลา คงเหลือเงินบำนาญพิเศษที่ยังไม่ได้รับซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ

ในส่วนการดูแลครอบครัว จ่าสิบโทอุเทน มีบุตรอายุ 3 ขวบ และมีภรรยาที่ประสงค์รับราชการทหาร ทางหน่วยได้บรรจุเข้าทำงานที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กองพลทหารราบที่ 9 เพื่อให้มีรายได้ดูแลครอบครัว และขณะนี้ได้ขอบรรจุภรรยาเข้ารับราชการในจังหวัดทหารบกกาญจนบุรีตามขั้นตอนแล้ว

ด้านจ่าสิบโทอุเทน กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่เปรียบมิได้ ในฐานะที่เคยปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่พี่น้องประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และประสบเหตุร้ายด้วยตนเอง จนคณะแพทย์ต้องตัดขาซ้าย ทำให้ร่างกายพิการ แต่ความรู้สึกของตนไม่ได้โกรธเคืองกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแม้แต่น้อย ตนและครอบครัวพร้อมที่จะให้อภัยทุกคนเสมอ

แต่สิ่งที่คนไทยทุกคนปรารถนาที่สุด คือ ต้องการเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสงบร่มเย็น ไม่มีการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป ดังนั้น ตนและครอบครัวขอวิงวอนแทนคนไทยทุกคนว่า ขอให้ทุกคนเลิกก่อเหตุรุนแรงทั้งหมด อันเป็นบ่อเกิดแห่งความสูญเสียของพี่น้องชาวไทย ตนเชื่อว่าผู้ที่สูญเสียหัวหน้าครอบครัว หรือสูญเสียสมาชิกภายในครอบครัวไป ทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยให้แก่ทุกคนอย่างแน่นอน

นางอัญชลี แก้ววิเชียร อายุ 28 ปี ภรรยา กล่าวว่า ตนกับสามีอยู่กินกินมา มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ ด.ญ.อัญชิสา อายุ 3 ปี หลังจากที่สามีพร้อมเพื่อนทหารถูกผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลอบวางระเบิด ครั้งนั้นรู้สึกเหมือนกับสูญเสียผู้นำครอบครัวไป แต่เวลาผ่านมา ครอบครัวก็ได้รับการดูแลจากกองทัพบกด้วยดีมาโดยตลอด และยังบรรจุให้ตนเข้าทำงานที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองพลทหารราบที่ 9 จึงรู้สึกภูมิใจในตัวสามีเป็นอย่างมาก ที่เสียสละไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่พี่น้องคนไทยที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงแม้สามีจะพิการแต่ก็ได้ทำเพื่อประเทศชาติอย่างดีที่สุด ส่วนลูกสาวจะเลี้ยงให้ดีที่สุด หากเติบโตมาอยากเป็นทหารตามรอยพ่อ ตนและสามีก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่


กำลังโหลดความคิดเห็น