>>ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1820 ที่เมืองคิลมาร์น็อค สกอตแลนด์ จอห์น วอล์กเกอร์ เริ่มต้นจากการซื้อกิจการร้านชำเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆ เรียนรู้และพัฒนาฝีมือตนเองในฐานะมาสเตอร์เบลนเดอร์ผู้รังสรรค์ชารสหอมละมุน ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นบุกเบิกการเบลนด์วิสกี้ และสั่งสมชื่อเสียงทั้งในเรื่องความรู้และความเชี่ยวชาญในการเบลนด์วิสกี้ซึ่งถ่ายทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความเป็นมาตรฐานในทุกๆ ครั้ง รวมไปถึงการบุกเบิกนวัตกรรมที่หลากหลาย อาทิ การผลิตขวดวิสกี้ทรงเหลี่ยมที่ช่วยให้การขนส่งสินค้าเกิดความเสียหายน้อยลง ฯลฯ ช่วยให้ “จอห์นนี่ วอล์กเกอร์” กลายเป็นแบรนด์สินค้าที่เข้าถึงผู้คนมิใช่เพียงในสกอตแลนด์ ทว่ากระจายไปสู่กว่า 120 ประเทศในเวลาไม่นานหลังจากนั้น
และส่วนสำคัญของการที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กลายเป็นแบรนด์วิสกี้ที่เข้าถึงผู้คนทั่วทุกมุมโลกนั้น คือการเดินทางบนรถไฟ ซึ่งนี่คือหัวใจของการที่ “จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิล” ตัดสินใจเผยประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการสร้างสรรค์ที่สุดแห่งปาร์ตี้ระดับเอ็กซ์คลูซีฟในสไตล์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ด้วย “THE BLACKLIST - THE ICONIC JOURNEY” ปาร์ตี้ครั้งใหม่ที่จัดขึ้นในแบบที่เอ็กซ์คลูซีฟและไม่เคยมีมาก่อนบนรถไฟสายโอเรียนต์ เอ็กซ์เพรส ซึ่งพาแขกเหรื่อระดับวีไอพีจำนวนเพียง 100 ท่านที่ได้รับเชิญ ออกเดินทางสู่มหานครแห่งความรุ่งโรจน์ทางวัฒนธรรมอันทรงค่าอย่างเมืองอยุธยา เมืองแรกในภาคกลางที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์เดินทางไปถึง ย้ำประวัติศาสตร์แห่งความเป็นวิสกี้ของกลุ่มบุคคลเหนือระดับในประเทศไทยมาตั้งแต่เกือบ 1 ศตวรรษที่แล้ว ภายใต้ค่ำคืนอันแสนพิเศษครั้งนี้
สำหรับ “THE BLACKLIST - THE ICONIC JOURNEY” ครั้งนี้ นอกจากจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์แห่งการเดินทางอันยาวไกลของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ผ่านเส้นทางรถไฟจากสกอตแลนด์ มาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเกือบ 100 ปีมาแล้ว ยังเป็นการสานต่อการจัดปาร์ตี้ที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดสำหรับชาวแบล็กลิสต์ ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2007 โดยการจำลองการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ขึ้นอีกครั้งบนสายรถไฟโอเรียนต์ เอ็กซ์เพรส ที่มุ่งหน้าจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ สู่เมืองอยุธยา มหานครแห่งความรุ่งโรจน์ทางวัฒนธรรม เมืองที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ทั้งยังเป็นเมืองแรกในภาคกลางที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์เดินทางไปถึง โดยมีบุคคลสำคัญที่ได้รับเชิญมาร่วมเป็นสักขีพยานในการเดินทางครั้งพิเศษครั้งนี้ พร้อมร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของแต่ละบุคคลอย่างมีสไตล์ ณ ปลายทางสถานีพระนครศรีอยุธยาที่งดงามอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยในปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ แขกระดับเอลิสต์และบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับเชิญ อาทิ ภูริ หิรัญพฤกษ์, อรจิรา กุลดิลก, วิริฒิพา แย้มนาม, ณัฐบูร ไตรณัฐี และยศสินี ณ นคร, วรสิทธิ์-ปาลาวี อิสสระ, เจย์-จริยดี สเปนเซอร์, แดน เหตระกูล, บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล, ปราการ ไรวา, สธน ตันตราภรณ์ ฯลฯ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางตามรอยประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ภายใต้บรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟบนขบวนรถไฟซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ สอดรับกับธีม The Iconic Journey อย่างลงตัว
บนขบวนรถไฟ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิล จัดเตรียมความพิเศษไว้รอแขกเหรื่อทุกคนในทุกๆ ส่วน ตั้งแต่การจัดแบ่งขบวนรถไฟออกเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้อง Observation Room ที่พร้อมให้ทุกคนสนุกกับ live DJ สดๆ จากดีเจเซเลบริตี้อย่าง “ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ” รวมถึง “ดีเจดีใจ” ดีเจระดับท็อปของประเทศซึ่งเคยเล่นประจำร้านด้งอย่าง Hyde & Seek, Mellow และ Blue Velvet มาแล้ว ห้อง Piano Bar ที่มาพร้อมการแสดงสดของนักร้องและนักเปียโนคุณภาพนำทีมโดย บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, สธน ตันตราภรณ์ และมิ้นท์-อรรถวดี จิรมณีกุล รวมไปถึง 2 ห้องพิเศษที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเอ็กซ์คลูซีฟในทุกๆ ส่วน ได้แก่ห้อง Gentlemen Room ที่เปิดโอกาสให้คุณสุภาพบุรุษเข้ามาสนุกกับเกมหมากรุกและเกมโป๊กเกอร์ พร้อมสังสรรค์ร่วมกันอย่างเป็นกันเอง และห้อง Powder Room ซึ่ง จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิล จัดไว้แบบไพรเวตสำหรับแขกสุภาพสตรีโดยเฉพาะที่ต้องการมีเวลาส่วนตัวร่วมกันบนขบวนรถไฟ
ส่วนที่เซอร์ไพรส์ทุกคนในปาร์ตี้มากที่สุด น่าจะเป็นช่วงที่ขบวนรถไฟเดินทางไปหยุดนิ่งอยู่ที่สถานีพระนครศรีอยุธยา เพราะจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิล เลือกส่งไฮไลต์พิเศษกับการแสดงสดสุดอลังการด้วยแสงสีเสียงอันน่าตื่นตาตื่นใจที่ชวนทุกคนเดินทางผ่านช่วงเวลาอันทรงคุณค่า ที่ช่วยให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองอันเหนือระดับในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 1 ศตวรรษ พร้อมด้วยพลุไฟสุดอลังการ ซึ่งช่วยเน้นย้ำประวัติศาสตร์แห่งการเดินทางอันยาวไกลของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และสร้างความประทับใจให้กับแขกบนขบวนรถไฟและผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก
และเพื่อให้การบอกเล่าเรื่องราวย้อนรอยประวัติศาสตร์ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ สมบูรณ์แบบที่สุด ในปาร์ตี้ครั้งนี้ยังมีการจัดห้อง Art of Blending ที่จำลองการสาธิตศิลปะการเบลนด์ชา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้จอห์น วอล์กเกอร์ กลายมาเป็นมาสเตอร์เบลนเดอร์วิสกี้คุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างแบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในเวลาต่อมา พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้แขกพิเศษทุกท่านได้ชมกับหลากหลายวิธีการสัมผัสรสและกลิ่น ซึ่งทำให้ได้กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิล ที่แตกต่างกันไป ในขณะที่ห้อง Theatre Room ยังชวนแขกเหรื่อมาผ่อนคลายอิริยาบถด้วยการชมภาพยนตร์สุดประทับใจ 2 เรื่องคือ The Artist และ Breakfast at Tiffany’s พร้อมภาพยนตร์ชิ้นเอกของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่ตราตรึงและสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย จนเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างแพร่หลายในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมไปกับการส่งท้ายความพิเศษของเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้บนรถไฟสายโอเรียนต์ เอ็กซ์เพรสครั้งนี้ด้วยการส่งต่อโปสการ์ดสุดพิเศษที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจากข้อความที่จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ได้กระตุ้นแรงปรารถนาในความสำเร็จในชีวิตของหลายๆ คนมาแล้ว เพื่อถ่ายทอดความประทับใจจากการเดินทางครั้งสำคัญครั้งนี้สู่คนที่รัก ก่อนที่การเดินทางจะกลับมาจบลงอีกครั้งที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ก่อนเวลาเที่ยงคืน เป็นการจบท้ายที่สุดแห่งการย้อนรอยประวัติศาสตร์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟจากจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิล อย่างหรูหราและน่าประทับใจ
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/