>>จากผลสำรวจผู้หญิงวัยทำงานในกรุงเทพฯ เกี่ยวกับเรื่องเครียดในชีวิต พบว่า 4 อันดับแรกของความเครียดมาจากเรื่องงาน ร้อยละ 24.66 เรื่องเงิน ร้อยละ 21.23 เรื่องสุขภาพ ร้อยละ 14.06 และเรื่องรูปร่าง ร้อยละ 10.71 ผลิตภัณฑ์คอมฟอร์ท อโรมาเธอราพี จึงชวนคนดังมาร่วมแนะวิธีคลายเครียดของสาวยุคใหม่ จากภารกิจการงานและกิจวัตรประจำวัน ด้วยวิธีคลายเครียดแบบง่ายๆ ในงาน ‘สปาแห่งความหอม by คอมฟอร์ท อโรมาเธอราพี’ โดยนำคำตอบจากประสบการณ์ตรงของตัวเองว่า อโรมาเธอราพีเป็นวิธีที่พวกเธอเลือกใช้เป็นประจำทุกวัน
อโรมาเธอราพี (Aromatherapy) เป็นศาสตร์การบำบัดด้วยกลิ่นที่ใช้ความหอมจากดอกไม้ เปลือกไม้ ผลไม้ เป็นต้น มาสกัดเอาน้ำมันหอมระเหยออกมา โดยมีกรรมวิธีในการใช้หลากหลายทั้งการสูดดมโดยตรง การใช้เป็นน้ำมันนวด การใช้เป็นยาอย่างทีทรีออยล์ที่ชาวอะบอริจินส์ในทวีปออสเตรเลียใช้เป็นยารักษาแผลมายาวนาน การใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ และด้วยนวัตกรรมทันสมัย จึงทำให้สามารถนำน้ำมันหอมระเหยร้อยเปอร์เซ็นต์มาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในรูปแบบอื่นๆ รวมทั้งน้ำยาปรับผ้านุ่ม ทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมกรุ่นให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
เหตุที่อโรมาเธอราพีมีประสิทธิภาพในการผ่อนคลายความเครียดนั้น ก็เป็นเพราะกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจะกระตุ้นประสาทสัมผัสในการรับกลิ่นของเราแล้วส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมความทรงจำและอารมณ์ ทำให้ช่วยปรับสมดุลของความรู้สึก อารมณ์ แม้กระทั่งอาจช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ด้วย น้ำมันหอมระเหยบางตัวมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการตื่นตัว ส่วนบางตัวช่วยให้เกิดความสงบและผ่อนคลาย ตัวอย่างเช่น น้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม (Orange Oil) มีคุณสมบัติบรรเทาความเครียด ความเหนื่อยอ่อน ลดอาการเศร้าซึม ลดอาการหัวใจเต้นเร็ว ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จิตใจสงบ นอนหลับสบาย ส่วนทิวบ์โรส (Tuberose) ซึ่งใช้ในการทำน้ำหอมชั้นสูง มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ช่วยสร้างบรรยากาศของความรัก บรรเทาความเครียด ความวิตกกังวลและซึมเศร้า
การใช้น้ำมันหอมระเหยอาจใช้แบบเดี่ยวๆ หรืออาจนำมาผสมเพื่อสร้างสรรค์กลิ่นแปลกใหม่เฉพาะตัวก็ได้ มีข้อจำกัดเดียวคือไม่ควรใช้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติ “ข้าม” กัน เช่น ผสมระหว่างน้ำมันหอมระเหยที่ให้ความผ่อนกลายกับการกระตุ้นเร้า แต่ควรผสมกันระหว่างน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติ “คู่” กัน เช่น ส้มกับทิวบ์โรส
คริสติน่า เศรษฐบุตร คุณแม่ลูกสองและทำธุรกิจส่วนตัว และเป็นนักสะสมรถโบราณ “เป็นคนที่ชอบเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรรวดเร็ว แต่ละวันต้องเจอผู้คนมากมาย จึงชอบทำให้ตัวเองหอมอยู่ตลอดจะได้ไม่เครียด เครื่องหอมต่างๆ เราก็ใช้ แต่ความหอมอีกอย่างที่ชอบมากคือได้ใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีเวลาพบปะผู้คนได้ อย่างกลิ่นกุหลาบหรือกลิ่นดอกไม้ รู้มาว่าเป็นกลิ่นที่ช่วยบำบัดเรื่องเศร้าใจ คลายเครียด และให้ความรู้สึกเย้ายวน”
อภิชญา ไกรฤกษ์ สะใภ้เล็กตระกูลไกรฤกษ์ นามสกุลเดิมคือ ณ ระนอง ภารกิจประจำวันคือการดูแลลูกเล็ก และทำงานเป็นที่ปรึกษากฎหมายธนาคารกรุงเทพ “แต่ละวันมีความเครียดจากงานที่ทำอยู่แล้ว จะใช้วิธีทำสมาธิขณะขับรถมาทำงานทุกเช้าเพื่อทำให้เรามีสติกำกับการกระทำทุกอย่างตลอดวัน ชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นในรถ ในห้องประชุม ในห้องทำงาน โดยเฉพาะกลิ่นส้ม และกลิ่นดอกไม้ ได้กลิ่นหอมแล้วรู้สึกสดชื่น คลายเครียดจากงานประจำวันได้”
นัทธนุช วงศ์พัวพันธ์ ดีไซเนอร์และเจ้าของร้านเสื้อแบรนด์ Tutti & Tutti Frutti “ทำงานกับความคิดทุกวัน สมองต้องปลอดโปร่งอยู่เสมอแม้จะเจอสิ่งเร้าที่สร้างความเครียดให้ กลิ่นหอมช่วยคลายเครียดได้ดีมากๆ ชอบหลายกลิ่นอย่างเช่น โรสแมรี ทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใส ช่วยให้มีสมาธิ กลิ่นคาโมมายล์ ก็ทำให้จิตใจแจ่มใส มีสมาธิ หรือกลิ่นหอมเย็นของดอกไม้ ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา” :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/