คอลัมน์ : Nature Impressions โดย แอชลีย์ วินเซนต์
ขณะที่คุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ผมคงกำลังตระเวนตามรอยแมวใหญ่อยู่ในมาไซมาร่า ประเทศเคนย่า อยู่กับเพื่อนที่เป็นสุดยอดไกด์คู่ใจของผม
เพื่อให้ได้บรรยากาศท่องซาฟารีร่วมกัน อาทิตย์นี้ ผมขอนำเสนอภาพถ่ายจากอดีต ตอนที่ผมไปถ่ายภาพที่อัฟริกาใต้เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ 2011 ที่ผ่านมา กับทุกท่านนะครับ ภาพเหตุการณ์ที่คุณเห็นทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นที่ อุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ ในอัฟริกาใต้ ครับ
อุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ มีสัตว์ป่าอยู่มากมายก็จริง แต่สภาพแวดล้อมของมันส่วนใหญ่จะเป็นพงหญ้าสูงๆ และมีต้นไม้น้อยใหญ่เป็นแนวยาว เหมาะที่จะเป็นแหล่งหลบซ่อนพรางตัวของพวกสัตว์ ไม่ได้มีสภาพเปิด เป็นทุ่งโล่งกว้างไกลอย่างมาไซมาร่า ทำให้หาดูสัตว์ได้ยากกว่ากันมากเลยล่ะครับ
แปดวันเต็มในอุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ ที่ผมต้องเริ่มออกเดินทางตั้งแต่แสงแรกของวันจนกว่าตะวันจะลับขอบฟ้า เพื่อตามรอยพวกสัตว์ตระกูลแมวใหญ่ ผมเก็บภาพสิงโตได้หลายตัว แต่ก็ไม่มีภาพไหน ที่ถ่ายออกมาแล้วสวยงามอย่างที่ใจหวังหรอกครับ ทุกภาพที่ได้ จะมีพงหญ้าหรือกิ่งไม้ใบไม้เกะกะเต็มกรอบไปหมด
วันหนึ่ง ผมโชคดีพอที่ได้เห็นเสือดาวตัวหนึ่ง แต่มันก็อยู่ไกลเกินกว่าเลนส์กล้องของผมจะสามารถซูมภาพเข้ามาได้ชัดเจน ภาพที่ถ่ายได้ จึงไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากเวลานั้นก็บ่ายคล้อยมากแล้ว แสงของวันที่จำเป็นมากสำหรับการถ่ายภาพธรรมชาติก็เหลือน้อยเต็มที
แต่ผมก็มีความเชื่อของผมนะครับ ว่าพระแม่ธรณีมีเมตตาต่อทุกคนที่ทำงานเพื่อรักษาธรรมชาติเสมอ ผมคิดว่าท่านคงอยากจะให้กำลังใจผม จึงได้ยอมให้ผมมีส่วนร่วมในเหตุการณ์หนึ่งที่น้อยคนนักจะได้เห็นกับตาและสามารถเก็บภาพไว้ได้
เช้าตรู่วันใหม่ พวกเราแยกย้ายกันขึ้นรถเพื่อออกตามหารอยของเสือชีตาร์อีกตัว ผมนั่งรถไปกับจอห์น ส่วนแอน(ภรรยาของจอห์น)ที่ดูแลนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มก็ขับรถแยกออกไปอีกด้าน เกือบ 7 โมงแล้ว ตอนที่เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้น แอนส่งสัญญาณบอกมาว่า เธอเห็นชีตาร์กำลังมุ่งหน้าไปที่แนวหินตรงที่เป็นลำธารเล็กๆแห่งหนึ่งที่กำลังแห้งตื้น
จอห์นรีบเปลี่ยนเส้นทางและพาผมไปจนถึงจุดที่แอนจอดรถซุ่มอยู่ ผมมองเห็นชีตาร์ตัวหนึ่งกำลังหมอบเลียน้ำอยู่อย่างสบายใจ ผมรีบตั้งกล้องเปลี่ยนเลนส์เป็น 500 mm. เพื่อเก็บภาพ หัวใจของผมเต้นแรงด้วยความยินดีเพราะไม่มีต้นไม้หรือพงหญ้ากีดขวางหน้ากล้องของผมเลย ผมกดซัตเตอร์ไปพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนกับว่าจะหยุดยิ้มไม่ได้
ผ่านเลนส์ ผมเห็นเจ้าชีตาร์ยกหัวขึ้นจ้องมอง ไม่น่าจะเป็นเพราะมันอยากจะสบตากับผม สายตาของมันเอียงผ่านผมไปทางด้านซ้าย ผมรู้แล้วว่ามีบางอย่างที่ทำให้มันตื่นตัว แต่ผมก็ไม่ยังไม่อยากถอนสายตาออกจากกล้องเพื่อหาสาเหตุ ผมรอคอยที่จะจับภาพชีตาร์ในอิริยาบถอื่น ผมไม่อยากพลาดโอกาสตอนที่มันเปลี่ยนท่า ผมไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย
สักหนึ่งนาทีต่อมา ผมเห็นชีตาร์ลุกขึ้นนั่งตัวตรง และวินาทีนั้นเอง ผมก็ได้เห็นภูเขาก้อนย่อมๆเดินเข้ามาในมุมด้านซ้ายของเลนส์ มันโผล่เข้ามาอย่างที่ผมคาดไม่ถึง มันคือตัว “แรด” ผมรู้สึกได้เลยครับ ว่าผมกำลังได้รับของขวัญจากพระแม่ธรณี มันเป็นภาพชีวิตจากธรรมชาติ
แรดมองเห็นนะครับ ว่าเสือชีตาร์กำลังกินน้ำอยู่แถวนั้น แต่ผมว่า แรดมันคงจะอ่านสถานการณ์แล้วล่ะ ว่าไม่น่าจะเป็นอันตราย มันคงจะกระหายน้ำมากด้วย เจ้าแรดเลยเดินลุยเข้าหาแหล่งน้ำที่ชีตาร์เฝ้าอยู่ทันที
โดยสัญชาตญาณแล้ว ผมว่า ชีตาร์มันก็คงจะรู้แหล่ะครับ ว่าแรดไม่ใช่คู่ชกของมัน แต่ผมก็อดขำชีตาร์ไม่ได้ ที่ต้องทำเสียงขู่แสดงอาการคุกคามเจ้าแรดนิดหน่อย ทำเป็นเลียลิ้นแสดงอารมณ์ก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินหนีไปแบบบ่จอย555
มีตัวแทนของหนังสือพิมพ์จากอังกฤษแห่งหนึ่ง แสดงความสนใจต่อภาพถ่ายชุดนี้ของผมมาก (ผมมีเป็นชุดหลายภาพครับ แต่ผมเลือกมาให้คุณดูเพียง 4 ภาพ) เค้าต้องการจะขายภาพชุดนี้ แต่ต้องการนำไปตัดต่อเสริมแต่งเรื่องราวให้เร้าใจกว่าที่เป็นจริง เค้าบอกผมว่า ภาพของผมจะขายดีมาก หากมีภาพตอนชีตาร์ตะปบหน้าแรด หรือภาพแรดขวิดพุงชีตาร์จนตัวลอย โอพระเจ้า เค้าคิดได้เพียงแค่นั้นเองหรือ
สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมได้พบเห็น เป็นภาพชีวิตของการอยู่ร่วม ผมรู้สึกเป็นเกียรติ์ที่ได้มีส่วนร่วมเป็นสักขีพยานในการสวนทางของสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ ผมไม่ได้ตามหาหรือต้องการเห็นภาพการต่อสู้หรือการนองเลือด ผมตื่นเต้นพอแล้ว เมื่อได้เห็นพวกสัตว์อยู่ร่วมกันได้ตามธรรมชาติ ที่บางตัวต้องล่า ก็เพื่อเป็นอาหารตามสัญชาตญาณ ไม่มีการฆ่าเพื่อความบันเทิงใจหรือเพื่อความเป็นใหญ่
ภาพชุดนี้ของผมก็เลยดูจืดชืดไปหน่อย สำหรับการพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่ต้องการจะขายแต่ข่าวร้าย
อย่างไรก็ตาม ผมได้แต่หวัง ว่าพระแม่ธรณีจะประทานพรให้กับผมอีก สองอาทิตย์ที่ผมอยู่ในเคนย่า ผมภาวนาให้ผมได้เห็น และมีโอกาสได้เก็บภาพชีวิตสวยๆและเหตุการณ์จากป่าออกมาเยอะๆ ผมหวังว่า ผมจะมีภาพสวยๆกลับมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ชมร่วมกันนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมภาพถ่ายและอ่านบทความของผมนะครับ ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทยสองอาทิตย์ แต่ผมก็เตรียมรูปภาพและบทความไว้ล่วงหน้าแล้ว หวังว่าทุกท่านคงจะเข้ามาเยี่ยมชมคอลัมน์นี้อีกนะครับ พบกันใหม่อาทิตย์หน้า
รู้จัก...แอชลีย์ วินเซนต์
ชาวอังกฤษเชื้อสายอิสราเอล ที่ผันตัวเองจากการทำธุรกิจด้านเรียลเอสเตท มาทำงานเป็นช่างภาพถ่ายภาพสัตว์ป่าอย่างเต็มตัว เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน นอกจากเปิดร้าน Nature Impressions จำหน่ายผลงานของตัวเอง ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่กล่าวกันว่า เป็นสวนสัตว์เปิดที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลก เขายังทำงานให้กับสวนสัตว์แห่งนี้ ในฐานะอาสาสมัครเก็บภาพสัตว์ป่าไปพร้อมกันด้วย
ผลงานภาพถ่าย “บุษบา” เสือโคร่งเพศเมีย ถ่ายจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ของแอชลีย์ได้รับการประกาศให้เป็น สุดยอดภาพถ่าย National Geographic 2012
เสมือนบอกย้ำให้กำลังใจช่างภาพหลายๆ คนว่า “ภาพถ่ายสัตว์ป่าที่ดี ไม่ต้องไปถึงเคนยา”
ติดตามอ่าน ...Nature Impressions โดย แอชลีย์ วินเซนต์ ได้ทุกอาทิตย์ ทาง ART EYE VIEW
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
ขณะที่คุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ผมคงกำลังตระเวนตามรอยแมวใหญ่อยู่ในมาไซมาร่า ประเทศเคนย่า อยู่กับเพื่อนที่เป็นสุดยอดไกด์คู่ใจของผม
เพื่อให้ได้บรรยากาศท่องซาฟารีร่วมกัน อาทิตย์นี้ ผมขอนำเสนอภาพถ่ายจากอดีต ตอนที่ผมไปถ่ายภาพที่อัฟริกาใต้เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ 2011 ที่ผ่านมา กับทุกท่านนะครับ ภาพเหตุการณ์ที่คุณเห็นทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นที่ อุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ ในอัฟริกาใต้ ครับ
อุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ มีสัตว์ป่าอยู่มากมายก็จริง แต่สภาพแวดล้อมของมันส่วนใหญ่จะเป็นพงหญ้าสูงๆ และมีต้นไม้น้อยใหญ่เป็นแนวยาว เหมาะที่จะเป็นแหล่งหลบซ่อนพรางตัวของพวกสัตว์ ไม่ได้มีสภาพเปิด เป็นทุ่งโล่งกว้างไกลอย่างมาไซมาร่า ทำให้หาดูสัตว์ได้ยากกว่ากันมากเลยล่ะครับ
แปดวันเต็มในอุทยานแห่งชาติกรูเกอร์ ที่ผมต้องเริ่มออกเดินทางตั้งแต่แสงแรกของวันจนกว่าตะวันจะลับขอบฟ้า เพื่อตามรอยพวกสัตว์ตระกูลแมวใหญ่ ผมเก็บภาพสิงโตได้หลายตัว แต่ก็ไม่มีภาพไหน ที่ถ่ายออกมาแล้วสวยงามอย่างที่ใจหวังหรอกครับ ทุกภาพที่ได้ จะมีพงหญ้าหรือกิ่งไม้ใบไม้เกะกะเต็มกรอบไปหมด
วันหนึ่ง ผมโชคดีพอที่ได้เห็นเสือดาวตัวหนึ่ง แต่มันก็อยู่ไกลเกินกว่าเลนส์กล้องของผมจะสามารถซูมภาพเข้ามาได้ชัดเจน ภาพที่ถ่ายได้ จึงไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากเวลานั้นก็บ่ายคล้อยมากแล้ว แสงของวันที่จำเป็นมากสำหรับการถ่ายภาพธรรมชาติก็เหลือน้อยเต็มที
แต่ผมก็มีความเชื่อของผมนะครับ ว่าพระแม่ธรณีมีเมตตาต่อทุกคนที่ทำงานเพื่อรักษาธรรมชาติเสมอ ผมคิดว่าท่านคงอยากจะให้กำลังใจผม จึงได้ยอมให้ผมมีส่วนร่วมในเหตุการณ์หนึ่งที่น้อยคนนักจะได้เห็นกับตาและสามารถเก็บภาพไว้ได้
เช้าตรู่วันใหม่ พวกเราแยกย้ายกันขึ้นรถเพื่อออกตามหารอยของเสือชีตาร์อีกตัว ผมนั่งรถไปกับจอห์น ส่วนแอน(ภรรยาของจอห์น)ที่ดูแลนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มก็ขับรถแยกออกไปอีกด้าน เกือบ 7 โมงแล้ว ตอนที่เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้น แอนส่งสัญญาณบอกมาว่า เธอเห็นชีตาร์กำลังมุ่งหน้าไปที่แนวหินตรงที่เป็นลำธารเล็กๆแห่งหนึ่งที่กำลังแห้งตื้น
จอห์นรีบเปลี่ยนเส้นทางและพาผมไปจนถึงจุดที่แอนจอดรถซุ่มอยู่ ผมมองเห็นชีตาร์ตัวหนึ่งกำลังหมอบเลียน้ำอยู่อย่างสบายใจ ผมรีบตั้งกล้องเปลี่ยนเลนส์เป็น 500 mm. เพื่อเก็บภาพ หัวใจของผมเต้นแรงด้วยความยินดีเพราะไม่มีต้นไม้หรือพงหญ้ากีดขวางหน้ากล้องของผมเลย ผมกดซัตเตอร์ไปพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนกับว่าจะหยุดยิ้มไม่ได้
ผ่านเลนส์ ผมเห็นเจ้าชีตาร์ยกหัวขึ้นจ้องมอง ไม่น่าจะเป็นเพราะมันอยากจะสบตากับผม สายตาของมันเอียงผ่านผมไปทางด้านซ้าย ผมรู้แล้วว่ามีบางอย่างที่ทำให้มันตื่นตัว แต่ผมก็ไม่ยังไม่อยากถอนสายตาออกจากกล้องเพื่อหาสาเหตุ ผมรอคอยที่จะจับภาพชีตาร์ในอิริยาบถอื่น ผมไม่อยากพลาดโอกาสตอนที่มันเปลี่ยนท่า ผมไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย
สักหนึ่งนาทีต่อมา ผมเห็นชีตาร์ลุกขึ้นนั่งตัวตรง และวินาทีนั้นเอง ผมก็ได้เห็นภูเขาก้อนย่อมๆเดินเข้ามาในมุมด้านซ้ายของเลนส์ มันโผล่เข้ามาอย่างที่ผมคาดไม่ถึง มันคือตัว “แรด” ผมรู้สึกได้เลยครับ ว่าผมกำลังได้รับของขวัญจากพระแม่ธรณี มันเป็นภาพชีวิตจากธรรมชาติ
แรดมองเห็นนะครับ ว่าเสือชีตาร์กำลังกินน้ำอยู่แถวนั้น แต่ผมว่า แรดมันคงจะอ่านสถานการณ์แล้วล่ะ ว่าไม่น่าจะเป็นอันตราย มันคงจะกระหายน้ำมากด้วย เจ้าแรดเลยเดินลุยเข้าหาแหล่งน้ำที่ชีตาร์เฝ้าอยู่ทันที
โดยสัญชาตญาณแล้ว ผมว่า ชีตาร์มันก็คงจะรู้แหล่ะครับ ว่าแรดไม่ใช่คู่ชกของมัน แต่ผมก็อดขำชีตาร์ไม่ได้ ที่ต้องทำเสียงขู่แสดงอาการคุกคามเจ้าแรดนิดหน่อย ทำเป็นเลียลิ้นแสดงอารมณ์ก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินหนีไปแบบบ่จอย555
มีตัวแทนของหนังสือพิมพ์จากอังกฤษแห่งหนึ่ง แสดงความสนใจต่อภาพถ่ายชุดนี้ของผมมาก (ผมมีเป็นชุดหลายภาพครับ แต่ผมเลือกมาให้คุณดูเพียง 4 ภาพ) เค้าต้องการจะขายภาพชุดนี้ แต่ต้องการนำไปตัดต่อเสริมแต่งเรื่องราวให้เร้าใจกว่าที่เป็นจริง เค้าบอกผมว่า ภาพของผมจะขายดีมาก หากมีภาพตอนชีตาร์ตะปบหน้าแรด หรือภาพแรดขวิดพุงชีตาร์จนตัวลอย โอพระเจ้า เค้าคิดได้เพียงแค่นั้นเองหรือ
สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมได้พบเห็น เป็นภาพชีวิตของการอยู่ร่วม ผมรู้สึกเป็นเกียรติ์ที่ได้มีส่วนร่วมเป็นสักขีพยานในการสวนทางของสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ ผมไม่ได้ตามหาหรือต้องการเห็นภาพการต่อสู้หรือการนองเลือด ผมตื่นเต้นพอแล้ว เมื่อได้เห็นพวกสัตว์อยู่ร่วมกันได้ตามธรรมชาติ ที่บางตัวต้องล่า ก็เพื่อเป็นอาหารตามสัญชาตญาณ ไม่มีการฆ่าเพื่อความบันเทิงใจหรือเพื่อความเป็นใหญ่
ภาพชุดนี้ของผมก็เลยดูจืดชืดไปหน่อย สำหรับการพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่ต้องการจะขายแต่ข่าวร้าย
อย่างไรก็ตาม ผมได้แต่หวัง ว่าพระแม่ธรณีจะประทานพรให้กับผมอีก สองอาทิตย์ที่ผมอยู่ในเคนย่า ผมภาวนาให้ผมได้เห็น และมีโอกาสได้เก็บภาพชีวิตสวยๆและเหตุการณ์จากป่าออกมาเยอะๆ ผมหวังว่า ผมจะมีภาพสวยๆกลับมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ชมร่วมกันนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมภาพถ่ายและอ่านบทความของผมนะครับ ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทยสองอาทิตย์ แต่ผมก็เตรียมรูปภาพและบทความไว้ล่วงหน้าแล้ว หวังว่าทุกท่านคงจะเข้ามาเยี่ยมชมคอลัมน์นี้อีกนะครับ พบกันใหม่อาทิตย์หน้า
รู้จัก...แอชลีย์ วินเซนต์
ชาวอังกฤษเชื้อสายอิสราเอล ที่ผันตัวเองจากการทำธุรกิจด้านเรียลเอสเตท มาทำงานเป็นช่างภาพถ่ายภาพสัตว์ป่าอย่างเต็มตัว เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน นอกจากเปิดร้าน Nature Impressions จำหน่ายผลงานของตัวเอง ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่กล่าวกันว่า เป็นสวนสัตว์เปิดที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลก เขายังทำงานให้กับสวนสัตว์แห่งนี้ ในฐานะอาสาสมัครเก็บภาพสัตว์ป่าไปพร้อมกันด้วย
ผลงานภาพถ่าย “บุษบา” เสือโคร่งเพศเมีย ถ่ายจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ของแอชลีย์ได้รับการประกาศให้เป็น สุดยอดภาพถ่าย National Geographic 2012
เสมือนบอกย้ำให้กำลังใจช่างภาพหลายๆ คนว่า “ภาพถ่ายสัตว์ป่าที่ดี ไม่ต้องไปถึงเคนยา”
ติดตามอ่าน ...Nature Impressions โดย แอชลีย์ วินเซนต์ ได้ทุกอาทิตย์ ทาง ART EYE VIEW
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews