>>Celeb Online จะพาไปทำความรู้จักกับเวิร์กกิ้งวูแมนสาวสวยวัย 30 ต้นๆ ทายาทรุ่นที่ 3 ของ “อิตาเลเซีย” บริษัทนำเข้าสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งดำเนินกิจการมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ และเพิ่งฉลองครบรอบ 50 ปี ไปเมื่อปีที่แล้ว
“คุณปู่ได้รับเหรียญจากประเทศอิตาลีค่ะ เพราะท่านเป็นคนที่นำสินค้าจากอิตาลีมาโปรโมตในประเทศ ตั้งแต่เมื่อประมาณปี 1960 ซึ่งถือเป็นครอบครัวแรกที่นำสินค้าอิตาลีเข้ามาในประเทศ จึงได้รับเหรียญยกย่องจากอิตาลี” คุณฟาพูดถึงประกาศนียบัตรที่ติดอยู่ตรงผนัง ข้างๆ รูปเหมือนของคุณปู่ชาวอิตาลี (โอเทลโล เบเนเดทตี้) ซึ่งเมื่อก้าวเข้ามาในห้องประชุมของบริษัทอิตาเลเซีย เราจะเห็นวางเด่นเป็นสง่า ไม่แพ้รูปปั้นครึ่งตัวของคุณพ่อ (อโดโฟ่ เบเนเดทตี้) ที่ตั้งไว้ใกล้ๆ กัน จนเราอดไม่ได้ที่จะถามถึงประวัติความเป็นมา “ส่วนคุณพ่อก็มาสานต่องานทุกอย่างจากคุณปู่ในช่วงเจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งในรุ่นคุณพ่อ เราก็เริ่มนำอุปกรณ์ต่างๆ ในโรงแรม รวมถึงไวน์ด้วย ในขณะที่ยุคคุณปู่ส่วนใหญ่จะเน้นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว แต่จะเป็นชิ้นใหญ่ๆ โรงแรม 5 ดาวสมัยก่อน อย่างเช่น โอเรียนเต็ล เอราวัณ ปาร์คนายเลิศ เราก็นำเข้าพวกอุปกรณ์โรงแรมมาให้”
ส่วนตัวฟาเอง รวมถึงพี่ชาย “แมกซ์-จักรกฤษ เบเนเดทตี้” ต่างก็คลุกคลีกับกิจการของคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่คุณพ่อของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจและไอดอลคนสำคัญ ที่ทำให้เธอก้าวมาสืบทอดกิจการของครอบครัวด้วยความรักและความเต็มใจ
“ฟาโตขึ้นมากับการเห็นคุณพ่อทำงานอยู่ที่อิตาเลเซียอยู่ก่อนแล้ว เราโตมาพร้อมเรื่องราวต่างๆ ที่นี่ ตั้งแต่เด็กๆ ฟาได้ติดตามพ่อไปงานไวน์แฟร์ ไปโรงงานทำเครื่องเงิน ที่ต่างประเทศอยู่เป็นประจำ เลยได้ซึมซับธุรกิจของครอบครัวมาก่อน ซึ่งปัจจุบันเราก็ดีใจที่ได้ทำอยู่ตรงนี้ค่ะ”
ปัจจุบันฟาดำรงตำแหน่งเป็น Hotel Supply Director ของอิตาเลเซีย เธอทำงานที่นี่มาตั้งแต่เรียนจบระดับอุดมศึกษาด้าน Social and Industrial Psychology จากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น บอสตัน สหรัฐอเมริกา
“ฟาเรียนด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในองค์กร ในการทำงานร่วมกัน ในบริษัทหรือระหว่างบริษัท ซึ่งฟาสนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ตอนเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย แล้วพอได้เรียนวิชานี้ก็ชอบ และคิดว่ามันแปลก เพราะหลายๆ อย่างเราไม่เคยรู้ว่ามันมีคำอธิบาย มีการทดสอบ มีการวิจัย ซึ่งสาขานี้ก็ทำให้เราได้รู้จักการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เรามีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ทำให้เรามองได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับคนอื่นค่ะ”
หลังจากเรียนจบ ฟาก็เข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี 2546 นับจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 10 ปีพอดิบพอดี ฟาเล่าให้เราฟังตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการทำงานด้านนี้ให้เห็นภาพมากขึ้น
“แรกๆ ที่เข้ามา ก็ดูโดยรวมก่อน และเข้ามาศึกษาในเรื่องไวน์ แต่สุดท้ายแล้ว ถ้านับสิ่งที่เราชอบและสนใจ ก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานดีไซน์ต่างๆ ด้วย ก็เลยได้มาดูเรื่องอุปกรณ์เครื่องใช้ในโรงแรมและร้านอาหาร พวกเครื่องแก้วคริสตัล เครื่องเงิน ชุดชา แอกเซสซอรีต่างๆ ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเหมาะกับสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะมันมีความสวยงามในตัวเอง มีเรื่องของดีไซน์และเทรนด์ แฟชั่น ซึ่งแทนที่จะไปอยู่บนเสื้อผ้า แต่จะมาอยู่บนอุปกรณ์ในร้านอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ในครัว ในบ้าน โรงแรม ร้านอาหารแทน
“ช่วงแรกที่เข้ามาทำแผนกนี้ ก็ยังไม่มีตัวเลือกสินค้าที่หลากหลายมากนัก เราก็มีโอกาสได้ไปดู ศึกษาเพิ่มว่าอะไรที่น่าจะทำให้พอร์ตโฟลิโอของเราสมบูรณ์ขึ้น บางทีเวลาไปพบลูกค้า มันก็ช่วยให้เราเข้าใจเห็นภาพว่า อะไรที่เขาต้องการ ถ้าเรารู้จักโปรดักส์ใหม่ๆ ก็สามารถเอามาแนะนำให้ลูกค้า ในส่วนแผนกโรงแรม เราก็ได้ไปคุยกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมใหม่ เราก็จะดูว่ามีอะไรบ้างที่ลูกค้าต้องใช้
ในห้องอาหารก็จะมีตั้งแต่เครื่องแก้ว ช้อนส้อม เครื่องเงิน อุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อย อย่างที่ใส่เกลือ พริกไทย แต่ถ้าลูกค้าจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น เครื่องมือก็ไม่เหมือนกันแล้ว เราก็คุยกันได้ว่าจะเปิดเป็นร้านอาหารชาติไหน งานตรงนี้รายละเอียดค่อนข้างเยอะ
ตอนแรกของเราจะมีแค่อุปกรณ์ ฟู้ด แอนด์ เบเวอเรจ เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันเราได้ขยายในส่วนของโปรดักส์โรงแรม ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เราต้องดีลกับทางดีไซเนอร์ของโรงแรม ซึ่งเขาก็จะมีแบบ มีคอนเซ็ปต์มาให้เราดู เราก็จะมียี่ห้อต่างๆ สามารถแนะนำให้ลูกค้าได้”
แม้ว่างานที่เธอทำจะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ต้องสานต่อ แต่เธอก็ทำด้วยความชอบและสนใจ ซึ่งคุณฟาก็พูดถึงเสน่ห์ของงานนี้ว่า
“สำหรับฟา ชอบเรื่องของดีไซน์ และสมัยนี้เห็นว่าคนเริ่มให้ความสำคัญกับการตกแต่งบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี และเรายังได้คุยกับลูกค้าที่กำลังจะสร้างโรงแรม หรือร้านอาหารใหม่ๆ มันน่าสนใจที่เราได้รู้ทุกขั้นตอนของเขา ว่าเขากำลังจะทำอะไร ก็น่าสนใจน่าติดตาม อย่างเช่น ร้านอาหารร้านนี้ จะเสิร์ฟอาหารแนวเวสเทิร์น แนวโมเดิร์น หรือแนวมินิมัล เราก็จะกลับมาศึกษาโปรดักส์ของเรา ว่าเรามีอะไรที่จะแนะนำลูกค้าได้บ้าง เอามารวมกับการสร้างเป็นคอนเซ็ปต์และเสนอกับลูกค้า ฟาว่าเป็นงานที่ท้าทายและสนุกดีค่ะ
ที่สำคัญคือฟารักในสิ่งที่ทำ รักในแบรนด์ รักในโปรดักส์ เราชอบที่จะไปเจอลูกค้า และการทำงานตรงนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือการออกไปเจอลูกค้าให้เยอะ บางทีการทำงานผ่านอีเมลเราก็ทำได้นะ แต่ฟาชอบที่จะได้เจอลูกค้า เพื่อที่เขาจะได้มั่นใจด้วยว่าเราดูแลเขาจริงๆ เราอยากจะไปพบ ให้ความมั่นใจ และจะได้ทำความรู้จักกันด้วย”
ในปี 2555 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ดีในเรื่องการทำงานสำหรับฟา เธอเล่าว่า “ปีที่แล้วมีโรงแรมเปิดใหม่เยอะ และโรงแรมที่อยากใช้ของดีไซน์ เราก็สามารถซัปพอร์ตให้ได้ ถ้าลูกค้าต้องการของคุณภาพดี ในราคาไม่สูงมาก เราก็สามารถหาให้ได้
อีกอย่างรู้สึกว่าคนไทยชอบที่จะออกไปทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น เห็นได้ชัดเลยว่าร้านอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก ทุกอาทิตย์จะเห็นร้านอาหารเปิดใหม่อีกแล้ว แต่ละร้านก็จะมีคอนเซ็ปต์ให้คนจำได้ และคนก็ชอบที่จะไปร้านอาหารแบบนี้ด้วย คนทำร้านอาหารเลยอยากที่จะทำอะไรให้แหวกแนวขึ้น อีกอย่างที่เติบโตชัดเจน คือพวกไวน์บาร์ เราจะเห็นไวน์บาร์ ร้านไวน์เปิดขึ้นเยอะมาก รู้ได้เลยว่าคนไทยเริ่มหันมาดื่มไวน์กันมากขึ้น”
เมื่อเราถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จของสาวสวยคนนี้ เธอย้ำกับเรา ทีมเวิร์กและความซื่อสัตย์คือสิ่งสำคัญที่สุด “ความสำเร็จในการทำงาน ทุกขั้นตอน มันไม่ใช่งานทำคนเดียว เราทำสำเร็จคนเดียวไม่ได้ งานทุกงานมันต้องเป็นทีม เราต้องให้ความสำคัญทุกคน ทุกแผนก ความเป็นทีมเวิร์กต้องแน่นก่อน ในหลักการทำงานอีกอย่าง ฟาคิดว่า เราก็ต้องรักษาคำพูด รักษาเวลา ซื่อสัตย์ ในทุกขั้นตอน อย่างเช่นการส่งสินค้า เราก็ต้องเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น อันนี้สำคัญมากค่ะ”
สนุกกับงานจนฟายอมรับว่าชีวิตของเธอส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับการทำงาน ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวจึงอาจจะไม่ค่อยหวือหวานัก ถ้ามีเวลาว่างเธอจึงมักจะนัดแก๊งเพื่อนออกไปแฮงเอาต์กันมากกว่า หรือไม่ก็จะพักผ่อนอยู่กับบ้านและใช้เวลากับครอบครัว แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่เธอสนใจ คงรวมไปถึงบรรดาไลฟ์สไตล์โปรดักส์ ซึ่งนอกจากจะเกี่ยวข้องกับงานที่ทำแล้ว ยังถือเป็นความชอบที่ติดตัวมาแต่ไหนแต่ไร
“ไลฟ์สไตล์โปรดักส์ บางทีมันไม่ได้จำกัดอยู่ที่ของใช้ในบ้าน เครื่องแก้ว หรือของโชว์เท่านั้น ในที่นี้ฟาว่ายังหมายถึง ร้านอาหารที่เราเลือกไป บ้านที่เลือกอยู่ สถานที่ที่จะเลือกไปเที่ยว มันก็เป็นชอยส์ มันอยู่ในทุกอย่าง สะท้อนภาพกันหมด สังเกตได้ง่ายๆ ว่าเดี๋ยวนี้แบรนด์แฟชั่นเมืองนอกดังๆ ก็จะมีโฮม คอลเลกชันด้วยเหมือนกัน เช่น แอร์เมส ราล์ฟ ลอเรน คาลวิน ไคลน์ ซึ่งฟาคิดว่าแฟชั่นมันอยู่ในทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเสื้อผ้า แต่ถ้าพูดเรื่องแฟชั่น ฟาไม่ใช่คนติดตามอะไรมาก จะเน้นเลือกอะไรที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า”
ในฐานะเจเนอเรชันที่ 3 ของธุรกิจครอบครัว เราอดถามไม่ได้ว่าก้าวต่อไปของอาณาจักรอิตาเลเซียจะเป็นอย่างไร คุณฟาพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ฟาเห็นคุณพ่อทุ่มเทกับบริษัท และดูแลหลายๆ อย่างมาตั้งแต่เราเกิด พอมาถึงรุ่นเรา เราก็อยากทำให้ดีที่สุดในแบบของเรา อยากพัฒนามากยิ่งขึ้นไปอีกในความรับผิดชอบที่มี ในเรื่องที่เราดูแล สิ่งเหล่านี้คือกำลังใจและพลังผลักดันสำคัญค่ะ”
ท่องเที่ยวรับพลัง
ฟาเป็นคนเดินทางบ่อยทั้งในและนอกประเทศ เพราะต้องติดต่อเรื่องงาน แต่ถ้านับสถานที่ที่เธอเดินทางไปท่องเที่ยว และรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษ คือประเทศอินเดีย และศรีลังกา
“ฟาชอบไปไหว้พระค่ะ ประเทศในแนวนี้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ และมีความหมายในทางจิตวิญญาณ เพราะเวลาไปเมืองเหล่านี้แล้วรู้สึกว่าเราจะมีพลังมากขึ้น และเวลาไปจะต้องตั้งใจไปนิดนึง เรื่องการเดินทางอาจจะไม่ได้สบายเท่าไหร่ ไม่ทันสมัย แต่มีเสน่ห์ในตัวเอง และมีความสุขอีกแบบหนึ่ง ไปทุกครั้งจะได้อะไรกลับมาเสมอ
ฟาไปอินเดียมา 3 ครั้ง และศรีลังกา 1 ครั้ง แต่ที่ศรีลังกาจะพิเศษตรงที่ไปกับเพื่อนสมัยเรียนที่ต่างประเทศ เพราะเราไม่ได้เจอกันนาน เราก็นัดไปเจอที่โน่น ครั้งนั้นก็ได้ไปไหว้พระ ปีนเขา ซึ่งเราไม่เคยทำมาก่อน ได้เล่น Parasailing ด้วย ก็ถือเป็นความทรงจำที่ดีของเพื่อนกลุ่มนี้ด้วยค่ะ”
ที่มาของ “ฟา” ชื่อแสนเก๋
“ตอนเกิดมาคุณพ่ออยากได้ชื่อที่คล้องกับท่าน เลยเรียกว่าฟาไปก่อน และกะไว้ว่าจะมีชื่ออื่นอีกตามมา สุดท้ายก็ไม่มี เลยได้ชื่อฟาเป็นทั้งชื่อเล่น ชื่อจริง ซึ่งก็ไม่มีความหมายนะคะ ความจริงแล้ว ฟามีชื่อภาษาอิตาเลียนด้วยว่า “ฟาเลเชีย” แต่ก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ใช้ฟาอย่างเดียวมาตลอด” :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
