>>ดังสำนวนที่ว่า “Time flies” ซึ่งหมายความว่าเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเสียเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2013 แล้วในไม่อีกกี่วันข้างหน้า สำหรับที่ผ่านมานับว่าเป็นปีที่ฮอตระอุไม่ใช่น้อย เพราะมีข่าวให้เราได้ช็อก! อึ้ง! ทึ่ง! และยินดีได้ตลอดทั้งปี 2012 เลยทีเดียว

เริ่มตั้งแต่ข่าวการหย่าร้างสุดช็อกเมื่อเดือนมิถุนายนของ “ทอม ครูซ” และ “เคธี่ โฮล์มส์” ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีการเปิดเผยถึงข้อตกลงต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร หรือเคธี่ได้ค่าเลี้ยงดูน้อง “ซูริ” ไปเท่าไหร่ แต่ที่ทุกคนตั้งข้อสงสัยอย่างแน่นอนคือ ความบ้าคลั่งลัทธิ “ไซแอนโตโลจี” ของทอมนั้นน่าจะเป็นสาเหตุของการเลิกราในครั้งนี้ หลังจากแยกทางกันเคธี่ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่นิวยอร์คอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนว่าเธอคงจะมือตกเรื่องการแสดงไปเสียแล้วเพราะละครบอร์ดเวย์เรื่อง "Dead Accounts" ที่เธอนำแสดงนั้นขายบัตรไม่ออกและต้อง "ปิดฉาก" ลงภายในเวลาไม่กี่เดือน โถ่...แม่คุณ!


ตามมาด้วยข่าวภาพหลุด “เจ้าชายแฮร์รี” เปลือยกายล่อนจ้อนกอดสาวนิรนามระหว่างการพักผ่อนส่วนพระองค์กับเพื่อนสนิทที่เมืองลาสเวกัส ทำเอาราชสำนักอังกฤษปวดหัวครั้งใหญ่ แต่ที่เห็นจะปวดใจสุดๆ คือแฟนสาวสุดเซ็กซี่ของพระองค์ "เครสซิด้า โบนาส" ที่ตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทันที เหตุเพราะทนอับอายไม่ได้ ล่าสุดแหล่งข่าววงในบอกว่าเจ้าชายจอมสำราญตามง้อเธอจนสำเร็จด้วยการโทรศัพท์และส่งข้อความหาเธอทุกวันจากแนวหน้าที่พระองค์ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานเชียวนะ
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวให้ได้อึ้งกันอีก เมื่อสื่อนอกแอบตีพิมพ์ภาพถ่ายส่วนพระองค์ของ “ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ระหว่างการฮันนีมูน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพดัชเชสเคตท็อปเลสเสียด้วย ข่าวนี้จึงกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์อยู่พักใหญ่ ในขณะที่สำนักข่าวส่วนใหญ่ทั่วโลกตัดสินใจไม่เผยแพร่ภาพชุดดังกล่าว แต่นิตยสาร Closer ฉบับฝรั่งเศสกลับไม่สนใจและตีพิมพ์ภาพเหล่านั้นอย่างไร้จรรยาบรรณ จึงโดนฟ้องไปตามระเบียบเรียบร้อยโรงเรียนวินเซอร์


สำหรับรางวัลข่าวฉาวแห่งปีคงต้องยกให้ “คริสเทน สจ๊วต” ในฐานะที่เธอนอกใจแฟนหนุ่มสุดหล่อ “โรเบิร์ต แพตทินสัน” ไปมีความสัมพันธ์ลับๆ กับผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Snow White and the huntsman “รูเพิร์ต แซนเดอร์” กระทั่งโดนกระแสแอนตี้จากแฟนๆ ไปพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาคืนดีกับพ่อหนุ่มโรเบิร์ตอีกครั้งก่อนช่วงเปิดตัวภาพยนตร์ทไวไลต์: เดอะ เบรกกิ้ง ดอว์น แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าแก้วแตกแล้วต่อยาก หนุ่มร็อบก็ยังคงไม่ไว้ใจน้องวันทอง เอ๊ย! คริสเทนเท่าไหร่นัก ทีเด็ดคือมีข่าวลือว่านางหาสารพันวิธีที่จะทำให้แฟนหนุ่มกลับมารักเธอดังเดิม และหนึ่งในวิธีนั้นก็คืออัพไซส์เสริมอึ๋มซะเลย งานนี้คงต้องมารอดูกัน

ปิดท้ายปีด้วยข่าวน่ายินดีปรีดาที่สุดของ “เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคต” เพราะในที่สุดสำนักพระราชวังเซนต์เจมส์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าดัชเชสเคตของเราทรงพระครรภ์แล้ว แต่จะเป็นบุตรหรือธิดานั้นคงต้องมาลุ้นต่อไป เมื่อทายาทของทั้งสองพระองค์ประสูติ ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตามจะได้รับตำแหน่งเป็นรัชทายาทอันดับ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษทันที เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฏการสืบสันตติวงศ์ให้พระราชธิดาสามารถครองบัลลังก์ได้เช่นเดียวกัน :: Report by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
เริ่มตั้งแต่ข่าวการหย่าร้างสุดช็อกเมื่อเดือนมิถุนายนของ “ทอม ครูซ” และ “เคธี่ โฮล์มส์” ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีการเปิดเผยถึงข้อตกลงต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร หรือเคธี่ได้ค่าเลี้ยงดูน้อง “ซูริ” ไปเท่าไหร่ แต่ที่ทุกคนตั้งข้อสงสัยอย่างแน่นอนคือ ความบ้าคลั่งลัทธิ “ไซแอนโตโลจี” ของทอมนั้นน่าจะเป็นสาเหตุของการเลิกราในครั้งนี้ หลังจากแยกทางกันเคธี่ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่นิวยอร์คอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนว่าเธอคงจะมือตกเรื่องการแสดงไปเสียแล้วเพราะละครบอร์ดเวย์เรื่อง "Dead Accounts" ที่เธอนำแสดงนั้นขายบัตรไม่ออกและต้อง "ปิดฉาก" ลงภายในเวลาไม่กี่เดือน โถ่...แม่คุณ!
ตามมาด้วยข่าวภาพหลุด “เจ้าชายแฮร์รี” เปลือยกายล่อนจ้อนกอดสาวนิรนามระหว่างการพักผ่อนส่วนพระองค์กับเพื่อนสนิทที่เมืองลาสเวกัส ทำเอาราชสำนักอังกฤษปวดหัวครั้งใหญ่ แต่ที่เห็นจะปวดใจสุดๆ คือแฟนสาวสุดเซ็กซี่ของพระองค์ "เครสซิด้า โบนาส" ที่ตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทันที เหตุเพราะทนอับอายไม่ได้ ล่าสุดแหล่งข่าววงในบอกว่าเจ้าชายจอมสำราญตามง้อเธอจนสำเร็จด้วยการโทรศัพท์และส่งข้อความหาเธอทุกวันจากแนวหน้าที่พระองค์ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานเชียวนะ
แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวให้ได้อึ้งกันอีก เมื่อสื่อนอกแอบตีพิมพ์ภาพถ่ายส่วนพระองค์ของ “ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ระหว่างการฮันนีมูน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพดัชเชสเคตท็อปเลสเสียด้วย ข่าวนี้จึงกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์อยู่พักใหญ่ ในขณะที่สำนักข่าวส่วนใหญ่ทั่วโลกตัดสินใจไม่เผยแพร่ภาพชุดดังกล่าว แต่นิตยสาร Closer ฉบับฝรั่งเศสกลับไม่สนใจและตีพิมพ์ภาพเหล่านั้นอย่างไร้จรรยาบรรณ จึงโดนฟ้องไปตามระเบียบเรียบร้อยโรงเรียนวินเซอร์
สำหรับรางวัลข่าวฉาวแห่งปีคงต้องยกให้ “คริสเทน สจ๊วต” ในฐานะที่เธอนอกใจแฟนหนุ่มสุดหล่อ “โรเบิร์ต แพตทินสัน” ไปมีความสัมพันธ์ลับๆ กับผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Snow White and the huntsman “รูเพิร์ต แซนเดอร์” กระทั่งโดนกระแสแอนตี้จากแฟนๆ ไปพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาคืนดีกับพ่อหนุ่มโรเบิร์ตอีกครั้งก่อนช่วงเปิดตัวภาพยนตร์ทไวไลต์: เดอะ เบรกกิ้ง ดอว์น แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าแก้วแตกแล้วต่อยาก หนุ่มร็อบก็ยังคงไม่ไว้ใจน้องวันทอง เอ๊ย! คริสเทนเท่าไหร่นัก ทีเด็ดคือมีข่าวลือว่านางหาสารพันวิธีที่จะทำให้แฟนหนุ่มกลับมารักเธอดังเดิม และหนึ่งในวิธีนั้นก็คืออัพไซส์เสริมอึ๋มซะเลย งานนี้คงต้องมารอดูกัน
ปิดท้ายปีด้วยข่าวน่ายินดีปรีดาที่สุดของ “เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคต” เพราะในที่สุดสำนักพระราชวังเซนต์เจมส์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าดัชเชสเคตของเราทรงพระครรภ์แล้ว แต่จะเป็นบุตรหรือธิดานั้นคงต้องมาลุ้นต่อไป เมื่อทายาทของทั้งสองพระองค์ประสูติ ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตามจะได้รับตำแหน่งเป็นรัชทายาทอันดับ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษทันที เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฏการสืบสันตติวงศ์ให้พระราชธิดาสามารถครองบัลลังก์ได้เช่นเดียวกัน :: Report by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/