xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเมนูก๋วยเตี๋ยวฉบับเลิฟ &เนื้อคู่ ของทายาทธุรกิจน้ำดำ “ภูมิ สารสิน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ใครที่มีโอกาสผ่านไปแถวห้างสยามพารากอนในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาและเดินโฉบไปแถวๆ ชั้น 4 จะพบกับร้าน “เนื้อคู่” ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อส่งกลิ่นหอมฉุยมาแต่ไกล และอีกภาพที่เห็นนั้นเราจะเห็นชายหนุ่มสไตล์เรียบ เท่ บุคลิกภาพดี ประกอบกับรูปร่างสูงโปร่ง และใบหน้ายิ้มแย้มยืนต้อนรับแขกอยู่เสมอ เขาคือ “ภูมิ สารสิน” ด้วยท่าทีอ่อนโยน และดูดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครๆ จะอยากเข้าไปลองลิ้ม ชิมรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่มีพ่อค้ารูปหล่อคนนี้คอยต้อนรับ...

ภูมิ สารสิน ลูกชายคนเล็กของ “พรวุฒิ สารสิน” และ “ม.ร.ว.สุภาณี ดิศกุล” จบไฮสคูลจากโรงเรียนประจำ เดอะ คิงส์ สคูล ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และศึกษาต่อระดับปริญญาตรีด้านการจัดการ บริหารธุรกิจ ที่แบ๊บสัน คอลเลจ เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา...หลังจากเขากลับมาปุ๊บก็เป็นเวลาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว “เนื้อคู่” นี้เปิดมอบความอร่อยให้กับใครต่อใครพอดี

เปิดตัวเนื้อคู่

ร้านนี้เกิดจากการรวมตัวกันของลูกพี่ลูกน้อง 7 คน ได้แก่ สุรัชนี-สุรภาพ ลิ่มอติบูลย์, ธีรวัลคุ์-พงศ์ศิษฏ์-พงศ์วรุฒน์ ปังศรีวงศ์, แพร-ภูมิ สารสิน ซึ่งทุกคนมีความชอบเหมือนกันคือ “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ” เนื่องจากสมัยเด็กๆ ทุกวันเสาร์มักรวมตัวกันที่บ้านคุณปู่ “พงส์ สารสิน” เพื่อทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อรับประทาน

“ร้านเปิดมาเข้าสู่เดือนที่ 5 แล้วครับ...บ้านเราชอบทานเนื้อ ชอบทานก๋วยเตี๋ยว ก็เลยมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว” ชายหนุ่มกล่าวต้อนรับในขณะที่สำรวจความเรียบร้อยต่างๆ ของร้าน

“ผมกลับมาจากต่างประเทศเดือนนึงก็เปิดร้าน พอดีหุ้นส่วนคนอื่นไม่ว่าง ผมเลยเป็นคนดูแลประจำที่ร้าน...ทุกคนจะช่วยกันออกไอเดีย โดยหลักๆ ก็คือพี่แวว (ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์) ดูเรื่องการออกแบบ ตกแต่งร้าน ส่วนพี่แก๊บ (สุรภาพ ลิ่มอติบูลย์) ดูเรื่องอาหาร ส่วนผมจะช่วยทั้งคู่ ดูเรื่องการเทรนคน ดูเรื่องการจัดการ เพราะเชื่อว่า “เนื้อคู่” ที่ใช่ ย่อมเพิ่มรสชาติให้ชีวิต ...นั่นคือสโลแกนของร้านครับ (หัวเราะ) ร้านเราเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ เราจะมีเนื้อสูตรเด็ดต่างๆ แต่คนไม่ทานเนื้อก็มีก๋วยเตี๋ยวหมู หรือเย็นตาโฟของทานเล่นให้เลือกด้วย บรรยากาศเราทำให้โปร่งๆ สบายๆ สามารถเข้ามาได้ตลอด...จุดเด่นคงอยู่ที่การคัดสรรวัตถุดิบ 6 ชนิด เพื่อให้ได้สุดยอดรสชาติที่ดีที่สุด ทานคู่กับเส้นที่ลวกเดือดพอเหมาะ หรือคู่กับข้าวที่หุงได้เหนียวนุ่ม พร้อมน้ำซุปรสเด็ดที่เคี่ยวจนกลมกล่อม ฟีดแบ็กโอเคนะ ลูกค้าเข้าทั้งวัน หลายๆ คนก็เป็นลูกค้าประจำ”

เรียนรู้จากของจริง

แม้จะยังไม่ได้ลองเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านบริหารธุรกิจที่เรียนมาจากที่อื่น เพราะมาทำธุรกิจร้านอาหารนี้ซะก่อน แต่ ภูมิ บอกกับเราว่า ที่เจออยู่ทุกวันนี้แหละคือของจริง ที่ไม่สามารถไปหาได้ง่ายๆ จากที่ไหน!!

“ก่อนหน้านี้เคยฝึกงานที่บริษัทโค้กในช่วงเรียนมานิดหน่อย แล้วก็มาทำร้านเลย ผมเรียนเรื่องธุรกิจมา และสิ่งที่ผมทำอยู่นี่ก็คือธุรกิจ เป็นธุรกิจอาหาร ที่นี่ทำให้ได้เห็นของจริง เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่เราจะมีได้ที่ เราทำธุรกิจของตัวเอง เริ่มเห็นตั้งแต่ศูนย์ จนเราเริ่มเห็นว่าอยู่ตัว เราจะเห็นทุกอย่างทั้งปัญหาและอุปสรรค

ปัญหาที่ต้องเจอ โอ้โห...ทุกอย่างเลย ก่อนที่จะทำร้านอาหาร คุณพ่อ (พรวุฒิ สารสิน) บอกเลยว่า การทำธุรกิจอาหาร ยุ่ง จุกจิกที่สุด ซึ่งเป็นความจริง แม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่จากปัญหาเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เช่น เรื่องพนักงาน เรื่องการสั่งอาหาร จัดอาหารยังไง จะจัดจานยังไงให้สวยดูดี ฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เจออย่างนี้ไป 20-30 เรื่อง เรื่องก็เยอะได้ ซึ่งเราต้องหาวิธีแก้จุดเล็กๆ นั้นให้ได้

ช่วงแรกที่มาทำงานไม่ค่อยรู้เรื่อง 2 เดือนแรกทำงานทุกวันแทบจะไม่มีวันหยุดเลย พนักงานทำอะไรเราต้องทำได้ทุกอย่าง เสิร์ฟน้ำ รับออเดอร์ เช็กบิล เช็ดโต๊ะ ต้องทำทุกอย่างให้ทันกับการบริการลูกค้า ทุกสิ่งที่ได้จากการทำงานจริงเป็นประสบการณ์สอนเราว่าอย่าตกใจเวลาเจอเรื่องอะไร รอบคอบมากขึ้น เพราะงานร้านอาหารรายละเอียดเยอะมาก และเข้าใจหัวอกคนทำร้านอาหารมากขึ้น เมื่อก่อนเวลาไปทานอาหารแล้วอาหารหรือการบริการไม่ได้อย่างใจเรา ผมจะโวยวายนะ แต่พอมาทำงานตรงนี้แล้วได้มีโอกาสไปทานอาหารร้านที่เขาเปิดใหม่ ซึ่งระบบเขาก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเหมือนกัน ผมก็...ไม่เป็นไรครับ เข้าใจหัวอกคนทำงานเหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงโวยวาย อย่างที่บอกบ้านผมค่อนข้างเรื่องมาก ทุกวันนี้ผมใจเย็นมากขึ้น เข้าใจงานบริการมากขึ้น”

ปล่อยไปให้ลอง ให้รู้เอง

สำหรับครอบครัวของภูมิ สารสิน เองนั้น ไม่เคยมีธุรกิจอาหารมาก่อน และคุณพ่อ-พรวุฒิ ก็ออกตัวแรงเลยว่าจะไม่มีวันทำร้านอาหารเด็ดขาด ด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่า “มันยุ่ง” แต่ก็คอยดูแลและสนับสนุนอยู่ห่างๆ

“คุณพ่อแนะนำแค่ว่าอย่ากินบ่อย เดี๋ยวจะเบื่อ แต่ผมอยู่ทุกวันก็ต้องกิน (หัวเราะ) ผู้ใหญ่จะปล่อยให้เด็กๆ ทำกันเองมากกว่า ส่วนผมก็มีพี่ๆ ให้คำแนะนำ...ที่บ้านไม่ได้โอ๋ หรือสอนอะไรผมกับพี่สาวดุดันนัก คุณพ่อคุณแม่จะปล่อยให้คิด ตัดสินใจ และใช้ชีวิตเอง ผมเองก็อยู่โรงเรียนประจำมาตั้งแต่มัธยม ไปลงทะเบียนเอง ไปดูสถานที่เรียนเอง อยู่เอง หากินเองตลอด เหมือนเป็นการสอนในตัว แต่บ่อยครั้งที่มีเรื่องสำคัญๆ ต้องตัดสินใจ เช่น เลือกเรียนทางไหน ก็จะปรึกษาท่านแน่นอน เชื่อไหมครับว่าแม้แต่เรื่องแฟน ท่านก็ให้เรียนรู้เอง รับผิดชอบตัวเอง ฉะนั้นแล้ววินัยในตัวเองจึงต้องมีมาก แต่การหล่อหลอมในแบบนี้ก็ดีครับ เป็นการฝึกเรื่องการตัดสินใจ เรียนผิดเรียนถูก สิ่งไหนผิดก็จำไว้แล้วอย่าทำอีก

ทุกวันนี้สิ่งที่ผมทำอยู่เป็นสิ่งที่ครอบครัวชอบ ผมชอบ ออกมาเป็นเนื้อคู่ตรงนี้ แม้ผมจะยังต้องเรียนรู้อีกเยอะแต่ก็โอเคครับ”

นักชิม กินแหลก

ในเมื่อรักจะทำร้านอาหาร คงต้องผ่านสมรภูมิการชิม การเก็บข้อมูลมาพอสมควร ไม่ว่าใครบอกว่าที่ไหนรสเด็ด ที่ไหนมีรางวัลการันตี ทั้งเชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ หมึกแดงไกด์ หรือเชฟกระทะเหล็ก ครอบครัวนี้จะพาไปกิน!!

“โดยส่วนตัวชอบทานอาหาร “อร่อย” (เน้นว่าอร่อย) ทุกชนิด เอนจอยอีตติ้งที่สุด การกินเป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดในชีวิตแล้ว (หัวเราะ) ไม่ว่าที่ไหนอร่อยไปเสาะแสวงหาทานหมด ไม่ว่าจะข้างทาง ร้านหรู ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ขอให้รู้เถอะ ครอบครัวผมจะพาไปชิม อาหารที่ครอบครัวผมชอบมากที่สุดก็คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เดี๋ยวนี้เลยได้ทานบ่อย”

ดูท่าทางว่าจะมีความสุขกับการได้อยู่กับอาหารเป็นที่สุดอย่างนี้แล้ว เขาจะมีความฝันหนึ่งอยากเป็นเชฟ เข้าครัวด้วยตัวเองบ้างหรือเปล่านะ??

“ความจริงชอบทำอาหารนะแต่ไม่ได้อยากเป็นเชฟ (หัวเราะ) คิดว่าคงไม่เก่งขนาดนั้น ชอบทำกินเองมากกว่า สมัยอยู่เมืองนอก อยู่โรงเรียนอาหารไม่ค่อยถูกปาก ผมกับเพื่อนก็จะช่วยกันทำทานเอง โดยจะมีเพื่อนอีกคนทำอาหารไทย ส่วนผมถนัดอาหารฝรั่ง แต่ทำแล้วคนชิมบอกเค็ม แต่ผมว่าอร่อยสงสัยผมชอบกินเค็ม (หัวเราะ) ยังไม่เคยลองทำก๋วยเตี๋ยว ทุกวันนี้วิ่งอยู่หน้าร้านมากกว่า สักวันคงต้องลอง...”

ออกหาประสบการณ์อื่น แต่ไม่ไปไหน

ตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้านจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 5 เดือนแล้ว แม้ว่าในช่วงแรกระบบจะยังไม่เข้าที่และวุ่นวายปวดหัวไม่ใช่น้อย แต่วันนี้ทุกอย่างคลี่คลายลงจนเกือบจะลงตัว จนถึงเวลาที่ภูมิ สารสิน อาจจะขอออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านอื่นๆ บ้าง

“ต้นปีหน้า ภูมิจะไปทำงานประจำที่โค้กแล้ว ช่วงนี้อาจจะเข้าร้านน้อยลง เพราะว่าขอพักนิดหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ลุยกับตรงนี้เยอะมาก ส่วนงานประจำที่จะเข้าไปทำนั้นก็คงเข้าไปฝึกงานดูว่าตัวเองชอบอะไร มีความสามารถด้านไหน

อีกอย่างที่คิดจะไปทำงานประจำเพราะคิดว่าตอนนี้ร้านเริ่มลงตัวแล้ว เราเซตระบบไว้ลงตัว ที่ร้านก็มีผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ น่าจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ หลังเลิกงานก็สามารถเข้ามาดูภาพรวมของร้านได้...นอกจากนี้กำลังเรียน จีแมท (GMAT) สำหรับไปเรียนต่อปริญญาโท ซึ่งสามารถเก็บคะแนนได้ 5 ปี จึงวางแผนว่าจะทำงานสัก 3 ปีแล้วไปเรียนปริญญาโทครับ”


เคล็ดลับในการทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อให้อร่อย 

“ทุกอย่างต้องสอดคล้องไปด้วยกัน ทั้งบรรยากาศดี น้ำซุปดี วัตถุดิบดี ถ้าเป็นจานของผม...ผมชอบใส่เนื้อเยอะๆ ใช้ของดีๆ ...ชื่อ “เนื้อคู่” มาจากจานเด็ดของเรา ที่ครีเอตให้เป็นเมนูการทานเนื้อลวกโดยสามารถเลือกรับประทานเนื้อคู่กับเส้นหรือคู่กับข้าว นอกจากนั้นความหมายของชื่อ “เนื้อคู่” ยังฟังดูง่ายๆ และสื่อถึงว่า ทุกคนก็อยากจะพบเนื้อคู่ของตัวเอง”

เนื้อคู่ของผม

รูปหล่อ กล้ามโตซะขนาดนี้ สาวๆ เห็นก็ใจละลาย อยากจะขอยื่นใบสมัครเป็นเนื้อคู่กันเยอะแยะ แต่ลักษณะเนื้อคู่ของเขาจะเป็นอย่างไรนั้น เจ้าตัวเผยกับเราแบบชิลชิลว่า

“ผมยังอายุไม่มาก ยังพบเจอคนอีกเยอะ ไม่รีบร้อน ช่วงหลังๆ รู้สึกชอบคนเรียบร้อย ไม่ชอบสาวเปรี้ยว ไม่ชอบคนแต่งตัวโป๊ ถ้าถามว่าสเปกแบบไหนคงตอบไม่ได้ ถ้าเจอคนสวยใครๆ ก็ชอบหมดแหละ แต่ขอให้นิสัยดี พูดคุยกันรู้เรื่อง ตอนนี้ก็มีคนที่คบอยู่ สบายใจดีครับคบกันมา 4 ปีครึ่งแล้ว ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ เพียงแต่ตอนนี้แฮปปี้ก็โอเคแล้ว”

ภูมิสไตล์

“ผมว่าคนมีสไตล์ คือคนที่เป็นตัวของตัวเอง รู้จักมุมดีมุมเด่น และไม่ต้องอวดอ้างมากมาย สิ่งที่น่าจะยิ่งทำให้มีสไตล์มากขึ้นในแบบคนไทย คือ มารยาทอันดีงาม รู้จักตัวเอง และทำให้มันอยู่กับคนอื่นได้ ขณะเดียวกันความนึกคิดต้องเป็นไปในทางดี มองโลกในแง่ดี เลือกที่จะดีในทุกๆ วัน...ผมเองก็เป็นคนง่ายๆ แค่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ ผมว่าคนบางทีมองแต่เปลือกนอกที่การแต่งตัวคงไม่ได้หมายถึงทั้งหมด วัดกันที่จิตใจมากกว่า” :: Text by FLASH
กำลังโหลดความคิดเห็น