ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเกรียวกราวที่สร้างความหวังให้หนุ่มโสดทั่วโลก ว่าหากใครสามารถพิชิตใจ “จีจี้ เชา” ลูกสาวอภิมหาเศรษฐีหมื่นล้านแห่งฮ่องกง ถึงขั้นทำให้เธอเปลี่ยนใจเข้าสู่พิธีวิวาห์ได้ ก็รับเงินไปเลยสองพันล้านบาท
หลังจากที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จากแทบทุกประเทศ เสนอตัวเข้ามาพิชิตใจ จีจี้ ทายาทสาวของ เซซิล เชา เซซุง ไทคูนชาวจีนทันที แม้เธอจะประกาศอย่างชัดเจนว่า เธอเองได้เข้าสู่พิธีสมรสทางศาสนาเรียบร้อยแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประเทศฝรั่งเศสกับเพื่อนเพศเดียวกัน ที่มีวัยห่างกับเธอร่วมสิบปี
เบื้องหลังของเรื่องฮือฮานี้ น่าจะเกิดจากความคิดที่แตกต่างของพ่อลูก ที่เป็นคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ แถมเติบโตมากับค่านิยมของคนตะวันออกและตะวันตก จนกลายมาเป็นปมขัดแย้งในครอบครัว ทั้งนี้ จีจี้ออกมาเผยว่า ที่บิดาออกข่าวเสียใหญ่โตเกี่ยวกับเธอนั้น เพราะมองเห็นเธอเป็นเพียง “ผู้หญิงคนหนึ่ง” ที่ต้องประพฤติตนอยู่ในกรอบของจารีตประเพณี อยู่ในโอวาทของบุพการี และดำเนินชีวิตเยี่ยงหญิงอื่นๆ ของโลกตะวันออก และกระแสสังคมของฮ่องกง
ที่สำคัญคือ บิดาของเธอต้องการที่จะเก็บตัวเธอไว้ให้อยู่ใน “กรอบ” ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ผู้ใหญ่เห็นว่าเหมาะสม เพียงเพื่อสถานะทางสังคมของเธอและครอบครัวเท่านั้น และการแต่งงานก็คือ การประกาศศักดิ์ศรีในสังคมที่ห้อมล้อมครอบครัวของเธอ
ขณะที่เธอมองว่า การแต่งงานกับเพศเดียวกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กลับได้รับความชื่นชมจากสังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กที่ถึง1,500 คอมเม้นต์ ในเวลาเพียงไม่กี่วัน สำหรับตัวเธอนั้น สังคมในฮ่องกงยังห่างไกลเหลือเกิน กับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเช่นที่เธอกระทำอยู่ นั่นคือการแต่งงานระหว่างเพศดียวกันที่จะถูกยอมรับโดยง่าย
ความจริงเรื่องการแต่งงานของเธอนั้น พยายามทำแบบไม่เอิกเกริก เพื่อที่จะไว้หน้าบิดาของเธอไม่ให้รู้สึกอับอาย เนื่องจากเขาเป็นคนที่กว้างขวาง และเป็นที่รู้จักในสังคมของอภิมหาเศรษฐี ซึ่งเป็นลักษณะของสังคมจีนในฮ่องกง ที่ต่างจากสังคมในยุโรป เพราะในยุโรปจะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ตรงกับข้ามกับสังคมตะวันออกอย่างชัดเจน
ในขณะที่เรื่องของเธอ เป็นเรื่องที่ต้องปิดบังเกี่ยวกับเรื่องชีวิตส่วนตัว แต่ทีเรื่องของบิดาของเธอ ที่ปัจจุบันมีอายุ 76 ปีแล้ว และเคยมีสัมพันธ์กับผู้หญิงจำนวนนับหมื่นคน กลับเป็นที่ยอมรับและนำมาพูดกันอย่างเป็นเรื่องสนุกสนาน (การมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงหมื่นคน นั่นหมายความว่า เขาต้องใช้เวลาทุกวันอย่างแทบไม่มีวันหยุด อย่างน้อย 30ปี ในการที่จะมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่ซ้ำหน้าเลย) กลับถูกสังคมมองว่า ไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอาย ช่างตรงกันข้ามกับเรื่องของเธอที่ถูกมองเป็นอีกอย่างหนึ่ง แล้วอย่างนี้ อะไรคือความเสมอภาคของเพศ ในมุมมองของสังคมปัจจุบัน
จีจี้ เชา ในวัย33 ปี จบการศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้พบกับสามีทอม คือ ฌอน อีฟ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทของบิดาของเธอเอง ทั้งคู่คบหาดูใจกันจนตัดสินใจแต่งงานกันอย่างถูกต้องในเวลาต่อมา โดยจีจี้ยอมรับว่า เคยออกเดทกับ “ผู้ชาย” มาก่อน ในขณะที่ยังเป็นนักศึกษา แต่เธอรู้ตัวในทันทีว่า “มันไม่ใช่” และเธอมั่นใจว่าเธอพึงใจในเพศเดียวกันแน่นอน
หลังจากที่เรื่องของเธอถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร “แท็ทเลอร์ เอเซีย” ชีวิตของเธอก็วุ่นวายที่สุด เพราะมีผู้ชายมากกว่าสองพันรายที่เสนอตัวเข้ามา ตั้งแต่หนุ่มอเมริกันจากโอกลาโฮมา บัลแกเรีย ตุรกี จนถึง อินเดีย โดยบิดาของเธอหวังว่า จะมีสักคนที่เข้าตาและทำให้เธอเปลี่ยนใจ เปลี่ยนรสนิยม โดยอภิมหาเศรษฐีแห่งฮ่องกง ตั้งความหวังกับเขยคนใหม่นี้แค่ “จะรวยจะจนไม่สำคัญ ขอเพียงทำให้ลูกสาวของเขาเปลี่ยนไปได้ ตามที่ควรจะเป็น ก็พอแล้ว”
มาดูกันต่อไปว่า ลูกสาวผู้มีความคิดอิสระ กับบิดาผู้ยึดมั่นในจารีตประเพณี ใครกันที่จะเป็นผู้ชนะในที่สุด !
