xs
xsm
sm
md
lg

ชื่นชม พระบรมรูป “ในหลวง” เสมือนเท่าองค์จริง ก่อนอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดไทยในอินเดีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ART EYE VIEW --- ก่อนหน้านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เคยมีพระบรมราชานุญาต ให้มีการจัดสร้าง "พระบรมรูป ขนาดใหญ่เท่าองค์จริง" มาก่อน

ทว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีพระบรมราชานุญาต ให้มีการจัดสร้าง พระบรมรูปขนาดใหญ่เท่าองค์จริง พร้อมอาคารประดิษฐานพระบรมรูป เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย ตามที่ มูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ขอพระบรมราชานุญาตจัดสร้าง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็นผู้มีคุณูประการอันใหญ่หลวงต่อพระพุทธศาสนา


ล่าสุด พระบรมรูปที่มีพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้าง ซึ่งหล่อด้วยบรอนซ์ผสมทอง ฉลองพระองค์ชุดจอมทัพไทย พระพักตร์ทรงพระสรวล (ยิ้ม) ความสูง 2.30 เมตร น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม ออกแบบและได้รับการตรวจสอบจาก สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ,ปรับแต่งแบบโดย นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) และปั้นต้นแบบโดย เครน กุญชศิลป์

พร้อมจะถูกนำไปประดิษฐาน ณ อาคารประดิษฐาน  ที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย ในอีกไม่นาน

ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ พระอุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์(ท่าพระจันทร์) ในงานสมโภชพระบรมรูป ก่อนอัญเชิญประดิษฐาน หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงความพร้อมในการอัญเชิญพระบรมรูปไปประดิษฐาน

ท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี (ว.ป. วีรยุทโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยาอินเดีย หัวหน้าพระธรรมทูตสาย ประเทศอินเดีย-เนปาล กล่าวว่า ด้วยความศรัทธาของคนไทย จึงทำให้มีการสร้างวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ขึ้นบนแผ่นดินพุทธภูมิ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับวัดในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น การสร้างเจดีย์มหาธาตุเฉลิมราชย์ศรัทธา,จิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ ตลอดจนได้มีการขอพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ และเส้นพระเจ้าไปประดิษฐาน ไว้ที่วัด โอกาสนี้จึงถึงเวลาอันสมควรที่จะได้อัญเชิญพระบรมรูปไปประดิษฐาน

“คนไทยหลายๆคน มีความประสงค์ที่จะหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปประดิษฐานไว้ในที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธทั่วโลก ให้เสมือนหนึ่งพระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐนั้น ประทับอยู่ใกล้ชิดอยู่กับพระรัตนตรัยในแผ่นดินพุทธภูมิ เหมือนดั่งพระเจ้าอโศกมหาราช ,อนาถบิณฑิกเศรษฐี ,พระเจ้าพระเจ้าปเสนทิโกศล ฯลฯ ที่ตื่นเช้ามาก็ไปประทับอยู่ที่ประตูของพระเชตะวันมหาวิหาร”

ธวัชชัย ทวีศรี อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐอินเดีย ในฐานะประธานอุปถัมภ์วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์  บอกเล่าว่า ก่อนที่จะมีงานสมโภชพระบรมรูป เสมือนเท่าองค์จริง และถือเป็นองค์แรกของโลก เกิดขึ้นในวันนี้

ก่อนหน้านั้น ตนและคณะกรรมการจัดสร้างพระบรมรูป ได้นำการจัดสร้างในแต่ละขั้นตอนขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยเรื่อยมา นับตั้งแต่ที่พระบรมรูปยังเป็นดินน้ำมัน กระทั่งได้มีการเททองหล่อเสร็จเรียบร้อย และทรงพอพระทัยกับผลงานที่ออกมาเเป็นอย่างยิ่ง

ณรงค์ฤทธิ์ เอี่ยมเจริญยิ่ง ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์   กล่าวถึงช่องทางในการอัญเชิญพระบรมรูปไปยังอินเดียว่า

“เราอยากให้เป็นการจัดส่งแบบที่สามารถอัญเชิญพระบรมรูปจากประเทศไทยตรงไปที่วัดไทยฯ โดยตรง เพราะเราทราบดีว่า การจัดส่งสิ่งของเข้าและออกผ่านกรมศุลกากรของอินเดีย ค่อนข้างจะมีความยุ่งยากมาก และของมักจะตกค้างอยู่นาน เราไม่ประสงค์อย่างนั้น ดังนั้นเราจะเลือกใช้บริษัทจัดส่งที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ และจะขอความอนุเคราะห์จากการบินไทยให้ช่วยอำนวยความสะดวกด้วย”

เมื่อพระบรมรูปถูกอัญเชิญไปถึงวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ และถูกนำไปประดิษฐานภายในอาคารเสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง จากนั้นทางวัดจะจัดให้มีงานสมโภชน์พระบรมรูป พร้อมกับสิ่งสำคัญอื่นๆภายในวัด ในคราวเดียวกัน

“เพราะในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งสำคัญที่จะต้องจัดงานสมโภชน์อีกมากมาย”


และระหว่างวันนี้ - 31 สิงหาคม พ.ศ.2555  พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสมือนเท่าองค์จริง ได้ประดิษฐาน ณ  อุโบสถวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (ท่าพระจันทร์) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เดินทางไปชื่นชม

โอกาสเดียวกัน มูลนิธิฯ เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วม บูชารูปหล่อพระบรมรูปจำลอง ขนาดความสูง 21 นิ้ว หล่อด้วยบรอนซ์ ในราคา 50,000 บาท ซึ่งเวลานี้เหลือเพียง 100 องค์(จากจำนวนทั้งหมด 250 องค์)

โดยรายได้จากการเช่าบูชา จะนำไปสมทบทุนร่วมสร้าง อาคารประดิษฐานพระบรมรูป  (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2184-4539)

อ.วนิดา พึ่งสุนทร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(สถาปัตยกรรมแบบประเพณี)  ให้ข้อมูล เกี่ยวกับรูปแบบของอาคารประดิษฐานพระบรมรูป ที่จะถูกสร้างเคียงคู่เจดีย์มหาธาตุเฉลิมราชย์ศรัทธา ซึ่งต่างก็เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกท่านนี้ว่า

“เป็นอาคารในรูปแบบอินเดียผสมไทย แต่จะมีขนาดเล็กกว่าเจดีย์  และที่ลักษณะของอาคารเป็นรูปโดม เพราะใต้หลังคาโดมจะเป็นท้องฟ้า และภายในตัวอาคาร นอกจากบรรดาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อื่นๆ จะมีฉัตร 9 ชั้น ที่มีพระปรมาภิไธยย่อ ภปร.อยู่ตรงกลางของฉัตร”

หมายเหตุ : วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อให้ มีความหมายว่า วัดที่ชาวไทยสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ตั้งอยู่ ณ เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย อันเป็นสังเวชนียสถานที่ดับขันธ์ปรินิพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


Text by ฮักก้า Photo by สันติ เต๊ะเปีย








ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซคชั่น Celeb Online www.astvmanager.com, และ M-Art เซคชั่น Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail
กำลังโหลดความคิดเห็น