เป็นเศรษฐีต้องมีเรือยอชต์ไว้ขับ แต่ถ้าเป็นมหาเศรษฐี ต้องมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่จะนั่งไปไหนต่อไหนได้โดยไม่ต้องรอผู้โดยสารคนอื่นๆ แล้วถ้าเป็นอภิมหาเศรษฐีหล่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ต้องตอบว่า ต้องมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวถึงจะเก๋
แต่เดี๋ยวนี้ เครื่องบินเจ็ตก็มีกันจนเกร่อไปแล้ว ขนาดบินอยู่บนน่านฟ้าก็แทบจะชนกันเหมือนรถบนถนนเลย แถมถ้าบินใกล้กันสักหน่อย ก็พอจะรู้ว่าใครบ้างที่อยู่ในรัศมีการบินที่พอๆ กัน
ตอนนี้ บรรดาอภิมหาเศรษฐีที่ต้องการความเป็นส่วนตัวยิ่งกว่าใครๆ ต้องหันไปพึ่งบริษัทผลิตเครื่องบินประเภท “ไฮ เพอร์ฟอร์มานส์” ว่า พอจะมีหนทางใด ที่ตนจะมีเครื่องบินส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครและไม่ซ้ำใคร หรือจะมีได้ก็ขอให้เป็นคนที่มีฐานะในระดับใกล้เคียงกัน
ระดับฐานะที่สามารถซื้อเครื่องบินส่วนตัวที่ว่านี้มาเป็นเจ้าของ ต้องมีเงินในกระเป๋าไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านดอลลาร์หรือปอนด์ขึ้น
ความจริงบริษัทที่จะผลิตเครื่องบินระดับสุดยอดอัครฐานได้ ในโลกนี้ คงมีเพียง 2 ค่ายเท่านั้นคือ บริษัทโบอิ้งและบริษัทแอร์บัส แต่ลำพังบริษัทแอร์บัสอันมีถิ่นฐานอยู่มี่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส คงจะไม่สามารถทำการผลิตเครื่องบินตามความประสงค์ของอภิมหาเศรษฐีได้แน่นอนในช่วงนี้ เพราะแค่ใบสั่งจากสายการบินต่างๆ ทั่วโลกนั้น แอร์บัสเองก็ผลิตให้ไม่ทัน จนต้องปิดรับใบจองมานานแล้ว เพราะไม่สามารถผลิตได้ทันตามเวลาที่ได้คาดไว้
ก็คงมีเพียงบริษัทโบอิ้งเท่านั้น ที่พอจะสามารถเนรมิตวิมานลอยฟ้าให้ตามใบสั่งพิเศษนี้ได้ ด้วยการนำเอาเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 747-8 Intercontinental อันเป็นเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด มาตกแต่งให้เป็นวิมานลอยฟ้าสุดหรูอลังการ โดยเครื่องบินส่วนตัวล่าสุดของโบอิ้งนี้ คือคู่แข่งสำคัญของแอร์บัส A380 ในเชิงทั้งสมรรถนะและการประหยัดเชื้อเพลิงและยังทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลงกว่าเดิมมาก ทั้งในเรื่องของมลพิษและปัญหาเรื่องเสียงอีกด้วย
บริษัทลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนีคือ บริษัทแรกที่ได้รับส่งมองเครื่องบินรุ่นนี้ จากจำนวนผู้สั่งจองทั้งหมดในขณะนี้ 36 ลำ โดยมีผู้จองที่ไม่ใช่บริษัทสายการบินถึง9ใบจอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป็นใบจองของบุคคลนิรนามนั่นเอง ซึ่งผู้สั่งจองต้องรอไปอีก 12 เดือน จึงจะได้รับมอบเครื่องบินที่ตนจองไว้
การตกแต่งภายในคือหัวใจของใบจองของบุคคลนิรนาม ที่ต้องการให้เครื่องบินของตนมีความสะดวกสบายมากที่สุด โดยเฉพาะ เมื่อต้องโดยสารเป็นเวลานานระดับข้ามคืน โดยต้องการห้องนอนที่เป็นห้องนอนจริงๆ ไม่ใช่เพียงเตียงนอนขนาดเล็กพอดีตัว ทั้งสำหรับเจ้าของเครื่องบินเองและผู้ติดตาม ที่ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างดีเยี่ยม ยิ่งกว่าโดยสารด้วยชั้นหนึ่งของสายการบินทั่วๆไป
นอกจากนั้นแล้ว ยังต้องมีเลาจ์น สำหรับนั่งเอกเขนกชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือนั่งทำงานด้วยเครื่องแล็บทอป หรือ ไอแพด ทั้งยังสามารถนั่งจิบแชมเปญหรือรับประทานอาหารว่างได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีความรู้สึกที่อึดอัด หรืออุดอู้อย่างในชั้นธุรกิจของสายการบินทั่วๆ ไป
และที่สำคัญคือ ควรมีห้องประชุมขนาดเล็ก ที่ทั้งสามารถใช้เป็นห้องรับประทานอาหาร มื้อสำคัญ และสามารถแปลงให้เป็นห้องประชุมขนาดย่อม ที่พร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกชนิด
จากการเปิดเผยของบริษัทโบอิ้ง บอกได้แต่เพียงว่า มีผู้สั่งจองเครื่องบินลำดังกล่าวมีสัญชาติอเมริกันถึง 5 ราย และที่เหลืออีก 4 รายนั้น ไม่อาจบอกสัญชาติได้เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า แสดงให้เห็นว่า ลูกค้าระดับอภิมหาเศรษฐีในโลกนี้อย่างน้อย 9 คน ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวที่รุนแรงที่สุด
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
