เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันดิ่งลงต่อเนื่องวานนี้(24) หลังสต๊อกที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯและข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยุโรปก่อความกังวลทางอุปสงค์รอบใหม่ ปัจจัยนี้ประกอบกับผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทยักษ์ ฉุดให้วอลล์สตรีท ปิดลบ ขณะที่ข้อวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจเยอรมนีทำดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นผลให้ทองคำ ขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 85.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 107.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ตุลาคม เพิ่มขึ้นถึง 5.9 ล้านบาร์เรล หรือกว่า 3 เท่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันยังถูกฉุดจากข้อมูลเศรษฐกิจของอีกฟากฝั่งแอตแลนติก หลังผลสำรวจของมาร์กิต พบว่ากิจกรรมการดำเนินธุรกิจภาคเอกชนของยูโรโซนประจำเดือนตุลาคม ทรุดลงอย่างรุนแรง แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009
ปัจจัยข้างต้นรวมกับผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทต่างๆของสหรัฐฯ ฉุดให้ตลาดหุ้นอเมริกาวานนี้(24) ปิดในแดนลบ แม้เฟดจะยืนยันจะคงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนกว่าเห็นว่ามีการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน
แม้ว่าบริษัทโบอิ้ง มองแนวโน้มผลดำเนินงานของบริษัทดีกว่าเดิม แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก เนื่องจากรายงานผลประกอบการของบริษัทอื่นๆออกมาน่าผิดหวังและท้ายที่สุดก็ฉุดให้วอลล์สตรีทปิดในแดนลบ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 25.11 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,077.42 จุด แนสแดค ลดลง 8.77 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,981.69 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.30 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,408.81 จุด
ในถ้อยแถลงทางนโยบายล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ระบุว่าจะเดินหน้าเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือนต่อไป เพื่อคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำจนกว่าภาพของตลาดแรงงานจะแสดงถึงทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านราคาทองคำวานนี้(24) ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนีดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,702.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์