xs
xsm
sm
md
lg

“แพร-อมตา” เมกอัพไฮโซ เรียนจบเซ็นต์มาร์ติน ได้แต่งหน้าให้รันเวย์ระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>เห็นหน้าตาสวยน่ารัก ราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารญี่ปุ่น “แพร-อมตา จิตตะเสนีย์” นักเรียนอังกฤษวัย 23 ปีคนนี้ ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เพราะเธอกำลังมุ่งมั่นกับการทำตามความฝันในการเป็นศิลปินที่แต่งแต้มสีสันบนใบหน้า ในฐานะ “เมกอัพ อาร์ทิสต์” โดยตอนนี้แพรนับเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงที่สุดในแวดวงบิวตี้ของเมืองไทย

แพร หรือ แพรี่พาย (Pearypie) ชื่อที่แฟนคลับของเธอรู้จักดี แพรเปิดแฟนเพจในโลกออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ที่นั่นเต็มไปด้วยการแนะนำเรื่องความสวยความงาม การแต่งหน้าแบบฮาวทูในสไตล์ต่างๆ ไปจนถึงคำพูดหรือคติที่เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต จากวันนั้นถึงวันนี้ในเวลาไม่ถึง 1 ปี มีคนคอยติดตามแฟนเพจของเธอกว่า 2 หมื่นคน!!!

เธอถูกส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 15 ปี ที่ St. Mary's School Cambridge ก่อนจะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่ University of Arts, London, Central Saint Martins คณะออกแบบการแสดง (Performance Design and Practice) และเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขา Global Management ที่ Regent's Business School

จากเด็กสาวธรรมดาที่ไม่ได้สนใจเรื่องความสวยความงามแต่ พออายุได้ 17 ปี เธอก็ได้ลองจับเครื่องสำอางอย่างอายไลเนอร์ มาสคาร่า และเริ่มหลงใหลในเส้นสายและสีสันที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้านับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

“แพรชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พอมาชอบแต่งหน้า ก็เคยอยากเรียนด้าน Cosmetic Science แต่เราก็ชอบศิลปะมากกว่าอยู่ดี สามารถนั่งฝังตัวเองกับงานศิลปะได้นานๆ และเมื่อก่อนชอบพวกงานกราฟิก จึงเลือกเรียนสาขาออกแบบการแสดง เพราะสาขานี้เราได้ทำตั้งหลายอย่าง ทั้ง Illustration ออกแบบมูฟเมนต์ในการแสดง ดีไซน์เสื้อผ้า และออกแบบเวที มันเป็นงานศิลปะหมดเลย

ถึงจะไม่เกี่ยวกับการแต่งหน้า แต่ด้วยความที่ชอบแต่งหน้าตัวเองเป็นทุนเดิม ชอบดูวิดีโอสอนแต่งหน้าในยูทูป หรือเวลามีแฟชั่นวีค แพรชอบนั่งดูสไตล์การแต่งหน้าของรันเวย์ต่างๆ พอเรียนการแสดง เราก็พยายามเอาการแต่งหน้าเข้าไปพรีเซนต์ในการแสดงด้วย อย่างเช่น ใช้การแต่งหน้าหลายๆแบบในการแสดง หรือแต่งหน้าให้เป็นสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์นิดๆ หน่อยๆ”

แพรเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากสาวๆ ชาวเน็ตจากการแบ่งปันไอเดียและเทคนิคการแต่งหน้าในสไตล์ต่างๆ จากเว็บไซต์ความสวยความงาม และมาต่อยอดด้วยการเปิดแฟนเพจเป็นของตัวเอง ซึ่งเธอมองว่าแฟนเพจของเธอไม่ได้เป็นการแนะนำแบรนด์เครื่องสำอางออกใหม่ เพราะเธอไม่เคยรับสินค้าจากแบรนด์ใดๆ เพื่อมาช่วยโปรโมต แต่แฟนเพจถือเป็นการแชร์ความรู้และเทคนิคการแต่งหน้าที่เธอมีมากกว่า

“จริงๆ แล้วแพรเพิ่งเริ่มการแต่งหน้าได้ไม่นาน อย่างในเฟซบุ๊กแฟนๆ ที่ติดตามอาจจะเห็นว่าแพรเป็นเมกอัพกูรู แต่แพรคิดว่าตัวเองเป็นศิลปินรุ่นใหม่ ที่อยู่ในช่วงฝึกฝนและเก็บพอร์ตโฟลิโอมากกว่านะ แฟนๆ ในเฟซบุ๊กชอบมาปรึกษาอย่าง รองพื้นยี่ห้ออะไรดี? ซึ่งจริงๆ แพรไม่ค่อยรู้หรอก เพราะไม่ได้มีคนส่งเครื่องสำอางมาให้ลองใช้ แพรจะแค่บอกว่าแพรชอบเครื่องสำอางตัวไหนบ้าง ใช้ตัวไหนอยู่ หรือฮาวทูการแต่งหน้าแบบต่างๆ เป็นการแชร์ข้อมูลกันแบบตามใจตัวเองมากกว่าค่ะ ส่วนของที่แพรใช้ก็มีตั้งแต่แบรนด์ไฮเอนด์จนถึงเครื่องสำอางดรักสโตร์ ไม่เน้นของแพงตลอดอยู่แล้ว

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ไม่น่าเชื่อว่ามีคนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแฟนๆ ของเธอเรียกร้องให้จัดกิจกรรมพบปะกันในช่วงที่เธอกลับมาซัมเมอร์ที่เมืองไทย

“เราก็คิดว่าไหนๆ ก็จะเจอกันแล้วแพรเลยจัดเป็น แพรี่พายเวิร์กช็อปครั้งแรกขึ้นมา เป็นเวิร์กช็อปการสอนแต่งหน้า โดยมีโจทย์แต่งหน้าให้คนที่อยากจะมา แพรตื่นเต้นมากว่าจะมีคนมาไหม พอวันจริงก็มีแฟนๆ มา 15 คน และกลายเป็นเพื่อนรักกันจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ และก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา แพรจัดงานอีกรอบ วันนั้นก็มีเพื่อนๆ มา 80 คนค่ะ”

ไอดอลคนสำคัญของสาวแพร ไม่ใช่เมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังคนไหน แต่กลับเป็นคนใกล้ตัวอย่าง “ภัสรา จิตตะเสนีย์” นักธุรกิจหญิงคนเก่ง คุณแม่ของเธอนั่นเอง

“คุณแม่เป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่งที่สุดเท่าที่แพรเคยเจอมาค่ะ คุณแม่ไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีเงินมากมาย แต่ก็ต่อสู้ด้วยตัวเองจนได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ สร้างธุรกิจจนใหญ่โตขึ้นมาได้ ทุกวันนี้คุณแม่ก็ยังทำงานตั้งแต่ 9 โมง บางครั้งเที่ยงคืนแล้วก็ยังอยู่ออฟฟิศ นอกจากเก่งเรื่องงานแล้ว คุณแม่ยังดูแลตัวเอง รักษารูปร่างได้ดีมากและยังทำตัววัยรุ่นอยู่เสมอค่ะ”
แพรกับคุณแม่
เธอมีคุณแม่เป็นแรงบันดาลใจ และในวันนี้ แพรก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของสาวๆ อีกมากมายด้วยเหมือนกัน “ชีวิตแพรเปลี่ยนไปเลยนะ ยุ่งขึ้น ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในจุดที่มีคนชื่นชมนับถือเยอะขนาดนี้ มีน้องบางคนมาบอกแพรว่า “พี่แพรคะ ขอบคุณที่เกิดมา พี่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหนูนะคะ” หรือมาบอกว่า “เมื่อก่อนแต่งหน้าไม่เป็น แต่พอมาเห็นฮาวทูของพี่ ก็ชอบแต่งหน้ามากและอยากเป็นผู้หญิงสวยและมั่นใจมากขึ้น” เราก็ดีใจ ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่จะเป็นแรงบันดาลใจหรือมีอิทธิพลได้มากขนาดนั้น เราเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชอบแต่งหน้า บางทีก็แต่งแนวบ้าๆ บอๆ ด้วยซ้ำ และแพรก็ไม่ได้อยากให้คนแต่งหน้าเป็นอย่างเดียว แต่อยากให้มีทัศนคติที่ดีกับตัวเองด้วย”

ถึงภายนอกเราจะเห็นสาวสวยสไตล์คาวาอี้ แต่เมื่อเราลองได้นั่งพูดคุยกับเธอ ก็พบว่าสาวคนนี้ มีอะไรมากกว่าภาพที่เราเห็นตรงหน้าเยอะทีเดียว

“หลายๆ คนมักจะมองว่าแพรแอ๊บแบ๊ว หรือต้องเป๊ะตลอดเวลา จริงๆ คือไม่ใช่ (หัวเราะ) ถ้าวันไหนไม่อยากแต่งหน้าก็จะไม่แต่งเลย ไม่แต่งหน้าออกนอกบ้านก็สามารถค่ะ ไม่ได้กังวลอะไร บางครั้งขี้เกียจก็ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไปข้างนอกเหมือนกัน เพื่อนจะเห็นบ่อย แต่หลังๆ มา คนรู้จักเรามากขึ้น เพื่อนๆ ก็จะคอยเตือนให้เราแต่งหน้า แต่งตัวดีๆ ออกไปข้างนอก แพรว่าตัวแพรเป็นคนง่ายๆ นะ เป็นตัวของตัวเองอย่างนี้แหละ และเป็นคนตรงๆ แพรอยากเป็นคนที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้

โอเค.เวลาอยู่เมืองไทย แพรอาจจะดูเป็นลูกคุณหนู มีคนรู้จักเยอะ แต่ที่อังกฤษ แพรก็คือคนธรรมดาที่เริ่มจากศูนย์จริงๆ ที่ทำเฟซบุ๊ก แพรก็เริ่มจากศูนย์ แพรไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่มาช่วย เราอยากทำด้วยตัวเอง อยากให้คนอื่นเห็นความสามารถของเราจริงๆ อยู่ที่โน่นไลฟ์สไตล์ก็จะลุยๆ ทำอะไรเองทุกอย่าง เพื่อนๆ ที่โน่นที่เป็นเมกอัพอาร์ทิสต์เหมือนกัน เขาจะไม่ได้รู้แบ็กกราวด์ที่บ้านเราว่าเป็นยังไง เราก็พยายามให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นศิลปินคนหนึ่งที่กำลังฝึกฝนและมุ่งมั่น”

แม้ว่าแพรจะเรียนจบปริญญาโทที่อังกฤษแล้ว แต่เป้าหมายของเธอยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ การกลับไปอังกฤษอีกครั้งหลังจากบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ ก็เพื่อเดินตามความใฝ่ฝันที่เธอกำลังตั้งใจจะไปให้ถึง

“แพรอยากมีโอกาสเข้าไปเป็นผู้ช่วยเมกอัพอาร์ทิสต์ในงานลอนดอนแฟชั่นวีก ซึ่งตอนนี้แพรกำลังพยายามผลักดันตัวเองให้เป็นผู้ช่วยเมกอัพอาร์ทิสต์ดังๆ ของที่โน่นอยู่ค่ะ เราจะได้เข้าไปช่วยล้างพู่กัน ยกของ เพื่อที่จะได้ประสบการณ์ การทำงานที่เราไม่เคยได้เห็น ที่เป็นโลกของแฟชั่นจริงๆ เมกอัพอาร์ทิสต์ดังๆ ก็ต้องเคยทำงานหนักอย่างนี้มาก่อน บางคนก็เริ่มจากเป็นนักเรียนศิลปะ หรือเป็นช่างผมมาก่อน

แพรได้รู้จักกับเมกอัพอาร์ทิสต์ชาวอังกฤษท่านหนึ่งที่ทำเมกอัพให้แฟชั่นโชว์ เวลาเขามีงานอะไรแพรก็พยายามจะเข้าไปช่วยตลอด ทำให้เขาเห็นว่าเรามีความสามารถและพยายามพัฒนาตัวเอง หลังจากที่ได้เจอเขามา 2-3 รอบ เขาก็บอกว่าเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก เขาแนะนำให้มองโลกกว้างๆ เพื่อจะได้เอามาใช้และทำให้การแต่งหน้าของเรามีเอกลักษณ์ ซึ่งในการแต่งหน้านั้น เราสามารถเพิ่มลูกเล่นได้หลายอย่าง ที่จะทำให้ดูโดดเด่นกว่าของคนอื่น”

ส่วนอีกหนึ่งเป้าหมาย ที่เธอบอกว่าเป็นความฝันอีกยาวไกล และต้องสั่งสมประสบการณ์ ความรู้ที่แน่นพอ ในการเปิดโรงเรียนสอนแต่งหน้า และมีแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง

“โรงเรียนสอนแต่งหน้าของแพร จะเน้นวัยรุ่นหน่อย สอนตั้งแต่เบสิกการแต่งหน้า และเป็นโรงเรียนสอนศิลปะไปในตัว ส่วนเครื่องสำอางก็จะเป็นเครื่องสำอางที่ราคาไม่แพง ทุกคนเข้าถึงได้ สีสันเยอะๆ น่ารักเหมาะกับวัยรุ่น”

ทุกวันนี้ เธอมองตัวเองว่าเป็นศิลปิน ที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะเธอบอกว่า การแต่งหน้าก็เหมือนการวาดรูปโดยที่มีใบหน้าของคนเป็นเหมือนผืนผ้าใบที่เธออยากจะแต่งแต้มสีสันให้ออกมาในรูปแบบต่างๆ กันอย่างไม่มีขีดจำกัด :: Text by FLASH

:: อัพเดทเพิ่มเติม

บทสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม ก่อนที่เธอจะเดินทางกลับไปยังประเทศอังกฤษ ซึ่งในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอได้ทำตามความฝันที่ได้เล่าให้เราฟังสำเร็จไปข้อหนึ่งแล้ว นั่นคือ การได้เข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของประเทศอังกฤษ อย่างลอนดอน แฟชั่น วีก โดยแพรได้รับบทผู้ช่วยเมกอัพอาร์ทิสต์ ผู้ช่วยรังสรรค์ความสวยงามให้บรรดานายแบบ นางแบบ ของแฟชั่นโชว์มากถึง 12 โชว์เลยทีเดียว ติดตามผลงานของเธอได้ที่
Facebook :: www.facebook.com/pearypiemakeupartist
Instagram :: @pearypie
Twitter :: @pearypie
website :: www.pearypie.com

 
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition


กำลังโหลดความคิดเห็น