เบื้องหลังผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องเครื่องสำอางและแฟชั่นเท่านั้น อย่างน้อยก็สำหรับ “โบว์ AF5” ซึ่งมีความหลังที่เต็มไปด้วยแผลฟกช้ำ กล้ามแขนกล้ามขา และฉายานักกีฬาขาลุยหลายประเภท ทั้งนักกีฬากระโดดข้ามรั้ว กระโดดไกล และกัปตันทีมบาสเกตบอลระดับรางวัลที่ลูกทีมต่างซูฮกในความอึดและบ้าพลังของเธอ
อดีตนักบาส MVP
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแขนและขาเรียวๆ ของ “โบว์-สาวิตรี สุทธิชานนท์” หรือ “โบว์ AF5” ที่เห็นอยู่ตอนนี้ ในอดีตเคยผ่านศึกมาแล้วอย่างโชกโชนในฐานะนักกีฬาตัวยงตลอดช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่อเมริกา “มีทั้งวิ่งร้อยเมตร เป็นนักกีฬากระโดดข้ามรั้ว นักกีฬากระโดดไกล แล้วก็นักกีฬาบาสฯ ค่ะ อันนี้ชอบมากเป็นอันดับหนึ่งเลย” สาวตาคมเล่าไปยิ้มไป ก่อนเสริมเหตุการณ์เมื่อเช้าให้ฟังเพื่อพิสูจน์ว่าเธอคลั่งบาสเกตบอลอย่างที่พูดจริงๆ
“อย่างวันนี้เป็นวัน NBA Star Games ก่อนมาโบว์ยังเปิดดูอยู่เลยค่ะตอนแต่งตัว แต่ในห้องแต่งตัวโบว์มันไม่มีทีวี ก็เลยต้องวิ่งเข้าวิ่งออกห้องนอนกับห้องแต่งตัว แต่งหน้าไปแป๊บหนึ่ง ได้ยินเสียงทีวีเฮ! ก็รีบวิ่งออกมาดู แล้วก็วิ่งไปแต่งหน้าต่อ (หัวเราะ)”
ที่รักบาสเกตบอลได้ขนาดนี้ เธอเผยความลับเล็กๆ ว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากความเข้มงวดของคุณลุงซึ่งเป็นคนรักสุขภาพแบบสุดๆ “เขาค่อนข้างเคร่งกับหลานๆ มากเรื่องออกกำลังกาย ถ้าวันไหนเป็นวันหยุด ไม่มีเรียน เขาจะบังคับให้ทุกคนออกไปวิ่งแล้วค่อยกลับมากินอาหารเช้า เรื่องบาสฯ ลุงก็เป็นคนบังคับให้เล่นค่ะ ตอนแรกโบว์ก็แค่เล่นตามลุงไป แต่พอได้เล่นก็รู้สึกชอบ ก็เลยเล่นมาเรื่อยๆ จนได้แข่งตอน ม.ปลาย”
เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ สมัยนั้นเธอมีตำแหน่งเป็นถึงกัปตันทีมเลยทีเดียว นอกจากทำหน้าที่เป็นผู้นำทีมคอยปลุกเร้ากำลังใจให้ลูกทีมแล้ว เธอยังเป็นตัวอย่างของนักกีฬาที่อึดที่สุดอย่างหาคนเทียบได้ยาก เพราะถึงจะตัวเล็กและคู่ต่อสู้ไซส์ใหญ่กว่าขนาดไหน แต่ขาลุยอย่างโบว์ ไม่มีถอยอยู่แล้ว
“ลีคที่โบว์เล่นมีแต่นักกีฬาเก่งๆ ตัวใหญ่ๆ อยู่เยอะมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งได้เล่นกับทีมมัธยมฯ ผู้หญิงที่เก่งที่สุดในอเมริกาด้วย ความสามารถของเขาเทียบเท่ากับ WNBA (NBA สำหรับผู้หญิง) เลย แล้วแต่ละนางสูงมาก เล่นกับเขาต้องมองอย่างเนี้ย (แหงนหน้าจนสุดสายตาให้ดูเป็นตัวอย่าง) กระแทกทีนี่จุกไปถึงชาติหน้า แล้วตัวก็ช้ำทั้งตัวเลยค่ะ ช้ำจนโค้ชคิดว่าโบว์เป็นโรคช้ำง่าย มาบอกให้เรากินกล้วยเยอะๆ จะได้มีโพแทสเซียม (หัวเราะ)” เธอยังคงเดินหน้าเล่าต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ถึงโบว์จะตัวเล็ก แต่ก็เข้าไปแย่งลูกตลอด ลูกจะออกนอกสนามก็กระโจนไปเอาจนเข่ากระแทกเขียวไปหมด ตอนซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมก็เคยโดนเพื่อนคนหนึ่งชนจนเรากระเด็นไปไกลมาก ชนเสียงดังแอ้กดังมากเหมือนในหนังเลย (ยิ้ม) แล้วทั้งสนามเงียบหมดเพราะทุกคนตกใจ กลัวเราจะเป็นอะไร ก็จุกไปพักใหญ่ๆ เลยค่ะ (หัวเราะ) แต่ไม่เคยคิดว่าความตัวเล็กเป็นอุปสรรคอะไรนะ เพราะถึงเราตัวเล็ก เราก็ใช้ความคล่องแคล่วความเร็วของเราสู้กับคู่แข่งได้ค่ะ” ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าเหตุใดเธอจึงได้รับตำแหน่ง MVP (Most Valuable Player) ประจำรายการมาไว้ในครอบครอง ก็เพราะเธอเป็นผู้เล่นที่เก่งและทุ่มเทอย่างนี้นี่เอง
ถามว่าเสน่ห์ของบาสเกตบอลอยู่ตรงไหน เหตุใดจึงทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งหลงใหลได้ขนาดนี้ เธอยิ้มอย่างสบายๆ แล้วตอบอย่างฉะฉานว่า “มันสนุกดีนะ โบว์ว่าเสน่ห์ของมันอยู่ที่ความไม่แน่นอนของเกม นาทีหนึ่งคุณอาจจะนำอยู่ แต่แว้บเดียวก็แพ้ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ต้องมีสติอยู่กับเกมตลอด รู้สึกว่ามันท้าทายดีค่ะ”
ผู้หญิงมีกล้ามออกจะเซ็กซี่
“ที่เล่นจริงจังอีกอย่างคือวิ่งกระโดดไกลค่ะ” เมื่อเห็นว่าคู่สนทนาแสดงปฏิกิริยาอยากฟัง เธอจึงเริ่มขยายความ “เคยได้ไปแข่งระดับไฮสกูลด้วยค่ะ แข่งกับตัวแทนโรงเรียนของแต่ละเมืองในแอลเอ แต่เข้าไม่ถึงรอบชิงแชมป์นะ แต่ก็ดีใจมากค่ะที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่ง เพราะเทียบกับนักกีฬาด้วยกัน เราตัวเล็กที่สุดแล้ว คนอื่นจะชอบเข้ามาถามตลอดว่าทำไมเราถึงชอบเล่นอะไรแบบนี้ ปกติจะมีแต่คนขายาวๆ มาแข่งวิ่งแข่งกระโดด เพราะถ้าขาสั้นจะยากกว่า ยิ่งตอนกระโดดข้ามรั้วยิ่งยากค่ะ เคยกระโดดแล้วชนรั้วจังๆ ด้วย เข่าเขียวปั้ดเลย” เธอเท้าความให้ฟังด้วยท่าทีสนุกสนาน
ถ้าเป็นหญิงสาวรักสวยรักงามคนอื่นๆ คงไม่เลือกเล่นกีฬาประเภทที่เธอเล่นเป็นแน่ พลาดนิดพลาดหน่อยก็มีแต่ได้แผลและเจ็บตัว หนำซ้ำยังอาจเพิ่มกล้ามให้ล่ำจนเกินตัวอีกต่างหาก โบว์ได้แต่ยิ้มรับขำๆ แล้วบอกว่าเธอไม่เคยห่วงเรื่องเหล่านี้เลย “ไม่เคยกลัวว่าจะกล้ามขึ้นเลยค่ะ จริงๆ แล้วชอบด้วย (ยิ้มกว้าง) อยากมีกล้ามค่ะ คิดว่าผู้หญิงมีกล้ามเล็กๆ หุ่นแน่นๆ ดูดีออกค่ะ เซ็กซี่ดี ดูอย่างมาดอนน่าอย่างนี้ กำลังดีเลย”
เทียบกับภาพในอดีตสมัยเป็นนักกีฬาบาสฯ แล้ว จะเห็นความต่างของกล้ามแขนและขาอย่างชัดเจน “ตอนเล่นบาสกล้ามเยอะกว่าตอนนี้มากค่ะ วิดพื้นได้เยอะจนผู้ชายอายเลยล่ะ ทำเป็นเซตๆ เซตละ 40 ได้สบายๆ เพราะโค้ชของเราโหดมาก ผู้ชายเดินผ่านเห็นเราฝึกกันยังทักเลยค่ะว่าเราเป็นชะนีถึก (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่สน ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากเล่นเก่งๆ ไม่ได้สนว่าหุ่นจะแมนไหม จะล่ำไปหรือเปล่า”
สำหรับผู้หญิงไทยที่อยากหุ่นดีแต่ไม่เคยคิดเล่นกีฬาเพราะกลัวดำบ้างล่ะ กลัวล่ำบ้างล่ะ โบว์บอกว่าเธอเข้าใจดี แต่ก็แอบหวังให้หลายๆ คนเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ “ส่วนตัวโบว์มองว่ามันคือกีฬาค่ะ ถ้าดำเดี๋ยวสักพักก็ขาว ถ้าเป็นแผลเดี๋ยวก็หาย ถ้าเล่นกีฬาแล้วกลัวถูกผู้ชายมองว่าถึก ให้มองอย่างนี้ดีกว่าค่ะ โบว์ว่าการเล่นกีฬาออกจะดีนะ เราชอบกีฬามันก็ทำให้เราก็มีเรื่องคุยกับเพื่อนผู้ชายได้มากขึ้น เข้ากันได้ดีขึ้น (หัวเราะ) อย่างเรื่องบาสฯ ถ้ามาคุยกับโบว์นี่ คุยไม่จบเลยค่ะ ชอบมาก”
“จริงๆ แล้วอยากจะบอกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สนใจเรื่องกีฬาได้ค่ะ ในเมื่อเล่นแล้วดีต่อสุขภาพ พอสุขภาพดีหุ่นเรา ผิวพรรณของเราก็ดีตามไปด้วย หน้าตาก็ดูสดใส ออกกำลังกายแล้วร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน เป็นสารแห่งความสุขออกมา พอมีความสุขก็จะเป็นคนบุคลิกดี ดึงดูดให้คนอื่นอยากเข้ามาหา แล้วถ้ากลัวว่าเล่นกีฬาแล้วจะล่ำ กลัวจะเสียโฉม เราก็หากีฬาที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ต้องไปเล่นอะไรที่โหดร้ายมากก็ได้ เอาแค่สนุกๆ ให้ได้เหงื่อก็พอแล้ว แต่โบว์ก็เล่นบาสฯ มาตั้งนาน ก็ไม่ได้เสียโฉมอะไรนะ” เธอปิดท้ายด้วยมุกเล็กๆ และรอยยิ้มขี้เล่น
อยู่บ้านก็เฟิร์มได้
ใครที่อยู่กับบ้านแล้วเป็นต้องเลื้อยหรือหาของกินตลอด ขอให้ปรับความเข้าใจเสียใหม่ถ้าอยากมีสุขภาพดีและหุ่นเฟิร์มๆ บ้าง เพราะกิจกรรมภายในบ้านมีเรื่องน่าสนุกให้ทำมากกว่านั้นเยอะ จะเริ่มจากวิธีง่ายๆ ตามแบบโบว์ก็ได้ เธอไม่สงวนลิขสิทธิ์
“เมื่อก่อนเคยสมัครสมาชิกเล่นฟิตเนสเอาไว้ด้วยค่ะ แต่เราเป็นคนติดบ้านเลยไม่ค่อยได้ไป แล้วช่วงหลังๆ ก็ไม่ค่อยว่างด้วย โบว์เลยเปลี่ยนเป็นหาวิธีออกกำลังกายเองที่บ้านแทน คิดว่าน่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์เรามากกว่า แต่ก็ไม่ได้ถึงกับจัดตารางการออกกำลังกายนะ จะดูเอาว่าวันนี้เหนื่อยไหม ถ้าวันไหนว่างและไม่เหนื่อยเกินไปก็อาจจะปั่นจักรยาน ดูทีวีไปด้วยปั่นไปด้วย เพลินดีค่ะ แต่ถ้าวันไหนตื่นเช้าๆ แล้วอากาศดีๆ โบว์จะลุกขึ้นมาแอโรบิกค่ะ ที่บ้านจะมีห้องหนึ่งทำเป็นกระจกรอบด้าน มองเห็นวิวข้างนอกสวยๆ เต้นแอโรบิกไปดูวิวไปด้วย สดชื่นสุดๆ เลยค่ะ”
“พิลาตีส (Pilates)” คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะแก่การเรียกเหงื่อ ทั้งยังง่ายต่อผู้หัดเล่นใหม่ๆ อุปกรณ์ไม่ต้องมีอะไรมาก แค่มีผ้ารองนอนและความกระตือรือร้นในการออกกำลังกาย แค่นี้ก็สามารถทำได้แล้ว
“มันจะคล้ายๆ โยคะค่ะ แต่จะต่างจากโยคะตรงที่โยคะจะเน้นการหายใจ แต่พิลาตีสจะเน้นการยืดหยุ่นมากกว่า ยืดเส้นยืดสายเองที่บ้านได้ง่ายมากๆ เมื่อก่อนตอนเรียนอยู่อเมริกา โบว์รู้จักเพราะได้ยินเพื่อนๆ พูดกันว่าทำแล้วดี ทำแล้วเฟิร์ม เราก็เลยลองบ้าง พอเล่นแล้วดีก็เลยเล่นมาตลอด ซื้อดีวีดีมาหัดเล่นเอง ที่นั่นมีให้เลือกเยอะมากค่ะ เพราะเขาฮิตพิลาตีสกันมากพอๆ กับโยคะเลย พอกลับมาเมืองไทยหาซื้อดีวีดีไม่ได้แล้ว เลยต้องซื้อผ่านไอจูนแทน แล้วก็โหลดใส่ไว้ในไอแพด เวลาไปไหนมาไหน รอถ่ายละครเกิดอยากทำก็จะได้ดูได้ พออยู่บ้านก็ต่อเข้าทีวีแล้วก็ทำตามค่ะ ลองเสิร์ชจากคำว่า Exercise TV ดูก็ได้ค่ะ มีหลายอันเลย”
สำหรับคนที่สนใจอยากลองหัดพิลาตีส โบว์แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเทกคอร์สเรียนที่ไหนก็สามารถหัดทำได้ เพราะเธอก็ฝึกด้วยตัวเองเช่นกัน แค่หาคลิปที่สอนสนุกมาดูก็น่าจะได้ผลแล้ว “ที่ชอบมากคือวิดีโอสอนออกกำลังกายของฝรั่งค่ะ รู้สึกว่าทำตามแล้วเพลินดี ไม่เบื่อเลย เพราะเขาจะบิวต์เราว่า “Come on” (ทำน้ำเสียงกระตือรือร้น) กระตุ้นเราตลอด ก็เลยชอบค่ะ แต่โบว์ยังไม่เคยดูวิดีโอสอนของคนไทยนะ เลยไม่รู้ว่าเป็นยังไง” โบว์บอกว่าอาทิตย์หนึ่งทำสัก 2-3 ครั้งสลับกับออกกำลังกายอย่างอื่นด้วย หุ่นน่าจะฟิตแอนด์เฟิร์มได้เร็วขึ้น
เจ้าแม่ความสวย
เห็นลุยได้ทุกสถานการณ์ ไม่กลัวแดด ไม่สนแผลฟกช้ำ แต่บทจะดูแลตัวเองขึ้นมา โบว์ก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่กำลังเห่อเซานาที่เพิ่งซื้อมาไว้ที่บ้าน อยากรู้ว่าเห่อขนาดไหน ต้องลองถามดู
“ช่วงนี้ทำเซานาแทบทุกวันเลยค่ะ กำลังเห่อ (หัวเราะเบาๆ) เครื่องที่ซื้อมาเป็นเซานาระบบอินฟราเรด ใช้ไฟฟ้าควบคุม ปรับได้ว่าจะใช้ความร้อนเท่าไหร่ ไม่เหมือนระบบเก่าที่ทำนานๆ แล้วผิวอาจจะแห้งเกินไป แถมระบบนี้ไม่ต้องใช้น้ำให้ตัวเปียกมากๆ ด้วย ลองหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแล้วเห็นว่าการทำเซานามันดีค่ะ ช่วยดีทอกซ์ของเสียออกจากร่างกาย ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง โดยเฉพาะช่วงทำเสร็จใหม่ๆ จะรู้สึกตัวเบามาก พอทำเสร็จก็สครับผิวต่อ มีความสุขมากค่ะ (น้ำเสียงบ่งบอกความรู้สึก) ช่วยให้เราผ่อนคลายได้มากเลย ทำแล้วเลือดลมก็ไหลเวียนดีขึ้นด้วย ส่วนใหญ่โบว์จะทำวันเว้นวันค่ะ วันละประมาณ 20 นาที ยกเว้นวันไหนเหนื่อยๆ ก็จะเว้นไป”
แต่ถึงจะเหนื่อยจากงานขนาดไหน สิ่งที่ต้องทำทุกวันขาดไม่ได้เลยคือขั้นตอนการล้างหน้าและทาครีม โบว์ประกาศหนักแน่นว่าจะไม่มีวันแตะเตียงเด็ดขาด ถ้าไม่ได้อาบน้ำและล้างหน้าก่อน ซึ่งขั้นตอนการล้างหน้าของเธอก็ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยขั้นตอนการถนอมผิวหน้าแบบจัดเต็ม เพราะเธอบอกว่า “โบว์เคยผ่านช่วงเป็นสิวหนักๆ มาแล้วค่ะ พอตอนนี้สิวเลิกเห่อ เรารู้วิธีรักษาหน้าแล้ว ก็เลยพยายามจะดูแลให้ดีที่สุด” ว่าแล้วจึงขอให้เธอสาธยายโปรแกรมความงามให้ฟังอย่างละเอียดเสียเลย
“เริ่มจากเช็ดเครื่องสำอางออกก่อน เช็ดตาด้วยออยล์ เสร็จแล้วก็พอกหน้าละลายสิวสัก 5 นาที แล้วก็ล้างออก ล้างหน้าด้วยโฟม ที่สำคัญตอนเช็ดหน้าอย่าถูแรงนะคะ เดี๋ยวหน้าจะเหี่ยว (ยิ้ม) ต้องค่อยๆ ซับ เวลาล้างสิ่งสกปรกออกจากหน้าก็ใช้น้ำอุ่น พอน้ำสุดท้ายค่อยล้างน้ำเย็น รูขุมขนจะได้ปิด หน้าจะได้ตึง อยู่กับเราไปได้นานๆ จากนั้นใช้โทนเนอร์ ถ้าเป็นสิวก็ทายาซะ แล้วก็พอกเนื้อครีมรอบดวงตาไว้ 10 นาที ระหว่างรอเวลา เราก็ทาโลชั่นที่ผิวไป เหลือเวลาก็ใช้ครีมนวดหน้า ดีทอกซ์ผิวไปด้วย พอเสร็จก็ลงเซรัมที่หน้าอีกสองชั้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ตามด้วยไนท์ครีมก็เสร็จแล้วค่ะ... อันนี้เฉพาะตอนกลางคืนนะ (หัวเราะ)”
ถ้าเป็นช่วงกลางวัน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือครีมกันแดด “จากแต่ก่อนตอนเด็กๆ ไม่เคยทากันแดดเลยทั้งตัวทั้งหน้า แต่เดี๋ยวนี้ต้องดูแลทุกอย่างค่ะ เพราะอายุเราก็มากขึ้นทุกวัน เซลล์ผิวไม่ดีเท่าตอนเด็กๆ ผลัดผิวไม่ค่อยได้แล้ว แล้วถ้าว่างๆ โบว์จะชอบอ่านรีวิวเครื่องสำอางด้วยค่ะ ชอบเข้าไปอ่านที่ makeupreview.com มีหลายคนเข้าไปช่วยกันเขียนรีวิว อ่านแล้วได้ความรู้เยอะมาก เราก็ลองหาตัวที่เขารีวิวมาใช้ดู ตัวไหนไม่ดีก็เลิกใช้ ตัวไหนดีก็ใช้ต่อ แล้วจะบอกคนอื่นต่อด้วยก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มปิดท้าย
---ล้อมกรอบ---
ลด 3 กิโลในเดือนเดียว
อยากลดน้ำหนัก แต่ลองมากี่สูตรก็ไม่ช่วย จะลองทำตามวิธีของโบว์ดูก็ได้ เพราะเธอทำสำเร็จมาแล้ว ลดได้ 3 กก. ภายในเดือนเดียว
“ตอนนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ ค่ะ ไปสมัคร AF แล้วเขาบอกว่าถ้าเข้ารอบต่อไปได้ ให้ลดน้ำหนักหน่อยนะ พอได้เข้ารอบเราก็เลยต้องลด ลดจาก 45 กก. เป็น 42 กก. ภายในเดือนเดียว ตอนนั้นออกกำลังกายทุกวัน เข้ายิมฯ ทุกวัน แต่ไม่อดอาหารเลย กินครบ 3 มื้อ แต่กินที่บ้านทุกมื้อ เวิร์กจริงๆ ค่ะโบว์ว่า อันนี้เป็นเคล็ดลับเลย เอาไปใช้ได้ อาหารทุกมื้อจะไม่ใช่น้ำมันตามท้องตลาด แต่คุณพ่อจะเอาน้ำมันจากเมล็ดทานตะวันมาใช้แทน ข้าวก็กินแต่ข้าวกล้อง แล้วก็ออกกำลังทุกวัน แป๊บเดียวลดจริงๆ ค่ะ”
เรื่องอาหารการกิน เธอบอกว่าไม่ค่อยได้ควบคุมเท่าไหร่ “กินทุกอย่างเลย ช็อกโกแลตก็กิน (ยิ้ม) น้ำอัดลมก็ดื่มบ้าง แต่ไม่ค่อยชอบค่ะ จะดื่มเฉพาะวันที่ร้อนและอยากได้น้ำตาลจริงๆ คงเป็นโชคดีที่ที่บ้านห่วงเรื่องสุขภาพกันมาก จะคอยปรามตลอด ตอนนี้ก็ปลูกผักสวนครัวเอง เป็นผักไร้สารพิษ ทำอาหารทุกมื้อก็ต้องมีผัก มีของว่างเป็นผลไม้ แล้วคุณพ่อจะเป็นคนทำกับข้าวเองตลอด ทำแต่อาหารเมนูไขมันน้อยเพราะคุณพ่อคุณแม่อายุมากแล้ว เราก็เลยได้ผลพลอยได้ไปด้วย”
เมนูสุขภาพที่อยากจะแนะนำ “น่าจะเป็น “ไก่ผัดมะเขือเทศ” ค่ะ คุณพ่อทำอร่อยมาก (เสียงสูง) รสคล้ายๆ ผัดเปรี้ยวหวาน แต่มีมะเขือเทศอย่างเดียวเลย แล้วโบว์ก็กินวิตามินเสริมด้วย มีวิตามินซี บีรวม แล้วก็ Multi วิตามิน ถ้าช่วงไหนรู้สึกเหมือนไม่สบาย จะกินดักไว้เลยค่ะ มันทำให้ภูมิต้านทานเราแข็งแรงขึ้นจริงๆ”
ถ้าใครคิดจะอดอาหาร ขอให้เลิกคิดไปได้เลย โบว์ย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “การอดอาหารเป็นสิ่งที่ผิดนะ ถ้าอยากลดน้ำหนักต้องกินวันละ 5-7 มื้อค่ะ มื้อละน้อยๆ แล้วก็กินอาหารที่มีประโยชน์ เป็นพวกผักหรืออัลมอนด์ ให้ระบบการย่อยของเราทำงานตลอด จะได้ใช้พลังงานไปกับการเผาผลาญ แต่ถ้าเรายิ่งอด ไม่กินอะไรเลย มันจะยิ่งอ้วนค่ะ พอมากินอีกทีระบบเผาผลาญจะยิ่งทำงานได้ไม่ดี และที่ขาดไม่ได้เลยคือการออกกำลังกาย” ว่าแล้วเธอก็โปรแกรมสิ่งที่เคยทำให้ฟัง
“ก่อนไปยิมฯ โบว์จะยืดเส้นก่อนค่ะ จะได้ไม่บาดเจ็บ พอไปถึงก็เริ่มจากวิ่งวอร์มอัปให้ร่างกายอุ่น เสร็จแล้วก็ไปเล่นเครื่องวิ่งที่จะเขียนว่า weight lost programme วิ่งแบบขึ้นเขาลงเขา ทำแบบนี้ทุกวัน วันละชั่วโมง-สองชั่วโมง บางวันก็มียกเวตเพิ่มตามที่เทรนเนอร์บอกด้วย เขาแนะนำยังไง เราก็จำเอาไว้ตามนั้น พอหลังๆ รู้ว่าต้องทำยังไง เราก็จะทำได้โดยไม่ต้องพึ่งเทรนเนอร์แล้ว”
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย... อดิศร ฉาบสูงเนิน