ความได้เปรียบในวงการเครื่องสำอางมากว่า 20 ปี กลายเป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจด้านนี้แม้จะไม่ได้คลุกคลีอยู่ในขั้นตอนการผลิต แต่สำหรับเรื่องการทำตลาดและเข้าใจวัตถุดิบในการนำมาทำเป็นเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานก็ไม่เป็นรองใคร ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ได้รับลิขสิทธิ์ Hello Kitty แต่เพียงผู้เดียวในไทย เปิดไลเซ่นต์เครื่องสำอาง ให้เป็นผู้ผลิตเครื่องสำอาง Hello Kitty รายแรกของไทย
อภิณห์พร เสรีเลิศวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล คอสเมติคส์ จำกัด เล่าว่า เดิมทำงานในแวดวงเครื่องสำอางมาเกือบทั้งชีวิตที่ห้างเซ็นทรัล ดูแลแผนกเครื่องสำอางโดยเฉพาะแบรนด์ที่นำเข้าจากประเทศในแถบยุโรป ทำมาได้ประมาณ 22 ปี ก็ตัดสินใจลาออกหันมาเปิดธุรกิจของตัวเอง หลังจากเจอหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องสำอาง ก็สนใจต้องการเรียนรู้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิต การเลือกบรรจุภัณฑ์ คัดสรรวัตถุดิบตามแหล่งที่ดีมีคุณภาพ ใช้เวลาเรียนรู้อยู่ 2 ปีเพื่อนก็ได้ชักชวนเปิดบริษัทนำเข้าเครื่องสำอาง ซึ่งอภิณห์พร เลือกนำเข้าเครื่องสำอางจากประเทศเกาหลี เพราะในช่วง 8 ปีที่ผ่านมากระแสเกาหลีเริ่มเข้ามามีบทบาทในไทย ดังนั้นเครื่องสำอางจากเกาหลีก็น่าจะทำตลาดได้
“การตัดสินใจนำเข้าเครื่องสำอางจากเกาหลีถือว่าเรามองตลาดได้ถูกต้อง เพราะตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจนี้มายอดขายเติบโตตลอด และในช่วงนั้นทาง Sario ที่ดูแลลิขสิทธิ์ Hello Kitty ก็นำเสนอไลเซ่นต์ ด้านเครื่องสำอางให้ โดยให้เหตุผลว่าเราอยู่ในแวดวงเครื่องสำอางมานาน และเครื่องสำอาง Hello Kitty ก็ยังไม่มีใครผลิตผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภท ซึ่งการติดต่อมาครั้งแรกเรายังไม่สนใจมากนักเพราะเครื่องสำอางนำเข้าจากเกาหลีก็ยังได้รับการตอบรับดี”
สุดท้ายอภิณห์พร ก็ตัดสินใจซื้อไลเซ่นเครื่องสำอาง Hello kitty เพราะเชื่อมั่นในแบรนด์เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมา 37 ปี และแล้วการผลิตเครื่องสำอางก็เริ่มขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน หาแหล่งวัตถุดิบคุณภาพเพื่อนำมาผลิตเป็นแป้งพัพ, บัชออน และลิปกลอส เน้นความอ่อนโยนต่อผิวเด็ก และผู้หญิงทั่วไปทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ ชูจุดเด่นการเป็นเครื่องสำอางเหมาะกับผู้หญิงทุกวัย ที่ต้องการแต่งหน้าแบบบางเบา สวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ
“แนวคิดแรกที่จะทำเครื่องสำอาง Hello Kitty เราคิดถึงเด็กก่อนเลย เพราะผู้ปกครองส่วนใหญ่เมื่อต้องให้เด็กใช้เครื่องสำอางก็มักจะคิดถึง Hello Kitty มาเป็นอันดับแรก ดังนั้นเราจึงเน้นสูตรบางเบา ไม่เน้นการใส่สารเคมีลงไปเยอะ ลดการเกิดอาการแพ้เครื่องสำอาง โดยเราผลิตเครื่องสำอางออกมา 3 ผลิตภัณฑ์ก่อน คือ แป้งพัพ บัชออน และลิปกรอส ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่นทุกผลิตภัณฑ์ รวมถึงจะทดสอบด้วยตัวเอง ซึ่งการที่เราเน้นสูตรบางเบา ก็ยังโดนใจลูกค้าที่เป็นวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้ใหญ่อีกด้วย อย่าง แป้งพัพ ลูกค้าบางรายมักเลือกใช้ในวันหยุด ที่ไม่ต้องการแป้งที่มีรองพื้นหนา ต่อมาก็ออกผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น อายเชโด ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย ครีมกันแดด ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ประมาณ 16 รายการ”
คุณภาพเครื่องสำอาง Hello Kitty เรียกได้ว่าได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องสำอางมานาน ดังนั้นต้องเลือกวัตถุดิบ แหล่งผลิต และบรรจุภัณฑ์ ที่เหมาะสม โดยเครื่องสำอางบางตัวสั่งผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น และนำเข้ามาใส่บรรจุภัณฑ์ในไทย หรือจ้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานผลิตให้ รวมถึงนำเข้าวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตในไทยก็มี
สำหรับช่องทางจำหน่ายมีทั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านแบบ Stand Alone ภายใต้ชื่อ Hello...Neeya โดยมีจำหน่ายที่ห้างเดอะมอลล์ทุกสาขา (ยกเว้นสาขารามคำแหง) โซน Be Trend และห้างเซ็นทรัล แผนก Sario ส่วนร้านของตัวเองมีที่ K-Village (ซอยสุขุมวิท 26) และ The Crystal Park (ถ.เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) รวมถึงร้านเจ๊เล้งดอนเมือง แผนกเครื่องสำอาง นอกจากนี้ยังมีตัวแทนรับไปจำหน่ายต่อทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ในราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 100-500 บาท เท่านั้น
อนาคตอภิณห์พร วางแผนผลิตเครื่องสำอางใหม่เพื่อเปิดตัวในงาน Sario Fair ในเดือนตุลาคมของทุกปี โดยในปีนี้ออกคอลลเคชั่นใหม่ ด้วยคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูน Kitty ที่ถูกออกแบบโดยบริษัทฯ แม่ที่ประเทศญี่ปุ่น เน้นโทนสีดำและชมพูสดใส สื่อถึงความเป็นเครื่องสำอางของวัยรุ่น และวัยทำงาน นอกจากนี้ยังเปิดรับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยเฉพาะต่างจังหวัดสามารถรับสินค้าไปจำหน่ายที่ไม่เพียงแต่ Hello Kitty เท่านั้น แต่ยังมี Cinnamonroll (ซินนามอนโร) และ My Melody (มาย เมโลดี้) ที่ได้รับลิขสิทธิ์อีกด้วย
***สนใจติดต่อ 08-1513-7989, 0-2712-0113-5 หรือที่ www.umakeupcosmetics.com***