คนไทยที่ชอบไปเที่ยวที่อังกฤษนั้น หนึ่งในโปรแกรมที่ต้องบรรจุลงไปด้วยคือ ต้องไปกินเป็ดย่างร้านโฟร์ ซีซั่นส์ ที่ลอนดอน แล้วพอกลับมาเมืองไทย ก็ต้องคุยถึงเรื่องไปกินเป็ดย่างที่ร้านนี้มาแล้ว จึงจะถือว่าโก้เก๋ เรียกว่าคนไทยหลายคนเกิดอาการเห่อเป็ดย่างเมนูนี้อย่างน่าหมั่นไส้
จึงมีคำถามตามมาว่า เป็ดย่างโฟร์ ซีซั่นส์ อร่อยสมคำร่ำลือหรือเปล่า
ตอนนี้ไม่ต้องบินไปพิสูจน์กันถึงลอนดอนแล้ว เพราะร้านโฟร์ ซีซั่นส์ มาเปิดสาขาที่สยามพารากอนแล้ว และถือเป็นสาขาแรกอย่างเป็นทางการ เพราะเจ้าของร้านและคนไทยลงขันกันเปิด โดย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ หนึ่งในเจ้าของร้านยืนยันเรื่องความเป็นออริจินัลเสมือนยก “ครัว” จากลอนดอนมาไว้ที่เมืองไทยทีเดียว เพราะนอกจากเชฟมือดีจากร้านที่ลอนดอน 2 คนมาประจำแล้ว ยังนำเตาย่างเป็ดอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของร้านมาใช้ที่นี่ด้วย
ถ้าใครอยากจะลิ้มลองเป็ดย่างโฟร์ ซีซั่นส์แล้ว ก่อนอื่นต้องขอบอกให้ลบความทรงจำของรสชาติเป็ดย่างบ้านเราออกไปเสียก่อน เพราะสูตรไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ที่เหมือนเป็นเพียงใช้เป็ดเป็นวัตถุดิบเท่านั้น
เบื้องหลังที่ เป็ดย่างโฟร์ ซีซั่นส์โด่งดัง เพราะหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ มาชิมแล้วยกย่องให้เป็นเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดในโลก “The Best Roast Duck in the World” ด้วยการสรรหาสายพันธุ์เป็ดที่จะนำมาย่าง การหมักด้วยเครื่องเทศสูตรลับ ความพิถีพิถันในการย่าง และ “น้ำซอส” ที่ราดบนตัวเป็ด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการค้นคว้าจากเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวจีน จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เป็ดย่างโฟร์ ซีซั่นส์ ที่สยามพารากอนมีให้เลือก 2 แบบคือ เป็ดย่างที่ใช้เป็ดสดสั่งตรงจากลอนดอนของแท้มาย่างในเมืองไทย สนนราคาตัวละ 2,100 บาท (ขายวันละ 15 ตัว) และเป็ดย่างที่ใช้เป็ดสดจากเมืองไทย ราคาตัวละ 1,100 บาท (ขายวันละ 200 ตัว)
สั่งเป็ดย่างโฟร์ ซีซั่นส์ มาลิ้มลองครึ่งตัว (600 บาท) ดูสีผิวของหนังเป็ดที่ย่างไฟออกมาเกรียมและมีความมันทั่วตัว ดูยั่วน้ำลายมาก หนังบางกรอบให้ความหอมของหนังเป็ดย่าง เนื้อเป็ดนั้นชิ้นหนาเนื้อนุ่มมากไม่ถึงกับละลายในปากเหมือนหลายคนบอกหรอก แต่ให้กลิ่นหอมละมุนของเครื่องเทศ ส่วน “น้ำจิ้ม” อันเลื่องชื่อและถือเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านนั้น จะไม่เหมือนใครเลย เพราะเป็นซอสสีดำเหนียวข้นรสชาติหวานเข้มข้น จนเกินขีดความหวานธรรมดาของลิ้นคนไทย แต่ยืนยันมาจากแฟนประจำร้านนี้ว่า ของแท้ต้องหวานอย่างนี้
เมนูเป็ดย่างนั้นสามารถสั่งกินในร้านก็ได้ หรืออยากจะซื้อเป็ดกินอย่างเดียวก็แวะไปด้านหลังร้านจะมีมุมขายเป็ดย่างแบบ take home โดยเฉพาะ
อีกเมนูหนึ่งที่ผู้เขียนชอบคือ “หมูกรอบ” ราคา 250 บาท (ล้วนแต่เป็นเมนูที่เรียกไขมันหน้าท้องดีแท้) หมูกรอบยุคนี้ชิ้นหนาก็จริงแต่มันน้อยเนื้อเยอะ ที่สำคัญหนังบางกรอบเนื้อนุ่มละมุน เวลากินให้จิ้มกับมัสตาร์ดรสชาติเผ็ดนิดๆ
เมนูอื่นๆ ก็นำมาบริการที่เมืองไทยเกือบหมด ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นเมนูอาหารจีนทั่วๆ ไป ส่วนใครที่ไม่เคยไปกินแล้วไม่รู้จะสั่งอะไรดี ขอให้สังเกตว่าเมนูไหนมี “ดาวแดง” แปลว่าเป็นเมนูที่เชฟแนะนำว่าอร่อย ถ้าเชื่อเชฟก็สั่งได้เลย
มะเขือยาวหม้อดินใส่หมูสับ (320 บาท) เป็นเมูธรรมดาแต่กลิ่นหอมของปลาเค็มอร่อยตามสไตล์ปลาเค็มที่คัดพิเศษ มะเขือยาวหั่นเอาแต่เนื้อไม่ติดเม็ดเป็นเส้นใหญ่ๆ นำมาผัด ที่น่ากินเพราะผัดแบบไม่เละเหมือนร้านอาหารบ้านเรา แค่เห็นก็น่ากินแล้ว มีพริกชี้ฟ้าแดงซอยและต้นหอมซอยโรยประดับหน้า
เนื้อตุ๋นหม้อดิน (320 บาท) ขึ้นชื่อว่าเนื้อตุ๋นแล้วคนฮ่องกงจะนำมาทำอาหารได้อร่อยมาก เนื้อตุ๋นหม้อนี้ก็อร่อยไม่แพ้เมด อิน ฮ่องกง เพราะรสชาติหอมเฉพาะตัวของเนื้อที่ตุ๋นกับเครื่องเทศและซอส ตักเข้าปากแล้วจะได้กลิ่นหอมฟุ้งเต็มปาก แถมตุ๋นเนื้อกำลังดียิ่งเคี้ยวยิ่งมัน
ที่ชอบเมนูนี้คือมีหัวไชเท้าใส่ลงไปตุ๋นกับเนื้อจนนุ่มด้วย กินแล้วคิดถึงตอนเด็ก ๆ ช่วงหน้าหนาวนั้น คุณแม่ของผู้เขียนซึ่งเป็นคนจีนแคะจะตุ๋นเนื้อหม้อใหญ่ใส่หัวไชเท้าลงไปด้วย รสชาติอรอ่ยยังจดจำได้ไม่รู้ลืม แม่บอกว่าหน้าหนาวต้องกินเนื้อตุ๋นหรือขาหมูพะโล้จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น
ส่วนมื้อกลางวัน ยังมีอาหารจานด่วนอย่าง ราดข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ (บะหมี่ไข่ใหม่สดทำเองทุกวัน) มีให้ลิ้มลองหลายอย่างในราคาจานละ 200 บาทขึ้นไป ปริมาณของอาหารแต่ละเมนูก็เยอะพอใช้ได้ เรียกว่าสั่งมา4-5 คน สั่งอาหารมากิน 3-4 เมนู กับข้าวสวยคนละจาน ตกแล้วหัวละ 400-500 บาท
ร้านโฟร์ ซีซั่นส์ ตั้งอยู่ G 13 ชั้นล่างของสยามพารากอน เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00-21.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 10.30-21.00 น. โทร. 0-2610-9578-9
Text by : ปราณ ชีวิน
ภาพโดย : วรงค์กรณ์ ดินไทย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net