>> ในฐานะรุ่นที่ 3 ของ บริษัท สินทรัพย์ช่างเหมาไทย จำกัด หนึ่งในบริษัทในเครือชื่อที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง “อิตัล-ไทย”...“วลัยทิพย์ จรณะจิตต์” กำลังจะทำหน้าที่สืบสานเจตนารมย์ของคุณตา (นายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต) ที่อยากจะให้ลูกหลานได้มีธุรกิจที่จะสานต่อกันไปรุ่นต่อรุ่น ส่วนจะเป็นในแง่มุมไหนหรือรูปแบบใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับโอกาสและจังหวะด้วย ขอเพียงเราเปิดกว้างเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไว้ อะไรใหม่ๆ เข้ามาก็สามารถทำได้หากตั้งใจจริง...
จากสาวนักกฎหมายวันนี้เธอกลายมาเป็นนักพัฒนาที่ดินกับโครงการแรกในชีวิตที่เธอได้รับมอบหมายให้ดูแล “โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ” อันเป็นโครงการคอนโดมิเนียม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บนถนนวิทยุ ซึ่งหลังจากจบงานนี้แล้วดูท่าว่าเธอจะหลงเสน่ห์กับการเป็น “ดีเวลลอปเปอร์” ที่เธอบอกกับเราว่าไม่ว่าจะอีก 20-30 ปี มองมาก็ยังเห็นตึกที่เธอมีส่วนเป็นคนก่อร่างสร้างขึ้นมา ยังมีความทรงจำกับมุมเดิมที่เคยถกเถียงกับทีมงาน เพราะส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอเคยอยู่ตรงนั้น แล้วเธอก็เริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้นงานของเธอให้เราฟัง
“โครงการนี้เกิดขึ้นเมื่อสัญญาการเช่าครอบครองที่ดินขนาด 2.4 ไร่ บนถนนวิทยุ ที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตเนเธอแลนด์กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งสำนักงานสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หมดสัญญาลงเมื่อปี 2550 สมาชิกของสมาคมจึงได้หารือกับสำนักงานทรัพย์สินฯ เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำนักงานทรัพย์สินฯ เห็นว่าบริษัทเราน่าจะมีความสามารถในการดูแลให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงให้เราเป็นคนจัดการ ทางคุณอาเปรมชัยกับคุณแม่ก็เลยมอบหมายให้ทิพย์เข้ามาดูแล ซึ่งผ่านมา 3ปีแล้ว โดยเราทำเป็นสองรูปแบบคือเป็นทั้งคอนโดมิเนียมขายขาดและเป็นเซอร์วิส เรสซิเดนซ์
ทิพย์เรียนจบทางด้านกฎหมาย แต่ก็ได้รับประสบการณ์จากโครงการนี้เยอะมาก ทุกช่วงของการทำงานมีอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ แต่เราก็ต้องเชิญผู้รู้แต่ละด้านมาให้คำปรึกษา แล้วก็ต้องบาลานซ์คอมเมนต์แต่ละฝ่าย เหนื่อยบ้างแต่ก็มีคุณแม่กับพี่ชายและทีมงานช่วยสนับสนุนตลอด ทิพย์อาศัยขอคำปรึกษาจากทุกคน เพราะคิดว่าคนคนเดียวคงไม่รู้ไปหมดทุกอย่าง และอาจจะเพราะความที่เราเป็นผู้หญิง และมีความอ่อนน้อมถ่อมตน กล้าที่จะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น จึงทำให้เราได้รับคำแนะนำดีๆ จากหลายๆ ด้าน”
สืบเนื่องจากความผูกพันที่มีมากว่า 4 ทศวรรษต่อแบรนด์ “โอเรียนเต็ล” ซึ่งเป็นธุรกิจโรงแรมแห่งแรกของครอบครัวกรรณสูตและครอบครัวจรณะจิตต์ ผู้ซึ่งดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทอิตัล-ไทย ชื่อของ “โอเรียนเต็ล” จึงถูกนำมาใช้เป็นชื่อโครงการเรสซิเดนซ์แห่งใหม่บนถนนวิทยุ ภายใต้ชื่อ “โครงการโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ” เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับเวิลด์คลาส เพื่อสืบสานคุณค่าอันเป็นเกียรติประวัติไว้ ทั้งนี้ ยังนำโลโก้ดั้งเดิมของ “โรงแรมโอเรียนเต็ล” มาใช้ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงหลักในการบริหารงาน และงานบริการระดับเวิลด์คลาส มาพัฒนาโครงการอีกด้วย
“ครอบครัวเราได้หล่อหลอมให้โอเรียนเต็ลเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โอเรียนเต็ลเพิ่งมีการเปลี่ยนชื่อเป็นแมนดาริน โอเรียนเต็ล ทางครอบครัวก็เสียดาย ไม่อยากให้ชื่อโอเรียนเต็ลสลายไป เพราะชื่อของโอเรียนเต็ลมีมาตั้งแต่สมัยคุณตา (นายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต) จึงยกมาไว้ที่นี่
โครงการนี้จัดว่าเป็นคอนโดหรูระดับเวิลด์คลาสที่ต่อยอดมาจากแบรนด์โอเรียนเต็ล เราพยายามสร้างความโดดเด่นด้วยผลงานการออกแบบที่ผสานความทันสมัยและรสนิยมที่เป็นเลิศเข้าไว้ด้วยกัน เติมความประณีตแบบเอ็กคลูซีฟด้วยการตกแต่งพร้อมอยู่ด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู คิดว่าโครงการนี้เป็นที่พักอาศัยระดับเวิลด์คลาสเพียงแห่งเดียวบนถนนวิทยุ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและรสนิยมของคนเมืองที่มีระดับได้อย่างแท้จริง
สำหรับโปรเจ็กต์นี้ทั้งหมด 46 ห้อง เริ่มขายไปแล้ว ตอนนี้เหลือ 19 ห้อง ราคาเริ่มต้น ตรม.ละ 130,000-160,000 หรือเริ่มต้นต่อยูนิตอยู่ที่ 12 ล้านบาท แพงที่สุดคือ 53 ล้านบาท ด้วยความที่โลเกชั่นตรงนี้มีเอกลักษณ์หลายๆ อย่าง คิดว่าน่าจะมีคนที่ต้องการอยากจะมีที่พักอาศัยของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเสริมเรื่องการบริการเข้าไป เช่น ลูกค้าบางคนไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ ตลอด แต่มีคนดูแลทำความสะอาดให้ ซึ่งเป็นการบริการที่ลูกค้าคิดว่าพร้อมจ่ายเพื่อความสะสวดสบายตรงนี้ พอทราบอย่างนั้นจึงพยายามตอบโจทย์ลูกค้าให้สมบูรณ์แบบที่สุด”
ซึ่งการพยายามตอบโจทย์ลูกค้านั่นเองทำให้เราพบข้อมูลที่น่าสนใจว่าปัจจุบันนี้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทยได้เปลี่ยนไปแล้ว!!
“ลูกค้าที่ซื้อคอนโดที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนไทย แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ไลฟ์สไตล์คนไทยเปลี่ยนไป นิยมมาใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมากขึ้น หากมองสองแง่คือเป็นเรื่องของการลงทุนและเพื่อการอยู่อาศัย หากเป็นการลงทุนก็อาจจะซื้อไว้เกร็งกำไรหรือว่าให้เช่า แต่สำหรับคนที่ทำงานในเมืองที่เอนจอยกับไลฟ์สไตล์แบบนี้เขาก็จะเลือกโลเกชั่นที่ตัวเองชอบและใช้ชีวิตอยู่อย่างสะดวกสบาย
อย่างทิพย์เองก่อนที่จะแต่งงานเคยอยู่บ้าน แต่พอแต่งงานแล้วก็ย้ายมาคอนโด ซึ่งทั้งสองแบบก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน คอนโดสะดวกจริง แต่ว่าชีวิตบางอย่างก็ขาดหายไป ทิพย์เป็นคนชอบเลี้ยงหมา ชอบต้นไม้ แต่พออยู่คอนโดก็ถูกจำกัดบ้าง แต่ก็ยังติดใจความสะดวกสบายอยู่ดี”
เมื่อโลกเปลี่ยน คนเปลี่ยน ธุรกิจเองก็ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องพยายามหาความแตกต่างและอะไรที่มากกว่าเช่นเดียวกับที่อิตัล-ไทยกำลังทำอยู่
Special Thanks :: ห้องตัวอย่างโครงการ โอเรียนเต็ล เรสซิเดนส์ กรุงเทพฯ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายภาพ
About Her :: วลัยทิพย์ จรณะจิตต์
วลัยทิพย์ ทายาทเจนเนอเรชั่นที่ 3 ของครอบครัวโอเรียนเต็ล เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คนของ “อดิศร” กับ “นิจพร จรณะจิตต์” หัวเรือใหญ่แห่งอิตาเลียน-ไทย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านกฎหมายธุรกิจ เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านกฎหมาย ที่ Northwestern School of Law ในมลรัฐชิคาโก สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังได้รับประกาศนียบัตร ด้านบริหารธุรกิจ จาก Kellogg School of Management ในมลรัฐชิคาโกอีกด้วย จากนั้นได้กลับมาเมืองไทยและสอบได้เนติบัณฑิต ติดกลุ่ม 30 อันดับแรก จากเนติบัณฑิตสภาไทย ในปี พ.ศ. 2546
ในระยะแรกของการทำงานเธอเคยใช้ประสบการณ์ด้านกฎหมายทำงานที่บริษัท White & Case LLP - Bangkok ในตำแหน่ง Associate ประจำแผนกตลาดทุน รับผิดชอบงานด้านกฎหมายนิติบุคคล ตลาดทุนและหลักทรัพย์ มีหน้าที่ในการทำ Due diligence สำหรับบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การออกหุ้นกู้ การควบรวมกิจการ (M&A) และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จากนั้นก็เข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการแบรนด์น้ำผลไม้ ‘AC Fresh’ ในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด โดยปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินทรัพย์ช่างเหมาไทย จำกัด
:: นอกกรอบนักบริหาร
ในยามว่างเธอจะให้เวลาในการทำ Scrapbook (หนังสือทำมือ) เพื่อบันทึกเรื่องราวต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษคือทะเล เพราะเธอชอบการดำน้ำชมความงดงามใต้ท้องทะเล นอกจากนี้ ยังรักการทำอาหาร และใส่ใจสุขภาพ และดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายอยู่อย่างสม่ำเสมอ
ส่วนเป้าหมายในอนาคตของเธอที่บอกกับเรานั้น เธอบอกว่าเธอมักเป็นคนที่มองอะไรทีละขั้น เพราะโอกาสชีวิตของคนเรา ต้องค่อยๆดู แล้วแต่อะไร จะเข้ามา แต่ขณะเดียวกันก็พยายามทำแต่ละก้าวให้ดี และรับให้ได้กับทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิต และล่าสุดเธอกำลังเตรียมตัวเป็นคุณแม่แล้ว :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net