By Lady Manager
"หนี้สิน" อาจกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายๆ คน ตั้งแต่ผู้คนหาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน ยันเจ้าของกิจการใหญ่ ทุกคนล้วนมีโอกาสเกิดหนี้ได้ทั้งนั้น แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?
เอางี้! มาดูกันดีกว่า ว่าเมื่อปัญหาหนักใจใหญ่หลวงเช่นนี้มาเยือน สาวเราควรต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อให้คุณมีหนทางปลดหนี้ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว กับ 8 เทคนิคดีๆ ที่เรามีมาฝาก
ขั้นตอน 1 ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท
สิ่งแรกที่คุณควรทำเลยค่ะ “ตั้งสติ” อย่าให้จิตใจกระเจิดกระเจิง เพราะอย่างไรเสีย ปัญหามีไว้แก้ไข ทำใจให้นิ่งเข้าไว้ เพราะแค่เป็นหนี้ จิตใจของคุณก็ตึงเครียดและวิตกกังวลมากพอแล้ว ดังนั้นการกลับมาตั้งสติจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณสมองปลอดโปร่ง เริ่มสตาร์ทคิดหาแนวทางปลดหนี้ได้
เพราะหากคุณยังไม่นิ่ง จิตใจว้าวุ่น นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ความรู้สึกยังพลอยเหี่ยวเฉา ดีไม่ดี ระวังจะถึงขั้นจิตตก ซึมเศร้า ด้วยนะเอ้า!
ขั้นตอน 2 จดบันทึกรายการหนี้สินทั้งหมด
เพราะบางคนไม่ได้มีหนี้สินแค่เจ้าเดียว บรรดารายชื่อเจ้าหนี้บัตรเครดิตเยอะจนนับนิ้วมือยังแทบไม่ไหว ฉะนั้นหลังตั้งสติแล้วก็ต้องมานั่งจดบันทึกรายชื่อเจ้าหนี้สักนิด เพื่อให้ได้รู้ชัดว่าคุณมีหนี้สินอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ เจ้าหนี้คือธนาคารไหน หรือใครบ้าง และถ้าจะให้ดี ควรเขียนอยู่ในกระดาษแผ่นเดียวกัน หรือหน้าเดียวกันซะเลย จะได้เปิดทีเดียวรู้ได้หมด ไม่หลงลืมชัวร์
ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้ตั้งต้น เตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการคิดวิเคราะห์ ว่าจะจัดสรรระบบการชำระหนี้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ไม่หลงลืมจ่ายเงินต้น จนดอกเบี้ยเพิ่มพูน หนี้สินรุงรังไปมากกว่าเดิมไงล่ะ
ขั้นตอน 3 จดรายรับ-รายจ่ายของแต่ละเดือน
ถือเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะบางคนมัวแต่นั่งกลุ้ม ว่าเงินไม่พอใช้หนี้ หนี้ท่วมหัวท่วมตัว ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้เจ้าหนี้ แต่ครั้นพอจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้ว ก็ต้องตกใจ เพราะรายจ่ายแต่ละเดือน แม่คุณเสียเงินจ่ายค่าสปาให้น้องหมา, ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมมานับสิบตัว โอ้ย! แล้วอย่างนี้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ล่ะคะ?
ฉะนั้นการจดบัญชีรายรับ-รายจ่าย จึงถือเป็นการเริ่มต้นสุดเลิศให้คุณได้รู้ตัว ว่าแต่ละเดือนคุณเสียเงินค่าใช้จ่ายใดไปบ้าง
ขั้นตอน 4 ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นมากนัก
ขั้นตอนนี้เป็นข้อที่ต่อเนื่องจากการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพราะหลังจากคุณทราบถึงช่องทางเข้า-ออกของเงินในบัญชีแล้ว ก็จะได้ถึงเวลาพินิจพิเคราะห์กันสักที ว่าจะตัดรายจ่ายใดได้บ้าง เสื้อผ้าแบรนด์เนมแสนแพง เว้นช่วงสักหน่อยดีมั้ย, ค่าสปาน้องหมาแสนรักจะงดก่อนสักระยะ หันมาอาบน้ำให้เอง สร้างความผูกพันแน่นแฟ้นดีกว่าหรือเปล่า …น้องหมาเอ๋ยอดทนนิด ไว้แม่ปลดหนี้เมื่อไหร่ค่อยเข้าสปาอีกทีนะลูก
ของอย่างนี้มันต้องลองคร่า!! เพราะดีไม่ดี หลังตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยแล้ว คุณอาจเหลือเงินไปใช้หนี้ได้อีกมากโขเชียวหล่ะ
ขั้นตอน 5 ย้ายบัญชีเงินฝากไปยังธนาคารที่ไม่ใช่เจ้าหนี้บัตรเครดิต
บางครั้งเมื่อยามคุณสมัครบัตรเครดิต อาจลืมสังเกตไปว่ามีเงื่อนไขพ่วงท้ายสัญญาระบุไว้ชัด..หากคุณผิดนัด ไม่ยอมชำระหนี้บัตรเครดิตตามเงื่อนไขธนาคาร (ผู้เป็นเจ้าของบัตรเครดิต) สามารถหักเงินจากบัญชีเงินฝากของคุณได้ ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละธนาคารอาจแตกต่างกันไป
ฉะนั้นหากคุณเริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ ย้ายบัญชีเงินฝากไปยังธนาคารที่เจ้าหนี้บัตรเครดิต ไม่สามารถหักได้ (ไม่มีเครือข่ายเชื่อมถึงกัน) มิฉะนั้นคุณอาจต้องเผชิญกับชะตากรรม ที่จู่ๆ เงินฝากในบัญชีของคุณถูกหักออกไปเกลี้ยง จนแทบไม่มีเงินซื้อข้าวจะกิน...
ขั้นตอน 6 ลดการใช้บัตรเครดิต
หลายคนเชียวค่ะ ที่พยายามจ่ายเงินชำระหนี้ทุกเดือนอย่างเคร่งครัด เพื่อหวังปลดหนี้ให้ได้ในเร็ววัน แต่ลืมนึกไปว่า เมื่อคุณยังมีบัตรเครดิตอยู่ในกระเป๋า มันก็เหมือนเป็นสิ่งล่อใจ ให้คุณอยากได้นู่นนี่อยู่ตลอด แหม! คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่คะ เห็นของล่อใจก็ต้องอยากได้อยากมีเป็นธรรมดา
ฉะนั้นเราจึงแนะนำให้คุณท่องไว้ค่ะ ว่าบัตรเครดิตอาจตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงลิบ เพราะแม้บางบัตร จะระบุชัดว่าดอกเบี้ย 0% แต่ถ้าคุณเกิดขัดสน ไม่มีเงินผ่อนขึ้นมา ดอกเบี้ยผิดนัดก็ทำให้คุณเจ็บหนักได้นิ.. ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เก็บบัตรเครดิตเหล่านั้นเข้าลิ้นชักไปเลย เมื่อหนี้สินเก่ายังมีอยู่ อย่าเพิ่มหนี้ใหม่ เพราะกิเลสเพียงชั่ววูบเลยค่ะ
ขั้นตอน 7 เลือกจ่ายบัญชีที่มี “ดอกเบี้ยโหด” ก่อน
แม้คุณจะเลือกแล้วเลือกอีก ควานหาบัตรเครดิตดอกเบี้ยถูกมาใช้ แต่คงมีบางครั้งที่คุณพลาด ค้างชำระหนี้ แล้วมีดอกเบี้ยโหดตามจิกตามหลอน ทำให้เซ็งจิต จนหาทางออกแทบไม่ได้ เพราะหลากหลายเจ้าหนี้ที่มี ไม่รู้จะใช้หนี้แบงค์ไหนก่อนดี เราจึงขอแนะนำเป็นเทคนิคที่ 7 ว่า หากคุณเป็นหนี้อยู่หลายบัญชี ซึ่งมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน คุณควรเร่งจ่ายเจ้าหนี้รายที่ดอกเบี้ยโหดก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ดอกเบี้ยเพิ่มพูนจนเกินเยียวยา
หากไตร่ตรองดีแล้ว พบว่าดอกเบี้ยแบงค์ไหนโหดจัด! ก็อาจต้องถึงขั้นกู้บัตรเครดิตดอกเบี้ยถูกมาโปะ โละหนี้ไปก่อน แม้จะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาได้เด็ดขาด (บางคนอาจมองว่า เป็นการสร้างหนี้ซ้ำซ้อน) แต่ถ้าดอกเบี้ยทารุณ จนทนได้ยาก ก็ต้องงัดวิธีนี้มาใช้แล้วหล่ะ
ขั้นตอน 8 ตัดใจขายทรัพย์สินบางอย่าง เพื่อโละหนี้
เมื่อหนี้สินประเดประดัง หาทางออกจะใช้หนี้ไม่เจอจริงๆ อาจต้องถึงคราวตัดใจขายทรัพย์สินบางอย่างไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยทอง แหวนเพชร หรือกระทั่งรถยนต์
..เข้าใจค่ะว่ามันทำใจได้ยากกับการต้องเสียทรัพย์สินบางอย่างอันเป็นที่รักไป แต่ทำใจให้เข้มแข็งไว้ เพราะหลายคนที่เคยแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้กลับพบว่า ชีวิตของพวกเขามีความสุขมากขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ หรืออับอายเวลาโดนใครมาตามทวงหนี้
เรียบเรียงจากไอวิลเลจ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
"หนี้สิน" อาจกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายๆ คน ตั้งแต่ผู้คนหาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน ยันเจ้าของกิจการใหญ่ ทุกคนล้วนมีโอกาสเกิดหนี้ได้ทั้งนั้น แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?
เอางี้! มาดูกันดีกว่า ว่าเมื่อปัญหาหนักใจใหญ่หลวงเช่นนี้มาเยือน สาวเราควรต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อให้คุณมีหนทางปลดหนี้ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว กับ 8 เทคนิคดีๆ ที่เรามีมาฝาก
ขั้นตอน 1 ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท
สิ่งแรกที่คุณควรทำเลยค่ะ “ตั้งสติ” อย่าให้จิตใจกระเจิดกระเจิง เพราะอย่างไรเสีย ปัญหามีไว้แก้ไข ทำใจให้นิ่งเข้าไว้ เพราะแค่เป็นหนี้ จิตใจของคุณก็ตึงเครียดและวิตกกังวลมากพอแล้ว ดังนั้นการกลับมาตั้งสติจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณสมองปลอดโปร่ง เริ่มสตาร์ทคิดหาแนวทางปลดหนี้ได้
เพราะหากคุณยังไม่นิ่ง จิตใจว้าวุ่น นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ความรู้สึกยังพลอยเหี่ยวเฉา ดีไม่ดี ระวังจะถึงขั้นจิตตก ซึมเศร้า ด้วยนะเอ้า!
ขั้นตอน 2 จดบันทึกรายการหนี้สินทั้งหมด
เพราะบางคนไม่ได้มีหนี้สินแค่เจ้าเดียว บรรดารายชื่อเจ้าหนี้บัตรเครดิตเยอะจนนับนิ้วมือยังแทบไม่ไหว ฉะนั้นหลังตั้งสติแล้วก็ต้องมานั่งจดบันทึกรายชื่อเจ้าหนี้สักนิด เพื่อให้ได้รู้ชัดว่าคุณมีหนี้สินอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ เจ้าหนี้คือธนาคารไหน หรือใครบ้าง และถ้าจะให้ดี ควรเขียนอยู่ในกระดาษแผ่นเดียวกัน หรือหน้าเดียวกันซะเลย จะได้เปิดทีเดียวรู้ได้หมด ไม่หลงลืมชัวร์
ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้ตั้งต้น เตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการคิดวิเคราะห์ ว่าจะจัดสรรระบบการชำระหนี้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ไม่หลงลืมจ่ายเงินต้น จนดอกเบี้ยเพิ่มพูน หนี้สินรุงรังไปมากกว่าเดิมไงล่ะ
ขั้นตอน 3 จดรายรับ-รายจ่ายของแต่ละเดือน
ถือเป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะบางคนมัวแต่นั่งกลุ้ม ว่าเงินไม่พอใช้หนี้ หนี้ท่วมหัวท่วมตัว ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้เจ้าหนี้ แต่ครั้นพอจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้ว ก็ต้องตกใจ เพราะรายจ่ายแต่ละเดือน แม่คุณเสียเงินจ่ายค่าสปาให้น้องหมา, ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมมานับสิบตัว โอ้ย! แล้วอย่างนี้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ล่ะคะ?
ฉะนั้นการจดบัญชีรายรับ-รายจ่าย จึงถือเป็นการเริ่มต้นสุดเลิศให้คุณได้รู้ตัว ว่าแต่ละเดือนคุณเสียเงินค่าใช้จ่ายใดไปบ้าง
ขั้นตอน 4 ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นมากนัก
ขั้นตอนนี้เป็นข้อที่ต่อเนื่องจากการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพราะหลังจากคุณทราบถึงช่องทางเข้า-ออกของเงินในบัญชีแล้ว ก็จะได้ถึงเวลาพินิจพิเคราะห์กันสักที ว่าจะตัดรายจ่ายใดได้บ้าง เสื้อผ้าแบรนด์เนมแสนแพง เว้นช่วงสักหน่อยดีมั้ย, ค่าสปาน้องหมาแสนรักจะงดก่อนสักระยะ หันมาอาบน้ำให้เอง สร้างความผูกพันแน่นแฟ้นดีกว่าหรือเปล่า …น้องหมาเอ๋ยอดทนนิด ไว้แม่ปลดหนี้เมื่อไหร่ค่อยเข้าสปาอีกทีนะลูก
ของอย่างนี้มันต้องลองคร่า!! เพราะดีไม่ดี หลังตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยแล้ว คุณอาจเหลือเงินไปใช้หนี้ได้อีกมากโขเชียวหล่ะ
ขั้นตอน 5 ย้ายบัญชีเงินฝากไปยังธนาคารที่ไม่ใช่เจ้าหนี้บัตรเครดิต
บางครั้งเมื่อยามคุณสมัครบัตรเครดิต อาจลืมสังเกตไปว่ามีเงื่อนไขพ่วงท้ายสัญญาระบุไว้ชัด..หากคุณผิดนัด ไม่ยอมชำระหนี้บัตรเครดิตตามเงื่อนไขธนาคาร (ผู้เป็นเจ้าของบัตรเครดิต) สามารถหักเงินจากบัญชีเงินฝากของคุณได้ ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละธนาคารอาจแตกต่างกันไป
ฉะนั้นหากคุณเริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ ย้ายบัญชีเงินฝากไปยังธนาคารที่เจ้าหนี้บัตรเครดิต ไม่สามารถหักได้ (ไม่มีเครือข่ายเชื่อมถึงกัน) มิฉะนั้นคุณอาจต้องเผชิญกับชะตากรรม ที่จู่ๆ เงินฝากในบัญชีของคุณถูกหักออกไปเกลี้ยง จนแทบไม่มีเงินซื้อข้าวจะกิน...
ขั้นตอน 6 ลดการใช้บัตรเครดิต
หลายคนเชียวค่ะ ที่พยายามจ่ายเงินชำระหนี้ทุกเดือนอย่างเคร่งครัด เพื่อหวังปลดหนี้ให้ได้ในเร็ววัน แต่ลืมนึกไปว่า เมื่อคุณยังมีบัตรเครดิตอยู่ในกระเป๋า มันก็เหมือนเป็นสิ่งล่อใจ ให้คุณอยากได้นู่นนี่อยู่ตลอด แหม! คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่คะ เห็นของล่อใจก็ต้องอยากได้อยากมีเป็นธรรมดา
ฉะนั้นเราจึงแนะนำให้คุณท่องไว้ค่ะ ว่าบัตรเครดิตอาจตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงลิบ เพราะแม้บางบัตร จะระบุชัดว่าดอกเบี้ย 0% แต่ถ้าคุณเกิดขัดสน ไม่มีเงินผ่อนขึ้นมา ดอกเบี้ยผิดนัดก็ทำให้คุณเจ็บหนักได้นิ.. ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เก็บบัตรเครดิตเหล่านั้นเข้าลิ้นชักไปเลย เมื่อหนี้สินเก่ายังมีอยู่ อย่าเพิ่มหนี้ใหม่ เพราะกิเลสเพียงชั่ววูบเลยค่ะ
ขั้นตอน 7 เลือกจ่ายบัญชีที่มี “ดอกเบี้ยโหด” ก่อน
แม้คุณจะเลือกแล้วเลือกอีก ควานหาบัตรเครดิตดอกเบี้ยถูกมาใช้ แต่คงมีบางครั้งที่คุณพลาด ค้างชำระหนี้ แล้วมีดอกเบี้ยโหดตามจิกตามหลอน ทำให้เซ็งจิต จนหาทางออกแทบไม่ได้ เพราะหลากหลายเจ้าหนี้ที่มี ไม่รู้จะใช้หนี้แบงค์ไหนก่อนดี เราจึงขอแนะนำเป็นเทคนิคที่ 7 ว่า หากคุณเป็นหนี้อยู่หลายบัญชี ซึ่งมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน คุณควรเร่งจ่ายเจ้าหนี้รายที่ดอกเบี้ยโหดก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ดอกเบี้ยเพิ่มพูนจนเกินเยียวยา
หากไตร่ตรองดีแล้ว พบว่าดอกเบี้ยแบงค์ไหนโหดจัด! ก็อาจต้องถึงขั้นกู้บัตรเครดิตดอกเบี้ยถูกมาโปะ โละหนี้ไปก่อน แม้จะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาได้เด็ดขาด (บางคนอาจมองว่า เป็นการสร้างหนี้ซ้ำซ้อน) แต่ถ้าดอกเบี้ยทารุณ จนทนได้ยาก ก็ต้องงัดวิธีนี้มาใช้แล้วหล่ะ
ขั้นตอน 8 ตัดใจขายทรัพย์สินบางอย่าง เพื่อโละหนี้
เมื่อหนี้สินประเดประดัง หาทางออกจะใช้หนี้ไม่เจอจริงๆ อาจต้องถึงคราวตัดใจขายทรัพย์สินบางอย่างไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยทอง แหวนเพชร หรือกระทั่งรถยนต์
..เข้าใจค่ะว่ามันทำใจได้ยากกับการต้องเสียทรัพย์สินบางอย่างอันเป็นที่รักไป แต่ทำใจให้เข้มแข็งไว้ เพราะหลายคนที่เคยแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้กลับพบว่า ชีวิตของพวกเขามีความสุขมากขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจ หรืออับอายเวลาโดนใครมาตามทวงหนี้
เรียบเรียงจากไอวิลเลจ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
