By Lady Manager
ฮิตกันซะเหลือเกิ๊น บิ๊กอายส์ (Big Eyes) คอนแทคเลนส์ตาโต ..หันซ้ายแลขวา ก็เจอสาวๆ นำมาเป็นเครื่องประดับเสริมในดวงตา หวังให้กลมโต บ้องแบ๊ว แลดูเป็นสาวใสวัยกระเตาะขึ้นได้ในบัดดล
แต่คุณสาวๆ ขา ..จะมาหวังสวยฮิตตามกระแสอย่างเดียวก็ใช่ที่ ต้องฟังไว้อีกหูว่า ไม่นานนี้กระทรวงสาธารณสุข เริ่มออกข่าวเตือนกันแล้ว ว่าอย่าซื้อมั่วซั่วใส่ไม่ระวัง เพราะคอนแทคเลนส์บิ๊กอายส์ สีสวยทั้งหลาย หากเลือกไม่ดี ใส่ไม่ระวัง อาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
แม้ข่าวใหญ่หน้าหนึ่ง ที่กระทรวงฯ ออกมาเตือน จะเป็นเรื่องของคอนแทคเลนส์ตาโต ทว่าคอนแทคเลนส์แฟชั่นอื่นๆ ทั้งคอนแทคเลนส์สี ที่ได้รับความนิยมมานาน รวมถึงคอนแทคเลนส์คอสเพลย์ (Cosplay) สีฉูดฉาด ที่เริ่มเข้ามาเกาะกระแสความฮิต ก็ต้องระวังไม่แพ้กัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย และหัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงมีคำเตือนข้อแนะนำมาบอกต่อ ว่าคอนแทคเลนส์น่ะ... ใส่ได้ แต่ต้องรู้ทัน หากคุณระมัดระวังการเลือกซื้อ รักษาความสะอาดอย่างถูกต้อง ก็สวยได้อย่างปลอดภัย!
“สำหรับคอนแทคเลนส์นั้น ด้านการแพทย์ถือเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้ประโยชน์หลักๆ 2 ด้าน ด้านแรกคือ การแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง และด้านที่สองใช้เพื่อความสวยงาม คือ สมัยก่อนมีการใช้คอนแทคเลนส์ที่เป็นสีสำหรับกรณีคนไข้ ที่มีแผลเป็นบริเวณกระจกตาดำ เพราะพอกระจกตาเป็นสีขาว มันจะดูไม่สวย จึงมีการทำคอนแทคเลนส์สีมาปิดกระจกตาเอาไว้ ให้ดูสวยงามขึ้น”
คุณหมอศักดิ์ชัยเล่าถึงประวัติ พร้อมโยงต่อมายังวิวัฒนาการ และความฮอตฮิตของคอนแทคเลนส์ในยุคปัจจุบัน
“ต่อมาคอนแทคเลนส์มีการพัฒนามากขึ้น ในแง่ของความสวยงาม เริ่มมีการผลิตคอนแทคเลนส์สีน้ำตาล คอนแทคเลนส์สีฟ้า และสีต่างๆ มาเรื่อยๆ กระทั่งพัฒนาการล่าสุดเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเริ่มนิยมทำคอนแทคเลนส์ ที่มีการวาดรูปตาดำให้ใหญ่กว่าตาดำจริง แล้วก็ใช้วัสดุที่มีความมันวาวมากขึ้น เพราะฉะนั้นพอใส่ติดเข้าไปปุ๊บ มันก็ทำให้ดูตาโต สวยงาม จึงเป็นที่นิยมแพร่หลาย และเริ่มเข้ามานิยมในประเทศไทยราว 4-5 ปีที่ผ่านมา”
อาจารย์หมออธิบายต่อว่า คอนแทคเลนส์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบใส, แบบสี หรือแบบบิ๊กอายส์ที่ใส่แล้วตากลมโต จะไม่อันตรายเล้ย ถ้าคุณรู้จักเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ ที่กระทรวงสาธารณสุขให้การรับรอง
“จริงๆ แล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นคอนแทคเลนส์ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง (ส่วนใหญ่คอนแทคเลนส์ มักนำเข้าจากต่างประเทศ) จะมีใบอนุญาตนำเข้า มีวิธีการใช้ระบุอยู่ ซึ่งตรงนี้เราควบคุมคุณภาพได้ เช่นว่าต้องทำจากวัสดุใด สีที่ใช้ต้องเป็นแบบไหน แต่การลักลอบนำคอนแทคเลนส์แฟชั่นเข้ามาเอง ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สี หรือคอนแทคเลนส์ตาโต อันนี้จะทำมาจากวัสดุที่หลายหลาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมเรื่องความปลอดภัยได้ จนกระทรวงสาธารณสุขต้องตามจับกุมกันอยู่”
กฎเหล็ก 3 ข้อ เพื่อการเลือกซื้อ คอนแทคเลนส์ที่ปลอดภัย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตา ฝากเตือนสาวทั้งหลาย ให้คิดรอบคอบ ก่อนซื้อหาคอนแทคเลนส์มาสวมใส่ โดยควรยึดหลักว่า คอนแทคเลนส์ที่ได้มาตรฐานต้องมี 3 ส่วนประกอบหลัก
“สิ่งที่เราต้องพิจารณาในการซื้อคอนแทคเลนส์ อย่างแรก สถานที่ขายคอนแทคเลนส์ จะต้องมีหนังสือ อนุญาตการนำเข้าคอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง ถึงเขาจะเป็นคนที่รับมาขายต่อ แต่เขาก็จะต้องมีหนังสือรับรองจากบริษัทที่นำเข้าคอนแทคเลนส์ว่าอันนี้คือ คอนแทคเลนส์ที่นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย
ประการที่สอง ภายในบรรจุภัณฑ์คอนแทคเลนส์ จะต้องมีเอกสารกำกับการใช้ ข้อบ่งใช้ ข้อห้าม ข้อควรระวัง แจ้งเอาไว้อย่างชัดเจน ถึงจะทราบได้ว่า คอนแทคเลนส์นั้นได้มาตรฐาน
และสุดท้ายคือ ให้พิจารณาการเลือกจากแหล่งที่ซื้อ ควรซื้อในแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ร้านแว่นตา ที่มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้ แต่ถ้าขายตามแผงลอย ก็คงไม่มีใครตอบได้ว่า เขานำเข้ามาจากที่ไหน อย่างไร เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีใบอนุญาตนำเข้า พอไม่มีใบอนุญาต เราก็ไม่รู้ว่าเขาใช้วัสดุอะไรทำ ถูกต้องได้มาตรฐานหรือเปล่า”
เตือน! ใช้คอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี ละเลยทำความสะอาด เสี่ยงตาบอด
นอกจากจะแนะให้ดูรายละเอียดก่อนซื้อให้ถ้วนถี่แล้ว อาจารย์หมอแห่งภาควิชาจักษุฯ ยังสะกิดเตือนสาวๆ ที่ชอบเปลี่ยนลุคด้วยการใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นว่า หากคุณมิใช่มืออาชีพผู้ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ มักเกิดปัญหาใช้คอนแทคเลนส์ไม่ถูกต้อง หรือละเลยไม่ทำความสะอาด ซึ่งนั่นคือ ตัวการสำคัญที่ทำให้โรคร้ายมาเยือนดวงตา ยามเป็นน้อยอาจแค่รู้สึกระคายเคือง แต่ถ้าเป็นมากอาจถึงขั้นตาบอด ต้องควักลูกตาออกกันเลยทีเดียว... บรื๋อ น่ากลัวชะมัด!
“ปัญหาแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้คอนแทคเลนส์ อันแรกเกิดจากปัญหาการใช้คอนแทคเลนส์ทั่วไป ซึ่งมีหลายอย่าง ทั้งปัญหาเรื่องการดูแลความสะอาด หากดูแลความสะอาดไม่ดี ก็มีความเสี่ยงที่เกิดการติดเชื้อที่กระจกตา หรือการใส่คอนแทคเลนส์นานเกินไป เผลอใส่คอนแทคเลนส์นอน รวมถึงใช้คอนแทคเลนส์ เกินระยะเวลาที่กำหนด เช่น ที่กล่องระบุให้ใช้ 1 เดือน เราก็ไปใช้ 2 เดือน อย่างนี้มันก็อาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่กระจกตาดำเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้ตาบอดได้ เหมือนที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ที่มักพบว่ากระจกตาติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ ซูโดโมแนส (Pseudomonas) จากคอนแทคเลนส์ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียนี้ เป็นเชื้อที่ลุกลามรวดเร็ว และค่อนข้างจะดื้อต่อการใช้ยารักษาด้วย
ปัญหาที่สองคือ นอกจากการเสี่ยงติดเชื้อเหมือนคอนแทคเลนส์ทั่วไปแล้ว หากเป็นคอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ตัววัสดุอาจมีความหลากหลาย ทั้งวัสดุตัวเลนส์ หรือสีที่นำมาใช้ในเลนส์ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรืออาการแพ้ที่ตาได้ แต่อันนี้อาจจะไม่รุนแรงเท่าปัญหาแรก เพราะปัญหาแรกอาจจะทำให้ตาบอดได้เลย”
เมื่อคุณหมอระบุว่า สาเหตุการติดเชื้อส่วนหนึ่งมาจากการใส่คอนแทคเลนส์นานเกินควร เราจึงไม่รีรอ ที่จะถามเผื่อสาวๆ ว่าการใส่แบบพอดี แท้จริงคือกี่ชั่วโมงกัน?
“สำหรับจำนวนชั่วโมงที่ใส่คอนแทคเลนส์นั้น ให้ดีที่สุด เราแนะนำให้ใส่เฉพาะตอนที่จำเป็นเลยครับ เพราะถ้าเรายิ่งใส่หลายชั่วโมงต่อวัน นอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นแล้ว ยังทำให้จำนวนปีที่เราจะใส่คอนแทคเลนส์ได้อย่างสบาย ลดลงเรื่อยๆ เช่น ถ้าเราใส่วันนึง แค่สัก 6-7 ชั่วโมง เราอาจสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้เป็นสิบปี โดยที่ยังไม่รู้สึกเคืองตามาก แต่ถ้าเราใส่วันนึงสัก 12 ชั่วโมงเนี้ย 4-5 ปี เราก็จะเริ่มไม่ไหวแล้ว ตาเราจะเริ่มทนต่อคอนแทคเลนส์ไม่ไหว
จึงแนะนำว่า ให้ใส่จำนวนชั่วโมงน้อยที่สุด ใส่เท่าที่จำเป็น เลิกงานก็ควรจะรีบถอดออก อยู่บ้านก็ถอดออก และในกรณีคนใส่คอนแทคเลนส์สายตา ควรมีแว่นอีกอันไว้ใส่สลับกันบ้าง และที่สำคัญมากคือ ห้ามใส่นอนเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์รุ่นไหนก็ตาม ถึงจะมีโฆษณาว่าใส่นอนได้ ก็ไม่ควรใส่นอนอยู่ดี เพราะเวลานอนเป็นเวลาที่ตา ควรจะได้รับออกซิเจน เพื่อเป็นการพักผ่อนของดวงตา หากมีคอนแทคเลนส์ไปปิดทับ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อที่กระจกตาดำ”
สาวมือใหม่หัดใส่คอนแทคเลนส์ กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อที่ตา
“เมื่อ 5 ปีก่อน เคยมีการสำรวจว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้คอนแทคเลนส์แก้ปัญหาสายตาอยู่ประมาณ 1 แสนคน แต่ปัจจุบันอัตราการใช้คอนแทคเลนส์เพื่อความสวยงาม เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เพราะใครก็ใช้ได้ นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่นก็ใช้กันเพื่อความสวยงาม และใช้โดยไม่ได้ถูกให้ความรู้ หรือระมัดระวัง เหมือนคนที่ใช้เป็นประจำ ดังนั้นการดูแลก็อาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากับคนที่เขาใช้เป็นประจำ เช่น คนที่ใส่เพื่อแก้ปัญหาสายตาสั้น แบบนั้นเขาใช้เป็นปกติ ก็จะรู้จักวิธีดูแลมากกว่า
ความเสี่ยงจากการติดเชื้อในปัจจุบัน จึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยจำนวนคนที่ใช้เยอะขึ้น รวมถึงความระมัดระวัง ความชำนาญในการดูแลคอนแทคเลนส์ก็น้อยกว่า ฉะนั้นโอกาสที่จะติดเชื้อจึงเจออยู่บ่อยๆ แต่เนื่องจากโรคติดเชื้อที่ตานี้เป็นโรคที่ไม่ต้องรายงาน จึงทำให้ไม่สามารถทราบตัวเลขที่แน่ชัดเจนได้” นายกสมาคมจักษุแพทย์ฯ อธิบายถึงแนวโน้มการติดเชื้อที่ดวงตาซึ่งเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
ด้านแนวทางการรักษาโรคติดเชื้อที่กระจกตา คุณหมอแจงว่ามีหลายระดับ
“การรักษาในเบื้องต้น ถ้ารู้เร็วก็จะใช้ยาปฏิชีวนะ หยอดตา หยอดบ่อยๆ ก็หาย แต่ถ้ายังควบคุมไม่อยู่ก็อาจจะต้องให้ยาเข้าทางเส้นเลือด หรือฉีดเข้าลูกตา หรือถ้าแย่ไปกว่านั้นก็อาจจะต้องเปลี่ยนกระจกตา หรือถ้ารุนแรงที่สุดก็คือ ต้องควักลูกตาออก ซึ่งปัจจุบันก็มีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว”
สัญญาณวิกฤติ ส่ออาการ “ตาติดเชื้อ”
เมื่ออธิบายความร้ายกาจของการติดเชื้อที่กระจกตาแล้ว คุณหมอใจดีไม่ถึงขั้นห้ามสาวๆ ใช้คอนแทคเลนส์ แต่เน้นหนักให้ระมัดระวัง และสังเกตความผิดปกติของดวงตาเสมอ เพราะหากคุณพบสัญญาณโรคร้ายเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรักษาได้ทันท่วงที ทวีความปลอดภัยให้ดวงตาได้มากเท่านั้น
“สัญญาณอาการตาติดเชื้อ อันที่หนึ่งก็คือ ขณะใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์จะรู้สึกเคืองตามาก ตาจะแดง อันนี้แสดงว่าเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตา ยิ่งถ้ารุนแรงถึงขั้นตามัวลง หรือสังเกตเห็นจุดขาวๆ ที่ตาดำ อันนี้แสดงว่า อาการรุนแรงมากแล้ว ต้องรีบไปพบจักษุแพทย์ เพราะจุดขาวๆ นี้ก็คือ การติดเชื้อ ที่กระจกตาดำ ซึ่งอาจจะลุกลามจนส่งผลร้ายแรงต่อไป
แฟชั่นดวงตา ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์ตาโต คอนแทคเลนส์สี ไม่ได้ห้ามใช้ แต่ที่ต้องบอกไว้ก็คือ อันที่หนึ่ง ต้องรู้จักการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็มีความน่าเชื่อถือ อันที่สอง ต้องรู้วิธีใช้ และใช้อย่างถูกต้อง หมั่นรักษาความสะอาด และรู้ว่าอะไรคือ สัญญาณอาการที่ผิดปกติ เมื่อเกิดขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์ อันที่สามให้ใช้เฉพาะเมื่อเวลาจำเป็น และใช้ในจำนวนชั่วโมงที่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมดความจำเป็นก็ให้ถอดออก เพราะราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ฯ คงไม่ได้ถึงกับห้ามใช้ เพราะคอนแทคเลนส์พวกนี้ หากนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย ก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นวัตถุอันตราย” นายแพทย์ศักดิ์ชัย อธิบายสรุปส่งท้าย
*วิธีดูแลคอนแทคเลนส์ ให้ห่างไกลโรคติดเชื้อที่ดวงตา
- ก่อนใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง ต้องทำความสะอาดมือให้สะอาดด้วยสบู่ จากนั้นซับมือให้แห้ง ด้วยผ้าที่ไม่มีขุย
- ไม่ควรไว้เล็บยาว เพราะนอกจากจะทำให้ขีดข่วนเลนส์จนขาดได้แล้ว เล็บที่แหลมคมยังอาจทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้
- การล้างทำความสะอาด ควรใช้น้ำยาสำหรับล้างคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ และควรถูเลนส์เบาๆ เสมอ แม้ข้างขวดน้ำยา อาจระบุว่า “NO RUB” ซึ่งแปลว่าไม่ต้องถูก็ตาม นั่นเพราะการถูเลนส์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยขจัดเชื้อโรคได้ถึง 99%
- เมื่อใช้ตลับแช่คอนแทคเลนส์เสร็จ ควรล้างให้สะอาด คว่ำไว้ในที่แห้ง และใช้แปลงสีฟันใหม่ ขัดที่ฝาเกลียวตลับคอนแทคเลนส์สัปดาห์ละครั้ง ที่สำคัญ ควรเปลี่ยนตลับอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน
- คุณสาวๆ ที่นิยมการแต่งหน้า ควรใส่คอนแทคเลนส์ก่อนจะเริ่มแต่งหน้า และถอดคอนแทคเลนส์ก่อนจะเช็ดเครื่องสำอางออกเสมอ
- สำหรับมือใหม่หัดใส่คอนแทคเลนส์ ควรให้จักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้สอนตลอดจนสาธิต วิธีการใส่-ถอด และดูแลรักษาคอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธีให้ เพราะลำพังการอ่าน หรือคำบอกเล่า คุณอาจไม่เห็นภาพชัดเท่ากับการมีกูรูคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ฮิตกันซะเหลือเกิ๊น บิ๊กอายส์ (Big Eyes) คอนแทคเลนส์ตาโต ..หันซ้ายแลขวา ก็เจอสาวๆ นำมาเป็นเครื่องประดับเสริมในดวงตา หวังให้กลมโต บ้องแบ๊ว แลดูเป็นสาวใสวัยกระเตาะขึ้นได้ในบัดดล
แต่คุณสาวๆ ขา ..จะมาหวังสวยฮิตตามกระแสอย่างเดียวก็ใช่ที่ ต้องฟังไว้อีกหูว่า ไม่นานนี้กระทรวงสาธารณสุข เริ่มออกข่าวเตือนกันแล้ว ว่าอย่าซื้อมั่วซั่วใส่ไม่ระวัง เพราะคอนแทคเลนส์บิ๊กอายส์ สีสวยทั้งหลาย หากเลือกไม่ดี ใส่ไม่ระวัง อาจถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
แม้ข่าวใหญ่หน้าหนึ่ง ที่กระทรวงฯ ออกมาเตือน จะเป็นเรื่องของคอนแทคเลนส์ตาโต ทว่าคอนแทคเลนส์แฟชั่นอื่นๆ ทั้งคอนแทคเลนส์สี ที่ได้รับความนิยมมานาน รวมถึงคอนแทคเลนส์คอสเพลย์ (Cosplay) สีฉูดฉาด ที่เริ่มเข้ามาเกาะกระแสความฮิต ก็ต้องระวังไม่แพ้กัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย และหัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงมีคำเตือนข้อแนะนำมาบอกต่อ ว่าคอนแทคเลนส์น่ะ... ใส่ได้ แต่ต้องรู้ทัน หากคุณระมัดระวังการเลือกซื้อ รักษาความสะอาดอย่างถูกต้อง ก็สวยได้อย่างปลอดภัย!
“สำหรับคอนแทคเลนส์นั้น ด้านการแพทย์ถือเป็นเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้ประโยชน์หลักๆ 2 ด้าน ด้านแรกคือ การแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง และด้านที่สองใช้เพื่อความสวยงาม คือ สมัยก่อนมีการใช้คอนแทคเลนส์ที่เป็นสีสำหรับกรณีคนไข้ ที่มีแผลเป็นบริเวณกระจกตาดำ เพราะพอกระจกตาเป็นสีขาว มันจะดูไม่สวย จึงมีการทำคอนแทคเลนส์สีมาปิดกระจกตาเอาไว้ ให้ดูสวยงามขึ้น”
คุณหมอศักดิ์ชัยเล่าถึงประวัติ พร้อมโยงต่อมายังวิวัฒนาการ และความฮอตฮิตของคอนแทคเลนส์ในยุคปัจจุบัน
“ต่อมาคอนแทคเลนส์มีการพัฒนามากขึ้น ในแง่ของความสวยงาม เริ่มมีการผลิตคอนแทคเลนส์สีน้ำตาล คอนแทคเลนส์สีฟ้า และสีต่างๆ มาเรื่อยๆ กระทั่งพัฒนาการล่าสุดเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา ในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเริ่มนิยมทำคอนแทคเลนส์ ที่มีการวาดรูปตาดำให้ใหญ่กว่าตาดำจริง แล้วก็ใช้วัสดุที่มีความมันวาวมากขึ้น เพราะฉะนั้นพอใส่ติดเข้าไปปุ๊บ มันก็ทำให้ดูตาโต สวยงาม จึงเป็นที่นิยมแพร่หลาย และเริ่มเข้ามานิยมในประเทศไทยราว 4-5 ปีที่ผ่านมา”
อาจารย์หมออธิบายต่อว่า คอนแทคเลนส์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบใส, แบบสี หรือแบบบิ๊กอายส์ที่ใส่แล้วตากลมโต จะไม่อันตรายเล้ย ถ้าคุณรู้จักเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ ที่กระทรวงสาธารณสุขให้การรับรอง
“จริงๆ แล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นคอนแทคเลนส์ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง (ส่วนใหญ่คอนแทคเลนส์ มักนำเข้าจากต่างประเทศ) จะมีใบอนุญาตนำเข้า มีวิธีการใช้ระบุอยู่ ซึ่งตรงนี้เราควบคุมคุณภาพได้ เช่นว่าต้องทำจากวัสดุใด สีที่ใช้ต้องเป็นแบบไหน แต่การลักลอบนำคอนแทคเลนส์แฟชั่นเข้ามาเอง ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สี หรือคอนแทคเลนส์ตาโต อันนี้จะทำมาจากวัสดุที่หลายหลาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมเรื่องความปลอดภัยได้ จนกระทรวงสาธารณสุขต้องตามจับกุมกันอยู่”
กฎเหล็ก 3 ข้อ เพื่อการเลือกซื้อ คอนแทคเลนส์ที่ปลอดภัย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องตา ฝากเตือนสาวทั้งหลาย ให้คิดรอบคอบ ก่อนซื้อหาคอนแทคเลนส์มาสวมใส่ โดยควรยึดหลักว่า คอนแทคเลนส์ที่ได้มาตรฐานต้องมี 3 ส่วนประกอบหลัก
“สิ่งที่เราต้องพิจารณาในการซื้อคอนแทคเลนส์ อย่างแรก สถานที่ขายคอนแทคเลนส์ จะต้องมีหนังสือ อนุญาตการนำเข้าคอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง ถึงเขาจะเป็นคนที่รับมาขายต่อ แต่เขาก็จะต้องมีหนังสือรับรองจากบริษัทที่นำเข้าคอนแทคเลนส์ว่าอันนี้คือ คอนแทคเลนส์ที่นำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย
ประการที่สอง ภายในบรรจุภัณฑ์คอนแทคเลนส์ จะต้องมีเอกสารกำกับการใช้ ข้อบ่งใช้ ข้อห้าม ข้อควรระวัง แจ้งเอาไว้อย่างชัดเจน ถึงจะทราบได้ว่า คอนแทคเลนส์นั้นได้มาตรฐาน
และสุดท้ายคือ ให้พิจารณาการเลือกจากแหล่งที่ซื้อ ควรซื้อในแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น ร้านแว่นตา ที่มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้ แต่ถ้าขายตามแผงลอย ก็คงไม่มีใครตอบได้ว่า เขานำเข้ามาจากที่ไหน อย่างไร เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีใบอนุญาตนำเข้า พอไม่มีใบอนุญาต เราก็ไม่รู้ว่าเขาใช้วัสดุอะไรทำ ถูกต้องได้มาตรฐานหรือเปล่า”
เตือน! ใช้คอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี ละเลยทำความสะอาด เสี่ยงตาบอด
นอกจากจะแนะให้ดูรายละเอียดก่อนซื้อให้ถ้วนถี่แล้ว อาจารย์หมอแห่งภาควิชาจักษุฯ ยังสะกิดเตือนสาวๆ ที่ชอบเปลี่ยนลุคด้วยการใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นว่า หากคุณมิใช่มืออาชีพผู้ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ มักเกิดปัญหาใช้คอนแทคเลนส์ไม่ถูกต้อง หรือละเลยไม่ทำความสะอาด ซึ่งนั่นคือ ตัวการสำคัญที่ทำให้โรคร้ายมาเยือนดวงตา ยามเป็นน้อยอาจแค่รู้สึกระคายเคือง แต่ถ้าเป็นมากอาจถึงขั้นตาบอด ต้องควักลูกตาออกกันเลยทีเดียว... บรื๋อ น่ากลัวชะมัด!
“ปัญหาแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้คอนแทคเลนส์ อันแรกเกิดจากปัญหาการใช้คอนแทคเลนส์ทั่วไป ซึ่งมีหลายอย่าง ทั้งปัญหาเรื่องการดูแลความสะอาด หากดูแลความสะอาดไม่ดี ก็มีความเสี่ยงที่เกิดการติดเชื้อที่กระจกตา หรือการใส่คอนแทคเลนส์นานเกินไป เผลอใส่คอนแทคเลนส์นอน รวมถึงใช้คอนแทคเลนส์ เกินระยะเวลาที่กำหนด เช่น ที่กล่องระบุให้ใช้ 1 เดือน เราก็ไปใช้ 2 เดือน อย่างนี้มันก็อาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อที่กระจกตาดำเพิ่มขึ้น จนอาจทำให้ตาบอดได้ เหมือนที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ที่มักพบว่ากระจกตาติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ ซูโดโมแนส (Pseudomonas) จากคอนแทคเลนส์ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียนี้ เป็นเชื้อที่ลุกลามรวดเร็ว และค่อนข้างจะดื้อต่อการใช้ยารักษาด้วย
ปัญหาที่สองคือ นอกจากการเสี่ยงติดเชื้อเหมือนคอนแทคเลนส์ทั่วไปแล้ว หากเป็นคอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ตัววัสดุอาจมีความหลากหลาย ทั้งวัสดุตัวเลนส์ หรือสีที่นำมาใช้ในเลนส์ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรืออาการแพ้ที่ตาได้ แต่อันนี้อาจจะไม่รุนแรงเท่าปัญหาแรก เพราะปัญหาแรกอาจจะทำให้ตาบอดได้เลย”
เมื่อคุณหมอระบุว่า สาเหตุการติดเชื้อส่วนหนึ่งมาจากการใส่คอนแทคเลนส์นานเกินควร เราจึงไม่รีรอ ที่จะถามเผื่อสาวๆ ว่าการใส่แบบพอดี แท้จริงคือกี่ชั่วโมงกัน?
“สำหรับจำนวนชั่วโมงที่ใส่คอนแทคเลนส์นั้น ให้ดีที่สุด เราแนะนำให้ใส่เฉพาะตอนที่จำเป็นเลยครับ เพราะถ้าเรายิ่งใส่หลายชั่วโมงต่อวัน นอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นแล้ว ยังทำให้จำนวนปีที่เราจะใส่คอนแทคเลนส์ได้อย่างสบาย ลดลงเรื่อยๆ เช่น ถ้าเราใส่วันนึง แค่สัก 6-7 ชั่วโมง เราอาจสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้เป็นสิบปี โดยที่ยังไม่รู้สึกเคืองตามาก แต่ถ้าเราใส่วันนึงสัก 12 ชั่วโมงเนี้ย 4-5 ปี เราก็จะเริ่มไม่ไหวแล้ว ตาเราจะเริ่มทนต่อคอนแทคเลนส์ไม่ไหว
จึงแนะนำว่า ให้ใส่จำนวนชั่วโมงน้อยที่สุด ใส่เท่าที่จำเป็น เลิกงานก็ควรจะรีบถอดออก อยู่บ้านก็ถอดออก และในกรณีคนใส่คอนแทคเลนส์สายตา ควรมีแว่นอีกอันไว้ใส่สลับกันบ้าง และที่สำคัญมากคือ ห้ามใส่นอนเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์รุ่นไหนก็ตาม ถึงจะมีโฆษณาว่าใส่นอนได้ ก็ไม่ควรใส่นอนอยู่ดี เพราะเวลานอนเป็นเวลาที่ตา ควรจะได้รับออกซิเจน เพื่อเป็นการพักผ่อนของดวงตา หากมีคอนแทคเลนส์ไปปิดทับ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อที่กระจกตาดำ”
สาวมือใหม่หัดใส่คอนแทคเลนส์ กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อที่ตา
“เมื่อ 5 ปีก่อน เคยมีการสำรวจว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้คอนแทคเลนส์แก้ปัญหาสายตาอยู่ประมาณ 1 แสนคน แต่ปัจจุบันอัตราการใช้คอนแทคเลนส์เพื่อความสวยงาม เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เพราะใครก็ใช้ได้ นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่นก็ใช้กันเพื่อความสวยงาม และใช้โดยไม่ได้ถูกให้ความรู้ หรือระมัดระวัง เหมือนคนที่ใช้เป็นประจำ ดังนั้นการดูแลก็อาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากับคนที่เขาใช้เป็นประจำ เช่น คนที่ใส่เพื่อแก้ปัญหาสายตาสั้น แบบนั้นเขาใช้เป็นปกติ ก็จะรู้จักวิธีดูแลมากกว่า
ความเสี่ยงจากการติดเชื้อในปัจจุบัน จึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยจำนวนคนที่ใช้เยอะขึ้น รวมถึงความระมัดระวัง ความชำนาญในการดูแลคอนแทคเลนส์ก็น้อยกว่า ฉะนั้นโอกาสที่จะติดเชื้อจึงเจออยู่บ่อยๆ แต่เนื่องจากโรคติดเชื้อที่ตานี้เป็นโรคที่ไม่ต้องรายงาน จึงทำให้ไม่สามารถทราบตัวเลขที่แน่ชัดเจนได้” นายกสมาคมจักษุแพทย์ฯ อธิบายถึงแนวโน้มการติดเชื้อที่ดวงตาซึ่งเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
ด้านแนวทางการรักษาโรคติดเชื้อที่กระจกตา คุณหมอแจงว่ามีหลายระดับ
“การรักษาในเบื้องต้น ถ้ารู้เร็วก็จะใช้ยาปฏิชีวนะ หยอดตา หยอดบ่อยๆ ก็หาย แต่ถ้ายังควบคุมไม่อยู่ก็อาจจะต้องให้ยาเข้าทางเส้นเลือด หรือฉีดเข้าลูกตา หรือถ้าแย่ไปกว่านั้นก็อาจจะต้องเปลี่ยนกระจกตา หรือถ้ารุนแรงที่สุดก็คือ ต้องควักลูกตาออก ซึ่งปัจจุบันก็มีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว”
สัญญาณวิกฤติ ส่ออาการ “ตาติดเชื้อ”
เมื่ออธิบายความร้ายกาจของการติดเชื้อที่กระจกตาแล้ว คุณหมอใจดีไม่ถึงขั้นห้ามสาวๆ ใช้คอนแทคเลนส์ แต่เน้นหนักให้ระมัดระวัง และสังเกตความผิดปกติของดวงตาเสมอ เพราะหากคุณพบสัญญาณโรคร้ายเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งรักษาได้ทันท่วงที ทวีความปลอดภัยให้ดวงตาได้มากเท่านั้น
“สัญญาณอาการตาติดเชื้อ อันที่หนึ่งก็คือ ขณะใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์จะรู้สึกเคืองตามาก ตาจะแดง อันนี้แสดงว่าเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตา ยิ่งถ้ารุนแรงถึงขั้นตามัวลง หรือสังเกตเห็นจุดขาวๆ ที่ตาดำ อันนี้แสดงว่า อาการรุนแรงมากแล้ว ต้องรีบไปพบจักษุแพทย์ เพราะจุดขาวๆ นี้ก็คือ การติดเชื้อ ที่กระจกตาดำ ซึ่งอาจจะลุกลามจนส่งผลร้ายแรงต่อไป
แฟชั่นดวงตา ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์ตาโต คอนแทคเลนส์สี ไม่ได้ห้ามใช้ แต่ที่ต้องบอกไว้ก็คือ อันที่หนึ่ง ต้องรู้จักการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็มีความน่าเชื่อถือ อันที่สอง ต้องรู้วิธีใช้ และใช้อย่างถูกต้อง หมั่นรักษาความสะอาด และรู้ว่าอะไรคือ สัญญาณอาการที่ผิดปกติ เมื่อเกิดขึ้นต้องรีบไปพบแพทย์ อันที่สามให้ใช้เฉพาะเมื่อเวลาจำเป็น และใช้ในจำนวนชั่วโมงที่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมดความจำเป็นก็ให้ถอดออก เพราะราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ฯ คงไม่ได้ถึงกับห้ามใช้ เพราะคอนแทคเลนส์พวกนี้ หากนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย ก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นวัตถุอันตราย” นายแพทย์ศักดิ์ชัย อธิบายสรุปส่งท้าย
*วิธีดูแลคอนแทคเลนส์ ให้ห่างไกลโรคติดเชื้อที่ดวงตา
- ก่อนใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง ต้องทำความสะอาดมือให้สะอาดด้วยสบู่ จากนั้นซับมือให้แห้ง ด้วยผ้าที่ไม่มีขุย
- ไม่ควรไว้เล็บยาว เพราะนอกจากจะทำให้ขีดข่วนเลนส์จนขาดได้แล้ว เล็บที่แหลมคมยังอาจทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้
- การล้างทำความสะอาด ควรใช้น้ำยาสำหรับล้างคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ และควรถูเลนส์เบาๆ เสมอ แม้ข้างขวดน้ำยา อาจระบุว่า “NO RUB” ซึ่งแปลว่าไม่ต้องถูก็ตาม นั่นเพราะการถูเลนส์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยขจัดเชื้อโรคได้ถึง 99%
- เมื่อใช้ตลับแช่คอนแทคเลนส์เสร็จ ควรล้างให้สะอาด คว่ำไว้ในที่แห้ง และใช้แปลงสีฟันใหม่ ขัดที่ฝาเกลียวตลับคอนแทคเลนส์สัปดาห์ละครั้ง ที่สำคัญ ควรเปลี่ยนตลับอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน
- คุณสาวๆ ที่นิยมการแต่งหน้า ควรใส่คอนแทคเลนส์ก่อนจะเริ่มแต่งหน้า และถอดคอนแทคเลนส์ก่อนจะเช็ดเครื่องสำอางออกเสมอ
- สำหรับมือใหม่หัดใส่คอนแทคเลนส์ ควรให้จักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้สอนตลอดจนสาธิต วิธีการใส่-ถอด และดูแลรักษาคอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธีให้ เพราะลำพังการอ่าน หรือคำบอกเล่า คุณอาจไม่เห็นภาพชัดเท่ากับการมีกูรูคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net