xs
xsm
sm
md
lg

Bride To Be: เคล็ดลับจัดฮวงจุ้ยเรือนหอ เพื่อรักราบรื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

การตัดสินใจแต่งงาน ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว.. การประคับประคองชีวิตคู่ให้ราบรื่น ยิ่งเป็นเรื่องยาก และใหญ่ยิ่งกว่า!!

เมื่อรายละเอียดปลีกย่อย แห่งการใช้ชีวิตรักมีมากมาย Bride To Be โปรเจกต์นี้ จึงไม่ละเลยการนำเสนอ ศาสตร์การจัดฮวงจุ้ย ที่เชื่อกันว่า หากจัดให้ดีจะมีมงคลแก่ชีวิตแต่งงาน มาฝากกัน

ผู้ที่จะมาไขความลับ ให้คำตอบเรื่องการจัดฮวงจุ้ยเพื่อรักราบรื่น ก็มิใช่อื่นไกล อาจารย์ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง ผู้คว่ำหวอดอยู่ในวงการฮวงจุ้ยมากว่า 30 ปี

เริ่มแรกทายทัก ซินแสภาณุวัฒน์ เกริ่นนำในเรื่องของชีวิตคู่ว่า หลักสำคัญอยู่ที่การเลือกคู่ให้ถูกโฉลกตามนักษัตรปีเกิด ซึ่งหากเลือกคู่นักษัตรได้เหมาะ ก็จะมีแนวโน้มชีวิตคู่ที่จะราบรื่น

“ฮวงจุ้ยห้องนอน ต่อให้จัดดีแค่ไหน แต่ถ้าคู่เป็นปีชงกันมันก็ไปไม่รอด เหมือนหมากับแมว เวลาคุณจับมาอยู่ในห้องเดียวกัน มันก็ฟัดกัน ตรงนี้มันจึงต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เพราะองค์ประกอบของชีวิตคู่มันไม่ได้อยู่แค่การจัดฮวงจุ้ยอย่างเดียว ฮวงจุ้ยเป็นองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้นข้อหนึ่งเลยคือ ต้องเลือกคู่ครองให้ถูกโฉลกกันก่อน ถ้าไม่ได้เช็ก มักจะมีปัญหาชีวิตคู่อับปางกันภายหลัง เพราะเวลาเรารักกัน คุณก็จะเอาแต่สิ่งดีเข้าหากัน แต่ถ้าอยู่กันไปสักพัก ก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็น ‘คุณต้องทำตามใจฉันบ้างสิ’ มุมนั้นแหละ ที่คุณจะไม่ตรงกันแล้ว

ที่สำคัญคือ ทัศนคติของคนแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน เหมือนปีหนู จะหวานแหว๋ว ช่างพูดช่างเจรจา ชอบอยู่กับครอบครัว เหมือนหนูที่อยู่ร่วมกันในรัง แต่ไปชงกับปีม้า ที่เป็นคนรักอิสระเสรี ไม่ชอบให้ใครมาคุม ชอบแหกคอกอยู่เรื่อย เพราะฉะนั้นม้าอยู่กับหนูก็ไม่สมดุล เพราะคนหนึ่งชอบให้อยู่กับครอบครัว แต่อีกคนไม่อยู่ สุดท้ายคือ ทัศนคติไม่ตรงกัน หรืออย่างปีวัว เป็นคนนิสัยดื้อ ไปเจอกับปีแพะก็ดื้อ ต่างฝ่ายต่างดื้อ มันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ปีเสือกับปีลิง เสือมีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่ลิงขี้เล่น ขี้แหย่ แหย่มากๆ เสือก็โกรธ โกรธก็กัดเอา ฉะนั้นเสือกับลิงก็ไม่ถูกกัน ซึ่งเหล่านี้มันเป็นพื้นฐานนิสัยจากนักษัตร”

แม้จะระบุชัดเจน ว่าต้องเลือกคู่ที่มีนักษัตรเหมาะสมกัน แต่ทว่าเรื่องของความรักมักห้ามกันไม่ได้ พ่อหมอภาณุวัฒน์เข้าใจข้อนี้ดี เพราะตัวเขาเองและภรรยาเป็นคู่ชีวิตที่ ‘ชงกัน’ แต่ทั้งสองก็ปรับตัวเข้าหากัน จนครองรักมาได้กระทั่งปัจจุบัน

“อาจารย์กับแฟนปีชงกัน เขาปีระกา อาจารย์ปีเถาะ มุมมองคนละมุมมอง แต่จะทำอย่างไรล่ะ เมื่อรักกันก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน จนตอนนี้อยู่กันมาสามสิบกว่าปี แต่เหมือนเพิ่งผ่านมา 3-4 เดือนเลย เพราะเราปรับเข้าหากัน เราให้เขา เขาให้เรา ต่างฝ่ายต่างปรับเข้าหากัน

บางทีเราก็มีขัดใจกันบ้าง กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังมี แต่เราก็คิดว่าแก่กันแล้ว เรามองหน้าเขาตอนนอนแล้วก็สงสาร เขาแก่ลงทุกวัน เราก็แก่ลงทุกวัน ไม่ได้เหมือนหนุ่มเหมือนสาว เราก็เหลือกันแค่ 2 คน ลูกๆ เขาก็มีชีวิต มีครอบครัวของเขาไป สุดท้ายก็เหลือเราสองคนตายาย ฉะนั้นจะไปนั่งทะเลาะกันทำไม มันไม่มีความสุขหรอก ดังนั้นเราต้องปรับพฤติกรรมเข้าหากันตลอดเวลา”

ของมงคลเด็ดสุด -> รูปถ่ายสวีทหวาน เตือนใจสายใยรัก

เมื่อถามถึงสิ่งมงคลเด็ดๆ ที่ควรนำมาจัดวางไว้ในบ้าน เพื่อช่วยเสริมดวงให้ความรักราบรื่น อาจารย์ภาณุวัฒน์ แนะนำทันควันว่า ไม่ต้องไปควานหาให้วุ่นวาย แค่หยิบภาพถ่ายสวีทหวานของคุณและคู่รักมาประดับไว้ เท่านี้ก็ถือเป็นการจัดฮวงจุ้ย เสริมพลังความรักได้แล้ว

“อาจารย์เอารูปตัวเองกับเมียแขวนไว้หัวเตียง เวลามีปัญหาอะไรขึ้นมาหน่อย ก็ดูที่รูปแล้วคิดว่า เมื่อก่อนเรารักกันหวานชื่น แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรกัน ทำไมต้องมาทะเลาะกัน นี่แหละมันเป็นเหมือนการเตือนสติเรา ไม่ต้องไปหาอย่างอื่นให้วุ่นวาย เอารูปชีวิตคู่ ตอนที่เรารักกันเข้าใจกันนี่แหละ หรือจะเป็นรูปครอบครัวก็ได้ ติดเอาไว้สักรูป แค่นี้ก็ถือเป็นการจัดฮวงจุ้ยอย่างหนึ่ง เป็นการเตือนสติเรา เมื่อมีปัญหาขึ้นมาก็จะให้รูปนี้เป็นการเตือนสติ”

ฮวงจุ้ยที่ดี สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาททั้งห้า

ซินแสภาณุวัฒน์บอกกับเราตามตรงว่า ศาสตร์แห่งการจัดฮวงจุ้ย เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมาก ไม่สามารถอธิบายแบบเหมารวมได้ เพราะหลักของการจัดจริงๆ ต้องให้ซินแสที่มีความรู้ไปดูสถานที่จริง เพื่อคำนวณเรื่องทิศทางและทำเลที่ตั้ง ว่าเหมาะกับดวงเจ้าของบ้านหรือไม่… ทว่าแม้เรื่องนี้จะบอกแบบเหมารวมไม่ได้ แต่ซินแสท่านนี้ก็ใจดี อธิบายถึงหลักการดูฮวงจุ้ยเบื้องต้น ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถทราบได้ จากประสาทสัมผัสของตัวเอง

“ฮวงจุ้ย ถ้าพูดกันคร่าวๆ บ้านที่อยู่แล้วดี ต้องดูที่องค์ประกอบภายนอกก่อน ถ้าบ้านอยู่ตรงสามแยกที่มีรถพุ่งเข้าใส่ อยู่หน้าสุสาน หน้าโรงพยาบาล ต้องเห็นศพเข้า-ออก อยู่หน้าโรงพัก เจอคนตีรันฟันแทง อย่างนี้คือ ภูมิทัศน์ภายนอกที่ไม่ดีกับเรา มันไม่เจริญหู เจริญตา

ดังนั้นฮวงจุ้ยดี ที่เราสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ 1.ตา เห็นภูมิทัศน์มองออกมาแล้วต้องสวยงาม 2.หู ถ้าอยู่ในที่มีเสียงดังตลอดเวลา เช่น อยู่ใกล้โรงเรียนมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวตลอด อย่างนี้คนอยู่ก็ไม่สงบ 3.จมูก ต้องดูว่าสถานที่ ที่เราอยู่มีอะไรที่ส่งกลิ่นเหม็นหรือเปล่า มีโรงงานปลากระป๋อง โรงงานปลาป่น เมรุเผาศพ น้ำเน่า กองขยะมั้ย ถ้ามี เมื่อเราไปอยู่ก็ต้องได้กลิ่นนั้นตลอด 4.ปาก คือ เรื่องอาหารการกิน การทำมาหากิน เดินทางไปซื้อหาอาหาร ไกลแค่ไหน และส่วนสุดท้ายคือ ภูมิทัศน์ภายใน อันนี้เป็นเรื่องของหลักฮวงจุ้ยที่ต้องคำนวณ พลังคลื่นที่เข้ามาในบ้าน เรื่องของดวงบ้าน และดวงผู้อยู่อาศัยว่าเป็นอย่างไร”

ห้องนอนต้องงีบสงบหลับสบาย สุขภาพดี ความรักชื่นมื่น

สำหรับการจัดฮวงจุ้ยห้องนอนคู่รัก ซินแสของเราบอกว่า มีหลักคิดง่ายๆ คือจัดให้ห้องนอน นอนแล้วสบาย เพราะเมื่อนอนแล้วสบาย สุขภาพของคนทั้งคู่ก็จะดี จนนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ราบรื่น ไร้ปัญหา และโอกาสนี้ซินแสภาณุวัฒน์ก็ได้รวบรวมหลักการทั่วไป ในการจัดฮวงจุ้ยห้องนอนมาฝากด้วยค่ะ

“จัดฮวงจุ้ย ให้โชคดีเรื่องความรัก มันลำบาก ไม่ใช่ว่าวางนู้นนี่ แล้วจะโชคดีเรื่องความรัก ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถ้าทำได้จริงคงหามาวางกันหมด คือ ปัจจุบันมีการสร้างกระแสกันขึ้นมามาก บางทีบอกให้เอาดอกไม้มาวางในห้องนอน จริงๆ การวางดอกไม้ให้สวยงามมันก็ดี แต่ถ้าคุณต้องมานั่งเสียเงิน เสียทองเปลี่ยนกันบ่อยๆ อันนี้ก็ไม่ไหว ดังนั้นหลักการจริงๆ ก็คือ จัดให้อยู่แล้วสบายดีกว่า ซึ่งหลักง่ายๆ ที่แนะนำคือ

ไม่ควร นอนใต้คาน ห้องนอนบางแห่ง จะมีการขยายห้องออกไป แม้จะตีฝ้าปิดแต่ก็ยังมีเสา มีคานอยู่ ซึ่งตรงนี้บอกได้เลย คานพาดที่อก เจ็บอก พาดท้องเจ็บท้อง ดังนั้นอย่าให้เตียงนอนไปอยู่ใต้คาน หรือแม้แต่การวางเตียง ให้คานผ่าเตียงออกเป็นสองฝั่ง มันก็คือ การแบ่งชีวิตคู่ออกเป็นสองข้างเหมือนกัน ดังนั้นคานห้ามผ่ากลางเตียงไม่ว่าผ่าขวาง หรือผ่ากลางเตียง ห้ามเด็ดขาด ถึงแม้จะตีฝ้าปิดก็เถอะ เพราะพวกนี้จะมีอิทธิพลของเหล็กเส้นอยู่ ซึ่งอิทธิพลนี้จะส่งผลกับเลือดลมของร่างกายเรา เมื่อคานพาดที่ท้อง พอเลือดลมเดินผ่านถึงที่ท้อง มันก็ชะงักนิดนึง พอนานๆ เข้าก็เกิดอาการปวดท้อง เนื่องจากเลือดลมเดินไม่สะดวก เพราะต้องไปเจอวงจรแม่เหล็กอ่อนๆ

หน้าต่าง - แอร์ ไม่ตรงกับหัวเตียง สมัยก่อนไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม อาศัยลมธรรมชาติ ฉะนั้นเมื่อหน้าต่างอยู่ที่หัวเตียง มันจะทำให้ลมผ่านหัว พอลมผ่านหัวสุขภาพก็ไม่ค่อยดี ฝนตกนิดหน่อยก็ไม่สบาย สุขภาพแย่อยู่เรื่อยๆ เมื่อสุขภาพแย่ ชีวิตครอบครัวก็ไม่มีความสุข

จนมาสมัยนี้มีแอร์ ต้องแนะนำว่า แอร์ก็อย่าพ่นเข้าหน้าเรา คือ อย่าให้แอร์อยู่ปลายเท้า แล้วพ่นเข้าหน้าเราโดยตรง หรือการให้แอร์อยู่ที่หัวนอนเลยก็ไม่ดี เพราะบางทีน้ำแอร์อาจหยดลงที่หัวเตียง ที่ดีที่สุดคือ ให้แอร์พ่นเข้าหาด้านข้างตัว ส่วนตำแหน่งของหน้าต่างถ้าให้ดีคืออยู่ข้างเตียง คือ หัวเตียงเป็นผนังทึบ แล้วมีหน้าต่างอยู่สองข้าง ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการจัดวางให้ถูกต้อง เป็นสิ่งที่เรามองเห็นด้วยสายตา

หัวเตียง ไม่ตรงกับประตูห้องน้ำ พยายามอย่าให้หัวเตียง อยู่ใกล้ประตูห้องน้ำ เพราะเมื่อหัวเตียงติดกับประตูห้องน้ำ เวลามีคนเดินเข้าห้องน้ำช่วงกลางคืน เสียงกดชักโครก เปิดน้ำ หรือแม้แต่กลิ่นเหม็น พวกนี้คือเรื่องของการรบกวนการนอนทั้งสิ้น เพราะเวลากลางคืน แค่นาฬิกาเดินเบาๆ เรายังได้ยินเลย ดังนั้นพวกนี้คือสิ่งรบกวน ทำให้เรานอนหลับไม่สนิท พอหลับไม่สนิทก็เพลีย พอเพลียก็หงุดหงิด ชีวิตคู่ก็ไม่ราบรื่น พอจะจู๋จี๋กันหน่อยก็ไม่ไหวเพราะอ่อนเพลีย

แต่หากบางครั้งเราเลี่ยงไม่ได้ ต้องนอนติดกับผนังห้องน้ำ ก็ต้องระวังไม่ให้หัวเตียงไปชนกับชักโครก เหตุผลก็คือ เวลาเรากราบหมอน ก็เหมือนกราบส้วม เพราะส้วมอยู่ตรงหัวเลย รวมถึงเรื่องความชื้นด้วย เพราะบางครั้งเมื่ออยู่ใกล้ชักโครก น้ำบริเวณนั้นก็อาจซึมอยู่ใกล้หัวเรา แล้วส่งผลต่อสุขภาพโดยที่เราไม่รู้ตัว

ประตูห้องนอน ไม่ชนกับหัวเตียง-ปลายเตียง ประตูห้องนอน ไม่ควรที่จะให้เปิดห้องเข้ามาแล้วชนกับหัวเตียง เพราะหากเป็นแบบนั้น ใครเดินผ่านหรือมาใกล้ที่ประตูนิดเดียวเราก็ได้ยิน หรือจะตรงกับปลายเตียงเลยก็ไม่ดี เหตุผลก็เพราะเวลานอน บางครั้งเราอาจแต่งตัวไม่เรียบร้อย ถ้านอนแล้วโป๊อยู่ใครเปิดเข้ามาก็เห็นหมด ทางที่ดีคือให้เตียงอยู่เยื้องกับประตู

หันหัวเตียงไปในทิศ ที่นอนแล้วรู้สึกสบาย ส่วนสำคัญอีกอย่างคือ หัวเตียง ถ้านอนไม่ถูกทิศ ตื่นขึ้นมาจะไม่สดชื่น ซึ่งเรื่องนี้แนะนำว่า อย่าไปคำนึงเรื่องทิศตะวันตก ว่าเป็นทิศที่ห้ามนอน เพราะโลกเราหมุนรอบตัวเอง คนไทยบอกตะวันตกห้ามนอน จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย ถ้านอนไม่หลับคุณลองเลื่อนที่นอนไปนอนมุมอื่น หาทิศทางว่ามุมไหนตัวเองนอนแล้วเรารู้สึกสบายที่สุด เราสามารถหาทิศเองได้ แต่หากปรับแล้วก็ยังรู้สึกไม่ดีจริงๆ อันนั้นอาจต้องให้ซินแส ไปคำนวณดูความเหมาะสม

ห้ามติดกระจกอยู่ปลายเตียง กระจกเงาอย่าให้อยู่ปลายเท้า เวลาลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเห็นเงาตัวเองอยู่ในกระจกนั้นไม่ดี อันนี้รวมหมดไม่ว่าจะเป็นกระจกยาว หรือกระจกจากโต๊ะเครื่องแป้ง ถ้าเวลานอนมองไปแล้วเห็นหน้าตัวเองก็ไม่ดี ทางที่ดีควรวางไว้เยื้องๆ กับเตียง รวมถึงการติดกระจกไว้ที่เพดานก็ไม่ดี เพราะกระจกมันเป็นสิ่งสะท้อน บางทีตื่นมาแล้วเราเห็นตัวเอง ก็อาจจะตกใจ สะดุ้งได้

เช่นเดียวกับหัวเตียงก็ไม่ควรมีกระจก คือ อย่าหันกระจกเข้าหาตัวเราเอง ไม่ว่าด้านไหนก็แล้วแต่ บางกรณีถามว่า ถ้าติดกระจกไปแล้วจะทำอย่างไร อาจารย์จะแนะนำให้เอาผ้าม่านมาปิดไว้ เวลาจะนอนก็รูดผ้าม่านปิดไว้ หรืออาจติดสติ๊กเกอร์ที่ด้านล่างของกระจก เพื่อไม่ให้ส่องเห็นเงาของตัวเองขณะนอน

ห้องนอนไม่มีเหลี่ยมมุมเยอะเกินไป เรื่องของเตียงไม่ควรมีเหลี่ยม ถ้ายังใช้เตียงที่มีเหลี่ยม มีมุมอยู่ ก็ควรหาสิ่งนุ่มๆ มาหุ้ม เพื่อป้องกันการชน คือ ในห้องนอนอย่ามีมุมเยอะ เพราะบางทีเรานอนตื่นมา จะลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ ถ้ามุมเยอะ เหลี่ยมเยอะ ก็มีโอกาสลงจากเตียงแล้ว เดินชนนู่นนี่จนเจ็บตัวได้ง่ายๆ

ไม่ควรวางพระ-วัตถุมงคลในห้องนอน อย่าไปเอาพระไว้ในห้องนอน อย่าให้พระ ต้องเป็นพยานในรักเราเลย เวลาคุณอยู่กับแฟน มีอะไรกับแฟน คงไม่ดีนักถ้ามีพระตั้งอยู่ในห้องนั้นด้วย ดังนั้นสำหรับสิ่งของมงคลอย่างนี้ หามุมวางที่เป็นสัดส่วนจะดีกว่า และถึงแม้คุณจะโสด แต่เวลาแต่งเนื้อแต่งตัว ก็ไม่เหมาะ พวกนี้เป็นเรื่องของความเป็นสิริมงคล ซึ่งอาจารย์แนะนำว่า อย่าวางพระในห้องนอนเลย เพราะพระเป็นอิม ก็คือ พลังของวิญญาณ ความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนคนคือเอี๊ยง มีความร้อนแรง ดังนั้นอย่าเอาอิม กับเอี๊ยงไปอยู่ร่วมกัน”

*เกร็ดเด็ด! จัดส่วนอื่นในบ้าน เพื่อรักรื่นรมย์

เมื่อกล่าวถึงส่วนสำคัญอย่างห้องนอนไปแล้ว ซินแสรุ่นใหญ่ไม่ลืมที่จะบอกถึงองค์ประกอบการจัดฮวงจุ้ยส่วนอื่นๆ ของบ้าน เพื่อให้เจ้าของบ้านอยู่สบาย สุขภาพดี และมีชีวิตคู่เป็นสุขมาด้วย

ห้องน้ำ ติดพัดลมดูดอากาศ ในห้องน้ำ ควรติดพัดลมดูดอากาศเอาไว้ เวลาแฟนเข้าห้องน้ำ อาบน้ำออกมา เข้าส้วมออกมา จะได้ไม่ต้องมาบ่นกันว่า ทำไมถึงร้อน ถึงเหม็นอย่างนี้ ดังนั้นติดพัดลมดูดอากาศเลย พอเราอาบน้ำเสร็จ ทำธุระในห้องน้ำเสร็จ ก่อนออกมาก็เปิดพัดลมดูดอากาศเสีย พออีกฝ่ายเข้าไป ก็ไม่เหม็น ก็ไม่ต้องมาทะเลาะกัน เรื่องอย่างนี้เราต้องรู้เข้าใจซึ่งกันและกัน เมื่อรู้แล้วก็แก้ไขเสียให้มันหมดเรื่อง ไม่ต้องมานั่งบ่น นั่งหงุดหงิดใส่กัน

ห้องครัว ซิงค์(sink)น้ำ-เตาไฟ ห้ามอยู่แถวเดียวกัน ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่า คู่รักจะอยู่กันอย่างราบรื่น ให้คำนึงถึงเรื่องซิงค์น้ำและเตาไฟ อย่าวางแถวเดียวกัน ตั้งฉากเป็นตัว Lได้ แต่อย่าวางแถวเดียวกัน หรืออยู่ตรงข้ามกัน อย่างนั้นไม่ดี ซึ่งเรื่องนี้รวมถึงเตาไมโครเวฟ กับตู้เย็นด้วย เพราะมันเป็นเรื่องของความร้อนที่ปะทะกับความเย็น พวกนี้เป็นจุดหนึ่งของชีวิตครอบครัว ที่ทำให้เกิดความหงุดหงิด ขัดแย้งกัน เหมือนที่เปรียบว่าน้ำดับไฟ ไฟเผาน้ำ ครอบครัวก็จะทะเลาะกันอยู่เรื่อย สุขภาพแย่ เงินทองรั่วไหล

ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร สร้างบรรยากาศความรัก มองแล้วรื่นรมย์ ห้องนั่งเล่น ควรจัดบรรยากาศให้ดี ให้เห็นมุมมองที่ดี อย่าให้เห็นสิ่งที่รกหูรกตา รวมถึงบรรยากาศในห้องกินข้าว ก็อย่าให้ตรงกับห้องส้วม เพราะจะเกิดกลิ่นไม่ดีเวลากินข้าว และความรู้สึกเวลากินข้าวแล้วเห็นส้วม มันก็ไม่ค่อยรื่นรมย์นัก”

รบถ้วนเรื่องการจัดฮวงจุ้ยกันแล้ว ซินแสชื่อดัง จึงส่งท้ายด้วยการกระตุ้นเตือนเรื่องง่ายๆ ที่อยากให้คู่รักทั้งหลายใส่ใจ

“สิ่งสำคัญในเรื่องการจัดฮวงจุ้ย เพื่อรักราบรื่น นอกจากจะมีรูปคู่ รูปครอบครัวติดไว้ เพื่อเป็นการกระตุ้นจิตใจแล้ว อีกสิ่งที่ไม่ควรละเลยคือ ต้องเอาอกเอาใจซึ่งกันและกัน ห่วงหาดูแลกัน แม้จะมีภาระหน้าที่ต้องทำงาน อย่างน้อยโทรศัพท์หากันสักหน่อย กินข้าวหรือยัง นี่คือความห่วงหาอาทร ความห่วงใย ไม่ใช่การคอยจับผิด แต่เป็นการทำให้อีกฝ่ายรู้ว่า ลึกๆ แล้วเราห่วงเขานะ

เพราะหลักจริงๆ ของฮวงจุ้ยคือ จัดแล้วให้คนอยู่รู้สึกสบาย แต่สิ่งสำคัญของการใช้ชีวิตคู่ก็คือ เรื่องของการปฏิบัติ การดูแลซึ่งกันและกัน ซึ่งตรงนี้มันต้องทำไปคู่กัน” ซินแสภาณุวัฒน์ให้ข้อคิดชีวิตคู่ทิ้งท้าย


คลิกอ่าน Bride To Be: การ์ดแต่งงาน-ของชำร่วย ดีไซน์ใดตรึงใจแขกเหรื่อและรักของเรา

Bride To Be: เค้กแต่งงาน ทำไมต้องมี ทำไมต้องสูง ทำไมไม่อร่อย?!?

Bride To Be: ดอกไม้พันธุ์ไหน กลีบใดชูช่อเหมาะสำหรับงานแต่ง

Bride To Be: เคาะกึ๋น Wedding Planner ตัวช่วยคู่บ่าวสาวในวันแต่ง

Bride To Be: 6 ข้อต้องคำนึงก่อนตัดเช่าชุดเจ้าสาว

Bride To Be: แต่งหน้าเจ้าสาวสไตล์ใสๆ ไม่โบ๊ะไม่วอกเกินจริง

Bride To Be: ยังไงก็ยังตีโป่งเกล้าผม แต่เทคนิคไหนไม่เชยไม่แก่ พร้อมเกร็ดฯที่เจ้าสาวต้องรู้

Bride To Be: เข้าคอร์สสปาเจ้าสาว เตรียมผิวใสปิ๊งเด่นเด้งในวันวิวาห์


>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น