xs
xsm
sm
md
lg

ดร.พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ เผยความสำเร็จในฐานะผู้นำหลังบ้าน ครม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้เห็น ดร.พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยานายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ ปรากฏกายให้เห็นในแวดวงสังคม ยกเว้นพิธีสำคัญที่ต้องออกงานเคียงข้างสามีเท่านั้น

หากแต่ในงานฉลองครบรอบ 100 ปีวันสตรีสากล ซึ่งสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภายใต้การนำของ คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ร่วมกับ สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงพัฒนาสัคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฯลฯ ได้ร่วมกันจัดงานเสวนาในหัวข้อ “สิทธิโอกาสที่เสมอภาค เป็นปัจจัยให้โลกก้าวหน้า” ซึ่งมี ดร.พิมพ์เพ็ญ ผู้นำ “หลังบ้าน ครม.” เป็นประธานกล่าวเปิดงาน

บรรยากาศในห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มี.ค.53 อบอุ่นไปด้วยบรรดาสตรีจากหลากหลายวงการ ที่ตบเท้ามาร่วมแสดงสิทธิความเสมอภาคระหว่างชายหญิง

คุณหญิงณัฐิกา กล่าวว่า วันที่ 8 มี.ค.ของทุกปี ถือเป็นวันสตรีสากล และในโอกาสที่ปี 2553 เป็นวันครบรอบ 100 ปีวันสตรีสากล สภาสตรีแห่งชาติฯ จึงได้เชิญ 8 องค์กรภาคี ร่วมจัดงานเสวนา “สิทธิโอกาสที่เสมอภาค เป็นปัจจัยให้โลกก้าวหน้า” เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการให้สิทธิโอกาสเสมอภาคระหว่างชายหญิง และตระหนักถึงปัญหาอุปสรรคที่ยังคงมีอยู่ โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนของสังคม เห็นความสำคัญของสตรีและการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรี

ขณะเดียวกัน ดร.พิมพ์เพ็ญ ในฐานะผู้นำ “หลังบ้าน ครม.” ได้กล่าวถึงบทบาทของสตรีภาคภาษาอังกฤษขนาดยาวเป็นครั้งแรกว่า ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา สตรีได้สร้างความก้าวหน้าทั้งต่อสถานภาพทางสังคมและความเป็นอยู่ของตน ซึ่งแตกต่างจากบทบาทของสตรีในสมัยก่อน ที่มีหน้าที่หลักคือการเป็นภริยา มารดา ดูแลครอบครัวและบุตร แต่สตรีในปัจจุบันสามารถยืนหยัดและเลี้ยงดูตนเองได้ สตรีบางคนได้กลายเป็นผู้นำของสังคมในหลายแขนง และส่วนตัวก็เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นแต่ทั่วโลกด้วย

สำหรับประเทศไทย รัฐธรรมนูญกำหนดให้เพศหญิงและเพศชายได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นรัฐบาลจึงมีความรับผิดชอบที่จะออกนโยบายเพื่อสนับสนุนการสร้างความเสมอภาคทางเพศ และขจัดการเลือกปฏิบัติและความรุนแรงใดๆ ต่อสตรี แต่อันที่จริงแล้ว ทุกคนมีความรับผิดชอบในการนำนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติ นอกจากนั้น ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบหรือ CEDAW รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามพันธะของอนุสัญญาฯ ในการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี ซึ่งหากจะกล่าวไปแล้ว นโยบายการพัฒนาเพื่อสตรีก็ได้บรรจุเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว นอกจากนั้น ทุกกระทรวงได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารด้านการเส่งสริมบทบาทหญิงชาย และศูนย์ประสานงานด้านความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย เพื่อช่วยส่งเสริมความสำคัญของเรื่องความเสมอภาคทางเพศ

นอกจากนี้ ภริยานายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทยยังกล่าวด้วยว่า เธอเองในฐานะสตรีที่ต้องทำงาน และเป็นทั้งภริยาและมารดาในเวลาเดียวกัน ก็ได้ตระหนักดีถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นในโลกยุคโลกาภิวัตน์ และยุคแห่งการแข่งขัน แต่ถ้าเราทำงานร่วมกันเป็นทีม เธอเองก็เชื่อว่าเราจะมีความเข้มแข็งและประสบความสำเร็จได้ และหากผู้หญิงและผู้ชายทุกคนทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กัน เราแน่ใจได้ว่าจะไม่มีสังคมใดที่จะถูกทอดทิ้งให้ล้าหลัง

ไฮไลต์สำคัญก่อนเลิกงาน ดร.พิมพ์เพ็ญ ยังได้นำข้อคิดของตัวเองไปติดบนบอร์ด “A Century of Women's Voices” โดยมีข้อความว่า
“ผู้หญิงจะถือว่าตนเองประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อ เธอประสบความสำเร็จทั้งในชีวิต อาชีพ และครอบครัว” (A woman's success is a combination of the success in her life, her family and her career)
กำลังโหลดความคิดเห็น