ครม.ไฟเขียวหนุน 32 ล้านจัดงานรำลึกสวรรคต 100 ปีพระปิยมหาราชเป็นวาระแห่งชาติ วธ.ชวนทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชน ร่วมจัดงานเทิดพระเกียรติ ท่องเที่ยวเรียนรู้ตามรอยเสด็จประพาสต้น ปรับปรุงพระราชานุสาวรีย์ทั่วประเทศ ตลอดปี2553
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบโครงการและกิจกรรมน้อมรำลึก 100 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวาระแห่งชาติ ตามที่วธ.เสนอ เนื่องจากในวันที่ 23 ตุลาคม 2553 เป็นวาระครบรอบ 100 ปีแห่งวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วธ.ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่องานด้านศิลปวัฒนธรรมและการศาสนา
ในขณะเดียวกัน เอกสารการเลิกทาสของพระองค์ยังได้รับการยกย่องให้เป็นเอกสารที่บันทึกความทรงจำแห่งโลกหรือเอกสารมรดกโลก จากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก)ด้วย จึงเห็นควรจัดงานดังกล่าวขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชน ภาครัฐและเอกชน แสดงความสำนักในพระมหากรุณาธิคุณร่วมกัน
นายธีระกล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการและกิจกรรมน้อมรำลึกฯ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม และต่อเนื่องตลอดปี 2553 ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการ ในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพของพระองค์ให้นักเรียน นักศึกษา ไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ได้เรียนรู้ การอภิปรายและเสวนา การจัดการแสดง อาทิ แสดงละครบทพระราชนิพนธ์ เรื่องเงาะป่า การจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก การสร้างสิ่งอนุสรณ์ รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทุกแห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังให้แต่ละจังหวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้เสด็จประพาสต้น นำพระราชกรณียกิจเหล่านี้มาเผยแพร่และจัดกิจกรรมให้ประชาชนได้ไปท่องเที่ยวตามรอยเสด็จประพาสต้นด้วย
“ครม.ได้พิจารณาแล้วเห็นควรสนับสนุนโครงการนี้และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน เพราะเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระคุณูปการแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างอเนกอนันต์ ซึ่งสมควรจัดงานน้อมรำลึกและให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมดำเนินการดังกล่าว โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบกลางให้แก่กรมศิลปากร จำนวน 32 ล้านบาทในการจัดงานในส่วนกลาง ขณะที่ส่วนภูมิให้ใช้งบประมาณจังหวัด และขอการสนับสนุนจากประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมกันจัดงานอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ”รมว.วัฒนธรรม กล่าว