“ตอนเด็กๆ ผมเป็นเด็กเกเรมาก จนแม่ผมต้องส่งไปเรียนที่แคนาดา และที่นั่นเองทำให้ผมพบสิ่งที่ผมรัก และกลายเป็นเส้นทางอาชีพที่ผมชอบมากที่สุด” ดีไซเนอร์หนุ่ม มาร์ค-สุรวีร์ สุสมบูรณ์ วัย 25 ปี เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่จะได้เปิดห้องเสื้อ Passione และประเดิมคอลเลกชันแรก Geomatic ของตัวเอง
มาร์คเล่าให้ฟังถึงเส้นทางชีวิตที่เข้าสู่การเป็นนักออกแบบว่า “สิ่งแวดล้อมที่นั่นทำให้ผมตั้งใจเรียนอย่างเดียว เพราะไม่มีกิจกรรมอะไรนอกจากเรียน เกรดผมดีมากและสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นั่นได้ แต่ผมกลับเลือกเรียนด้านแฟชั่นดีไซน์ในระดับคอลเลจแทน เพราะผมคิดว่าผมชอบด้านนี้และถนัดมากกว่า พอเรียนจบ อาจารย์ที่นั่นได้แนะนำให้ผมทำปริญญาตรีด้วย เพราะแฟชั่นยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ผมจึงตัดสินใจไปเรียนต่อด้านแฟชั่นที่ Accademia Italiana ประเทศอิตาลี พร้อมกับได้รับปริญญาตรีที่ University of Wales ของอังกฤษพร้อมกันไปด้วย”
เมื่ออาจารย์ให้การสนับสนุน จากหนุ่มหนีเรียน ได้กลายเป็นยังก์ดีไซเนอร์หนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยฝีมือ โดยเฉพาะงานด้านแพตเทิร์นและเสื้อผ้าที่เน้นงานดีเทล “สไตล์ของผมจะออกแนวกูตูร์ เน้นการจับจีบ เดรปปิ้ง อัดพลีท และโดยส่วนตัวผมจะชอบความเนี้ยบและหรูนิดๆ ซึ่งผมจะผสานความรู้ที่ได้จากแคนาดาอย่าง Mass Productionให้เข้ากับงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของอิตาลีเข้าด้วยกัน”
“Geomatic” คอลเลกชันแรกของเขา เป็นเครื่องการันตีทั้งฝีมือและความตั้งใจของดีไซเนอร์หนุ่มคนนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเขาลงทุนทุบกระปุกเงินเก็บที่มีทั้งหมด มาเปิดร้านหรู Passione บนตึก Glass ซอยทองหล่อ เพื่อประเดิมคอลเลกชันแรกด้วยเสื้อผ้าสไตล์ เมด ทู ออเดอร์ ซึ่งมีทั้งหมด 15 ชุด
“คอลเลกชันนี้ ผมได้แรงบันดาลใจมาจากงานสถาปัตยกรรมของ Duomo ที่เมืองฟลอเรนซ์ เน้นโทนสีขาวดำ ด้วยรูปแบบของค็อกเทลเดรส ผมคิดว่าผู้หญิงต้องมีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องมั่นใจด้วย ผมจึงเลือกสรรทั้งวัตถุดิบ เนื้อผ้า และเน้นคัตติ้งดีๆ ผู้หญิงควรเลือกชุดที่ใส่แล้วทำให้คุณสวย ไม่ใช่เพียงแค่มองชุดที่สวยแล้วก็ซื้อโดยไม่ได้ลอง”
แม้เส้นทางสายแฟชั่นในเมืองไทยจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับดีไซเนอร์หนุ่มคนนี้ แต่ “โอกาส” ดูจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการจากคนไทย ไม่เฉพาะกับเรื่องแฟชั่นเท่านั้น แต่ควรมีให้กับเด็กเกเร ซึ่งเขาเคยเป็นมาก่อน
“ผมอยากให้คนไทยเปลี่ยนทัศนคติใหม่ต่อเด็กที่เกเรบ้าง อย่าไปคิดว่าเขาเกเรแล้วไม่มีอนาคต เพียงแต่พวกเขาอาจจะยังค้นหาตัวเองไม่เจอ เหมือนตัวผมเอง ถ้าตอนนั้นคุณแม่ไม่ได้ส่งผมไปเรียนเมืองนอก และได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์ที่นั่น ตอนนี้ผมอาจจะไม่ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้” มาร์คฝากทิ้งท้าย
พบกับคอลเลกชันใหม่ของหนุ่มยังก์ดีไซเนอร์คนนี้ได้ ณ ร้าน Passione ชั้น 2 ตึก Glass ทองหล่อซอย 12 หรือที่ www.passione-mark.com