xs
xsm
sm
md
lg

Raffles Hotel Singapore ดาวค้างฟ้าที่ยังไม่ถูกสอย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจ้าชายอัลวาลีด แห่งซาอุดิอาระเบีย เจ้าของคนปัจจุบันของRaffles Hotel Singapore
เมื่อกลางเดือนเมษายนของปีที่แล้ว เจ้าชายอัลวาลีด แห่งซาอุดิอาระเบีย ผู้เป็นหนึ่งในอัครอภิมหาเศรษฐีของโลก ได้ประกาศขายโรงแรม Raffles สิงคโปร์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุด มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และถือเป็นอาคารสำคัญอาคารหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ นอกจากที่ได้ประกาศขายหุ้นจำนวนครึ่งหนึ่งของโรงแรม 4 Seasons  ในกรุงเจนีวาไปแล้วเมื่อก่อนหน้านี้
   สาเหตุที่ทำให้บริษัทผู้ดูแลอสังหาริมทรัพย์ของเจ้าชายพระองค์นี้ มีความจำเป็นที่จะต้องขายอสังหาริมทรัพย์บางส่วนออกไป ก็เพราะมูลค่าของทรัพย์สินของเจ้าชาย อัลวาลีดลดลงจากทรัพย์สินที่เคยมีอยู่ ซึ่งประมาณว่าเคยมีมูลค่า 21,000ล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือเพียง 13,000 ล้านดอลลาร์ และที่ทรงตัดสินพระทัยขายโรงแรม Raffles สิงคโปร์ตามคำแนะนำของที่ปรึกษาของพระองค์ ก็เพราะเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะทำกำไรได้มากพอ โดยตั้งราคาขายอยู่ที่ 450 ล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวนี้ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดานักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างมาก
  เพราะโรงแรม Raffles ที่สิงคโปร์น่าจะเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงจนตั้งราคาลำบาก อันเนื่องมาจากประวัติความเป็นมาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งนี้ ตลอดเวลากว่าศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ทวีมูลค่าให้อสังหาริมทรัพย์แห่งนี้เป็นที่ต้องตาต้องใจนักลงทุนเป็นยิ่งนัก

Raffles Hotel Singapore
แม้จะไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่บนถนนสายเก๋ของมหานครใดมหานครหนึ่งในยุโรป แต่สิงคโปร์ก็เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองท่าสำคัญเมืองหนึ่งของอุษาคเนย์ ความสำคัญของโรงแรมแห่งนี้เริ่มในปี1887 เมื่อเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด บิงเลย์ แรฟเฟิล ผู้ซึ่งเป็นนักล่าอาณานิคมของอังกฤษ เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบและก่อสร้างอาคารหลังนี้ขึ้น พร้อมทั้งชักธงชาติแห่งสหราชอาณาจักรขึ้นบนยอดของโรงแรมแห่งนี้
  อาคารทรงโคโลเนียลถูกก่อสร้างขึ้นอย่างมีการวางผังที่ดีเยี่ยม โดยมีการผสมผสานสวนไม้เมืองร้อนที่เขียวชอุ่มและสวนปาล์มที่มีใบรูปทรงแปลกตา เป็นที่กล่าวขวัญอย่างมาก เมื่อชาวต่างชาติ นักเดินทางและนักแสวงโชคทั้งหลาย เดินทางมาสู่ดินแดนแห่งนี้ และได้เข้ามาชมสถานที่ที่ใครๆก็กล่าวขวัญถึง สิ่งที่ดึงดูดให้ชาวต่างชาติทั้งหลายแวะเวียนมาตลอดเวลาคือ การตกแต่งภายในที่ใช้วัสดุพื้นเมืองต่างๆ เช่น ต้นหวาย ใบปาล์ม ไม้สัก เครื่องเคลือบต่างๆ และพัดลมเพดานที่ใช้ไม้แผ่นบางเฉียบมาทำเป็นใบพัดลม อันเป็นแหล่งอวดวัสดุท้องถิ่นของชาติต่างๆในเอเซีย ที่ถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่และนำมาผสมผสานกันอย่างน่าชม
ความงดงามของโรงแรมแห่งนี้ ถูกกล่าวขวัญในหมู่นักเดินทาง จนกลายเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องถือโอกาสมาชมให้ได้สักครั้ง ขนาดนักเขียนชื่อก้องโลก อย่าง Somerset Maugham ยังยึดเอาโรงแรมแห่งนี้เป็นที่พัก เพื่อที่จะหาวัตถุดิบต่างๆ มาเขียนในบทประพันธ์ของเขา โดยว่ากันว่า ทุกเช้าเขาจะยึดโต๊ะอาหารที่อยู่ทางปีกซ้ายของโรงแรมในบริเวณสวนปาล์ม และเขาจะทอดสายตามองผ่านกลุ่มต้นลั่นทม เพื่อจินตนาการถึงวรรคตอนต่างๆที่เขาจะบรรยาย นอกจากนั้น เขายังมีความสุขที่จะได้เห็นดอกกล้วยไม้ที่ห้อยอยู่ในกระถางเล็กๆ และแนวต้นเฟื่องฟ้าสีสดใสที่แต่งแต้มให้บริเวณแห่งนั้นมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
ใช่เพียงแต่ความรื่นรมย์สวยงามของโรงแรมนี้จะเป็นที่กล่าวขวัญเท่านั้น หากแต่เสี้ยวหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในโรงแรมนี้เช่นกัน เมื่อทหารญี่ปุ่นจำนวนถึง300นาย ทนยอมรับความพ่ายแพ้ของสงครามไม่ได้ ทั้งหมดจึงฆ่าตัวตายเพื่อหนีความอายด้วยการกำระเบิดพลีชีพและเสียชีวิตทั้งหมดในโรงแรมแห่งนี้เมื่อปี 1945 เหตุการณ์นั้นกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ยังคงฝังใจหลายคนจนทุกวันนี้

มุมสวย ๆ ภายในโรงแรม
อีกสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นตำนานที่ทำให้โรงแรม Raffles คงความเป็นอมตะก็คือ The Long Bar บาร์เหล้าต้นกำเนิดของเครื่องดื่มก่อนอาหาร Singapore Sling ที่ใครๆก็ต้องสั่งมาจิบ และทิ้งเปลือกถั่วลิสงคั่วลงบนพื้นไม้หลังจากกินเนื้อในแล้ว อันเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่แล้ว บริกรในชุดโสร่งปาเต๊ะสีน้ำตาลลายนวล เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวสะอาด ก็ยังคงเป็นชุดดั้งเดิมที่ใส่กันมาชั่วนาตาปี ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และที่สำคัญที่สุดที่เป็นเอกลักษณ์เด่นชัดของโรงแรมคือ ชุดของยามเฝ้าโถงทางเข้า ก็ยังคงเป็นชาวอินเดียในชุดองครักษ์สีแดงเต็มยศ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ ที่ใช้ประชาสัมพันธ์ไปในทุกงานเมื่อมีการไปทำประชาสัมพันธ์ทุกแห่งในโลก
  แม้จะกลายเป็นหนึ่งในโรงแรมแห่งตำนานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโรงแรมระดับลักส์ชัวรีส์แห่งนี้ แต่จนบัดนี้ยังไม่มีข่าวการตกลงซื้อขายโรงแรมแห่งนี้อย่างเป็นทางการ  คงมีเพียงข่าวโคมลอยว่ามีนักลงทุนผู้ไม่ประสงค์จะออกนามจากสวิตเซอร์แลนด์บ้าง  อเมริกาบ้าง อาหรับบ้าง ที่สนใจใคร่ซื้อ  เพราะราคาที่ตั้งไว้ ดูจะเป็นอุปสรรคสำคัญ  ในยามที่เศรษฐกิจของโลกยังไม่ยอมเชิดหัวขึ้น  รวมไปจนถึงธุรกิจการท่องเที่ยวยังซบเซาอยู่ในขณะนี้

ภาพจากhttp://www.fivestaralliance.com
กำลังโหลดความคิดเห็น