xs
xsm
sm
md
lg

พัทธมน เตชะณรงค์ แหกกฎธุรกิจโบนันซ่า เขาใหญ่ สู่เส้นทางสายแฟชั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ว่าจะเป็นสาวน้อยทายาทธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง “โบนันซ่า เขาใหญ่” แต่ “พัทธมน เตชะณรงค์“ กลับเลือกที่จะเดินตามฝันและไม่เคยมีคำว่า “เสียใจ” หรือคำว่า “สาย”...โดยเธอเลือกเส้นทางสายแฟชั่นที่เธอฝันไว้มานาน แม้ว่ากว่าที่จะได้ทำตามความฝันอาจจะต้องผ่านสิ่งอื่นๆ มาก่อนและต้องขัดใจกับทางบ้านบ้าง แต่วันนี้เธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการที่เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ผลที่ออกมาย่อมทำให้แฮปปี้กันทุกๆ ฝ่าย

ทายาทคนที่ 3 ของเจ้าของโบนันซ่า เขาใหญ่ “คุณไพวงษ์-คุณภัสสรา เตชะณรงค์” น้องสาวแสนสวยของหนุ่มฮอต “สงกรานต์ เตชะณรงค์” พัทธมน เตชะณรงค์“ หรือ แจน ไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ตั้งแต่ ม.2 จนจบไฮสคูล จากนั้นกลับมาเรียนที่คณะวิศวะกรรมศาสตร์ (ภาคภาษาอังกฤษ) สาขาสิ่งแวดล้อม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนที่จะออกมาเรียนทำอาหารที่เลอ กอร์ดอน เบลอ เพราะชอบทำอาหารและทำงานฝีมือ และสุดท้ายที่ลงตัวกับเธอมากที่สุดคือการเรียนด้านการออกแบบแฟชั่นที่ “อะคาเดเมีย อิตาเลียนา” ทองหล่อ สถาบันสอนการออกแบบจากอิตาลี
“แจนเลือกที่จะเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ อาจจะไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือกิจการของทางบ้านมาก แต่มีอะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วย อย่างตอนนี้พี่กรานต์ เขาดูแลอยู่เต็มตัวทำให้เบาแรงคุณพ่อคุณแม่ไปเยอะ สำหรับแจนคุณพ่อคุณแม่จะคอยดูแลเสมอ หากมีเรื่องต้องตัดสินใจท่านจะแนะนำแนวทางให้เราตัดสินใจเองว่าจะเดินไปทางไหน คุณพ่อเป็นคนที่ขยันมาก ตรงต่อเวลาด้วย ทำให้เราเห็นและยึดเป็นแบบอย่างมาตั้งแต่เด็ก
คุณพ่อคุณแม่ก็รักลูกเหมือนทุกคน ที่อยากจะให้ลูกได้มีการศึกษาที่ดี ท่านก็จะส่งลูกไปเรียนต่างประเทศเพื่อให้ฝึกประสบการณ์อะไรหลายๆ อย่าง แต่สำหรับลูกสาวคุณพ่อก็จะหวงมากหน่อย หรืออย่างพี่กรานต์เขาก็มีความเป็นผู้ใหญ่มาก เวลามีเรื่องอะไรก็จะไปปรึกษาพี่เขา”


ค้นหาตัวเอง
ทุกคนพากันคิดว่าการที่ทางบ้านมีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว ผู้ที่เป็นทายาทจะมักต้องเลือกเรียนในสิ่งที่สามารถมาสนับสนุนกิจการนั้น แต่ความจริงแล้วนั้นต่างคนต่างก็อยากจะค้นหาความฝันและทำให้ฝันเป็นจริง เช่นเดียวกับพัทธมนที่เธอสามารถค้นหาความฝันของตัวเองเจอ แม้ว่าในบางครั้งเธอต้องขัดใจพ่อแม่บ้าง
“ตอนแรกแจนเรียนที่วิศวะ หลักสูตรอินเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำลังจะขึ้นปี 4 แล้ว แต่ลาออก เพราะว่าสิ่งที่เราเรียนอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ ถึงเราจะเรียนจบออกมาแต่เราก็คงไม่ได้เอาไปใช้ทำงาน ก็เลยตัดสินใจไปเรียนรู้สิ่งที่เราชอบดีกว่า
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ตัดสินใจตอนนั้น กดดันมาก เพราะคุณพ่อคุณแม่เขาก็คิดแบบผู้ใหญ่ อยากให้เราเรียนการโรงแรมเพื่อมาช่วยดูแลกิจการ โดยมองว่าการเรียนแฟชั่นจะไปทำมาหากินอะไร? แต่ตอนนั้นแจนยอมรับว่าตัวเองดื้อมาก คิดว่าทุกคนมีความฝันของตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าเราจะตัดสินใจตอนไหน สุดท้าย อย่างไรเราก็เลือกที่จะทำตามความฝันของตัวเองอยู่แล้ว ที่จริงแจนอยากเรียนแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ”
เมื่อชัดเจนอยู่แล้วว่าความฝันของเธอคือการได้เป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ เธอจึงไม่รอช้าที่จะทำความฝันให้เป็นจริง ด้วยการลงมือทำอย่างตั้งใจเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเอง ว่าเมื่อได้อยู่กับสิ่งที่เธอรักแล้วเธอสามารถทำได้ดีขนาดไหน!
“ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่เขาก็ไม่โอเค คุยกันหลายครั้งมาก อาจเป็นเพราะเขาอาจไม่ได้สนใจเรื่องแฟชั่น แต่ที่จริงแล้วเรื่องของแฟชั่น เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก จนหลังๆ เขายอมให้แจนเรียนตามที่ตัวเองชอบ แล้วเมื่อเขาได้เห็นผลงานที่แจนทำ เขาก็แฮปปี้ ตอนนี้เขาก็ไม่ว่าอะไรเราแล้ว เพราะแจนสามารถทำได้...แถมทำได้ดีด้วย! จนบ้างครั้งเขายังแอบเอาผลงานแจนไปอวดเพื่อนๆ ของเขาเลย (พลางหัวเราะ)”


แฟชั่นคือความฝัน
แม้เคยคิดว่าตัวเองอาจค้นหาตัวเองเจอช้าไปหน่อย แต่ก็ไม่สายเกินไปที่เธอจะเลือกเดินบนเส้นทางสายแฟชั่น และดูท่าเธอจะมีความสุขทุกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องแฟชั่นและการออกแบบ
“แจนเริ่มมาจากการเป็นคนชอบแต่งตัว ชอบดีไซเนอร์หลายคน อย่างดีไซเนอร์ที่เป็นไอดอลในดวงใจ เช่น มาร์แตง มาเจล่า และดรี แวร์นอตเทน ในเมืองไทยอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักแต่ผลงานเขาโดดเด่นมากในต่างประเทศ เขาออกแบบได้เท่ดี ไม่ตามเทรนด์ แต่สิ่งที่ออกมาคือสไตล์ของเขา และมีกลุ่มที่ชอบสไตล์ของเขาอยู่เยอะ รวมทั้งตัวแจนที่ชอบแฟชั่นแนวสตรีตแวร์ แต่เป็นไฮต์แฟชั่น ถ้าถามว่าสไตล์โอต์กูตูร์ชอบหรือไม่? ก็ชอบนะ ชอบที่จะดูเรื่องของรายละเอียด อย่างลูกไม้ หรือว่าลูกปัด”
หลังจากติดตามผลงานบนรันเวย์ของดีไซเนอร์มาหลายคน จนวันหนึ่งเธอก็ต้องสร้างผลงานบนรันเวย์ของตัวเอง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนวิชาการออกแบบ ที่งานนี้เธอต้องลงมือเองอย่างเต็มตัว
“ล่าสุดทำแฟชั่นโชว์ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ซึ่งต่างคนต่างความคิดและต่างสไตล์ กว่าจะลงตัวก็ยากเหมือนกัน ซึ่งอาจารย์จะสอนให้เราคิด ทดลองทำ และแนะนำวิธีการหาแรงบันดาลใจ ให้ดูจากสิ่งรอบตัวหรือว่าหาหนังสือมาอ่าน
อย่างตอนที่ทำคอลเลกชั่นของแจนเองชื่อคอลเลกชั่น “สงครามโลก” แจนได้แรงบันดาลใจมาจากความขัดแย้งของคนไทยที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จนเกิดความรุนแรง ก็เลยหยิบมาเป็นคอนเซ็ปต์ จนเสื้อผ้าออกมาเป็นแนวเสื้อโค้ช กางเกง ออกแนวทหารเล็กน้อย ซึ่งผลงานของแจนส่วนใหญ่จะเป็นแนวสตรีตแวร์ เท่ๆ มากกว่า”


ตัวตนกับแฟชั่น
ด้วยบุคลิกที่ดูห้าวๆ ถึงไหนถึงกัน บวกกับความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้จัดได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว แม้ว่าการแต่งกายอาจจะไม่ได้อินเทรนด์ทุกเม็ด แต่ก็เป็นสาวที่มีความเก๋ในแบบฉบับของตัวเอง
“แจนไม่ใช่ผู้หญิงหวาน ชอบใส่กางเกงแล้วก็เสื้อสูทมากกว่า ตามแฟชั่นหรือไม่? ก็แค่ดูๆ แต่ไม่ได้ทำตาม บางทีแต่งตัวไม่ตามแฟชั่นจนชาวบ้านมอง อย่างการใส่กางเกงขาก๊วย เสื้อยืด หรือใส่กางเกงขาบานเต่อๆ ไม่ได้อัปเดตแฟชั่นมาก อยากใส่อะไรก็ใส่
ก่อนที่จะมาเรียนแฟชั่น ชอบติดตามข่าวแฟชั่นตลอดเวลา แต่พอเรียนแล้ว ไม่อยากดูมาก เพราะกลัวจะกลายเป็นว่าการที่เราดูแฟชั่นไปเยอะๆ ภาพที่ติดอยู่ในสมองเราจะทำให้ผลงานที่ออกมาไม่ได้มาจากตัวตนของเราจริงๆ ติดตามแค่บางอย่างที่เป็นเรื่องหลักๆ ของเทรนด์ขณะนั้น
หากพูดถึงเรื่องชอปปิ้งก็บ่อยนะ แต่ไม่มาก ชอปได้ทุกที่ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน จตุจักร วังหลัง แจนชอบของที่เป็นแนววินเทจ ซึ่งอันนี้ติดมาจากคุณพ่อ เพราะคุณพ่อชอบสะสมของเก่า เช่น ขวดน้ำหอมคริสตัล จานโบราณสวยๆ แจนก็เลยชอบเหมือนกัน”
นอกจากจะมีความมุ่งมั่นในความฝันและรักความทันสมัยแล้ว แต่เธอก็ยังสนใจในเรื่องของงานฝีมือแบบโบราณ อย่างการทอผ้าที่เธอวางแผนไว้แล้วว่า หลังจากที่เธอเรียนจบปริญญาตรีทางด้านแฟชั่นดีไซน์แล้ว เธอจะหาความรู้ด้านการทอผ้าต่อ
“หลังจากที่แจนเรียนจบทางด้านแฟชั่นดีไซน์แล้ว ก็อยากจะไปเรียนทางด้านทอผ้าแบบชาวบ้าน เพราะสมัยนี้คนมักจะใช้แต่เครื่องจักรของโรงงานทำทุกอย่าง ดังนั้น แจนคิดว่าเราควรที่จะหันกลับไปอนุรักษ์วัฒนธรรมแบบไทยๆ ไว้ คนไทยเก่งเรื่องทอผ้าอยู่แล้ว ที่สำคัญถ้าเราใช้มือในการทอผ้าเอง ผ้าที่ออกมาจะมีความละเอียดมากกว่าผ้าที่ได้จากเครื่องจักร เพราะมีความประณีต”
และแน่นอนว่าในความฝันของเธอก็จะต้องมีภาพที่วันหนึ่งเธอได้สร้างแบรนด์ที่เป็นของตัวเอง แต่สำหรับตอนนี้เธอบอกว่าอยู่ในระยะเก็บเกี่ยวความรู้ ไว้เมื่อไหร่ที่แข็งแกร่งพอเธอก็ไม่รอช้าที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองทันที

Credit
นางแบบ :: พัทธมน เตชะณรงค์
เสื้อผ้า :: Diesel คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2009 มีจำหน่ายที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี โทรศัพท์ 0-2658-0198
แต่งหน้า :: จีรวัฒน์ วรรธนะวิริยะกุล จากเครื่องสำอางลังโคม โทรศัพท์ 0-2684-3000
สถานที่ :: ร้าน Bellitas ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โทรศัพท์ 0-2129-4334
ประสานงาน :: สิริลักษณ์ เขตร์กุฎี
ช่างภาพ & สไตลิสต์ :: จิน ธรรมโชติ
บรรณาธิการแฟชั่น :: ไซม่อน พี

กำลังโหลดความคิดเห็น