ก่อนที่สมาร์ทโฟนท็อปฟอร์มกระแสดีอย่าง Sony Xperia Z5 จะวางขายอย่างเป็นทางการ Sony Xperia M5 ก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่หลายคนให้ความสนใจไม่แพ้กัน เพราะในครั้งนี้โซนี่ตั้งใจลบเสียงวิจารณ์ด้านลบที่เคยเกิดขึ้นกับ M4 Aqua โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพที่โซนี่จัดเต็มทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไม่แพ้ Z5 จนได้ชื่อว่า “เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับกลางที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่สุดในโลก” และถือเป็นครั้งแรกที่โซนี่ปรับปรุงกล้องถ่ายภาพใหม่หมดโดยนำฟีเจอร์จากกล้องดิจิตอลตระกูลอัลฟ่ามาบรรจุลงใน Xperia M5 พร้อมด้วยราคาที่ยังจัดว่าคุ้มค่าคุ้มราคาอีกด้วย
การออกแบบ
แต่ก่อนจะไปรับชมรีวิวจุดเด่นต่างๆ เรามาดูเรื่องการออกแบบกันก่อน สำหรับ Xperia M5 รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยจะเป็นรุ่นซิมเดียว (แต่เครื่องรีวิวเป็น Dual Sim) และมีสีให้เลือก 3 สีได้แก่ ดำ ขาวและทอง
ภาพรวมด้านการออกแบบ การวางปุ่มต่างๆ โซนี่ยึดตามหลัก OmniBalance เช่นเดิม ด้านหน้าของตัวเครื่อง โซนี่เลือกใช้วัสดุเป็นกระจกป้องกันรอยขีดข่วน ด้านบนเหนือโลโก้ Sony เป็นช่องลำโพงฟังเสียงสนทนา ด้านล่างเป็นช่องไมโครโฟนตัวที่ 1
หน้าจอเป็น IPS LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล ประกบหน่วยประมวลผล BRAVIA Engine 2 ตัวเครื่องหนา 7.6 มิลลิเมตร ขอบเครื่องจากสเปกชีทระบุว่าเป็นอลูมิเนียม น้ำหนักตัวเครื่องรวม 142.5 กรัม
และที่สำคัญโซนี่ยังคงรักษาจุดขายของตนในเรื่องการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68
มาดูกล้องหน้า ถือเป็นครั้งแรกที่โซนี่ปรับให้เข้ากับยุคแห่งการเซลฟีมากขึ้น โดย Xperia M5 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ประกบเซนเซอร์รับภาพ Exmor RS รองรับ HDR และสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
ด้านหลังของตัวเครื่อง ใช้วัสดุเป็นกระจกเช่นเดียวกับด้านหน้า จุดเด่นอยู่ที่กล้องถ่ายภาพด้านหลัง 21.5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.2 ประกบเซนเซอร์รับภาพ Exmor RS รองรับความไวแสงสูงสุด ISO 3,200 และรองรับระบบซูมภาพแบบไม่สูญเสียความคมชัดที่ 5 เท่า พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ Hybrid Auto focus (Phase + Contrast Detection จากเทคโนโลยีโฟกัสของกล้องตระกูลอัลฟ่า) ที่ช่วยให้โฟกัสเร็วถึง 0.25 วินาทีและโฟกัสในที่แสงน้อยทำได้แม่นยำขึ้น ถัดมาเป็นไฟแฟลช LED 1 ดวง
ตรงกลางเป็นส่วนของภาครับสัญญาณ NFC และโลโก้ Sony ถัดลงไปด้านล่างเป็นชื่อรุ่น Xperia
ในส่วนปุ่มกดและช่องเชื่อมต่อต่างๆรอบตัวเครื่อง เริ่มจากด้านซ้ายของเครื่อง จะเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์แบบ Nano Sim และช่องใส่การ์ดเพิ่มความจุตัวเครื่อง MicroSD รองรับความจุสูงสุด 200GB Class 10 หรือ UHS Class 1
โดยหลังใส่ซิมหรือการ์ด MicroSD แล้วควรปิดช่องดังกล่าวให้สนิทเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองผ่านเข้าไปภายในตัวเครื่อง เวลาเราต้องนำเครื่องไปลุยฝนหรือลุยน้ำในรูปแบบต่างๆ
ด้านขวาของเครื่อง จากซ้ายของภาพเป็นปุ่มชัตเตอร์ โดยเมื่อหน้าปิดอยู่สามารถกดค้างเพื่อเรียกกล้องถ่ายภาพได้ทันที ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียง และสุดท้ายปุ่มวงกลมคือปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่อง เป็นที่อยู่ของช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรและไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างเครื่อง ตรงกลางเป็นช่อง MicroUSB สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ถัดไปด้านซ้ายเป็นช่องลำโพง (Internal Speaker)
สเปก
มาถึงด้านสเปกเครื่อง Sony Xperia M5 ขับเคลื่อนด้วยซีพียู 64 บิตตัวฮิตของปีนี้ในชื่อ MediaTek Helio X10 Octa-core (8 คอร์) ความเร็ว 2.0GHz กราฟิกเป็นของ PowerVR รุ่น Rogue G6200 แรมให้มา 3GB ความจุภายในตัวเครื่อง 16GB เหลือใช้งานจริงประมาณ 9.05GB ส่วนระบบปฏิบัติการเลือกใช้ แอนดรอยด์ 5.0 Lollipop แบบ 64 บิตเต็มรูปแบบ
ในส่วนการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ Xperia M5 รองรับ 3G และ 4G LTE ทุกเครือข่ายในประเทศไทย WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11 a/b/g/n Dual band ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz นอกจากนั้นยังรองรับ DLNA และ Wi-Fi Direct ส่วน GPS รองรับทั้ง aGPS และ GLONASS พร้อมบลูทูธ 4.1 รองรับการเชื่อมต่อ aptX แต่ไม่รองรับ Hi-Res Audio เหมือนรุ่นพี่ใหญ่ Xperia Z5
สำหรับแบตเตอรี ให้มา 2,600mAh ตามสเปกชีทระบุว่าสามารถสนทนาได้ต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง 49 นาที ส่วนเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง 2 นาที
ยูสเซอร์อินเตอร์เฟสและฟีเจอร์เด่น
ภาพรวมของยูสเซอร์อินเตอร์เฟสของโซนี่บนแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop ไม่ค่อยแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก จุดที่เปลี่ยนแปลงไปส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนไอคอนและหน้าตาแอปฯบางตัวมีการปรับให้เรียบง่ายขึ้นตามรูปแบบของ Material Design
โดยเฉพาะส่วนของแถบแจ้งเตือน (Notification) ที่ดึงหน้าตาแถบแจ้งเตือนบนแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop ออกมาใช้ได้อย่างลงตัวพร้อมเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้สามารถเลือกเพิ่มเมนูตั้งค่าด่วนได้ตามต้องการ
ในส่วนแอปฯจากโรงงานที่น่าสนใจ นอกจากแอปฯเดิมอย่าง Sketch, What’s New และแอปฯอื่นๆ จะได้รับอัปเดตให้รองรับแอนดรอยด์ 5.0 Lollipop รวมถึงปรับดีไซน์ใหม่แล้ว ทางโซนี่ยังได้เพิ่มแอปฯในกลุ่ม Play Station Network สำหรับผู้ใช้ที่มีเครื่องเล่นเกมคอนโซล PlayStation 4 อยู่ สามารถเชื่อมต่อเครื่องเล่นเกมดังกล่าวเข้ากับสมาร์ทโฟนกลุ่ม Xperia และแชร์เกมมาเล่นบนสมาร์ทโฟนได้ด้วยฟีเจอร์ Remote Play ที่ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม
ด้านฟีเจอร์จับภาพหน้าจอในรูปแบบวิดีโอที่ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบก็ยังคงมีให้เลือกใช้งานเหมือนเดิม หรือแม้แต่ระบบตั้งค่าเสียง ClearAudio+ ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของโซนี่ก็ยังคงมีให้เลือกปรับแต่งได้เหมือนรุ่นก่อนหน้าทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่ Xperia M5 ไม่มีชิปประมวลผลเสียงคุณภาพสูงติดตั้งมาให้ ทำให้เมนูปรับเสียงบางฟังก์ชัน เช่น Clear Phase, HiRes Audio, xLOUD ถูกตัดออกไปทั้งหมด
STAMINA กลายเป็นจุดเด่นสำคัญของสมาร์ทโฟนโซนี่ทุกรุ่น เพราะฟังก์ชันนี้ช่วยในการจัดการพลังงานและประหยัดแบตเตอรีได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะโหมด Ultra STAMINA ที่ช่วยชีวิตเวลาสมาร์ทโฟนแบตเตอรีใกล้หมด โดยโหมดดังกล่าวจะปิดการดึงข้อมูลเบื้องหลังทั้งหมด รวมถึงปิดอินเตอร์เน็ทให้เหลือไว้เพียงความสามารถในการโทรออกรับสาย ถ่ายรูปและส่งข้อความ
Movie Creator มาถึงแอปฯที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ กับความสามารถในการช่วยลำดับภาพวิดีโอและภาพนิ่งแบบง่ายในสไตล์จับใส่ๆแล้วแอปฯจะประมวลผลให้อัตโนมัติ รวมถึงผู้ใช้สามารถเลือกใส่ฟิลเตอร์หรือใส่ดนตรีประกอบ (คล้ายกับ Google Photos) ได้แบบฟรีๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำพรีเซนต์รวมภาพหรือวิดีโอประจำสัปดาห์ ไว้เปิดดูเล่นกับครอบครัว
กล้องถ่ายภาพ
มาโฟกัสเรื่องกล้องกันบ้าง ซอฟต์แวร์ควบคุมกล้องใน Xperia M5 มีหน้าตาไม่แตกต่างจากซอฟต์แวร์กล้องของ Xperia รุ่นก่อนหน้า โดยโซนี่ได้ปรับปรุงเรื่องความเสถียรและความรวดเร็วในการประมวลผลภาพให้ดีขึ้น รวมถึงโหมดอัตโนมัติพิเศษ (Superior Auto) กับการเลือกซีนโหมดไปถึงการปรับแสงสีที่ทำได้รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิมด้วยฮาร์ดแวร์กล้องชุดใหม่
ในส่วนวิดีโอมีการเพิ่มความละเอียด FullHD 1080p ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาทีเข้ามา รวมถึงโหมดสโลโมชันที่คมชัดขึ้น
สำหรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่มีมาตั้งแต่รุ่นที่แล้ว ใน Xperia M5 โซนี่ได้ปรับปรุงเรื่องคุณภาพไฟล์ภาพโดยเฉพาะความคมชัดที่ทำได้ดีขึ้นมาก แต่ทั้งนี้การถ่ายวิดีโอ 4K จะไม่สามารถเปิดโหมดกันภาพสั่นไหว SteadyShot ได้
สุดท้ายสำหรับสิ่งที่เพิ่มเติมมาจากรุ่นก่อนหน้า จะอยู่ที๋โหมดถ่ายภาพใหม่ “หน้ากาก AR โดยระบบจะใช้ระบบตรวจจับใบหน้าวิเคราะห์หน้าของเรา จากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกใส่หน้ากากลวดลายต่างๆทับใบหน้าเดิมได้ตามต้องการ ถือเป็นโหมดภาพที่สร้างเสียงหัวเราะอย่างมาก
ในส่วนโหมดถ่ายภาพนิ่งและเคลื่อนไหวอื่นๆจะเหมือนกับ Xperia รุ่นก่อนหน้า และสามารถดาวน์โหลดโหมดถ่ายภาพใหม่ๆเพิ่มเติมได้จาก PlayStore
ทดสอบประสิทธิภาพ
ปัจจุบันด้วยสเปกเครื่องและซอฟต์แวร์รุ่นใหม่แบบ 64 บิต ทำให้แอนดรอยด์สมัยใหม่มีความลื่นไหล รวดเร็วและน่าใช้มากขึ้น โดย Xperia M5 ก็ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนระดับกลางยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพดี ตั้งแต่ใช้งานทั่วไปถึงเล่นเกม โดยเฉพาะความลื่นไหลของ OS และ UI ถือว่าโซนี่จัดการได้ดีขึ้นมาก
โดยทั้งหมดนี้ถ้าถามถึงจุดคุ้มค่าที่จะทำให้คนยอมจ่ายเงินซื้อ Xperia M5 เรื่องประสิทธิภาพด้านการประมวลผลคงไม่ใช่คำตอบเพราะมองในภาพรวมก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน 64 บิตในช่วงราคาระดับเดียวกันในยุคนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องคุณภาพกล้องถ่ายภาพ สิ่งนี้คือจุดคุ้มค่าที่หลายคนเห็นแล้วอาจเกิดอาการอยากเสียเงินให้สมาร์ทโฟนโซนี่รุ่นนี้ได้ไม่ยาก
กดที่ภาพเพื่อขยายใหญ่
ลองมานั่งนึกดูว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนในช่วงราคาไม่เกิน 15,000 บาทที่ส่วนใหญ่จะมีสเปกใกล้เคียงกัน มีรุ่นใดเน้นกล้องเป็นจุดขายและให้ผลลัพท์ที่โดดเด่นบ้าง นึกดูแล้วในปีนี้ก็ยังไม่เห็นสมาร์ทโฟนรุ่นใดมีกล้องที่โดดเด่นเท่า Sony Xperia M5 ได้เลย
เพราะในสเปกกล้องของ Xperia M5 ถือว่าครั้งนี้โซนี่จัดเต็มฮาร์ดแวร์มาใกล้เคียงกับไฮเอนด์ Z5 ตั้งแต่ความละเอียดภาพ 21.5 ล้านพิกเซล (ทั้งในโหมด Manual และ Superior Auto) พร้องระบบ Clear Zoom 5 เท่า ที่อัตราส่วน 4:3, กล้องหน้า 13 ล้่านพิกเซล หน่วยประมวลผลภาพตัวใหม่รองรับความไวแสงสูงถึง ISO 3,200 ที่ใช้งานได้จริงและให้ผลลัพท์ภาพถ่ายในที่แสงน้อยที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะโฟกัสแบบไฮบริด อีกทั้งระบบกล้องยังค่อนข้างฉลาดในการปรับใช้ HDR ควบคู่ซีนโหมดได้ดีเมื่ออยู่ในโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติพิเศษ
ในส่วนระบบซูมภาพแบบไม่เสียความละเอียด (ClearZoom) ที่มีตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า โซนี่ได้ปรับใหม่อีกครั้งใน Xperia M5 ซึ่งผลลัพท์ภาพที่ออกมาถือว่าทำได้น่าพอใจและกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่มี Digital Zoom ดีที่สุดในตอนนี้
ด้านงานวิดีโอ ใน Xperia M5 โซนี่ได้ปรับปรุงคุณภาพวิดีโอใหม่ให้มีความคมชัดมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของสีสันและการเก็บรายละเอียดแสงสีที่อิ่มตัวขึ้น แต่น่าเสียดายในเรื่องระบบกันภาพสั่นไหวที่ใน M5 จะมีให้เลือกเพียง SteadyShot แบบซอฟต์แวร์เท่านั้น ต่างจากใน Xperia Z5 ที่เป็นระบบซอฟต์แวร์ผสมฮาร์ดแวร์ในชื่อ SteadyShot with Intelligent Active Mode
มาถึงการทดสอบสุดท้ายกับแบตเตอรีด้วยชุดทดสอบเดิม Geekbench ผลคะแนนถือว่าทำได้น่าพอใจ เพราะสามารถทำเวลาใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง 18 นาที 50 วินาที ส่วนเมื่อใช้งานทั่วไปแบตเตอรีความจุ 2,600mAh สามารถใช้งานได้นานกว่า 13-14 ชั่วโมงแน่นอน
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
ข้อดี
- สเปกดี มีอนาคต อัปเดตได้ไกลเพราะเป็น 64 บิตแท้ๆ
- แบตเตอรีและระบบจัดการพลังงานได้ดี
- กล้องปรับใหม่ให้คุณภาพที่ดีกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะกล้องหน้า 13 ล้่านพิกเซล
- งานประกอบดี วัสดุหน้าหลังเป็นกระจก
- รับ 4G LTE เพิ่มความจุได้ด้วย MicroSD Card
- กันน้ำ กันฝุ่น
ข้อสังเกต
- งานออกแบบ ขอบจอและตัวเครื่องค่อนข้างหนา
- หน้าจอไม่ค่อยคมชัดแม้จะทำงานบนความละเอียด 1080p ก็ตาม
- ลำโพงในตัวเครื่องให้เสียงที่ไม่ดีนัก และไม่รองรับ Hi-Res Audio
สำหรับราคาเปิดตัว Sony Xperia M5 อยู่ที่ 14,990 บาท เทียบกับคุณภาพ สเปกและประสิทธิภาพที่ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เมื่อเทียบราคาแล้วมีความคุ้มค่าจนไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นจากแบรนด์โซนี่ จุดขายที่น่าสนใจสุดของ Xperia M5 คือคุณภาพกล้องที่เทียบกับไฮเอนด์หลายเจ้าและดีกว่ากล้องบนสมาร์ทโฟนราคาระดับเดียวกันเกือบทุกตัว โดยเฉพาะกล้องหน้าที่คาดว่าจะถูกใจสาวๆอย่างยิ่ง
ถือเป็นน้องกลางที่มีพลังในตัวสูงใกล้เคียงพี่ใหญ่ Xperia Z5 ถ้าผู้อ่านที่กำลังสนใจ ชอบถ่ายภาพแบบง่ายๆแต่ให้คุณภาพสูงและเน้นการใช้งานทั่วไปมากกว่าเน้นระบบมัลติมีเดียและใช้เล่นเกมกราฟิกสูงๆเป็นงานหลัก Sony Xperia M5 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามในชั่วโมงนี้
Company Related Link :
Sony Mobile
————————————————————————————
อีกหนึ่งช่องทางติดตามไซเบอร์บิซ ออนไลน์ ผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE คลิกเพิ่มเพื่อนที่ปุ่ม Add Friends ด้านล่างจากสมาร์ทโฟนหรือเข้าไลน์ค้นหาไอดี @opu3945f
————————————————————————————