ตลอดหลายปีที่ผ่านมากลุ่มกล้องมิร์เรอร์เลส ACIL (Advanced Camera with Interchangeable Lens) ในชื่อ “Nikon 1” มีการปรับตัวและหาตัวตนอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ Nikon 1 J5 ซีรีย์ใหม่ที่นิคอนขอปรับให้กล้องตระกูลวันมาจับตลาดผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวและถ่ายภาพที่ไม่ต้องการพกพากล้องใหญ่ให้เป็นภาระในการเดินทาง
โดยในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซโดยผม เป๋า @dorapenguin ก็ได้มีโอกาสร่วมทริประยะสั้นทดสอบกล้อง Nikon 1 J5 รอบชุมชนกุฎีจีนในแบบกรุ๊ปท่องเที่ยวเน้นถ่ายภาพทั่วไป และต่อจากนี้คือความรู้สึกที่ผมได้รับจากการสัมผัสแรกในช่วงเวลาแค่ 3 ชั่วโมง
- “การออกแบบดีขึ้นมาก” แม้หลายสื่อจะวิจารณ์ว่าการออกแบบ Nikon 1 J5 จะเป็นไปตามกระแสนิยมกล้องสไตล์ย้อนยุค (Retro) แต่การที่นิคอนเลือกปรับวัสดุใหม่เน้นพลาสติกขึ้นลายเลียนแบบหนังพร้อมกริปที่จับกระชับมือมากขึ้นและดูแข็งแรงดี แถมหน้าจอยังเป็นแบบ Tiltable พับเปลี่ยนองศาการมองได้แบบ 180 องศา ถือเป็นกล้องตระกูลวันที่ออกแบบได้ดีที่สุดในตระกูลแล้ว
- “EXPEED 5A” ผมผิดหวังกับคุณภาพไฟล์ภาพถ่ายของกล้องตระกูลวัน CX Format มาโดยตลอด โดยเฉพาะในที่แสงน้อย แต่ในครั้งนี้นิคอนสร้างความประทับใจครั้งใหม่ให้ผมได้แล้ว เพราะในวัน J5 ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลภาพ EXPPED 5A เหมือนนิคอนรู้ข้อเสียและพยายามแก้ไขลบข้อด้อยของเซ็นเซอร์รับภาพจนสำเร็จ ไฟล์ภาพสีสันดูอิ่มตัวมากขึ้นแม้จะในที่แสงน้อย ISO ขยายช่วงเป็น 160-12,800 พร้อมสัญญาณรบกวนจัดการดีขึ้น ISO 6,400 ไม่มีปัญหา Noise แตกกระจายเหมือนวัน J4 แล้ว
ในส่วนวิดีโอ FullHD 1080p ถือเป็นครั้งแรกในกล้องตระกูลวันที่ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้ชาญฉลาดและรวดเร็วเหมือนคู่แข่งเสียที (ลองรับชมวิดีโอด้านบน)
สำหรับวิดีโอ 4K ส่วนนี้ผมขอกล่าวตามตรงเลยว่า “เหมือนมีไว้แค่โปรโมทเหมือนคู่แข่งหลายเจ้าว่ากล้องฉันถ่าย 4K ได้เท่านั้น” เพราะถ้านำไปใช้จริงเฟรมเรตแค่ 15 เฟรมต่อวินาทีภาพที่ได้กระตุกเกินไป
- ”WiFi and NFC” ใช้งานง่ายไม่ต้องใส่ Password ให้วุ่นวาย ยิ่งใช้ NFC ยิงกับสมาร์ทโฟนที่รองรับก็สามารถดึงภาพจากกล้องแชร์ไปสมาร์ทโฟนได้ทันที
- ”ถ่ายภาพต่อเนื่องรวดเร็ว” เป็นจุดเด่นของนิคอนวันมาตั้งแต่รุ่นแรกที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วถึง 60 เฟรมต่อวินาที (แบบล็อกโฟกัส) และ 20 เฟรมแบบออโต้โฟกัสต่อเนื่อง
ส่วนระบบตรวจจับโฟกัสผ่านไลฟ์วิวถือว่าทำได้แม่นยำและโฟกัสรวดเร็วตามสเปกกล้องที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นหน้าจอแบบสัมผัสยังสามารถจิ้มเพื่อโฟกัสและถ่ายภาพได้ด้วย
ขนาดไฟล์ JPEG Fine และ RAW
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมสัมผัสได้กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Nikon 1 J5 แน่นอนว่ายังมีอีกหลายส่วนที่ผมยังไม่ได้ทดลองใช้งานอย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากเวลาจำกัด เช่น Creative Palette/Live Image Control, Creative Mode, Timelapse เป็นต้น แต่โดยภาพรวมผมค่อนข้างพอใจกับการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ ที่ผมถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนแบบครั้งยิ่งใหญ่ของกล้องตระกูลวัน โดยเฉพาะด้านคุณภาพไฟล์ภาพถ่ายและวิดีโอที่ทำได้ดีขึ้นมากจนทำให้การถ่ายภาพสนุกสนานมากขึ้น
ใครเคยผิดหวังกับ Nikon 1 รุ่นก่อน และยังไม่เบื่อ CX Format ลองมาทดลอง Nikon 1 J5 แล้วคุณจะประทับใจมากยิ่งขึ้น
ส่วนรีวิวฉบับเต็มไว้ผมได้รับ Nikon 1 J5 จากนิคอนมาแล้วจะลงรายละเอียดในส่วน ISO และฟีเจอร์ที่ขาดหายไปอีกครั้ง ติดตามครับ...
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nikon 1 J5
สามารถกดภาพที่ต้องการเพื่อรับชมแบบเต็มความละเอียด
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR VR 10-30mm : s1/30 : f8.0 : ISO 1,600
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR VR 10-30mm : s1/60 : f5.6 : ISO 1,600
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR VR 10-30mm : s1/125 : f3.5 : ISO 800
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR VR 10-30mm : s1/1,000 : f4 : ISO 160 : HDR Mode
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR VR 10-30mm : s1/125 : f5.6 : ISO 800
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 18.5mm f1.8 : s1/1,600 : f2.5 : ISO 160
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/60 : f5.3 : ISO 2,500 : Retro Mode/Yellow
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/30 : f7.1 : ISO 3,600
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/125 : f5.6 : ISO 2,000
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/125 : f9 : ISO 560
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/30 : f5.6 : ISO 5,600
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/160 : f5.6 : ISO 400
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/500 : f7.1 : ISO 720
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/125 : f7.1 : ISO 800
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/80 : f7.1 : ISO 800
Nikon 1 J5 : 1 NIKKOR 10-100mm VR : s1/250 : f5 : ISO 180
สามารถกดภาพที่ต้องการเพื่อรับชมแบบเต็มความละเอียด
Company Related Link :
Nikon
