ชื่อเสียงของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเริ่มกลายเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ที่เริ่มไม่มีเวลาดูแลรักษาความสะอาดบ้าน ยิ่งโลกทุกวันนี้หมุนด้วยทุนนิยมและการแข่งขันมากขึ้น การกลับบ้านหลังจากเลิกงานและต้องจับไม้กวาดหรือประกอบเครื่องดูดฝุ่นเพื่อทำความสะอาดบ้านจึงเป็นเรื่องยากขึ้น
ทางออกของปัญหาเหล่านี้ก็คือการหันมาพึ่งพาเทคโนโลยี และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็กลายสิ่งที่หลายคนถวิลหาเพียงเพราะมันสามารถทำความสะอาด ดูดฝุ่นและขยะได้โดยที่เราไม่ต้องสั่งงานใดๆ แค่จับมันวางลงกับพื้นเปิดเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะวิเคราะห์พื้นที่และเริ่มทำความสะอาดทั่วห้องของผู้ใช้แบบอัตโนมัติ
โดยจะเห็นว่าช่วง 1-2 ปีมานี้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกลายเป็นตลาดที่โตขึ้น หลายผู้ผลิตต่างผลักดันเทคโนโลยีของตนออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือดและในอนาคตมีแนวโน้มจะเข้ามาแทนที่เครื่องดูดฝุ่นแบบดั้งเดิมได้
และในวันนี้ทีมงานไซเบอร์บิซก็ได้รับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ล่าสุดจากแอลจี (LG) มารีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกันกับ Hom-Bot Square VR62701LVM ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปสุดที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่พร้อมดวงตาคู่ในการช่วยวิเคราะห์พื้นผิวและสถานที่ทำความสะอาดได้
วิดีโอแนะนำฟีเจอร์เด่นของ LG Hom-Bot Square
การออกแบบ สเปกและฟีเจอร์เด่น
รูปลักษณ์ของ LG Hom-Bot Square จะแตกต่างจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหลายรุ่นในท้องตลาดคือ รูปทรงเครื่องจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบ Slim Design เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถเข้าทำความสะอาดมุมบ้าน ใต้โต๊ะได้ดีกว่าเครื่องลักษณะเป็นวงกลมพร้อมเพิ่มความยาวขนแปลงดึงฝุ่นเป็น 70 มิลลิเมตร โดยแอลจีเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Corner Master
ในส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เมื่อหงายเครื่องขึ้นจะพบส่วนของล้อและแปรงดึงฝุ่นเหมือนกับหุ่นยนต์ทำความสะอาดยี่ห้ออื่น ซึ่งบริเวณที่เป็นสีเหลืองทั้งหมดสามารถถอดทำความสะอาดได้
มาถึงจุดเด่นที่แอลจีเด่นกว่าคู่แข่งก็คือกล้อง Dual Eye 2.0 ออกแบบใหม่โดยกล้องด้านบน (Upper Camera) จะคล้ายกล้องเว็บแคมวิดีโอที่สามารถมองเพดาน สภาพแวดล้อมและไฟในห้องเพื่อให้ระบบสามารถจดจำพื้นที่ทำความสะอาดและสร้างแบบห้องจำลองในสมองกลได้ โดยสเปกกล้องด้านบนจะรองรับภาพเคลื่อนไหวความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาทีที่ค่าความไวแสงสูงสุด ISO 1,600 เทียบเท่ากล้องบนสมาร์ทโฟน
ส่วนกล้องด้านล่าง (ไฟสีแดง) จะเป็นเซนเซอร์เสริมเพื่อช่วยให้ระบบทำงานได้แม่นยำขึ้น รวมถึงยังเป็นดิจิตอลเซนเซอร์ (Digital Sensor) สำหรับตรวจจับวัตถุที่ขวางทางและตรวจจับความต่างระดับของพื้นที่ทำความสะอาดป้องกันตัวเครื่องตกจากที่สูง
อีกทั้งส่วนของ Digital Sensor และล้อทั้งสองยังสามารถตรวจจับบริเวณพื้นพรมเมื่อตัวเครื่องทำความสะอาดบนพื้นห้องปกติแล้วเครื่องวิ่งไปเจอพรม เมื่อล้อทั้งสองมีการยกตัว เซนเซอร์ภายในจะสั่งให้ระบบเปิด Turbo Mode เพื่อสร้างแรงดูดที่แรงขึ้นสำหรับพื้นพรม
นอกจากนั้นทางแอลจียังได้ติดตั้งเซนเซอร์ Ultrasonic แบบเดียวกับเซนเซอร์ถอยหลังรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ทำงานได้แม่นยำด้วยพื้นที่ตรวจจับที่กว้างกว่า Infrared Sensor แบบเก่า เพื่อช่วยตรวจจับพื้นต่างระดับรวมกับดิจิตอลเซนเซอร์ สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางป้องกันตัวเครื่องวิ่งชน เป็นต้น
และในรุ่นท็อปทางแอลจีจะมีผ้าม็อบแถมมาให้สองผืนสำหรับช่วยกวาดฝุ่นละเอียด แต่การติดผ้าม็อบเข้ากับตัวเครื่องจะทำให้สูญเสียความสามารถในการปีนพื้นพรมและที่สูงไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร
สำหรับถังเก็บฝุ่นและขยะที่เครื่องดูดได้ ทางแอลจีก็ได้ออกแบบเป็นกล่องสี่เหลี่ยมพร้อมหูหิ้วใส่ไว้ด้านบนของตัวเครื่อง เมื่อกดฝาเครื่องด้านบนเปิดขึ้น ผู้ใช้สามารถดึงถังขึ้นมาได้อย่างง่ายดายแบบไม่ต้องกดปุ่มปลดล็อกให้วุ่นวายเหมือนหลายแบรนด์ และที่สำคัญไม่ทำให้ฝุ่นพุ้งกระจายในบ้านด้วย
โดยในตัวถังเก็บฝุ่นและขยะเมื่อเปิดฝาออกมา นอกจากฝุ่นละอองแล้วด้านในยังมี ฟองน้ำกรองฝุ่นละเอียดและ HEPA Filter ขนาดใหญ่สามารถถอดออกมาล้างน้ำได้ทั้งหมด
สุดท้ายกับระบบชาร์จไฟของ LG Hom-Bot Square จะคล้ายกับหลายแบรนด์คือเป็นแท่นชาร์จอัตโนมัติที่หุ่นยนต์สามารถวิ่งเข้าไปชาร์จไฟเองได้เมื่อแบตเตอรีหมด ซึ่งแบตเตอรีของ Hom-Bot จะเปลี่ยนเป็น Li-Polymer ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและแอลจีเครมว่าใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม
โหมดการทำงาน
ในรุ่น VR62701LVM รุ่นท็อป (ฝาบนสีแดงทั้งหมด) การสั่งงานตัวเครื่องจะสามารถทำได้จากสองส่วนคือ ปุ่มสัมผัสด้านบนตัวเครื่องและรีโมทคอนโทรล โดยโหมด (Mode) การทำงานจะแบ่งเป็น 4 โหมดหลักด้วยกันได้แก่
1.ZigZag สำหรับทำความสะอาดพื้นที่กว้าง
2.Cell by Cell ทำความสะอาดบริเวณที่มีความซับซ้อนมากๆ
3.Spot cleaning ทำความสะอาดเฉพาะจุด โดยตัวเครื่องจะหมุนจากจุดศูนย์กลางออกไปเป็นวงกลมครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.5 เมตร
และโหมดสุดท้าย My Space ที่ต้องใช้ควบคู่กับรีโมทในการควบคุมทิศทางการวิ่งของหุ่นยนต์ทำความสะอาด โดยโหมดนี้ระบบจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถกำหนดพื้นที่ทำความสะอาดได้โดยใช้ความสามารถของดิจิตอลเซนเซอร์และกล้อง Dual Eye แทนการใช้กำแพงล่องหน (Invisible Wall) แบบเก่า โดยวิธีใช้งานสามารถติดตามได้จากวิดีโอด้านบน (จะเห็นภาพการทำงานได้ชัดเจนกว่าเขียนอธิบาย)
นอกจากนั้นยังมีโหมดพิเศษที่จำเป็นต้องสั่งงานผ่านรีโมทก็คือ Schedule ที่สามารถตั้งเวลาทำงานในแต่ละวันได้อัตโนมัติ ปุ่มปิดเสียงพูดและปุ่มวิเคราะห์ปัญหาเวลาเครื่องเสียพร้อมวิธีแก้ไขที่หุ่นยนต์จะบอกให้เราทำ
สุดท้ายด้วยการที่ LG Hom-Bot Square มีสมองกลและชิปประมวลผลภาพในเหมือนคอมพิวเตอร์ ทางแอลจีก็เลยติดตั้งพอร์ต USB มาให้ (พอร์ตติดตั้งอยู่เหนือถังเก็บฝุ่น) เพื่อใช้ในการนำเฟริมแวร์รุ่นใหม่ที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บแอลจีใส่แฟลชไดร์ฟและเสียบอัปโหลดเข้าไปที่ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้ และอีกทางหนึ่งพอร์ต USB นี้สำหรับช่างก็สามารถใช้ดาวน์โหลดข้อมูลกล่องดำเวลาตัวเครื่องมีปัญหาออกมาวิเคราะห์ได้ รวมถึงในอนาคตแอลจีอาจนำประโยชร์จากพอร์ต USB มาใช้ต่อยอดเพิ่มความสามารถให้กับเจ้า Hom-Bot เช่นอาจมีชุด WiFi Kit เพื่อเชื่อมต่อและสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน เป็นต้น
ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป
สิ่งหนึ่งที่ Hom-Bot Square VR62701LVM ให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะคนทั่วไปก็คือความง่ายในการประกอบและใช้งาน ตัวหุ่นยนต์เองไม่มีความซับซ้อนใดๆ เพียงวางลงกับพื้นกดปุ่มเปิดเครื่องและกด START หุ่นก็จะเริ่มทำงานทันที โดยการทำงานครั้งแรก Hom-Bot จะทำงานช้าและการเคลื่อนไหวจะออกแนวมึนๆ งงๆ เพราะตัวเครื่องกำลังเรียนรู้สถานที่อยู่ แต่พอเริ่มใช้งานไปได้สัก 3-4 ครั้ง Hom-Bot จะทำงานเร็วขึ้นและประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะฝุ่นละเอียดที่เรามองไม่เห็นและเสียงการทำงานที่เงียบ สามารถเปิดใช้งานระหว่างดูทีวีได้
ด้านโหมดใช้งานที่โดดเด่นมากสุดต้องยกให้ Cell by Cell ที่ทำได้สะอาดมาก ส่วนฟีเจอร์เด่นเช่นความสามารถในการปีนพรมและปรับโหมด Turbo เพิ่มแรงดูด ส่วนนี้ทดสอบแล้วพบว่าจะแม่นยำกับพรมที่ค่อนข้างหนา ถ้าเป็นพรมราคาถูกพื้นแข็งระบบจะตรวจจับได้บ้างไม่ได้บ้าง บางครั้งปีนพรมขึ้นไปแล้วล้อติดไปต่อไม่ได้ก็มีให้เห็นบ้าง
ส่วนเรื่องดิจิตอลเซนเซอร์ที่แอลจีติดตั้งมามากมายภายใน ส่วนนี้ถือว่าทำงานใช้ได้ จะโดดเด่นสุดก็ตรงระบบป้องกันการชนวัตถุด้วย Ultrasonic ถือว่าทำได้ดีแต่ก็แอบมีเบียดวัตถุบางประเภทเช่น ขาเก้าอี้ พัดลมตั้งพื้นบ้าง แต่โดยรวมก็ไม่สร้างความเสียหายใดๆ
มาถึงอีกหนึ่งประเด็นสำหรับผู้ใช้งาน Hom-Bot Square บนชั้นที่ 2 ของบ้านและกลัวว่าหุ่นยนต์จะตกบันไดเหมือนหลายเคสที่เกิดขึ้น แน่นอนว่านี่คือคอมพิวเตอร์ที่อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การป้องกันความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ควรทำ ถึงแม้ตลอดการทดสอบของทีมงานยังไม่เจออาการเครื่องเอ๋อพุ่งลงบันไดจนระบบได้รับความเสียหาย แต่ทุกครั้งที่ทีมงานทดสอบบนชั้นที่ 2 ของบ้านการทำความสะอาดบริเวณใกล้บันได ทีมงานจะใช้โหมด My Space และกำหนดขอบเขตไว้ก็เป็นการป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง
สำหรับราคา LG Hom-Bot Square VR62701LVM อยู่ที่ 24,900 บาท ถือเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอีกหนึ่งตัวท็อปที่น่าสนใจ แม้ราคาจะสูงแต่ถ้ามองในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดียวกัน LG Hom-Bot Square มีราคาที่ไม่สูงเกินไป สิ่งที่โดดเด่นก็คือเหล่าฟีเจอร์ทั้งหลายที่แอลจีใส่มา โดยเฉพาะ Dual Eye 2.0 และดิจิตอลเซนเซอร์ทั้งหลายในภาพรวมถือว่าทำงานได้ฉลาด My Space Mode ใช้งานได้จริงและเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้บ่อยครั้ง ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงง่ายกว่า Invisible Wall แบบเก่า การดูดฝุ่นผงทำได้ดี ตัวเครื่องเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติมากและที่สำคัญเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไม่กี่รุ่นที่ทำงานเงียบมาก ผู้อ่านท่านใดกำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาใช้งาน โดยเฉพาะในคอนโดหรือบ้านขนาดกลางๆ LG Hom-Bot Square เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้นๆ ที่ควรได้ลองก่อนตัดสินใจเลือกซื้อตัวอื่น
ข้อดี
- การออกแบบ โดยเฉพาะถังเก็บฝุ่นและขยะออกแบบได้ยอดเยี่ยม
- Dual Eye 2.0 และดิจิตอลเซนเซอร์วิเคราะห์พื้นที่และช่วยให้ระบบทำความสะอาดได้แม่นยำดี
- My Space Mode ใช้งานง่าย
- เครื่องทำงานเงียบ
- สามารถปีนพรมและปรับเปลี่ยนเพิ่มแรงดูดได้อัตโนมัติ
- อัปเดตเฟริมแวร์ได้เองผ่าน USB
ข้อสังเกต
- การใช้งานบนชั้น 2 ของบ้านต้องใช้ความระมัดระวัง แม้ตัวเครื่องจะมีเซนเซอร์ตรวจจับแต่ก็มีโอกาสตกบันไดลงมาได้
- Hom-Bot ชอบปีนป่ายขาเก้าอี้และดันพัดลมที่เป็นฐานพลาสติกแบบมันให้เกิดเสียงดังน่ารำคาญ
- บางครั้งสายไฟเส้นเล็กมักชอบถูก Hom-Bot ดึงเข้าไปจนเครื่องหยุดทำงาน
Company Related Link :
LG
