xs
xsm
sm
md
lg

Review : Wiko WAX 4G สมาร์ทโฟนราคาประหยัดเพื่อคอเกม พร้อมรับ 4G

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ครั้งที่แล้วทีมงานไซเบอร์บิซได้รีวิวสมาร์ทโฟนคุ้มค่าคุ้มราคากับ Wiko Highway Signs ไปแล้ว มาวันนี้ก็ถึงคิวของรุ่นพี่ท็อปสุด WAX 4G กับจุดเด่นในเรื่องการเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองการเล่นเกมได้ดีเพราะมาพร้อมหน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 4i รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE ในตัว และที่สำคัญราคาเปิดตัวที่ยังคงคอนเซปคุ้มค่าคุ้มราคาไม่เกินหมื่นบาทอยู่

การออกแบบ



การออกแบบ Wiko WAX 4G วัสดุพื้นผิวสัมผัสหลักๆ ยังคงเป็นพลาสติก ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 140.1x67.5 มิลลิเมตร หนา 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเครื่อง 119 กรัม หน้าจอมีขนาด 4.7 นิ้ว IPS LCD Gorilla Glass 2 ความละเอียดหน้าจอ 1,280x720 พิกเซลเหมือนรุ่นก่อนหน้า พร้อมปุ่มคำสั่ง 3 ปุ่ม (เมนู โฮม ย้อนกลับ) และแถบเงินใต้ปุ่มสัมผัสทั้งสามเพิ่มความหรูหราให้ตัวสมาร์ทโฟน ส่วนกล้องหน้ายังคงความละเอียด 5 ล้านพิกเซล




ส่วนด้านหลังยังคงใช้วัสดุเป็นพลาสติกผิวด้านพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED และลำโพง

นอกจากนั้น WAX 4G ยังมีความพิเศษด้วยฝาหลังสามารถแกะได้ โดยมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ MicroSIM (มีช่องเดียว) และช่องเพิ่มการ์ดความจุ MicroSD ติดตั้งอยู่ในนี้ รวมถึงแบตเตอรียังสามารถแกะออกได้ด้วย (ความจุของแบตเตอรีให้มา 2,000mAh เช่นเดิม)




ด้านปุ่มคำสั่งและพอร์ตเชื่อมต่อรอบตัวเครื่อง ด้านบนประกอบด้วยพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเชื่อมต่อสายชาร์จและซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ถัดมาจะเป็นช่องหูฟัง/Smalltalk ขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ส่วนด้านข้างของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงและปุ่มเปิดปิด Sleep/Awake ตัวเครื่อง



มาดูที่อุปกรณ์ที่แถมมากับตัวเครื่อง นอกจากอะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน ในรุ่น WAX 4G จะให้หูฟัง/Smalltalk แบบ in-ear พร้อมถาดแปลงซิมการ์ดโทรศัพท์หลายขนาดมาให้ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์ Wiko Mobile มาโดยตลอด

สเปก



สำหรับสเปก Wiko WAX 4G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลหลัก NVIDIA Tegra 4i Quad-cores บนสถาปัตยกรรม Cortex A9+ ความเร็ว 1.7GHz แรมให้มา 1GB รอมให้มา 8 GB เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 5GB กว่าๆ สามารถเพิ่มความจุตัวเครื่องด้วย MicroSD Card สูงสุด 32GB

ด้านการรองรับเครือข่าย 3G จากสเปกบนเว็บไซต์ Wikomobile ระบุไว้ว่าตัวเครื่อง WAX 4G รองรับ 3G คลื่นความถี่ 900/1,900/2,100 MHz และ 4G LTE ที่คลื่นความถี่ 800/1,800/2,600 MHz แต่สำหรับเครื่องรุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบสามารถรับ 3G และ 4G LTE ได้ทุกค่ายในไทย และคาดว่ารุ่นที่วางขายจริงก็น่าจะรองรับ 3G/4G ได้ทุกค่ายเช่นกัน แต่เพื่อความถูกต้องสำหรับผู้ที่สนใจกรุณาตรวจสอบกับทางร้านที่วางจำหน่ายก่อนเลือกซื้อจะดีที่สุด

ส่วนสเปกอื่น ตัวเครื่องรองรับ WiFi บลูทูธ 4.0 ภายในมีวงจรรับวิทยุ FM, GPS รองรับ A-GPS และระบบปฏิบัติการที่เลือกใช้เป็นแอนดรอยด์ 4.3 Jelly Bean

User Interface และฟีเจอร์เด่น



มาถึง User Interface จะยังคงคอนเซปเดิมคือเน้นความเป็นเพียวกูเกิลแบบไม่มี User Interface เฉพาะมาครอบทับเหมือนหลายแบรนด์ เพราะส่วนหนึ่งทางวีโกต้องการความเสถียรและไม่ต้องการให้ระบบบริโภคหน่วยความจำมากเกินความจำเป็น

พร้อมแอปพลิเคชัน Built-in จากโรงงานอาทิเช่น ไลน์ เฟสบุ๊ก Norton Mobile และที่ขาดไม่ได้สำหรับชิป NVIDIA ก็คือแอปฯ “NVIDIA Tegra Zone”



โดย Tegra Zone เป็นแอปฯ ที่รวบรวมเกมที่รองรับกับหน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra ไว้ โดยตัวแอปฯ จะเชื่อมต่อกับ Google PlayStore ในการดาวน์โหลดเกมต่างๆ มาติดตั้งลงในเครื่อง



นอกจากนั้นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ทาง NVIDIA ใส่เข้ามากับสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปประมวลผลของตนก็คือตัวจัดการหน่วยประมวลผลที่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับได้ 3 ระดับตั้งแต่เพิ่มประสิทธิภาพ สมดุลและประหยัดพลังงาน โดยค่าจากโรงงานจะตั้งไว้ที่สมดุล ซึ่งระบบจะสามารถปรับการใช้งาน เปิดปิดจำนวนคอร์อัตโนมัติตามรูปแบบการใช้งาน



ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ สำหรับ WAX 4G รุ่นที่ทีมงานได้รับมาทดสอบจะเป็นแอปฯ กล้องสไตล์เพียวกูเกิลคือ ไม่มีลูกเล่นให้ปรับแต่งเหมือนรุ่นก่อนหน้าที่รีวิวไป แต่จะมีเพียงระบบกล้องที่มากับกูเกิลเช่น ถ่าย Photo Sphere ได้หรือสามารถปรับแต่งค่า ISO หรือเปิด HDR เป็นต้น

ทดสอบประสิทธิภาพ



มาถึงส่วนการทดสอบประสิทธิภาพที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของวีโกอยู่คือทำคะแนนทดสอบได้ดีกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันมาก รวมถึงหน้ามัลติทัชที่สามารถสัมผัสได้ 10 จุดพร้อมกัน

และเมื่อทดลองใช้งานจริง ทีมงานพบความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่ทดสอบคือ Highway Signs ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องความเสถียรที่ยังสู้ชิป Mediatek กับแอนดรอยด์ 4.4 KitKat ไม่ได้ โดยเฉพาะการเล่นเว็บหรือเข้าโซเชียลและใช้งานแอปฯ ทั่วไปใน WAX 4G จะพบอาการสะดุดและเด้งออกบ่อยครั้ง (Force Close) ซึ่งตรงจุดนี้น่าจะมาจากการชิป NVIDIA Tegra 4i ที่ยังปรับให้เข้ากับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.3 Jelly Bean ไม่ดีพอ




แต่ทั้งนี้เมื่อลองทดสอบเล่นเกม ผลลัพท์ที่ได้จะแตกต่างจากใช้งานทั่วไปมาก เพราะการเล่นเกมสามารถทำได้ลื่นไหลเกือบทุกเกมที่ทดสอบ โดยเกมที่รองรับชุดคำสั่งพิเศษจาก NVIDIA Tegra จะแสดงผลลัพท์ที่เหนือกว่าเล่นเกมเดียวกันบนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นมาก เช่น เอ็ฟเฟ็กต์ที่มีมากกว่า เงาสะท้อนที่คมชัดกว่า ระบบฟิสิกส์ที่สวยงามเหมือนจริงกว่า ส่วนการทดสอบเล่นเกมทั่วไปที่อยู่ใน Google PlayStore ส่วนใหญ่จะเล่นได้ มีเพียงบางเกมเช่น Modern Combat 5 ที่ไม่สามารถรันบน WAX 4G ได้เพราะเกมไม่รู้จักกับดีไวซ์ที่ทำงานอยู่



ส่วนคลิปวิดีโอนี้แสดงให้เห็นถึงการทดสอบเล่นเกมเพื่อตอบคำถามที่ทุกคนสงสัยว่า “สมาร์ทโฟนราคาประหยัดไม่ถึงหมื่นบาทจะเล่นเกมไหวหรือไม่ คลิปนี้คงเป็นคำตอบที่ช่วยให้หลายคนหายสงสัยได้”



มาถึงเรื่องแบตเตอรีที่ดูเหมืนอว่าในครั้งนี้วีโกจะทำการบ้านมาได้ไม่ดี เพราะในเมื่อ WAX 4G ถูกกำหนดมาให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่เหมาะกับการใช้เล่นเกมที่สุด แต่วีโกให้แบตเตอรีมาเพียง 2,000mAh ที่ไม่เพียงพอต่อการเล่นเกมและมัลติมีเดียไฟล์ต่างๆ เนื่องจากเมื่อใช้งานเหล่านั้นแบบจริงจังแบตเตอรีสามารถหมดพลังลงได้เพียง 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น

แต่สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมเป็นหลัก แบตเตอรีขนาด 2,000mAh ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน 9-12 ชั่วโมง ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น

IMG_20141016_155036

จบที่การทดสอบสุดท้ายกับกล้องหน้าและหลังที่ในครั้งนี้ Wiko WAX 4G ทำได้ดีกว่าตอนทดสอบกล้องรุ่น Highway Signs มาก ตัวกล้องมีความคมชัด สีสันที่ได้แม้จะติดเหลืองไปบ้างแต่โทนภาพ คอนทราสต์ความอิ่มตัวของสีถือว่าทำได้ดี อีกทั้งซอฟต์แวร์กล้องที่มาในสไตล์เพียวกูเกิลก็ทำงานได้รวดเร็วไม่หน่วงเหมือนในรุ่นก่อนหน้าที่ทดสอบ

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?

ข้อดี

- เกมมิ่งสมาร์ทโฟนราคาประหยัด เล่นเกมสามมิติได้ดี
- น้ำหนักเบา
- หน้าจอสัมผัสลื่นไหล
- ตัวเครื่องแกะฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรีได้
- กล้องหน้าและหลังให้คุณภาพไฟล์ภาพใช้ได้ มีไฟแฟลช LED

ข้อสังเกต

- ระบบไม่ลื่นไหล เกิดแอปฯ เด้ง Force Close ตัวเองออกบ่อยมาก
- NVIDIA Tegra 4i สเปกดีแต่ปรับแต่งให้เข้ากับแอนดรอยด์ยังไม่ดี



กับราคาเปิดตัว 7,990 บาทก็นับว่า Wiko WAX 4G ยังคงเป็นตามคอนเซปของวีโกคือเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดแต่อัดแน่นสเปกมาให้ค่อนข้างน่าสนใจ และถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่โลดแล่นในตลาดสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ทำได้ดีไม่แพ้คู่แข่ง โดยเฉพาะประสิทธิภาพด้านหน่วยประมวลผลที่วีโกเลือกใช้ทั้ง 7 รุ่นตั้งแต่ระดับราคา 2 พันบาทปลายๆ ถึง 7 พันบาทปลายๆ ทำได้ชัดเจนมาก โดยเฉพาะรุ่น WAX 4G ที่จัดเป็นรุ่นท็อปสุดในราคาไม่แพงแต่สามารถใช้งาน เล่นเกมสามมิติได้ค่อนข้างดีด้วยการเลือกใช้หน่วยประมวลผลที่ลงตัวกับราคามากและกลายเป็นการเปิดโอกาสให้คอเกมเมอร์ที่กระเป๋าไม่หนักแต่อยากได้สมาร์ทโฟนเล่นเกมได้ดีระดับหนึ่ง WAX 4G คือคำตอบที่ดีในตอนนี้ แต่สำหรับคนที่เน้นโซเชียล เน้นเล่นแอปฯ มากกว่าเล่นเกม ถึงอย่างไรรุ่นก่อนหน้าอย่าง Wiko Highway Sings ก็ยังให้ผลลัพท์ที่ดีกว่าในราคาที่ถูกกว่า WAX 4G หนึ่งพันบาท

Company Related Link :
Wiko Mobile

Instagram

CyberBiz Social








กำลังโหลดความคิดเห็น