ผู้ให้บริการหลายค่ายเริ่มมีมือถือจ้างผลิตในแบรนด์ของตนเองออกมา เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดผู้เริ่มใช้สมาร์ทโฟน แน่นอนว่าราคาเป็นปัจจัยแรกสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ แต่กระนั้นคุณภาพของเครื่องก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างประสบการณ์ที่ดี ทำให้เกิดความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนต่อไป และ AIS Lava Iris 4.5 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ออกมารองรับตลาดใหม่จากค่าย AIS ด้วยราคาที่จำหน่ายพร้อมโปรโมชันที่พ่วงมาด้วยตามสไตล์ผู้ให้บริการ และอาจจะมัดใจให้หลายคนไม่ลังเลที่จะซื้อเครื่องรุ่นนี้มาครอบครอง แต่ช้าก่อน ทีมงานขอพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครื่องที่มีราคาถูกจนน่าใจหายเครื่องนี้กันก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
การออกแบบและสเปก
AIS Lava Iris 4.5 มาพร้อมรูปร่างหน้าตาแบบบาร์แท่งที่ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป มองผิวเผินอาจจะไม่สะดุดตาเรื่องดีไซน์แต่อย่างใด มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ชนิด IPS ที่อาจจะให้แสงได้ไม่ดีเท่าที่ควรแม้ว่าจะมีขนาดเม็ดสีที่แจ้งมาว่าเป็น 16 ล้านสีก็ตาม และด้วยราคาที่จำกัดทำให้ได้ความละเอียดหน้าจออยู่เพียงแค่ 854 x 480 พิกเซล ด้านหลังมีกล้องความละเอียด 5 MP แบบโฟกัสอัตโนมัติ พร้อมแฟลช LED อีกทั้งยังมีกล้องหน้าแบบ VGA ตามราคาที่จำกัด
ด้านความแรงของตัวเครื่องที่มาพร้อม CPU 1.3 GHz รุ่น MT6572 Dual core พร้อมหน่วยความจำในตัวเครื่อง 4GB และ RAM 512 MB รองรับ Micro SD สูงสุด 32 GB พร้อมการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi สามารถปล่อย Wi-Fi Hotspot มี Bluetooth และGPS สำหรับการใช้งานด้านแผนที่ ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean รองรับ 2 ซิมการ์ดขนาดปกติ ช่วยให้การใช้งานสำหรับผู้ที่มีหลายเลขหมายสะดวกมากขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ 1,650 mAh
ด้านหน้า - มาพร้อมหน้าจอสัมผัส IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ด้านบนตรงกลางมองเห็นลำโพงเด่นชัด และเยื้องไปทางด้านซ้ายจะมีกล้องหน้าความละเอียด VGA เรียกว่าแก้ขัดสำหรับวิดีโอคอลก็แล้วกัน ขอบจอทั้งซ้ายและขวามีระยะชิดขอบที่ถือว่าเหมาะสม และด้านล่างจะเห็นปุ่มกดแบบเรืองแสงที่ฝังอยู่ภายในจอเมื่อต้องการใช้งานเท่านั้น
ด้านหลัง - มีกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED ช่วยในการถ่ายที่มีแสงน้อยได้บ้าง ถัดลงมาเป็นโลโก้ AIS 3G และด้านล่างเป็นโลโก้ LAVA แบรนด์สัญชาติอินเดีย หากแต่เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศจีน ขณะที่ด้านล่างมีเลขรุ่นและช่องลำโพงเพื่อขับเสียงเรียกเข้า เนื้อพลาสติกมีความด้านเล็กน้อยโดยเมื่อสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกกระชับมือดี ไม่ลื่น
ด้านซ้าย - มีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง เนียนเรียบไปตามขอบ โดยปุ่มกดยังขาดความนุ่มนวลในการใช้งานอยู่พอสมควร ด้านขวา - มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องขนาดเล็ก ด้านล่างจะเห็นร่องขนาดเล็กสำหรับงัดเปิดฝาหลัง โดยรวมการออกแบบด้านข้างแบบพลาสติกเรียบสีดำช่วยเพิ่มความเงางามให้ตัวเครื่องได้ หากแต่การออกแบบให้มีความโค้งมนของขอบ ให้ความรู้สึกของเครื่องโบราณในอดีตที่เลือกใช้ดีไซน์แบบนี้
ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรเพื่อเป็นทั้งหูฟังและสายสัญญาณวิทยุอยู่ทางด้านขวา ขณะที่ด้านซ้ายมีพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบสายชาร์จ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านล่าง - ไม่มีช่องต่ออุปกรณ์ใดๆ
AIS Lava Iris 4.5 รองรับการใช้งาน 3G ย่านความถี่ 2100 MHz บนมาตรฐาน HSPA ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 21 Mbps และอัปโหลดความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps รองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n มีบลูทูธ จีพีเอส สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิมขนาดปกติ แต่รองรับ 3G แค่ซิมเดียวโดยเลือกใช้ช่องซิมด้านซ้ายสำหรับใส่ซิม 3G เท่านั้น
ทั้งนี้แม้ว่าจะเป็นมือถือที่สั่งทำมาสำหรับแบรนด์โดยเฉพาะ แต่กระนั้นของแถมภายในกล่องก็ถือว่ามีให้อย่างครบครัน โดยมีทั้งแผ่นกันรอยสำหรับติดเอง 1 แผ่น ปลอกพลาสติกสีดำขุ่นแบบเปิดหน้า 1 อัน พร้อมหูฟังแบบสมอลล์ทอร์คคุณภาพตามราคา 1 เส้น ก็ถือว่ามีของแถมให้ครบโดยที่ไม่ต้องไปซื้อมาเพิ่มเพื่อป้องกันเครื่องแต่อย่างใด
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
เรื่องราคาน่าจะเป็นสิ่งชูโรงสำหรับเครื่อง AIS Lava Iris 4.5 รุ่นนี้อย่างชัดเจน โดยราคาของเครื่องนี้เย้ายวนให้หลายคนหันมาสนใจเครื่องที่ผู้ให้บริการจ้างผลิต ซึ่งก็น่าจะตรงกับความต้องการของผู้ให้บริการเองที่ต้องการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่เริ่มสนใจสมาร์ทโฟนได้ลองใช้เครื่องราคาถูกก่อนเริ่มใช้เครื่องรุ่นอื่นๆต่อไป
การรองรับ 2 ซิมการ์ดช่วยให้การใช้งานสำหรับผู้ที่ต้องการแยกระหว่างซิมโทรและซิมดาต้าออกจากกันใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แน่นอนว่าเมื่อแบตเตอรี่หมดอาจจะดับทั้งสองเครื่อง แต่กระนั้นก็สะดวกในการพกพาเพราะหากต้องพก 2 เครื่องตลอดเวลาก็นับว่าเป็นเรื่องหนักกระเป๋าอยู่พอสมควร
วิทยุ FM ที่มีอยู่ภายในเครื่องอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในสถานะการณ์ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตแล้ว การได้ฟังวิทยุจากคลื่นที่เราชื่นชอบก็ช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เชื่อแน่ว่าสมาร์ทโฟนราคาแพงที่ลืมจุดนี้อาจจะตกม้าตายในบางพื้นที่ก็เป็นได้
หน่วยประมวลผล CPU 1.3 GHz รุ่น MT6572 Dual core นับว่าเกินราคาของเครื่องเป็นอย่างมาก โดยความแรงของซีพียู ช่วยให้สามารถเล่นเกมภายในเครื่องได้อย่างลื่นไหล แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกมที่หนักอย่างเช่น 3D หรือเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรภายในเครื่องหนักๆ
กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล อาจจะไม่ได้ภาพสวยงามเทียบเท่าสมาร์ทโฟนราคาแพง แต่ก็ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ครบครันสำหรับการใช้งานเริ่มต้น โดยคุณภาพของภาพที่ได้ยังถือว่าพอแก้ขัดเท่านั้น
ภาพตัวอย่างจากการถ่ายด้วยกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล 1
ภาพตัวอย่างจากการถ่ายด้วยกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล 2
หน้าตาอินเตอร์เฟสมีการใส่ลูกเล่นของน้องอุ่นใจของค่ายเอไอเอสเข้ามาอย่างสวยงาม โดยรวมแอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับบริการจากค่ายเอไอเอสไว้ทั้งหมดเป็นพื้นฐาน
ขณะที่ฟีเจอร์ของการฟังเพลง ความพิเศษอยู่ที่ความสามารถในการปรับอีควอไลท์เซอร์ได้อย่างอิสระ ช่วยปรับแต่งคุณภาพเสียงได้ในระดับหนึ่ง โดยมีให้เลือกทั้งแบบปรับเอง หรือปรับตามค่าสำเร็จรูปให้เลือก
ด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ต สามารถเปิดเว็บได้อย่างสะดวกลื่นไหล โดยทดสอบด้วยการเปิดเว็บหนักอย่าง manager.co.th ก็สามารถเปิดได้อย่างไม่มีส่วนใดที่ผิดพลาดให้เห็น
ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant และ Antutu ได้คะแนน 3,377 คะแนน และ 10,668 คะแนน ตามลำดับ ซึ่งก็เหมาะสมกับราคาที่จ่าย ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม MultiTouch สามารถรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้ 5 จุด อาจจะไม่สามารถตอบสนองการเล่นเกมส์ผ่านหน้าจอได้ดีเท่าที่ควร
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,647 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 529 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้คะแนน 54.4 fps และ Nenamark2 ได้คะแนน 39.4 fps เช่นกัน An3dBench 7,276 คะแนน และ An3dBenchXL 27,594 คะแนน
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม PassMark Performance Test Mobile ได้คะแนนรวม 1,653 คะแนน CPU ได้คะแนน 4,268 คะแนน Disk Mark ได้คะแนน 3,095 คะแนน Memory Mark ได้คะแนน 1,526 คะแนน กราฟฟิก 2D ได้คะแนน 1,666 คะแนน และ กราฟฟิก 3D ได้คะแนน 546 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
จุดขาย
- ราคาถูก ขายเพียง 2,690 บาทเท่านั้น
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดขนาดปกติ
- อุปกรณ์ในกล่องครบ
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- แบตเตอรี่น้อย และไม่ควรปล่อยให้ดับเองจะเกิดปัญหา
- รองรับการใช้งาน 3G เฉพาะ 2100 Mhz เท่านั้น
- สีของหน้าจอยังไม่สวยเท่าไหร่
- อาการเครื่องร้อนยังมีให้เห็น
- อาการเครื่องดับเปิดไม่ติดจากการชาร์จแบต
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ยอมรับว่าราคาถูกแน่นอน แต่คุณภาพก็ลดตามไปด้วย จริงๆแล้วอาจจะเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้สมาร์ทโฟนด้วยราคาเริ่มต้นที่ถูก ที่ต้องการทดลองใช้งานแอนดรอยด์โฟน ที่เน้นการใช้งานทั่วๆไปเป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการเรียนรู้การใช้งานเพิ่มเติมด้วย แต่ถ้ามองว่าเป็นผู้ที่ต้องการเครื่องมาใช้สำรองก็น่าจะคุ้มค่าอยู่
ส่วนในแง่ของบริการหลังการขายทางเอไอเอส ให้ทาง เอสวีโอเอ เป็นผู้ดูแล ทำให้เวลาเครื่องมีปัญหาอาจจะต้องส่งซ่อมตามศูนย์บริการของเอสวีโอเอเอง ทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควร เพราะทางศูนย์บริการของเอไอเอส ไม่ได้เป็นผู้รับเรื่องทั้งหมด
CyberBiz Social
