xs
xsm
sm
md
lg

Review : WD Black 2 Dual Drive แรงแบบ SSD บนความจุ 1TB

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




หน่วยเก็บข้อมูลประเภท SSD (Solid-state drive) ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก เพราะเรื่องความรวดเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลที่มากกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนเป็นเท่าตัวไปถึงเรื่องความร้อนสะสมระหว่างทำงานที่น้อยกว่า และราคาเริ่มต้นที่ปรับลดลงมาเหลือ 3-4 พันบาทสำหรับความจุ 120GB ทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้นเพราะเชื่อว่าหน่วยเก็บข้อมูลประเภทนี้จะช่วยลดเวลาในการโหลดโปรแกรมและระบบปฏิบัติการได้รวดเร็วกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนหลายเท่าตัว โดยเฉพาะผู้ใช้โน้ตบุ๊กที่ได้รับข้อดีจาก SSD เต็มๆ คือช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุแบตเตอรีให้ทำงานได้ยาวนานขึ้นและเครื่องไม่ร้อน

แต่ทั้งนี้หน่วยเก็บข้อมูลประเภท SSD แบบเพียวๆ ก็มีข้อจำกัดอยู่ในเรื่องความจุที่ยังไม่มากพอถึงระดับเป็นเทราไบต์ และเรื่องของราคาสำหรับความจุมากสุดที่ 480-512GB ก็กระโดดสูงถึงระดับหนึ่งหมื่นบาทปลายๆ ถึงสองหมื่นบาทเป็นต้นไป ทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่คิดอัปเกรดหน่วยเก็บข้อมูล ต้องใช้วิธีหาซื้อ SSD ขนาด 120GB ที่มีราคาไม่สูงมาใช้เพื่อบู๊ตระบบเท่านั้นและก็หาฮาร์ดดิสก์จานหมุนระดับ 500GB-1TB ที่มีราคาไม่เกิน 4 พันบาทมาใช้งานเพื่อเก็บข้อมูลแยกกัน

แน่นอนว่าสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมักไม่ประสบปัญหาเรื่องการอัปเกรดเหล่านั้นเพราะส่วนใหญ่เมนบอร์ดจะรองรับการเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์และ SSD ได้หลายตัว แต่สำหรับโน้ตบุ๊กที่มักรองรับการใส่หน่วยเก็บข้อมูลได้เพียง 1 ตัว นี่คือความยากลำบากในการตัดสินใจอัปเกรดเลยทีเดียว



แต่วันนี้ปัญหาเหล่านั้นจะถูกแก้ไขให้หมดไปเมื่อ Western Digital (WD) คลอดไฮบริด (Hybrid) ฮาร์ดดิสก์จานหมุน + SSD ในชื่อ “WD Black 2 Dual Drive” พร้อมจุดขายชัดเจนคือ ”เป็นฮาร์ดดิสก์ที่ออกแบบมาให้ส่วนของ SSD ขนาด 120GB สามารถใช้เพื่อติดตั้งระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ เพื่อการเรียกใช้งานที่รวดเร็วในแบบ SSD และส่วนของฮาร์ดดิสก์จานหมุนขนาด 1TB ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เก็บข้อมูลต่างๆ โดย WD ต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอัปเกรดโน้ตบุ๊กเป็นหลัก”

การออกแบบและสเปก



ตามปกติฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้วที่ขายกันตามท้องตลาดจะมีแต่ตัวฮาร์ดดิสก์ใส่ในซองกันไฟฟ้าสถิต (ESD Bag) แต่สำหรับ WD Black 2 Dual Drive ทาง WD จัดกล่องใส่มาอย่างสวยงามพร้อมแฟลชไดร์ฟ (ออกแบบมาเหมือนกับกุญแจรถยนต์) รวมไดร์วเวอร์ที่จำเป็นมาให้พร้อมคู่มือใช้งานเบื้องต้นอย่างละเอียด



นอกจากนั้นยังมาพร้อมสาย SATA to USB 3.0 เผื่อผู้ใช้จะนำ Dual Drive รุ่นนี้ไปใช้ต่อกับพอร์ต USB 2.0/3.0 แบบ External HDD




ในส่วนของตัว Dual Drive จะสามารถเชื่อมต่อกับพอร์ต SATA ความเร็วสูงสุด 6Gb/s (SATA 3Gb/s ก็รองรับเช่นกันแต่จะใช้ความเร็วได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ) ขนาดตัวอยู่ที่ 2.5 นิ้ว น้ำหนัก 125 กรัม โดย SSD ที่บรรจุอยู่ภายในมีขนาด 20 นาโนเมตร (quad channel NAND Flash) ความจุ 120GB ส่วนฮาร์ดดิสก์จานหมุนมีความจุ 1TB เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์จากตระกูล Black (รุ่นท็อปสุด ความเร็ว 5,400 รอบต่อนาที) อันมีชื่อเสียงของ WD มาพร้อมเทคโนโลยี Shift_ ที่ช่วยจัดการแคลชไฟล์เวลาโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่เพื่อความรวดเร็ว โดยเฉพาะเหล่าบรรดาเกมเมอร์ที่จะช่วยจัดการเรื่องการโหลดข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น

การใช้งานเบื้องต้นที่ต้องทำความเข้าใจ




ด้วยความเป็นฮาร์ดดิสก์ + SSD ลูกผสมทำให้การใช้งานเริ่มต้นจะแตกต่างจากการใช้งานทั่วไปเพราะทันทีที่ติดตั้ง WD Black 2 Dual Drive เข้ากับพอร์ต SATA แบบตรงๆ ผู้ใช้จะเห็นเนื้อที่ใช้งานประมาณ 111GB ซึ่งเป็นเนื้อที่ของส่วน SSD ส่วนเนื้อของฮาร์ดดิสก์จานหมุนที่มีอีกเกือบ 1TB จะถูกซ่อนอยู่ เพื่อป้องกันความสับสนเวลาติดตั้งวินโดวส์ เพราะ WD ต้องการให้ระบบปฏิบัติการและส่วนของโปรแกรมใช้งานถูกติดตั้งบน SSD ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงก่อนเพื่อเป็นไปตามขั้นตอนและได้ประสิทธิภาพความแรงสูงสุด

และเมื่อวินโดวส์ถูกติดตั้งบนส่วนของ SSD จากนั้นก็ถึงเวลาเรียกการทำงานของฮาร์ดดิสก์จานหมุนที่เหลือ โดยต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ชื่อ WD Black 2 Installation Software ลงไป (รองรับเฉพาะวินโดวส์ XP, Vista, ,7, 8 และ 8.1 เท่านั้น ไม่สามารถทำงานบน OSX ได้)จากนั้นกดติดตั้ง ระบบจะเรียกเนื้อที่ส่วนทืี่เหลือขึ้นมา



และเมื่อทุกขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์แล้ว Drive ที่ปรากฏบนวินโดวส์จะแบ่งเป็น 2 พาร์ทิชันได้แก่ พาร์ทิชันแรกเป็นส่วนของ SSD ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการไว้ (มีพื้นที่ใช้งานอยู่ที่ 111.79GB) ส่วนพาร์ทิชันที่สองเป็นส่วนเก็บข้อมูล ไฟล์เอกสาร ภาพ เพลงและอื่นๆ (มีพื้นที่เหลือใช้งาน 931.51GB) เป็นอันว่า Dual Drive เริ่มทำงานแบบไฮบริดเรียบร้อยแล้ว



ส่วนผู้ใช้ท่านใดไม่อยากติดตั้งวินโดวส์และซอฟต์แวร์ใหม่ทั้งหมด ทาง WD ก็มีทางออกมาให้กับซอฟต์แวร์โคลน (Clone) ฮาร์ดดิสก์ตัวเก่าทั้งลูกมาสู่ Dual Drive ใหม่กับ Acronis True Image WD Edition ที่สามารถหาดาวน์โหลดได้ฟรีจากส่วนของ Support บนเว็บไซต์ผู้ผลิตเอง โดยตัวซอฟต์แวร์จะทำการแบ่งพาร์ทิชันให้อย่างถูกต้อง

ทดสอบประสิทธิภาพ

มาถึงการทดสอบประสิทธิภาพส่วนนี้ผม @dorapenguin เลือกทดสอบร่วมกับเมนบอร์ด ASUS Sabertooth P67 พอร์ต SATA 6Gb/s (Intel® P67(B3) chipset) และซอฟต์แวร์ทดสอบ HD Tune 5.50 โดยแบ่งชุดการทดสอบเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่


1.ทดสอบความเร็วเขียน-อ่านส่วนของ SSD เพียวๆ
2.ทดสอบความเร็วเขียน-อ่ารแบบไฮบริดระหว่าง SSD+HDD



ความเร็วในการอ่านส่วนของ SSD


ความเร็วในการเขียนส่วนของ SSD

เริ่มการทดสอบแรกกับส่วนของ SSD ขนาดความจุ 120GB เพียวๆ พบว่าความเร็วในการอ่านเฉลี่ยอยู่ที่ 262.4 MB/s ที่ค่า Access time 0.065ms โดยจากกราฟจะเห็นว่าทำงานได้ค่อนข้างนิ่ง และเมื่อทดสอบใช้งานจริงจากการติดตั้งวินโดวส์ 8.1 ลงไปพบว่าสามารถเข้าใช้งานได้รวดเร็วกกว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนปกติอย่างเห็นได้ชัด


ความเร็วในการอ่านส่วนของ HDD+SSD


ความเร็วในการเขียนส่วนของ HDD+SSD

จากกราฟด้านบนจะเห็นว่ากราฟค่อนข้างแกว่งและความเร็วจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อการทดสอบวิ่งไปถึงความจุสูงสุดที่ 1TB ส่วนช่วงกราฟระหว่าง 0-112GB จะมีความเร็วในการอ่านเขียนสูงสุด ที่เป็นเช่นนี้เพราะความเป็นไฮบริดและทาง WD แบ่งช่วง SSD ไว้จุดเริ่มต้นที่ 0-120GB จึงทำให้กราฟพุ่งสูงในช่วงนั้นและหลังจากนั้นจะเป็นความเร็วส่วนของฮาร์ดดิสก์จานหมุนที่ WD เลือกใช้บริการฮาร์ดดิสก์ตระกูล Black

โดยความเร็วเฉลี่ยเมื่อทำงานแบบไฮบริดสำหรับการอ่านข้อมูลอยู่ที่ 108.3MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่ที่ 90.7MB/s

ทีนี้หลายคนอาจสงสัยเพราะจากกราฟเมื่อทำงานแบบไฮบริดแล้วความเร็วที่ได้จะไม่แตกต่างจากฮาร์ดดิสก์ WD Caviar Black แล้วอย่างนี้ WD Black 2 Dual Drive จะคุ้มค่าได้อย่างไร คำตอบนี้ตอบได้ไม่ยากครับ เพราะความจริงแล้วการออกแบบของ WD เน้นใช้ส่วนของ SSD 120GB แบบเพียวๆ ไปกับเรื่องการบู๊ตระบบและโหลดซอฟต์แวร์เพื่อใช้งานต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้น ส่วนความจุที่เหลือประมาณ 1TB WD ก็ตั้งใจให้คุณไว้เก็บข้อมูลทั่วไปอยู่แล้ว แน่นอนถ้าคุณติดตั้งวินโดวส์ตามที่ WD แนะนำมาอย่างถูกต้อง วินโดวส์และซอฟต์แวร์ต่างๆ จะทำงานบนความเร็วตามกราฟทดสอบ SSD แบบเพียวๆ ได้อย่างแน่นอน

ผู้อ่านท่านใดที่อยากอัปเกรดคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก อัลตร้าบุ๊กเพื่อต้องการหน่วยเก็บข้อมูลที่รวดเร็วแบบ SSD และอยากได้เนื้อที่เก็บข้อมูลจำนวนมากด้วย WD Black 2 Dual Drive เป็นทางออกที่น่าสนใจเช่นกัน

สำหรับราคา WD Black 2 Dual Drive จะอยู่ที่ 10,900 บาท

ตอนนี้ CyberBiz ของเราได้เปิด Instagram เพิ่มอีก 1 ช่องทาง ผู้อ่านทุกท่านสามารถไปกดติดตามได้ครับที่ http://instagram.com/cbizonline

Company Related Link :
Western Digital

CyberBiz Social




กำลังโหลดความคิดเห็น