ไม่บ่อยนักที่จะเห็นสเปกเครื่องสูงแต่ราคาไม่เกิน 9,000 บาทสำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน Cherry Cosmos X2 ทำออกมาตอบโจทย์ทั้งความแรงและระดับราคาที่สามารถเอื้อมถึง โดยเฉพาะจอแสดงผลที่ให้ความละเอียดสูงแบบ HD พร้อมกล้องหลัก 18 ล้านพิกเซล สอดรับการเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ดีไวซ์ที่กำลังจะมาในปี 2014 แม้ว่าจะมีข้อด้อยอยู่บ้างในบางเรื่อง แต่เมื่อเทียบราคากับเครื่องที่มีอยู่ในท้องตลาดก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
การออกแบบและสเปก
Cherry Cosmos X2 เลือกใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกเนื้อดี แต่กระนั้นหน้าจอที่เลือกใช้กระจกกันรอยก็ยังซ่อนขอบโลหะเพื่อความทนทานขึ้นมาโดยรอบ พร้อมเลือกใช้โลหะสีดำขนาดใหญ่เป็นปุ่มโฮมเพื่อสะท้อนความหรู ด้านขอบถูกออกแบบมาให้เฉียงลงไปที่ฝาหลังเพื่อลดพื้นที่ด้านหลังให้ดูเล็กลง สีของตัวเครื่องเลือกใช้โทนขาว-ดำ ตามแบบอย่างที่เรียบง่าย โดยซ่อนลายเส้นตัดขวางไว้ที่ด้านหลังเพื่อลดจุดตัดสายตาให้สนใจโลโกของบริษัทมากขึ้น ปุ่มกดสีดำถูกซ่อนอยู่ด้านขอบที่เป็นแนวเฉียง โดยรวมถือว่าลงตัวในส่วนของความสวยงาม
ด้านหน้า - จะเห็นแผ่นกระจกแบบ Corning Gorilla Glass 2 ป้องกันรอยขีดข่วน ด้านบนมีลำโพงอยู่กึ่งกลาง โดยแบ่งด้านซ้ายเป็นไฟเตือนสีขาวและด้านขวาเป็นตำแหน่งกล้องหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล และด้านล่างของจอภาพจะมีปุ่มโฮมทำจากโลหะสีดำแบบผืนผ้า ด้านซ้ายเป็นปุ่มเมนูแบบสัมผัสโดยจะเรืองแสงเมื่อเรียกใช้ ขณะที่ด้านขวามีปุ่มย้อนกลับแบบเรืองแสงเช่นกัน
ด้านหลัง - มีกล้องขนาด 18 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED ในตำแหน่งใกล้กัน บริเวณตรงกลางของฝาหลังเป็นตำแหน่งของโลโกรุ่น COSMOS พร้อมร่องตัดขวางเป็นส่วนของออกแบบ ด้านล่างจะเห็นช่องลำโพงเยื้องไปทางขวาและโลโก cherry mobile แบบสกรีนบนพื้นขาว
ด้านซ้าย - มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงสีดำเรียววาวอยู่บริเวณตรงกลาง โดยแนวเฉียงของการออกแบบเมื่อลองจับแล้วพยายามกดปุ่มจะทำได้ยากอยู่พอสมควร การออกแบบปุ่มนับเป็นจุดอ่อนที่สุด เพราะเมื่อลองจับมือเดียวแล้วลองกดปุ่มจะทำได้ยากมาก เหตุจากการซ่อนปุ่มตามแนวเฉียงของขอบที่ไม่สัมพันธ์กับกายภาพผู้ใช้นั่นเอง ด้านขวา - มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่องสีดำเพียงปุ่มเดียว และก็เช่นเดียวกันที่กดจับยากพอสมควร
ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังหรือสมอลทอร์คเพียงช่องเดียวเท่านั้น ด้านล่าง - มีช่องเสียบไมโครยูเอสบีสำหรับชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูลด้วยสาย ขณะที่เยื้องไปทางด้านขวาจะมีรูขนาดเล็กสำหรับดูดเสียงเข้าไมค์ และด้านมุมของทางขวาจะเห็นร่องขนาดเล็กสำหรับเปิดฝาหลังออก
และเมื่อเปิดฝาหลังออกสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องใหม่ คือการซ่อนลายเสาอากาศอยู่บริเวณฝาหลังทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน(ด้านบน 2 จุด และด้านล่าง 1 จุด) แน่นอนว่าการปิดฝาหลังไม่แน่นสำหรับ Cosmos X2 จะส่งผลต่อระดับสัญญาณทั้งในส่วนของการโทร ไวไฟ และสัญญาณการเชื่อมต่อข้อมูล ภายในเครื่องมีช่องเสียบซิมการ์ดแบบ 2 ชั้น โดยสามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม ซ้อนกันอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
Cherry Cosmos X2 มาพร้อมจอ Super AMOLED HD พร้อมกระจกกันรอย Gorilla Glass 2 ขนาด 4.8 นิ้ว ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล CPU Mediatek MT6589 1.2GHz Quad core หน่วยประมวลผลภาพแบบ GPU PowerVR SGX544MP ช่วยให้การแสดงผลภาพลื่นไหล ทำงานบนแรมขนาด 1GB พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล 16 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบไมโครเอสดีการ์ดได้สูงสุด 32GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 (Jelly Bean) รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G บนย่านความถี่ 850, 2100 MHz ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด HSPA+ 42 Mbps พร้อมรองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 b/g/n/ac มีบลูทูธ V4.0 วิทยุ FM มีจีพีเอสสำหรับแอปพลิเคชันนำทางและระบุพิกัดที่อยู่ กล้องทั้งสองใช้ชิป BSI โดยกล้องหลักความละเอียด 18 ล้านพิกเซลและกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ความจุแบตเตอรี่ลิเทียม 2,200 mAh
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ความแรงของ CPU Mediatek MT6589 1.2GHz Quad core ช่วยให้การทำงานลื่นไหลขึ้นเยอะ แม้ว่าจะไม่ได้เทพแบบที่ Snapdragon 800 ทำได้ แต่ก็สร้างความลื่นไหลที่พอเพียงสำหรับการเล่นเกม 3D ได้อย่างไม่รู้สึกติดขัด
มีโปรแกรม Cherry Play อยู่เป็นมาตรฐานของเครื่องเลย ช่วยให้การค้นหาโปรแกรมที่เหมาะสมเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกเหนือจากการมี Google Play Store ที่เป็นระบบเปิดของโปรแกรมแอนดรอยด์ทั้งหมด แต่กระนั้นการติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องควรมั่นใจแหล่งที่มาเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลที่อยู่ภายในเครื่องเป็นสำคัญ
หน้าจอความละเอียดแบบ HD ถือเป็นอีกหนึ่งความคมชัดที่น่าประทับใจ อาจเพราะให้สีที่สมจริงและความอิ่มตัวของแสงสูงจึงช่วยให้ภาพที่ออกมาน่าดูมากยิ่งขึ้น สังเกตจากภาพที่จับจากหน้าจอมาได้ความละเอียดของสีที่ดูดีสมราคา
กล้องความละเอียด 18 ล้านพิกเซล นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สอดรับกับความละเอียดหน้าจอได้เป็นอย่างดี แม้ว่าส่วนเสริมหรือเอฟเฟกต์ของโปรแกรมการถ่ายภาพมาตรฐานที่ให้มายังน้อยอยู่ แต่ในส่วนของการโฟกัสที่รวดเร็วช่วยให้ลืมหรือพร้อมจะหาโปรแกรมมาทดแทนเพื่อเพิ่มลูกเล่นเองอย่างไม่ติดใจ แน่นอนว่าแฟลชที่มาพร้อมกับตัวกล้องแบบDual LED สามารถช่วยเพิ่มความสว่างให้ภาพได้หลากหลายมากขึ้น (ชมภาพตัวอย่างจากกล้องด้านล่าง)
- ภาพตัวอย่าง 1
- ภาพตัวอย่างจาก 2
ชมภาพตัวอย่างจากกล้อง 18 ล้านพิกเซลทั้งหมดได้ ที่นี่
ฟีเจอร์ 2 ซิมแสตนด์บายยังเป็นสิ่งที่โดดเด่นอยู่ในปัจจุบัน ตอบโจทย์ผู้คนสมัยใหม่ที่นิยมมีซิมที่มากกว่า 1 ทั้งเบอร์ของส่วนตัวและของบริษัท ช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่กระนั้นก็ยังเชื่อว่าอุปกรณ์ที่มากกว่าเครื่องสมาร์ทโฟน 2 ซิมก็ยังมีอยู่ในกระเป๋าติดตัวทุกวันแน่นอน
ผลการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน3,664 คะแนน และ 13,576 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน
ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 1,464 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 486 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 57.3 fps Nenamark2 45.6 fps ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่ไม่น่าประทับใจสำหรับเครื่องระดับควอดคอร์
ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม Passmark Performance Test Mobile ได้คะแนน System 2,207 คะแนน CPU 7,898 คะแนน Disk 5,069 คะแนน Memory 1,527 คะแนน 2D Graphics 2,091 คะแนน และ 3D Graphics 740 คะแนน
ส่วนการทดสอบ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง
การทดสอบโปรแกรม 3DMARK รายละเอียดตามลำดับ Ice Stormได้ 3,179 คะแนน Ice Storm Extreme ได้ 1,567 คะแนน Ice Storm Unlimited ได้ 2,549 คะแนน
จุดขาย
- ความละเอียดหน้าจอ 720X1280 พิกเซล ความชัดของจอถือว่าผ่าน
- หน่วยประมวลผลแบบ 1.2GHz Quad core
- ราคาเปิดตัวเพียงแค่ 8,990 เท่านั้น
- หน้าจอใหญ่ 4.8 นิ้ว
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ปุ่มสัมผัสด้านล่างมากเร็วเกินไป เมื่อมีอะไรผ่านปุ่ม หน้าจออาจจะย้อนกลับได้โดยง่าย
- กล้อง 18 ล้านยังไม่เห็นความแตกต่างเมื่อเทียบกับกล้อง 13 ล้าน
- เมื่อใช้เครื่องสักระยะมีอาการช้าหรือเครื่องค้างเกิดขึ้นให้เห็น
- Light Sensor มีเพี้ยนในบางครั้ง คือปรับแสงไปมาแม้ว่าจะจับเครื่องอยู่นิ่ง
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ถ้าชอบเรื่องราคาและสะดวกที่จะปรับแต่งเครื่องตามความเหมาะสม ถือว่าเป็นเครื่องที่น่าลองเล่นเป็นอย่างมาก และยิ่งหากเป็นคนที่ชำนาญเรื่องแอนดรอยด์ด้วยแล้วนับว่าเป็นเครื่องที่มีอุปกรณ์ดีหลายชิ้นมาประกอบกัน หากสามารถเร่งประสิทธิภาพของเครื่องด้วยซอฟต์แวร์ให้มากกว่านี้ คะแนนที่เห็นก็อาจจะมากกว่าที่เห็นก็เป็นได้
แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่แคร์เรื่องความไม่สเถียรในบางครั้ง ก็น่าลองเล่น Cherry Cosmos X2 รุ่นนี้ นั่นเพราะราคาที่ลงมากระชากใจผู้บริโภคด้วยความแรงของหน่วยประมวลผลเป็นหลัก ส่งผลให้เดินถอยห่างออกมายากพอสมควร แน่นอนว่าโดยรวมของเครื่องก็นับว่าออกมาดูดีอยู่พอสมควร ซึ่งหากไม่นับว่าคะแนนที่ทำออกมาได้น้อยเกินไปสำหรับเครื่อง ควอดคอร์ ก็อาจจะทำให้มือใหม่ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องคุณภาพ ใช้แล้วไม่ค้าง ความผิดพลาดมีน้อย คุณภาพเสียงดีเยี่ยม สัญญาณมาเต็ม เพราะ Cherry Cosmos X2 ยังมีข้อด้อยบางประการที่อาจจะต้องรอการปรับปรุงให้เกิดความสมบูรณ์มากกว่านี้ในอนาคต
Company Related Link :
Cherry Mobile