แค่แรกเห็นดีไซน์และวิดีโอเปิดตัวนิคอน COOLPIX A ก็เข้าใจทันทีว่ากล้องคอมแพกต์เซ็นเซอร์ใหญ่รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อศิลปินผู้ชื่นชอบถ่ายภาพแนวสตรีทโดยเฉพาะ และถือเป็นกล้องตระกูล COOLPIX รุ่นแรกที่ตั้งแต่ผมนายเป๋า (@dorapenguin) ได้รับมาทดสอบและรู้สึกถึงจิตวิญญาณศิลปินสตรีทอาร์ทมากกว่ากล้องเพื่อใช้งานทั่วไป
การออกแบบและสเปก
ด้วยการออกแบบบอดี้ทั้งหมดไปทางสไตล์ย้อนยุคพร้อมขึ้นโครงด้วยอะลูมิเนียมอัลลอย ส่วนด้านบนปิดด้วยแมกนีเซียมอัลลอยแข็งแรง พร้อมกริปจับทำจากบล็อกโลหะเลียนแบบหนังแท้ การเก็บงานดีมากตามแบบฉบับชาติญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิต
ด้านหน้าประกอบด้วยเลนส์ NIKKOR ฟิกซ์ระยะ (ซูมไม่ได้) ระยะ 18.5 มิลลิเมตร (เทียบกับขนาดกล้องฟลูเฟรมเท่ากับระยะ 28 มิลลิเมตรซึ่งทางนิคอนเครมว่าเป็นระยะเหมาะสมกับการถ่ายภาพแนวสตรีมมากที่สุด) ม่านชัตเตอร์ด้านในเป็นแมคคานิกและแบบอิเล็กทรอนิกส์พร้อมแผ่นไดอะแฟรมม่านรูรับแสง 7 กลีบ สามารถโฟกัสได้ใกล้สุด 10 เซนติเมตร และค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.8
อีกทั้งบริเวณด้านหน้ากล้องถ้าสังเกตให้ดีเหนือเลนส์เยื้องไปทางซ้ายจากภาพจะเห็นช่องวงกลมเล็ก 2 ช่องทำหน้าที่เป็นไมโครโฟนสเตอริโอสำหรับบันทึกภาพเคลื่อนไหว และตรงกลาง (วงกลมใหญ่) เป็นไฟช่วยหาออโต้โฟกัส และถัดลงมาด้านล่างสุด ปุ่ม Fn1 คือปุ่ม ฟังก์ชัน 1 ที่ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าปุ่มแทนคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ ได้
สำหรับขนาดมิติของตัวกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ 111.0 x 64.3 x 40.3 มิลลิเมตรพร้อมน้ำหนัก 299 กรัม
มาถึงส่วนของสเปก เซ็นเซอร์รับภาพ COOLPIX A ถือเป็นจุดเด่นมากของกล้องรุ่นนี้มาก เพราะเลือกใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ DX Format APS-C 23.6 x 15.6 มิลลิเมตรหรือเทียบเท่าเซ็นเซอร์รับภาพบน DSLR ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 16.2 ล้านพิกเซล (4,928x3,264 พิกเซล)
มาดูที่ด้านบนของกล้องจากซ้ายของภาพจะเป็นไฟแฟลช สามารถเปิด-ปิดได้จากสวิตซ์เลื่อนด้านหลังเหมือนกล้องคอมแพกต์สมัยก่อน ถัดไปจะเป็นช่อง Hot Shoe สำหรับใส่ไฟแฟลชภายนอกหรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ ถัดไปด้านบนบริเวณวงแหวนที่เลนส์กล้องจะใช้ในการปรับระยะโฟกัสเมื่ออยู่ในโหมด Manual มาด้านขวาจะเป็นส่วนปรับโหมดถ่ายภาพ มีให้เลือกใช้ตั้งแต่โหมดอัตโนมัติ, Program, Shutter Speed, Aperture, Manual, U1 (User 1), U2 (User 2) และซีนโหมดสำเร็จรูป
ถัดมาเป็นสวิตซ์ปิดเปิดเครื่องที่เป็นลักษณะใช้นิ้วเกี่ยวลงเพื่อเปิดและเกี่ยวลงอีกครั้งเพื่อปิด ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบปิดเปิดเครื่องบ่อยๆ โดยตรงกลางของสวิตซ์ปิด-เปิดเครื่องจะเป็นปุ่มชัตเตอร์ และแหวนวงกลมอันสุดท้ายจะมีหน้าที่เปลี่ยนค่าต่างๆ ตามเมนูและโหมดกล้องที่ใช้อยู่ เช่น อยู่ในโหมด A วงแหวนนี้จะใช้ปรับค่ารูรับแสง เป็นต้น
มาที่ด้านหลังจะเป็นจอภาพ TFT LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921,000 จุด (ไม่รองรับระบบสัมผัสและไม่สามารถปรับหมุนหน้าจอได้) ครอบคลุมการมองภาพ 100% ส่วนปุ่มคำสั่งต่างๆ จะติดตั้งอยู่รอบจอภาพ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่วงแหวนหมุนได้ที่มีปุ่ม OK อยู่ตรงกลาง โดยหน้าที่ของวงแหวนจะเป็นเหมือนส่วนปรับตั้งค่ากล้องอันที่ 2 (รวมถึงเป็นส่วนเลื่อนแถบคำสั่งหน้าจอไปถึงเลื่อนเพื่อชมพรีวิวภาพถัดไป) ต่อจากวงแหวนขวาสุดด้านบน เช่น อยู่ในโหมดถ่ายภาพ M วงแหวนอันที่ 2 นี้จะแทนการปรับความเร็วชัตเตอร์ ในขณะที่วงแหวนด้านขวาบนจะปรับรูรับแสง ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่าได้ตามต้องการจากเมนูกล้อง เพราะฉะนั้นเรื่องการออกแบบวางตำแหน่งปุ่มกดต่างๆ บน Nikon COOLPIX A ถือว่าทำได้ดีและครอบคลุมทุกการใช้งานแบบเดียวกับ DSLR
ถัดขึ้นมาที่สันกล้องด้านบนเล็กน้อยจะเห็นว่ากล้อง Nikon COOLPIX A เป็นผลผลิตมาจากญี่ปุ่นแท้ๆ MADE IN JAPAN แถมด้วยความเป็นสไตล์ย้อนยุค นิคอนก็ไม่ลืมที่จะใส่ไฟออโต้โฟกัส (AF) ไว้เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบเมื่อกล้องล็อคโฟกัส โดยจะมีไฟสีเขียวปรากฏขึ้น ส่วนรูปสายฟ้าจะเป็นไฟแสดงสถานะเมื่อเปิดใช้งานไฟแฟลช
มาดูด้านซ้ายของกล้องกันบ้างจะเป็นที่อยู่ที่พอร์ตเชื่อมต่อ GPS, USB ส่วนด้านขวาเป็น HDMI ปกติ แต่ด้านล่างสังเกตให้ดีจะมีสวิตซ์สำหรับเปลี่ยนรูปแบบการถ่ายภาพติดตั้งไว้ 3 รูปแบบคือ 1.ถ่ายปกติใช้ออโต้โฟกัส 2.ถ่ายมาโคร 3.แมนวลโฟกัสใช้มือหมุน ซึ่งเมื่อผู้ใช้ต้องการถ่ายภาพอะไรก็ตามอย่าลืมปรับสวิตซ์ดังกล่าวก่อนด้วย
อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วข้างต้นว่ากล้องรุ่นนี้จากนิคอนเขามีวิญญาณความแนวแบบศิลปินสำหรับผู้ใช้ที่อาจต้องเป็นเซียนกล้องเล็กน้อยถึงจะเข้าใจระบบการทำงาน เพราะจุดขายของ COOLPIX A เขาค่อนข้างชัดเจนคือจับกลุ่มคนถ่ายภาพที่มีแนวทางชอบภาพสไตล์สตรีทหรือ Documentary/Life และสวิตซ์เปลี่ยนรูปแบบการถ่ายภาพแบบนี้เป็นเสน่ห์ของกล้องคอมแพกต์ยุคเก่า
มาดูที่ด้านล่างของตัวกล้องจะเป็นที่อยู่ของช่องสำหรับยึดขาตั้งกล้อง พร้อมลำโพงและช่องใส่แบตเตอรี EN-EL20 กับการ์ดความจำ SD/SDHC/SDXC
ในส่วนสเปกกล้องอื่นๆ ด้านคุณภาพไฟล์สามารถถ่ายได้ทั้ง JPEG, RAW (NEF) และ RAW+JPEG ที่ความละเอียดสูงสุด 4,928x3,264 พิกเซล รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงสุด 4 ภาพต่อวินาที ส่วนวิดีโอสามารถถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด 1,920x1,080 พิกเซลที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที ระบบโฟกัสผ่าน Live View เป็นแบบคอนทราสต์ออโต้โฟกัสและยังรองรับระบบออโต้โฟกัสแบบตรวจจับใบหน้าและ Object Tracking ด้วย
ด้านค่าความไวแสงที่กล้องรองรับจะอยู่ที่ 100-3,200 และสามารถบู๊ตความไวแสงเพิ่มเป็น 6,400-25,600 ได้ ส่วนความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุดที่กล้องรองรับอยู่ที่ 30 วินาที สูงสุด 1/2,000 วินาที สามารถตั้งชัตเตอร์ B (เปิดหน้ากล้องค้าง) ได้ตามต้องการให้โหมดถ่ายภาพ M
นอกจากนั้น Nikon COOLPIX A ยังรองรับอุปกรณ์เสริมเช่น ชุด GPS GP-1 และอะแดปเตอร์พกพาไร้สาย WU-1a
Display Menu และฟีเจอร์เด่น
สำหรับหน้าจอ Live View ระหว่างใช้งานจะไม่ต่างจาก Nikon DSLR นัก โดยผู้ใช้สามารถสามารถใช้ปุ่ม i ให้การเปลี่ยนหน้าจอ Live View ให้เข้าสู่ Quick Menu สำหรับใช้ปรับตั้งค่าแบบรวดเร็วในหน้าจอเดียวได้เช่นเดิม
แต่ทีนี้มีอยู่หนึ่งโหมดที่หายไปและเชื่อว่าผู้ใช้ทุกรายที่เล่นกล้อง COOLPIX A ก็คงสงสัยเหมือนกัน โหมดนั้นก็คือ "วิดีโอ" ที่นิคอนไม่ได้ทำปุ่มลัดเข้าโหมดดังกล่าวไว้ให้ ซึ่งจริงๆ แล้วโหมดวิดีโอไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่ซ่อนอยู่ในเมนู "โหมดลั่นชัตเตอร์" ส่วนของ Quick Menu นั่นเอง ส่วนการกดเริ่มบันทึกวิดีโอให้ใช้การกดปุ่มชัตเตอร์แทน
และที่ขาดไม่ได้สำหรับนิคอนก็คือ Retouch Menu ที่มีเครื่องมือประมวลผลภาพหลังกล้องมาให้เลือกใช้มากมายทั้ง RAW Processing แก้ไขตาแดง เครื่องมือครอป ไปถึงใส่เอ็ฟเฟ็กต์สีจากฟิลเตอร์ต่างๆ สามารถทำได้จากเมนูนี้ทั้งหมด
สุดท้ายกับขนาดไฟล์ที่ความละเอียดสูงสุด JPEG คุณภาพ FINE มีขนาดต่อไฟล์อยู่ที่ 5.8MB ส่วน RAW อยู่ที่ 16.6MB
ทดสอบประสิทธิภาพ
ก่อนจะไปชมภาพตัวอย่างพร้อมบทวิเคราะห์คุณภาพไฟล์ของ COOLPIX A ผมขอกล่าวถึงข้อสังเกตเล็กน้อยที่พบระหว่างทดสอบก็คือ เรื่องคุณภาพของ JPEG เทียบกับ RAW ผมมีความรู้สึกว่าการประมวลผล JPEG File จากหน่วยประมวลผลภาพ EXPEED 2 ทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น เพราะปกติการประมวลผลหลังกล้องเมื่อเลือก JPEG File จะให้คุณภาพที่ดีกว่านี้และปกติผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเซียนกล้องจะแยกคุณภาพไฟล์ระหว่าง JPEG กับ RAW ไม่ออกเพราะใกล้เคียงกันมากจนกว่าจะซูม 100% แต่สำหรับ COOLPIX A ระหว่าง RAW กับ JPEG คนทั่วไปมองก็แยกออกแล้ว เพราะคุณภาพไฟล์ JPEG พี่ท่านค่อนข้างแย่เอาการทีเดียว โดยเฉพาะโทนภาพที่ติดโทนมืด อมเหลืองทุกภาพ ในขณะที่ไฟล์ดิบ RAW ดูดีโดดเด่นเป็นพิเศษอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งผมไม่เคยพบเห็นตั้งแต่ทดสอบกล้องมาร่วม 2 ปี เพราะปกติผมจะนำไฟล์ JPEG มาโพสต์มากกว่า RAW File ที่มักต้องผ่านการตกแต่งให้เสียอารมณ์ของกล้องไป แต่สำหรับ COOLPIX A ผมคงต้องใช้ RAW File ในการวิเคราะห์และวิจารณ์คุณภาพไฟล์เป็นหลักแล้ว
แต่ถึงอย่างไร ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง คนที่คิดซื้อ COOLPIX A ก็คงเป็นคนเล่นกล้องหรือเซียนกล้องอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนพวกคุณคงไม่ได้รับผลกระทบกับ JPEG File นักเพราะคงถ่ายแต่ RAW เป็นหลักเนื่องจากความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่สูงกว่า
มาดูในเรื่องสัญญาณรบกวนในแต่ละค่าความไวแสง (ISO) กันบ้าง ที่ช่วง ISO100-1,600 ถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด 3,200-6,400 พอใช้ได้ ส่วนค่า ISO มากกว่านั้นขอให้ใช้เมื่อฉุกเฉินจริงๆ แต่โดยรวมเรื่อง ISO ถือว่าไม่น่าเกลียดนัก
อย่างที่ทราบกันดีว่าระยะเลนส์ COOLPIX A คือฟิกซ์ระยะ 18.5 มิลลิเมตร ไม่สามารถซูมได้ เพราะฉะนั้นเรื่องความคุ้มค่าของระยะเลนส์แบบสไตล์ครอบจักรวาลคงต้องตัดออกไป แต่สำหรับงานเดินถ่ายแบบสตรีทหรือเก็บภาพวิว ทิวทัศน์มุมกว้างต่างๆ ถือว่าทำได้ดี ยิ่งได้ความสามารถจากเซ็นเซอร์ APS-C คุณภาพไฟล์ที่ออกมาเหมือนใช้ DSLR ถ่ายอย่างใดอย่างนั้น
ทดลองถ่ายแบบเรื่อยเปื่อยให้เหมือนกล้องเล็กทั่วไปติดสไตล์สตรีทเล็กน้อย พบกว่า COOLPIX A ให้ผลลัพท์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว ระยะฟิกซ์ 18.5 มิลลิเมตร (APS-C) ที่ผมคิดว่าน่าจะได้มุมกว้างไปเกินกว่าจะเป็นกล้องแนวสตรีท (ที่น่าจะเป็นระยะ 35 มิลลิเมตรมากกว่า) แต่เมื่อได้ทดลองจริงก็พบว่า เฮ้ย!.. เหมือนถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนที่มีกล้องแหล่มๆ เลย อารมณ์คล้ายๆ กัน เดินถ่าย ยกถ่ายแบบไม่คิดอะไรตามสไตล์ Point and Shoot ได้อารมณ์ดี แค่คุณภาพนี่สิ เจ๋งกว่าคอมแพกต์อีก
**ภาพสุดท้ายที่เป็นรูปผม (ผู้ทดสอบ) ถ่ายด้วย RAW และปรับแต่งสี แสง White Balance ผ่านซอฟต์แวร์หลังกล้อง**
คุณภาพไฟล์ดีไม่ดีดูได้จากภาพนี้ (ต้องเป็น RAW File นะ JPEG โยนทิ้งไปเลย) เพราะด้วยเลนส์แบบฟิกซ์ระยะและภาพนี้ต้องยืนถ่ายจากอีกฟากถนน แล้วนำไฟล์มาครอปใกล้อีกครั้ง จากความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเหลือประมาณ 8 ล้านพิกเซลพบว่ารายละเอียดภาพค่อนข้างดีมาก ไม่เชื่อกดที่รูป คลิกขวาเลือกคุณภาพแบบ Original ดูได้ ถือเป็นเรื่องน่าประทับใจสำหรับกล้องตัวนี้ที่ถึงแม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งานมากมายแต่คุณภาพไฟล์หายห่วงได้
และอีกส่วนที่น่าสนใจทดสอบก็คือเรื่องรูรับแสงกว้าง f2.8 กับมิติภาพที่เกิดจากเซ็นเซอร์ APS-C จะเห็นว่าด้านมิติภาพค่อนข้างดี แต่อาจมีข้อสังเกตเล็กน้อยในเรื่องการปรับสมดุลสีและแสงที่จะไม่มีการช่วยเหลือจากซอฟต์แวร์ภายในเหมือนไฮเอนด์คอมแพกต์หลายรุ่น (ที่มักจะโฟกัสไปที่ใช้งานง่าย) แต่สำหรับ COOLPIX A ผู้ใช้ต้องจัดการปรับแต่งภาพจากซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ถนัดเอง ซึ่งผลลัพท์ที่ออกมาก็จะเป็นไปตามแนวทางการปรับแต่งภาพของแต่ละผู้ใช้งาน
หรือจะเรียกว่า "COOLPIX A เป็นกล้องที่แมนวลสุดๆ อยากใช้งานให้ได้ผลลัพท์ดีที่สุด ผู้ใช้จะต้องมีแนวทางการปรับแต่งภาพเอง กล้องมีหน้าที่บันทึกภาพ ให้คุณภาพไฟล์ มิติภาพตามแบบฉบับของแบรนด์นิคอนเท่านั้น"
ส่วนผู้อ่านที่อยากซื้อ COOLPIX A มาใช้แต่ยังลังเลเรื่องระยะเลนส์แบบฟิกซ์ ซูมไม่ได้ ผมต้องบอกว่า อารมณ์เมื่อใช้งานกล้องรุ่นนี้จะคล้ายกับเรามองมุมมองผ่านเลนส์สมาร์ทโฟนซึ่งฟิกซ์ระยะมุมกว้าง (WIDE) ไว้คล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้นถ้าผู้อ่านเป็นคนที่ถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเป็นประจำน่าจะปรับตัวได้ไม่ยาก แต่ถ้าผู้อ่านที่ไม่ถนัดมุมมองแบบนี้ อาจต้องปรับตัวเล็กน้อยและให้คิดเสมอว่ากล้องแนวนี้จะแคนดิตหรือใช้แบบกล้องคอมแพกต์ทั่วไปไม่ได้ กล้อง COOLPIX A คนใช้ต้องใจเย็น ชอบหามุมมอง และเป็นกล้องที่ต้องทดลองก่อนซื้อให้มากๆ เพราะบางคนเล่นแล้วรักเลย แต่บางคนเล่นแล้วอาจเกลียดเลยก็ได้
สุดท้ายไหนๆ ก็อยากจะให้เห็นความสามารถของกล้องในเรื่องการปรับแต่งค่าต่างๆ แบบแมนวลตามแบบฉบับ DSLR โดยภาพนี้ปรับ A Mode ใช้ f22 ISO 100 และปรับชดเชยแสง -2/3EV ได้ค่าความเร็วชัตเตอร์สปีด 1/400 วินาที พร้อมปรับการวัดแสงเป็นแบบเฉลี่ยทั้งภาพ ผลลัพท์ที่ได้ไม่น่าผิดหวังเลย เลนส์นิคอนให้เอกลักษณ์ของแฉกแสงแบบ NIKKOR LENS ให้ขณะที่การเก็บสีสีนและ distortion จากเลนส์ชุดนี้ทำได้ดีใช้ได้ แต่จะติดเรื่องขอบดำที่ค่อนข้างมาก ซึ่งผู้ใช้สามารถแก้ปัญหาได้จากการหาดาวน์โหลดโปรไฟล์เลนส์มาแก้ไขผ่านซอฟต์แวร์ RAW Processing อย่าง Lightroom เป็นต้น
ส่วนใครที่อยากรับชมตัวอย่างภาพขนาดใหญ่และรับชมภาพอื่นๆ จากกล้อง COOLPIX A สามารถกดชมได้จากลิงค์ http://www.flickr.com/photos/potsawat/sets/72157636341533884/
ก่อนจะจบเรื่องของการทดสอบประสิทธิภาพผมอยากให้ผู้อ่านทุกท่านได้กดรับชมรูปภาพตัวอย่างขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นเรื่องคุณภาพความคมชัดของภาพถ่ายที่ถือเป็นจุดแข็งของ COOLPIX A แน่นอนคุณภาพไฟล์ดี ซูม 100% ภาพยังคมชัดกว่าไฮเอนด์คอมแพกต์ราคาแพงหลายแบรนด์ ความจริงแล้วนิคอนน่าจะขยายความละเอียดภาพให้มากเหมือนกับ Nikon D800 น่าจะช่วยต่อยอดเรื่องระบบซูมภาพแบบดิจิตอลได้ดีไม่น้อยเพราะกล้องรุ่นนี้มีข้อจำกัดเรื่องระยะเลนส์ที่ฟิกซ์ระยะไว้แบบมุมกว้างอย่างเดียว
ทดลองถ่ายวิดีโอความละเอียด 1,920x1,080 พิกเซล ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที
ตอบจุดขาย
- เซ็นเซอร์ใหญ่แบบ DSLR APS-C มุมมอง มิติภาพดี
- กล้องมีแนวทางการใช้งานชัดเจนมาก ผู้อ่านที่สนใจเปิดดูข้อมูลกล้องแล้วรู้ทันทีว่าเหมาะกับตนหรือไม่
- คุณภาพไฟล์ RAW ทำได้ดีมาก
- โฟกัสทำได้เร็ว ทั้งระยะมาโครและไวด์รวมถึงเวลาเปิด-ปิดเครื่องทำได้เร็วดี
- มีเมนู Process รูปให้เลือกใช้หลังกล้องโดยเฉพาะ RAW Processing
ข้อสังเกต
- โหมดวิดีโอไม่มีปุ่มลัดที่ตัวกล้อง ต้องเข้าเมนูซึ่งอยู่ลึกมากถึงจะเลือกใช้งานได้
- JPEG ไฟล์ให้คุณภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
- ระยะเลนส์เป็นฟิกซ์ระยะ ซูมไม่ได้
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป?
"จงลืมไปได้เลยถ้าคิดว่า Nikon COOLPIX A เป็นไฮเอนด์คอมแพกต์เน้นใช้งานง่ายสไตล์ครอบครัว พกตัวเดียวเที่ยวทั่วโลกพร้อมเอ็ฟเฟ็กต์ภาพสวยงามให้เลือกใช้มากมาย นี่คือความคิดที่ผิดอย่างยิ่ง!!..."
ความจริงแล้วก่อนจะมี Nikon COOLPIX A กล้องที่มีรูปแบบใช้งานเฉพาะทางแบบนี้ผู้อ่านหลายท่านคงได้เห็นมาบ้างแล้วในแบรนด์อื่น เช่น Fujifilm, Sony พร้อมราคาสูงลิ่วไม่ต่างจาก COOLPIX A ที่มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 36,900 บาท
ราคาระดับนี้สิ่งที่ได้อาจจะค่อนข้างเฉพาะกลุ่มพอสมควร เพราะถึงแม้กล้องจะมีจุดขายที่เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เท่า DSLR กึ่งมืออาชีพแต่การที่เลนส์ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้แถมยังฟิกซ์ระยะ ซูมไม่ได้ ผู้ใช้ทั่วไปคงไม่มีทางจะหันมามองแน่นอน เพราะความคุ้มค่าเทียบราคาแล้วถือว่าสอบไม่ผ่านเลย
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปใครเล่าจะอยากจ่ายเงินเกือบ 4 หมื่นบาทเพื่อมาซื้อกล้องที่ซูมไม่ได้ แถมโหมดอัตโนมัติไปถึงไฟล์ JPEG ก็ให้คุณภาพที่แสนจะธรรมดามาก
แต่สำหรับคนที่มีแนวทางการถ่ายรูปของตัวเอง โดยเฉพาะช่างภาพแนว Documentary - Life - Street Art ใช้งานกล้องได้คล่อง รักระยะเลนส์แบบฟิกซ์มุมกว้าง และกำลังมองหากล้องคอมแพกต์ขนาดเล็กน้ำหนักเบา ประสิทธิภาพดีราคาไม่แรงเกินไป เพื่อใช้เดินทางไปเก็บภาพผู้คน ชีวิตของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล หรือบรรดาสตรีทอาร์ทที่ชื่นชอบการเดินถ่ายแบบ Point and Shoot หรืออธิบายคือ ปล่อยใจไปกับสภาพแวดล้อมรอบตัว คุณเห็นอะไร คุณคิดอะไรกับภาพตรงหน้าอยู่ก็กดชัตเตอร์ให้ภาพเป็นสื่อแทนความในใจออกมาในรูปแบบของไฟล์ดิจิตอลดิบๆ แล้วนำมาประมวลผลในคอมพิวเตอร์อย่างใจเย็นเพื่อให้ผลลัพท์ของภาพออกมาได้ดีที่สุด นี่คือสิ่งที่กล้อง Nikon COOLPIX A เป็นและคนที่คิดใช้ต้องทำความเข้าใจและเข้าถึงคอมแพกต์ตัวนี้ก่อนถึงจะใช้งานได้อย่างมีความสุข
Company Related Link :
Nikon
CyberBiz Social