คำแนะนำการชมในโหมด HD วิดีโอ -- คลิก Play เพื่อชมที่นี่ -- หรือคลิกเข้าไปชมใน Youtube/คลิกรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ มุมล่างขวาเพื่อชมเต็มจอ/คลิกที่รูปฟันเฟืองเล็กๆ มุมล่างขวา/คลิกเลือก ON ที่ Annotaions/ต่อไปที่ Quality และคลิกเลือก HD 720P หรือ 1080P/คลิกออก/กดเพลย์หรือเคาะ TAB บนคีย์บอร์ด 1 ครั้งเพื่อชม/ปรับ Volume ให้ดังขึ้นตามความต้องการเพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์-เสียงปืนใหญ่ 30 มม.อันเป็นเอกลักษณ์. |
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพอากาศสหรัฐได้ประกาศปลดระวางประจำการเครื่องบินโจมตีสนับสนุนที่ดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโลก ซึ่งสร้างขึ้นมาหวังจะนำไปใช้ในสงครามเวียดนามแต่ยังไม่ทันได้ใช้ และว่ากันว่าหากทันใช้ในครั้งโน้นการสูญเสียกำลังรบในเวียดนามก็อาจจะลดลงมากกว่าที่เป็นอยู่ เช่นเดียวกับที่เครื่องบินรุ่นนี้ได้ช่วยรักษาชีวิตทหารได้อย่างมากมายในสมรภูมิอื่นๆ ในยุคหลัง
เพราะฉะนั้นก็จึงไม่แปลกที่บรรดาผ่านศึกจากพายุทะเลทรายในอิรักกับสงครามตอลิบานในอัฟกานิสถาน ย่อมจะรู้สึกเศร้าสลดกับข่าวล่าสุดนี้
ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ A-10 “ธันเดอร์โบลต์” (Thunderbolt) เป็นเครื่องบินที่สหรัฐหมายมั่นปั้นให้เป็นมือพิฆาตรถถังของอดีตสหภาพโซเวียต วิดีโอคลิปการฝึกซ้อมยิงโจมตีเป้าหมายของ A-10 ลำหนึ่งในทะเลทรายรัฐเนวาดาที่มีผู้นำออกเผยแพร่ปลายสัปดาห์ที่แล้วได้แสดงให้เห็นทั้งมนต์เสน่ห์และขีดความสามารถในภารกิจหลักของมันได้อย่างดี ซึ่งนั่นก็คือการโจมตีสนับสนุนภาคพื้นดินอย่างใกล้ชิด
เพียงไม่กี่วันวิดีโอต้นฉบับมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนเรือนแสนและกำลังแพร่ออกไปในหลายช่อง ผู้ชมหลายคนบอกว่าเป็นวิดีโอระบบ HD ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับปฏิบัติการของ A-10 ถึงแม้ว่าจะได้ชมวิดีโอจากเหตุการณ์จริงมามากต่อมากแล้วก็ตาม ทั้งในช่วงสงครามอิรักกับสงครามอัฟกานิสถาน วิดีโอชิ้นใหม่ทำให้หลายคนอาลัยอาวรณ์หนักขึ้นไปอีก
ทหารทั่วไปจะเรียก A-10 ว่า "วอร์ตฮ็อก" (Warthog) หรือ "เดอะ ฮ็อก" ไอ้หมูป่าเขี้ยวตัน .. อันเป็นชื่อที่เรียกกันด้วยความผูกพันและความรัก
เว็บไซต์เอวิเอชั่นนิสต์ (Aviationist) เคยเขียนเอาไว้เมื่อปลายปีที่แล้วว่า A-10 เป็นความหวังของนาวิกโยธินกับทหารราบทุกหน่วย ทุกครั้งเมื่อตกอยู่ใต้สถานการณ์ลำบาก ตกอยู่ในวงล้อมของฝ่ายตรงข้ามหรือในสถานการณ์คับขันใดๆ ก็ตาม เพราะไอ้หมูป่าจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ รวมทั้งนักบินที่ถูกยิงตกหลังแนวข้าศึกก็จะมี "เดอะ ฮ็อก" ตามไปปฏิบัติการคุ้มครอง เพราะมันทำได้ดีกว่าเฮลิคอปเตอร์หรือเครื่องบินรุ่นอื่นๆ
อาวุธสำคัญของวอร์ตฮ็อกได้แก่ปืนใหญ่อากาศขนาด 30 มม.ชนิด 7 ลำกล้องแบบหมุนสลับการป้อนกระสุนที่เรียกว่า "ปืนแกตลิง" (Gatling Gun) เป็นปืนที่ทรงประสิทธิภาพ ยิงได้นาทีละกว่า 4,000 นัดถ้าหากต้องการ กระสุนขนาดใหญ่ความเร็วสูงกว่า 1,000 เมตรต่อวินาทีที่พรั่งพรูออกจาก 7 ลำกล้องติดๆ กันทำลายรถถัง T-72 ของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน ไปหลายร้อยคันในช่วงสงครามพายุทะเลทรายยกแรกๆ
มีอยู่วันหนึ่งที่ไอ้หมูป่า 2 ลำช่วยกันสอยรถถังอิรักได้ 23 คันในปฏิบัติการเพียง 3 เที่ยว
ในยามคับขันนาวิกโยธินกับทหารราบจะรอฟังเสียง A-10 ซึ่งจะได้ยินแต่ไกลบนความสูงก่อนจะปรากฏให้เห็น จากนั้นก็จะคอยฟังเสียงปืนกลที่ยิงพรืดยาวติดต่อกันซึ่งเป็นเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่มีเครื่องบินโจมตีรุ่นอื่นใดทำได้เหมือน ทหารอเมริกันเรียกเสียงเครื่องยนต์ของ A-10 เป็น "เสียงแห่งความหวัง" และ เรียกเสียงยิงปืนใหญ่อากาศเป็น "เสียงที่ไว้ใจได้"
เพราะฉะนั้นก็จึงเป็นธรรมดาที่ทุกคนย่อมจะรู้สึกอาลัยกับการจากไปของมัน
.
.
แต่การถูกตัดงบประมาณอย่างมหาศาลทำให้กองทัพอากาศสหรัฐต้องหาทางลดค่าใช้จ่ายลงโดยไม่ส่งผลกระทืบต่อขีดความสามารถ ทอ.เลือกโละทิ้ง A-10 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 300 ลำ โดยระบุว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้ 3,500 ล้านดอลลาร์ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ทอ.เปิดเผยการตัดสินใจในหนังสือฉบับหนึ่งที่ส่งถึงคณะกรรมาธิการวุฒิสภาเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
การโละ A-10 ก็เพื่อจะมิให้กระเทือนถึงการพัฒนาเครื่องบินรบหลักรุ่นอื่นซึ่งได้แก่ F-15, F-16, F-22 กับ F-35 ซึ่ง ทอ.กล่าวว่าในอนาคต F-35 "ไล้ท์นิ่ง" จะปฏิบัติการแทนได้ทุกอย่าง
ความเป็นมาก็คือในสงครามเวียดนามนั้นสหรัฐไม่มีอากาศยานชนิดใดที่ใช้โจมตีสนับสนุนภาคพื้นดินแบบประชิดได้ดีพอ เครื่องบินไอพ่นหลักในยุคโน้นไม่ว่าจะเป็น F-100 "ซูเปอร์เซเบอร์" (Super Saber) F-105 "ธันเดอร์ชีฟ" (Thunder Chief) หรือ F-4 "แฟนธอม 2" (Phantom II) ก็เร็วเกินไปสำหรับปฏิบัติการนี้ นักบินไม่มีเวลาพอในการจัดเตรียมเป้าหมาย
ขณะเดียวกันเฮลิคอปเตอร์ "กันชิป" ฮิวอี้ที่มีอยู่มากมายก็มีเพียงปืนสำหรับยิงทำลายเป้าหมายบุคคลเป็นหลัก ไม่สามารถต่อกรกับรถถังหรือยานหุ้มเกราะได้ A-10 จึงเกิดขึ้นมาโดยติดเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน 2 ตัวซึ่งทำให้มันบินช้าก็ได้ บินเร็วก็ได้ บินลงต่ำขณะปฏิบัติการและบินไต่ระดับขึ้นสูงอย่างรวดเร็วหลังปฏิบัติการด้วยความเร็วกว่า 700 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย
"ไอ้หมูป่า" ถูกเจาะจงให้เกิดมาพร้อมกับปืนใหญ่ 30 มม. ซึ่งเมื่อดูจากโครงสร้างของทั้งลำก็จะเห็นเครื่องบินถูกสร้างขึ้นโดยลำตัวหุ้มปืนใหญ่ที่มีความยาวกว่า 6 เมตร เฉพาะส่วน 7 ลำกล้องนั้นยาวกว่า 2 เมตร
บริษัทแฟร์ไชลด์รีพับลิก (Fairchild-Republic) ซึ่งเป็นผู้สร้างได้นำ A-10 ขึ้นบินเป็นครั้งแรกในเดือน มี.ค.2515 ซึ่งช้าเกินไป เนื่องจากปีรุ่งขึ้นสหรัฐก็ต้องเริ่มถอนทหารออกจากเวียดนามตามข้อตกลงนครเจนีวา สงครามยังยื้อต่อมาอีก 2 ปีไปสิ้นสุดลงในเดือน เม.ย.2518 ด้วยชัยชนะของฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือและกว่า A-10 จะเข้าประจำการเต็มรูปได้ก็จนกระทั่งปี 2521
.
เสน่หาอาลัย รวบรวมจากเว็บไซต์ข่าวกลาโหม
หน้าตาดุดันไม่ค่อยมีใครอยากมองหรือสบตาด้วย นี่คือเครื่องบินโจมตีที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในสงครามเวียดนามแต่ไม่ทันได้ใช้ นักบินที่นำมันออกปฏิบัติการในสงครามพายุทะเลทรายกล่าวว่า พวกเขาเห็นทหารอิรักนำรถถังหลบลงข้างทาง บ้างก็ขับไปหลบซ่อนหรือคลุมด้วยลายพรางทะเลทรายหวังจะให้พ้นสายตาของ "ไอ้หมูป่าเขี้ยวตัน" .. นี่คือเครื่องบินโจมตีที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในสงครามอิรัก A-10 "วอร์ตฮ็อก" (Warthog) ทำลายรถถังของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุนเซน ได้กว่า 900 คัน ยานพาหนะอื่นๆ อีกกว่า 2,000 คัน ยิงทำลายฐานปืนใหญ่-จรวดกว่า 1,200 แห่ง กลายเป็นเครื่องบินรบที่มีผลงานมากที่สุด ช่วยชีวิตทหารได้มากที่สุด ถึงกระนั้นกองทัพอากาศสหรัฐก็ยังเลือกโละทิ้งเพื่อตัดทอนค่าใช้จ่ายหลังถูกตัดงบประมาณมหาศาลและเพื่อรักษา F-15, F-16, F-18, F-22 กับ F-35 เอาไว้. |
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
จากวันโน้นถึงวันนี้ A-10 ผ่านการพัฒนามาหลายครั้งรวมทั้งระบบอาวุธ ใต้ปีก 2 ข้างมีจุดติดอาวุธอีกกว่า 10 จุด เติมเขี้ยวเล็บได้มากมาย จากที่เคยใช้จรวดไม่นำวิถี ปัจจุบันก็ติดจรวด AGM-65 "เมเวอริค" (Maverick) สำหรับพิฆาตรถถัง และยังใช้ระเบิดรุ่นใหม่ความแม่นยำสูงพวก JDAM กับพวกขีปนาวุธนำวิถีด้วยเลเซอร์ได้
นอกจากนั้น A-10 ก็ยังติด AIM-9 "ไซด์ไวเดอร์" (Sidewinder) เพื่อป้องกันตัวเองทางอากาศอีกต่างหาก ก็จึงไม่น่าแปลกอะไรในสงครามอิรักเพียงแห่งเดียวไอ้หมูป่าพวกนี้ทำลายรถถังได้กว่า 900 คัน ยานยนต์ทางทหารอื่นๆ อีกกว่า 2,000 คัน โจมตีทำลายฐานปืนใหญ่กว่า 1,200 แห่ง กลายเป็นพระเอกในสมรภูมิเกินหน้าเกินตาอากาศยานรุ่นอื่นๆ ทั้งหมด
ทั้งหมดนี้ได้ทำให้ A-10 เป็นเครื่องบินรบที่มีอำนาจในการทำลายร้ายแรงที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของโลก
แต่ถึงแม้ว่ามันจะเก่งแสนเก่งและมีคุณูปการต่อประเทศมากมายเพียงใดก็ตาม กองทัพอากาศสหรัฐมีคำอธิบายที่ดีพอในการเลือกปลดประจำการเครื่องบินรบรุ่นนี้
ทอ.กล่าวว่ายุคปัจจุบันต้องการเครื่องบินรบที่ปฏิบัติการได้หลายบทบาท ในขณะที่ A-10 ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เดียวคือ การโจมตีสนับสนุนภาคพื้นดินอย่างใกล้ชิด ทำให้มีประโยชน์น้อยลงเมื่อเทียบกับรุ่นน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ F-35 ที่จะใช้ทั้งกองทัพอากาศ กองทัพเรือและกองกำลังนาวิกโยธินด้วย
แต่สำหรับทหารที่อยู่กับ A-10 ตลอดหลายปีมานี้ พวกเขาทราบดีว่าจะไม่มีเครื่องบินรบรุ่นอื่นใดจะมีเสียงเครื่องยนต์เหมือนกับของไอ้หมูป่าและคงจะไม่มีรุ่นไหนที่จะทำเสียงยิงปืนใหญ่ให้พวกเขามีความหวังและรู้สึกเชื่อมั่นเหมือนที่ผ่านมา ทั้งในคาบสมุทรบอลข่าน ในอิรักและอัฟกานิสถาน.