ปัจจุบันเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนถูกพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้ตลาดกล้องคอมแพกต์ดิจิตอลได้รับผลกระทบโดยตรงจากความชาญฉลาดและแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกมากมายบนสมาร์ทโฟนที่หาไม่ได้จากกล้องคอมแพกต์
ทำให้ตลาดดิจิตอลคอมแพกต์ต้องดิ้นหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปถึงการออกแบบตัวกล้องให้โดนใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ โดยแคนนอนก็รับการบ้านฉบับใหญ่นี้ไปและนำไปปรับปรุงพัฒนาไลน์คอมแพกต์ดิจิตอล "PowerShot" ใหม่กับ PowerShot N ที่โดดเด่นในเรื่องดีไซน์และระบบกล้องมาพร้อม WiFi ส่งรูปไปที่สมาร์ทโฟนได้ทันที
การออกแบบ
ดีไซน์ของ PowerShot N จะแหวกแนวกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ทุกรุ่น เพราะแคนนอนต้องการให้รุ่น N สามารถพกพาง่ายแบบเดียวกับสมาร์ทโฟน (ใส่กระเป๋ากางเกงได้) และเมื่อเริ่มใช้งานก็สามารถจับถือถ่ายภาพด้วยมือข้างเดียวได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นรูปทรง PowerShot N จึงออกแบบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมน้ำหนัก 195 กรัมเท่านั้น
ส่วนรูกลมๆ ด้านบนขวาจากภาพประกอบด้านบนก็คือไฟ LED แฟลชแบบเดียวกับที่ใช้บนสมาร์ทโฟน
ส่วนด้านหลังจะมีแต่จอภาพขนาด 2.8 นิ้วสัดส่วน 4:3 ความละเอียด 461,000 dots พร้อมรองรับระบบสัมผัสแบบมัลติทัชเช่นเดียวกับหน้าจอสมาร์ทโฟน
อีกทั้งหน้าจอยังสามารถเปลี่ยนองศาการมองได้หลากหลายถึง 90 องศา ซึ่งแคนนอนได้ลงรายละเอียดการใช้งานกล้องในมุมมองต่างๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์ http://www.canon-asia.com/powershot/psn/thailand/freestyle-flying-fox.php ใครชื่นชอบการสร้างมุมมองภาพแปลกใหม่ลองกดรับชมดูได้
มาดูในส่วนของปุ่มคำสั่งรอบตัวกล้องจะเห็นว่าใน PowerShot N แคนนอนออกแบบให้ปุ่มคำสั่งทั้งหมดอยู่บริเวณด้านข้างตัวกล้องไล่ตั้งแต่ด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ด้านขวาบนสุดจะเป็นสวิตซ์เปลี่ยนโหมดถ่ายภาพปกติสลับกับ Creative Shot (ถ่ายภาพพร้อมฟิลเตอร์เอ็ฟเฟกต์)
ถัดลงมาเป็นปุ่มเข้าสู่โหมด WiFi สำหรับส่งภาพเข้าสมาร์ทโฟนพร้อมปุ่มพรีวิวภาพด้านล่าง และสุดท้ายจะเป็นพอร์ต DIGITAL สำหรับเชื่อมต่อสาย MiniUSB สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์และใช้เสียบสาย AV-OUT ได้
ในส่วนด้านใต้ของตัวเครื่องจะเป็นส่วนของช่องใส่แบตเตอรี NB-9L ขนาดเท่าถ่าน AA แต่ NB-9L จะเป็น Li-ion ความจุ 870mAh (ถ่ายได้ประมาณ 200 กว่ารูป ถ้าชอบถ่ายภาพเวลาออกทริปแนะนำให้หาซื้ออีกก้อนติดตัวไว้) ส่วนด้านขวาสุดช่องที่เขียนว่า CARD OPEN ก็คือช่องใส่การ์ดความจำ รองรับเฉพาะ MicroSD เท่านั้น
ส่วนตรงกลางเป็นช่องเกลียวไว้ใส่ยึดกับขาตั้งกล้อง
มาถึงส่วนสุดท้ายที่อาจสร้างความแปลกใจให้กับผู้อ่านก็คือปุ่มชัตเตอร์และวงแหวนซูมที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณเลนส์กล้อง โดยจากภาพวงแหวนด้านในสุดเมื่อเลื่อนซ้าย-ขวาจะแทนการซูมออปติคอลเข้าออก ส่วนปุ่มชัตเตอร์คือวงแหวนนอกสุดที่มีจุดไข่ปลา 3 จุดอยู่ด้านบน (สามารถกดจากด้านล่างก็ได้) โดยวิธีการกดก็คือกดลงไปในแนวดิ่งครึ่งหนึ่งเพื่อล็อกโฟกัสและกดลงไปเต็มแรงอีกหนึ่งครั้งเพื่อถ่ายภาพ
โดยเหตุผลที่แคนนอนออกแบบวงแหวนซูมและชัตเตอร์ให้อยู่บริเวณเลนส์กล้องเพราะ ด้วยขนาด PowerShot N ที่มีขนาดเล็กและการจับถือให้ใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียว การวางปุ่มชัตเตอร์และวงแหวนซูมไว้ในลักษณะนี้จะกดใช้งานจากมือข้างเดียวได้สะดวกกว่า
สเปกและฟีเจอร์
สเปก Canon PowerShot N ด้านเซ็นเซอร์รับภาพจะเป็น CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้วพร้อมความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล (4,000x3,000 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3)
ในส่วนเลนส์กล้องจะเป็น Canon Zoom Lens ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ค่ารูรับแสง f3.0-5.9 พร้อมระบบกันสั่น ถ่ายมาโครใกล้สุด 1 เซนติเมตร สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 8 เท่าหรือเทียบเป็นระยะคือ 28-224 มิลลิเมตร
สำหรับ ISO เริ่มต้นที่ 80-6,400 และโหมดถ่ายภาพจะเน้นไปทางโหมดอัตโนมัติเสียส่วนใหญ่ ไม่สามารถปรับแต่งค่ากล้องได้ละเอียดเท่าดิจิตอลคอมแพกต์รุ่นใหญ่ ส่วนการถ่ายภาพต่อเนื่องสามารถทำได้ที่ 2.3 ภาพต่อวินาทีที่โหมด P และส่วนวัดแสงจะรองรับ Evaluative, Center-weighted average และ Spot
มาถึงโหมดถ่ายภาพจะเน้นไปที่โหมด AUTO และโหมดถ่ายภาพเน้นเอ็ฟเฟ็กต์เช่น Fisheye Effect, Miniature Effect, Toy Camera, Soft Focus, Monochrome และโหมดถ่ายวิดีโอสโลโมชั่น
โดยวิดีโอสโลโมชั่นจะสามารถปรับความเร็วเฟรมต่อวินาทีได้ตั้งแต่ 120fps ที่ความละเอียด 640x480 พิกเซล และ 240fps ที่ความละเอียด 320x240 พิกเซล
ส่วนวิดีโอปกติ PowerShot N รองรับความละเอียดวิดีโอระดับ FullHD 1080p ที่ความเร็วเฟรม 24fps ส่วนที่ความละเอียด 720p สามารถถ่ายที่ความเร็วเฟรมสูงสุด 30fps (ตามวิดีโอตัวอย่างด้านบน)
มาถึงฟีเจอร์เด่นที่ทีมงานค้นพบตอนเก็บกล้องใส่กล่องส่งคืนให้แคนนอน ระหว่างที่สงสัยเรื่องระยะมาโครระดับ 1 เซนติเมตรอยู่ก็เลยลองส่องคำว่า Shoot บนกล่อง PowerShot N เพื่อลองโฟกัสแบบมาโครที่ระยะ Wide สุดดู ปรากฏว่าเมื่อลองส่องใกล้ระดับเลนส์แทบติดกับตัววัตถุ กล้องสามารถจับโฟกัสได้อย่างน่าประทับใจ และเมื่อขยับเข้าใกล้กว่านี้ กล้องก็ยังจับโฟกัสได้ในโหมดมาโคร แต่ปัญหาของเลนส์ซูมตัวนี้ก็คือ จะให้ขอบภาพเบลอๆ ไม่คมชัดเท่าที่ควร
มาถึงฟีเจอร์เด่นกับระบบซูมภาพที่ถูกซ่อนอยู่ใน PowerShot N ก็คือ Combined Zoom กับระบบซูมภาพรวมออปติคอลกับดิจิตอลซูมเข้าด้วยกันทำให้สามารถซูมภาพได้ไกลถึง 32 เท่าจากระยะออปติคอลเดิมที่ 8 เท่า ดังเช่นภาพตัวอย่างด้านบน ทีมงานทดลองซูมภาพที่ 16 เท่า แต่ภาพที่ได้ก็ถือว่าไม่แหลกเหลวเหมือนใช้ดิจิตอลซูมเพียวๆ
สุดท้ายกับฟีเจอร์ไม้เด็ดก็คือ WiFi ที่ทำให้ PowerShot N เป็นเหมือน Hotspot สามารถปล่อยสัญญาณ WiFi จากตัวเองได้ เพื่อให้สามารถนำสมาร์ทโฟนมาเชื่อมต่อผ่าน WiFi และใช้ WiFi Direct ในการส่งรูปจากกล้องเข้าสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน CameraWindow จากแคนนอนได้ง่ายๆ
ในส่วนขนาดไฟล์ JPEG ที่ความละเอียดสูงสุด 4,000x3,000 พิกเซลจะอยู่ที่ประมาณ 4-5MB ต่อไฟล์
ทดสอบประสิทธิภาพ
ก่อนเข้าสู่การทดสอบประสิทธิภาพ เนื่องจากกล้อง Canon PowerShot N เป็นกล้องคอมแพกต์ดิจิตอลที่เน้นการใช้งานแบบ Point and Shoot ถ่ายสนุกเพราะฉะนั้นในการทดสอบครั้งนี้ทีมงานจะเน้นไปในเรื่องผลลัพธ์ด้านภาพที่ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ และโหมดเอ็ฟเฟ็กต์ กดถ่ายอย่างเดียวเสียส่วนใหญ่
เริ่มจากภาพแรกลองปรับไปโหมด Creative Shot และพบว่าการทำงานของโหมดนี้ก็คือ เมื่อกดชัตเตอร์ลงไป กล้องจะถ่ายหลายภาพและแสดงผลเป็นภาพเอ็ฟเฟ็กต์ 6 ภาพ 6 แบบออกมาให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพที่ต้องการไปใช้งานได้ทันที
ส่วนภาพต่อไปเป็น Miniature Effect ที่ให้ลูกเล่นมาทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยภาพนิ่งจะสามารถเลือกจุดโฟกัสและจุดเบลอได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน ส่วนวิดีโอจะสามารถเร่งความเร็วภาพถ่ายได้ตั้งแต่ 10-20 เท่าคล้าย EOS 100D ที่เคยได้ทดสอบไป
มาถึงภาพจากโหมด Monochrome ปรับเป็น Black and White พร้อมซูมหมด 8 เท่า กับบรรยากาศยามเย็น ISO 80 ถือว่าคุณภาพไม่ขี้เหร่เลย ความคมชัดใช้ได้ หน่วยประมวลผล DIGIC 5 ทำหน้าที่ได้ดีเหมือนรุ่นพี่อย่างใดอย่างนั้น
มาดูเรื่อง Noise ที่ค่าความไวแสงสูงๆ กันหน่อย กับภาพนี้ถ่ายที่ ISO 1,600 ชดเชยแสงติดลบ -2EV ที่ระยะ 40 มิลลิเมตร ได้ความเร็วชัตเตอร์ 1/100 วินาที f/5.9 พบว่าคุณภาพใช้ได้เกินขนาดกล้องจริง เทคโนโลยี HS System + DIGIC 5 ทำหน้าที่ได้ดี
ส่วนภาพนี้ใช้โหมด Toy Camera บวกเปิดแฟลชถ่ายในระยะมาโครถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แต่เนื่องจากถ่ายใกล้มากที่ระยะ 28 มิลลิเมตร ทำให้เกิดขอบเบลอและไฟแฟลชกระจายไม่ทั่วทั้งภาพ
มาถึงภาพมาโครกลางแจ้งกับโหมด Auto ที่ต้องชมก่อนว่า แคนนอนพัฒนาโหมดนี้มาได้ดีมากตั้งแต่ Canon EOS 100D มาถึง PowerShot N กับความชาญฉลาดในการเลือก Scenes ถ่ายและเลือกโหมดถ่ายภาพให้ผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำพอควร เช่นภาพนี้ แค่ผู้ใช้เลื่อนกล้องไปใกล้ดอกไม้ ระบบจะรับรู้ทันทีว่าผู้ใช้กำลังถ่ายโหมดมาโคร และถ้าขยับไปที่วิวมุมกว้างเล็กน้อย ระบบก็จะเปลี่ยนโหมด ปรับค่ารูรับแสงใหม่อย่างรวดเร็วและลื่นไหลมาก
อีกทั้งด้วยการเป็นหน้าจอแบบสัมผัส ทำให้ผู้ใช้สามารถนำนิ้วจิ้มที่จอภาพด้านหลังเพื่อเลือกโฟกัส ซึ่งเมื่อโฟกัสถูกล็อกกับวัตถุแล้วกล้องจะเปลี่ยนเป็นระบบโฟกัสแบบ Object Tracking ทันที ส่วนถ้าระหว่างโฟกัสกำลังวิ่งตามวัตถุแล้วไปเจอกับหน้าคน ระบบจะเรียนรู้และปรับเปลี่ยนการทำงานเป็น Face Detection อย่างรวดเร็วและน่าประทับใจ จนทำให้โฟกัสบน PowerShot N ที่มีเพียง 1 จุดโฟกัสเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพแบบเล็กพริกขี้หนูจริงๆ ไม่เชื่อไปลองดูได้ครับ
มาถึงส่วนสุดท้ายกับเรื่องของสีสันและการไล่โทนสีที่ถึงแม้ไม่จัดจ้านนัก แต่ก็ถือว่าทำได้ดีไม่ว่าจะกลางวันหรือสภาพแสงน้อย สมเป็นคอมแพกต์ยุคใหม่
ส่วนภาพอื่นๆ จากผลงานของ Canon PowerShot N สามารถรับชมได้จากด้านล่าง ส่วนถ้าใครอยากรับชมรายละเอียดของภาพและ Exif ไฟล์สามารถกดรับชมได้จาก http://www.flickr.com/photos/potsawat/sets/72157634762814870/
สำหรับประสิทธิภาพของภาพที่ได้ ต้องยอมรับว่า PowerShot N ทำได้ดีมาก เพราะไฟล์ทุกไฟล์ที่เห็นในบทความรีวิวนี้ไม่ผ่านการตกแต่งภาพใดๆ มายกเว้น Resize ผ่าน Photoshop เพราะฉะนั้นกล้องตัวนี้ถือว่าสอบผ่านเรื่องคุณภาพไฟล์มาก เป็นกล้องคอมแพกต์ดิจิตอลที่เน้นถ่ายแบบง่ายๆ แต่คุณภาพคับแก้ว
ตอบจุดขายหรือไม่/ข้อสังเกต/สรุป
เป็นเรื่องธรรมดาทุกครั้งที่ได้กล้องดิจิตอลคอมแพกต์มาทดสอบแล้วจะไม่คาดหวังกับประสิทธิภาพที่ได้ ยิ่งกล้องมีดีไซน์แปลกตากับขนาดที่เล็กกว่าปกติแล้วยิ่งไม่คาดหวัง เพราะเคยผิดหวังมาจากหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มาจากเกาหลี (555) แต่คงไม่ใช่สำหรับ Canon PowerShot N กับราคาเปิดตัว 9 พันกว่าบาท ที่ดูจากราคาแล้วค่อนข้างสูงแต่เมื่อได้ทดลองใช้งานเป็นเวลาร่วม 2 อาทิตย์กับพบความประทับใจมากมาย ถึงแม้กล้องจะเน้นถ่ายภาพอัตโนมัติเป็นหลัก แต่ประสิทธิภาพทั้งระบบโฟกัส 1 จุดที่เลิศเกินสเปกเพราะเข้ากับระบบสัมผัส Touch to Focus ที่ไว ไปถึงคุณภาพไฟล์ สีสันทั้งภาพที่ได้จากกลางวันและกลางคืนทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจมาก
หายห่วงเรื่องคุณภาพไปได้เลย...
แต่เรื่องการออกแบบอาจถือว่าต้องขอวิจารณ์เล็กน้อย เพราะถึงแม้จะเข้าใจหลักการออกแบบที่แปลกตาแบบนี้ และเมื่อทดสอบใช้งานจริงก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แคนนอนวางไว้ จับถือถ่ายด้วยมือเดียวได้ แต่มีปัญหาใหญ่อยู่ที่เรื่องความเคยชินของผู้ใช้กล้องส่วนใหญ่ เมื่อมาเจอกล้องดีไซน์แปลกแหวกแนวขนาดนี้ทำให้จับถือไม่ถนัด และจากการทดลองกับผู้ใช้กล้องมากกว่า 20 คนพบว่าปัญหากดชัตเตอร์ไม่ลงเนื่องจากไม่รู้ว่าต้องลงน้ำหนักไปที่วงแหวนชัตเตอร์ขนาดไหนเป็นปัญหาระดับชาติมาก
แต่ถ้าผู้ใช้มีใจสู้ หรือเป็นวัยรุ่นชอบของแปลกใหม่ ชอบเรียนรู้ ชอบกล้อง Point and Shoot เล็ง กด-ถ่ายไปตามอารมณ์ ลองใช้งานเจ้า PowerShot N ไปสักพักแล้วทุกอย่างจะลงตัวและชื่นชอบเจ้า "เล็กพริกขี้หนู" ตัวนี้ได้ไม่ยาก
"...กล้องอะไรใช้ง่าย จอสัมผัส รองรับ Touch Focus มาโครได้ ซูม 8 เท่า ปรับจอสร้างมุมมองภาพแปลกๆ ได้ แถมมี WiFi ยิงตรงสมาร์ทโฟนได้ด้วย..." สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ
Company Related Link :
Canon
CyberBiz Social