xs
xsm
sm
md
lg

Review : HTC Desire V แอนดรอยด์ 4.0 สองซิม แต่กำเนิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




HTC Desire V ถือเป็นหนึ่งในผลผลิตจากการเปิดตลาดในประเทศจีน ทำให้เอชทีซีในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระดับโลกหันมาให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 2 ซิม และในเมื่อมีการผลิตแล้วเอชทีซี ประเทศไทย ก็ไม่รอช้านำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราด้วย

แรกเริ่มเดิมที่สินค้าในตระกูล Desire ของเอชทีซี เริ่มมาจาก HTC Desire ไล่มาจนถึง Desire Z Desire HD และมาปิดท้ายที่ Desire S เพียงแต่ประเทศไทยไม่ได้นำรุ่น Desire Z เข้ามาจำหน่าย แต่ผลตอบรับของตลาดประเทศไทยจาก 3 รุ่นนั้นถือว่าทำได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวจนกระทั่งซัมซุงเริ่มเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนแบบเต็มตัว และเริ่มชิงส่วนแบ่งตลาดของเอชทีซีไป

การมาของ Desire V จึงถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความสามารถของ 2 ซิม ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในราคา 10,900 บาท แน่นอนว่าคู่แข่งสำคัญของ Desire V คงหนีไม่พ้น Oppo Fin d Gemini ที่ออกวางจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่า

การออกแบบและสเปก



ถ้ามองย้อนกลับไปถึงสินค้าในตระกูล Desire จะเห็นว่า Desire V ยังคงคอนเซปต์เดิมของการออกแบบเพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับแอนดรอยด์ 4.0 ด้วยการลดปุ่มสั่งงานเหลือเพียง 3 ปุ่มตามที่กำหนด ส่วนที่ถือว่าถอดแบบมาแปะๆ อย่างเช่นบริเวณปลายเครื่องที่งอขึ้นรับกับใบหน้า

วัสดุที่ใช้จะเป็นอะลูมิเนียมผสมกับพลาสติก พร้อมกับเลิกขายความเป็นยูนิบอดี้เหมือนรุ่นก่อนๆ โดยมีขอบโครเมียบสีเงินล้อมรอบ วางจำหน่ายด้วยกันสองสี คือ ดำ และขาว มีขนาดรอบตัวอยู่ที่ 118.5 x 62.3 x 9.32 มิลลิเมตร น้ำหนัก 114 กรัม

ด้านหน้า - มากับขนาดหน้าจอที่แตกต่างออกไปจาก Desire รุ่นเดิมๆ ด้วยหน้าจอทัชสกรีนแบบ Capacitive ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล ที่มีช่องลำโพงสนทนาขนาดเล็กวางขนานไปกับขอบหน้าจอสีดำ ถัดลงมาเป็นโลโก้เอชทีซีสีเงิน ที่มีไฟแสดงสถานะ และเซ็นเซอร์ซ่อนอยู่ข้างๆ ล่างหน้าจอจะมีสัญลักษณ์ของปุ่มย้อนกลับ กลับหน้าแรก และเรียกดูแอปพลิเคชันก่อนหน้าที่ ซึ่งเป็นปุ่มระบบสัมผัส



ด้านหลัง - เป็นส่วนของฝาหลังที่ทำจากพลาสติกสีขาวเนียน โดยมีจุดโดดเด่นบริเวณกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่ใช้เลนส​์ 34 มม. F2.8 ซึ่งใช้วัสดุเป็นอะลูมีเนียมตัดขอบสีส้ม ถัดมาเป็นโลโก้เอชทีซีขนาดใหญ่ ช่องลำโพง และสัญลักษณ์พลังเสียงอย่าง 'beats audio'



ฝาหลังถอดได้ด้วยการงัดขอบบริเวณปุ่มเปิดเครื่อง โดยจะครอบตามแนวขอบอะลูมิเนียมทั้งหมด เมื่อเปิดออกมาจะมีช่องเสียบไมโครเอสดีการ์ด และช่องใส่ซิม 2 ช่อง อยู่บริเวณกล้อง ขณะที่ตรงกลางเป็นที่อยู่ของแบตเตอรีขนาด 1,650 mAh






ด้านซ้าย - มีเพียงพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านขวา - เป็นปุ่มปรับระดับเสียง ด้านบน - มีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง - เป็นช่องไมโครโฟนสนทนา

การเชื่อมต่อต่างๆของตัวเครื่องประกอบไปด้วยซิม 1 ที่สามารถใช้งาน 3G 900/2100 MHz ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 7.2 Mbps อัปโหลดสูงสุด 5.76 Mbps ส่วนซิม 2 รองรับเพียง GSM/GPRS เท่านั้น ถัดมาเป็นบลูทูธ 4.0 ที่รองรับ aptX และไวไฟ มาตรฐาน 802.11 b/g/n

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



สิ่งที่ผู้ใช้งานเอชทีซีคุ้นเคยกันดีคงหนีไม่พ้นหน้าจออินเตอร์เฟส Sense ที่ล่าสุดในเวอร์ชันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 IceCreamSanwitch เวอร์ชันของ Sense ก็ขึ้นเป็น 4.0 ด้วยเช่นเดียวกัน โดยความสามารถส่วนใหญ่จะพัฒนาให้สอดคล้องกันการใช้งานของ ICS มากขึ้นนั่นเอง

หน้าจอหลักยังคงประกอบไปด้วยพื้นที่ว่าง 5 หน้าให้ผู้ใช้ได้เลือกนำวิตเจ็ตมาใส่ หรือจะเลือกสร้างโฟลเดอร์เพื่อรวบรวมแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยๆมาไว้บนหน้าจอหลักก็สามารถทำได้ โดยมีไอค่อนหลักอยู่ที่แถบล่างคือ โทรศัพท์ อีเมล เข้าสู่โปรแกรมทั้งหมด ข้อความ และโหมดกล้อง แน่นอนว่าไอคอนบริเวณนี้ก็สามารถปรับย้ายตำแหน่งได้ตามการใช้งานเช่นเดียวกัน

ขณะที่ในส่วนของการล็อกหน้าจอ ฟังก์ชันการเลื่อนวงแหวนไปไปครอบไอคอนลัดเพื่อเรียกใช้งานก็ยังคงอยู่ พร้อมกับการแสดงผลวันเวลา วันที่ และเครือข่ายที่ใช้ แน่นอนว่าตรงจุดนี้ก็สามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ในหน้าจอล็อกสกรีนเมื่อมีการเปิดเพลงฟัง จะสามารถกดเปลี่ยนเพลง หยุดเพลงได้จากหน้าจอนี้โดยไม่ต้องปลดล็อก



ส่วนแถบการแจ้งเตือนถูกปรับให้เป็น ICS มากขึ้นด้วยการเพิ่มปุ่มเข้าสู่การตั้งค่ามาให้ในจุดนี้ และยังสามารถล้างการแจ้งเตือนได้โดยการเลื่อนแถบนั้นๆไปทางซ้ายหรือขวา เช่นเดียวกับการเรียกดูแอปพลิเคชันที่ใช้งานล่าสุดซึ่งสามารถกดปิดการใช้งานได้โดยหลักการเดียวกัน

การใส่วิตเจ็ต สามารถกดค้างที่หน้าจอเพื่อเรียกแถบการเพิ่มวิตเจ็ต เลือกแอปฯ หรือช็อตคัทของโปรแกรมต่างๆ ลากขึ้นไปใส่ยังหน้าต่างทั้ง 5 ในส่วนบนได้ทันที



แอปพลิเคชันที่ให้มาพร้อมกับเครื่องประกอบไปด้วยแอปฯอ่านเอกสาร PDF เครื่องคิดเลข ปฏิทิน กล้อง โหมดใช้งานภายในรถ นาฬิกา เฟซบุ๊ก ไฟฉาย วิทยุเอฟเอ็ม เฟรนสตรีม (รวมโซเขียลเน็ตเวิร์กเข้าด้วยกัน) รูปภาพ จีเมล กูเกิลพลัส เอชทีซีฮับ เว็บเบราว์เซอร์ ละติจูด โลเคชัน เมล แผนที่ ข้อความ เพลง ระบบนำทาง ข่าวสารและสภาพอากาศ รายชื่อผู้ติดต่อ ปรับแต่งส่วนตัว โทรศัพท์ ค้นหาสถานที่ อีบุ๊ก เพลยสโตร์ อ่านไฟล์เอกสาร สิ่งที่ต้องทำ ย้ายข้อมูลจากโทรศัพท์รุ่นอื่น บันทึกเสียง ปล่อยสัญญาณไวไฟ ดูยูทูบเป็นต้น



ภายในส่วนของการตั้งค่าจะเป็นรูปแบบที่มากับ ICS กล่าวคือแบ่งเป็นส่วนๆตั้งแต่การเชื่อมต่อ แน่นอนว่าการตั้งค่า 2 ซิมก็อยู่ในส่วนนี้ด้วย ถัดมาเป็นการปรับแต่งการทำงาน ปรับแต่งตัวเครื่องต่างๆตามปกติ



อย่างที่รู้กันว่าจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือโหมด 2 ซิม ทำให้ในการใช้งานโทรศัพท์ เมื่อกดหมายเลขเรียบร้อยแล้วสามารถเลือกซิม 1 หรือ 2 ได้จากแถบสีเขียวส่วนล่างทันที ขณะที่หน้าจอสายเรียกเข้าก็จะมีระบุว่าสายที่เข้ามาจากซิมใด

โดยในการปรับตั้งค่าผู้ใช้สามารถเลือกปิดการใช้งานอีกซิมได้จากการนำติ้กถูกที่ช่องออก หรือจะเลือกตั้งค่าซิมหลัก และปิดการทำงานของทั้ง 2 ซิมก็ได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือตัวช่องซิม 1 เท่านั้นที่รองรับการเชื่อมต่อบนระบบ 3G ส่วนซิม 2 นั้นได้เฉพาะ 2G (GPRS/EDGE) เท่านั้น



สิ่งหนึ่งที่แถมมากับระบบ Sense นอกเหนือไปจากการตั้งค่าขนาดตัวอักษรให้ใหญ่แล้ว หลายๆท่านคงนึกไม่ถึงว่าเครื่องทุกรุ่นของเอชทีซีที่ใช้ ICS ในโหมดอ่านข้อความสามารถใช้นิ้วในการพินช์ตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นได้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ไม่น้อยเลยทีเดียว



การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของ ICS การประมวลผล ความลื่นไหลทำได้รวดเร็วดี และด้วยขนาดหน้าจอที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้ท่องเน็ตได้ง่ายขึ้น



สำหรับสเปกภายใน HTC Desire V มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7227A Snapdragon ที่ใช้ชิป Cortex-A5 ความเร็ว 1 GHz พร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพ Adreno 200 RAM 512 MB พร้อมหน่วยเก็บข้อมูล 4 GB ที่สามารถเพิ่มได้จากไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 32 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.3 บน HTC Sense 4.0



ในส่วนของผลการทดสอบ Desire V ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 1,861 และ 2,947 ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 4 จุดพร้อมกัน ทดสอบกราฟิกผ่าน Neocore ได้ 54.8 FPS Nenamark1 Nenamark2 ได้ 47.2 FPS และ 19.2 FPS An3Dbench ได้ 5,970 คะแนน ส่วน An3DBenchXL ได้ 22,283



เพิ่มเติมเข้ามากับ PassMark Performance Test จากผู้ผลิตโปรแกรมเทสบนพีซีชื่อดังอย่าง FutureMark ได้คะแนนรวม 944 คะแนน แบ่งเป็นซีพียู 1,256 คะแนน หน่วยเก็บข้อมูล 2,090 คะแนน หน่วยความจำ 977 คะแนน กราฟิก2มิติ 976 คะแนน และ กราฟิก3มิติ 415 คะแนน และ การทดสอบ CF-Bench ได้ตามผลด้านล่าง



จุดขาย

- แอนดรอยด์ 4.0 ตั้งแต่แกะกล่องพร้อมอินเตอร์เฟส Sense ที่มากับวัสดุชั้นดีตามสไตล์เอชทีซี
- การใช้งาน 2 ซิมการ์ดที่สามารถเลือกเปิด-ปิด การทำงานได้
- ตัวเครื่องไม่เล็ก หรือใหญ่จนเกินไป ทำให้พกพาได้สะดวก

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสเปกตัวเครื่องที่ได้ (ในราคาใกล้เคียงกันแบรนด์อื่นให้ซีพียูดูอัลคอร์ แต่ไม่มีสองซิม)
- ตัวเครื่องไม่มีกล้องหน้า ทำให้ไม่สามารถใช้ฟังก์ชันปลดล็อกด้วยใบหน้าของ ICS ได้
- ขณะใช้งานโทรศัพท์ อีกซิมหนึ่งจะถูกตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ (เป็นที่ระบบปฏิบัติการ)

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

ถ้าไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้ใช้ที่มีสองซิม สำหรับไว้ใช้งานด้านดาต้า 1 ซิม และใช้โทรศัพท์อีก 1 ซิม Desire V ถือเป็นตัวเลือกในระดับต้นๆที่น่าสนใจ เพราะจะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานนี้ได้แบบเต็มๆ แต่ถ้าใช้งานเพียงซิมเดียวก็สามารถหันไปมองเครื่องรุ่นใหม่อย่าง One V ที่มีสเปกใกล้เคียงกันได้

นอกจากความสามารถในแง่ของ 2 ซิม แล้ว Desire V ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบกล้องที่ใช้เลนส์ 34 มม. F2.8 ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันระบบเสียงของ beats audio ก็ช่วยยืนยันถึงประสิทธิภาพเสียงไปในตัว และที่สำคัญคือระบบการจัดการแบตเตอรีที่ค่อนข้างดี ทำให้สามารถใช้งานในแต่ละวันได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลหาที่ชาร์จระหว่างวัน

แต่อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของระบบแอนดรอย์ ที่ไม่ได้ผลิตมาให้ใช้งานพร้อมกัน 2 ซิม ทำให้ยังมีปัญหาระหว่างการใช้สาย ที่จะทำให้อีกซิมหนึ่งถูกตัดการทำงานส่งผลให้อาจพลาดการติดต่อในช่วงเวลาสำคัญได้ ไม่เหมือนกันฟีเจอร์โฟน 2 ซิมในตลาดที่หลังๆพัฒนาจุดดังกล่าวได้แล้ว ทำให้ต้องรอดูกันต่อไปว่าทางฝั่งของแอนดรอยด์จะสามารถแก้ไขจุดนี้ได้หรือไม่

Company Related Links :
HTC










กำลังโหลดความคิดเห็น