xs
xsm
sm
md
lg

Review รีวิวสินค้าไอที สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก

x

Review : Sony SLT-A55V กล้องกระจกโปร่งแสง มีดีที่โฟกัส-ชัตเตอร์เร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ความจริงแล้วกล้อง Sony SLT-A55 ได้ออกวางจำหน่ายมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ทั้งนี้ด้วยความที่ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์กำลังอยู่ในช่วงขยายสินค้ารีวิวจำพวกกล้องถ่ายภาพให้มากขึ้น ซึ่งประกอบกับตัวกล้อง SLT-A55 ยังคงอยู่ในกระแสและตัวกล้องมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอยู่มาก ทำให้วันนี้ทีมงานจึงขอหยิบ Sony SLT-A55 มารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมโดยไม่ขัดเขิน

สำหรับ SLT-A55 จัดเป็นกล้องในตระกูล "อัลฟ่า" ของโซนี่ที่ชูจุดเด่นในเรื่องกระจกสะท้อนภาพแบบโปร่งแสง (Translucent Mirror Technology) ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพแต่ละครั้งกระจกสะท้อนภาพจะไม่จำเป็นต้องยกปิด-เปิดเหมือน DSLR ทั่วไป ทำให้การทำงานของ A55 โดยเฉพาะการโฟกัสแบบ QuickAF และการถ่ายภาพต่อเนื่องทำได้รวดเร็วขึ้นหลายเท่าจาก DSLR ปกติ

Design and Specifications



สำหรับ Sony SLT-A55V ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วการออกแบบ ใช้สีตัดขอบต่างๆ ยังคงเอกลักษณ์ของกล้องตระกูลอัลฟ่าไว้ทั้งหมด โดยน้ำหนักของกล้องจะอยู่ที่ประมาณ 433 กรัมและเมื่อรวมแบตเตอรีจะอยู่ที่ประมาณ 492 กรัม พร้อมเมาท์เลนส์ที่รองรับจะเป็น A-mount ตามแบบฉบับกล้องอัลฟ่า




ด้านเซนเซอร์รับภาพจะใช้เป็น Exmor APS HD CMOS ขนาด 23.5x15.6 มิลลิเมตร สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดที่ 16.2 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ FullHD 1080p พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ BIONZ รองรับการถ่ายภาพ 3 มิติในโหมดพาโนรามาและตัวกล้องมีระบบกันภาพสั่นไหว (SteadyShot) โดยใช้เทคนิคการเคลื่อนเซนเซอร์รับภาพไปมาขณะถือถ่ายด้วยมือ อีกทั้งตัวกล้องยังมาพร้อมฟังก์ชันยอดฮิตอย่าง Face Detection (ตรวจจับใบหน้าและช่วยโฟกัสให้อัตโนมัติ) และ Smile Shutter

มาที่ความเร็วชัตเตอร์ที่กล้องรองรับจะเรียกใช้ได้ตั้งแต่ ชัตเตอร์ B (Bulb), 30sec - 1/4,000 และสามารถตั้วหน่วงเวลาได้ตั้งแต่ 2-10 วินาที




ในส่วนของปุ่มฟังก์ชันถ่ายภาพต่างๆ บริเวณด้านบนของกล้องจะประกอบด้วยจากซ้าย วงล้อหมุนปรับโหมดถ่ายภาพซึ่งประกอบด้วยโหมด Auto+ - Auto - No Flash - SCN/Picture Effect - Sweep Shooting (Panorama) - Cont. Priority AE (High Speed Mode) - M (Manual) - S (Shutter Priority) A (Aperture Priority) และ P (Program)

ส่วนตรงกลางจะเป็น Hot Shoe สามารถเชื่อมต่อกับแฟลชและอุปกรณ์เสริมของโซนี่ (แฟลช Built-in ที่ให้มากับตัวกล้องจะมีไกด์นัมเบอร์อยู่ที่ 10 ทำงานบนระบบ TTL) และบริเวณด้านขวามือจะประกอบด้วยปุ่ม Finder/LCD สำหรับปรับเปลี่ยนช่องมองภาพระหว่าง EVF กับ Live View - D-Range สำหรับการปรับ Dynamic Range ของภาพ - Movie ปุ่มสำหรับบันทึกวิดีโอ - +/- ปุ่มสำหรับปรับการชดเชยแสง และสุดท้ายปุ่ม AEL สำหรับกดค้างเพื่อล็อคค่าแสง




ส่วนด้านหลังของตัวกล้องจะประกอบด้วย จอ TFT Xtra Fine LCD ขนาด 3 นิ้วความละเอียด 921,600 พิกเซล ที่มาพร้อมเทคโนโลยี TruBlack แบบเดียวกับจอของ NEX และสามารถปรับเปลี่ยนมุมมองได้ 180-270 องศา

และสำหรับปุ่มฟังก์ชันที่ติดตั้งเยื้องด้านขวาของจอภาพจะประกอบด้วย Fn (Function Keys สำหรับกดเข้าทางลัดสู่โหมดปรับแต่งภาพ) - DISP (Display) - WB (White Balance) - ISO - ปุ่มปรับระบบการถ่ายภาพและตั้งเวลา - เครื่องหมายสามเหลี่ยม สำหรับเรียก Preview ภาพที่ถ่ายไปแล้วและรูปถังขยะที่เป็นปุ่มลบภาพที่ไม่ต้องการ




กลับมาที่ด้านหน้าของตัวกล้อง บริเวณด้านซ้ายจะมีสวิตซ์เปลี่ยนโหมดโฟกัสภาพ 2 โหมดได้แก่ AF (ออโต้โฟกัส) และ MF (โฟกัสด้วยมือหมุน) จากนั้นถัดไปด้านขวามือจะเป็นโลโก้ GPS แสดงให้เห็นว่าในตัวกล้องมีการบรรจุภาครับส่งสัญญาณ GPS มาให้พร้อมช่องเชื่อมต่อต่างๆ ได้แก่ Remote - Mic in (3.5 มิลลิเมตร) - HDMI Out และ miniUSB

นอกจากนั้นในเรื่องระบบโฟกัสสำหรับ Sony SLT-A55V จะมีจุดโฟกัส 15 จุด รองรับโหมดออโต้โฟกัส 4 รูปแบบคือ Single-shot AF, Automatic AF, Continuous AF และ Manual Focus สามารถโฟกัส Cross Type ได้ 3 จุดพร้อมกัน พร้อมเลือกขนาดจุดโฟกัสได้ทั้งแบบ Wide Spot และ Local




สุดท้ายในส่วนด้านล่างของตัวกล้องจะเป็นในส่วนของช่องใส่แบตเตอรีที่รองรับแบตเตอรี infoLITHIUM ตระกูล W (แบบเดียวกับ NEX) พร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ Memory Stick และ SD Card

Highlight Features of Sony SLT-A55V

มี GPS ในตัว



กล้อง Sony SLT-A55V ได้บรรจุภาครับส่งสัญญาณ GPS มาให้ ทำให้ภาพที่ถ่ายจากกล้องตัวนี้ เมื่อนำไปเปิดรับชมกับซอฟท์แวร์ที่สามารถอ่าน Geo Location หรือเปิดชมบนแท็บเล็ตอย่าง iPad จะสามารถดูได้ว่าภาพเหล่านี้ถ่ายมาจากที่ใดบ้าง

Speed Priority 10fps & Quick AF with Live View (Still and Movie)


วิดีโอแสดงคุณสมบัติของกระจกโปร่งแสงกับโหมด ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็ว 10 เฟรมต่อวินาที


30 Photos with High Speed (10fps) Images Continuously

อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าระบบกระจกสะท้อนภาพเป็นกระจกโปร่งแสงที่ทางโซนี่เครมว่านอกจากจะทำให้แสงสามารถผ่านทะลุไปยังแผงเซนเซอร์ด้านหลังพร้อมสะท้อนแสงเข้าสู่ส่วนของ EVF (Electronic viewfinder) ได้พร้อมกันแล้ว มีผลทำให้การกดชัตเตอร์ถ่ายภาพแต่ละครั้ง กระจกสะท้อนภาพไม่จำเป็นต้องดีดตัวขึ้นลงเหมือน DSLR ทั่วไป มีผลทำให้การการถ่ายภาพต่อเนื่องสามารถทำได้ด้วยความเร็วสูงถึง 10 เฟรมต่อวินาที และเมื่อรวมกับบัฟเฟอร์ภายในทำให้การกดชัตเตอร์หนึ่งครั้งจะสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 39 ภาพสำหรับคุณภาพ JPEG Standard ส่วนไฟล์ RAW จะอยู่ที่ประมาณ 20 ภาพ


ตัวอย่างวิดีโอ FullHD 1080p ถ่ายผ่าน Live View โดยใช้ QuickAF


ลักษณะการทำงานของ QuickAF ในโหมดถ่ายวิดีโอจะเห็นว่าจุดโฟกัสสีเขียวทำงานตลอดเวลาเมื่อเคลื่อนกล้องไปมา

นอกจากนั้นการที่ตัวกล้องเลือกใช้กระจกโปร่งแสงยังส่งผลให้การถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพโดยเปิด Live View สามารถใช้ QuickAF ได้แบบเรียลไทม์ดังเช่นวิดีโอตัวอย่างด้านบน

High Dynamic Range Image



ฟังก์ชัน HDR (สามารถใช้ในโหมดไฟล์ JPEG ได้อย่างเดียว) เป็นฟังก์ชันที่ช่วยในการถ่ายภาพวิวย้อนแสงและอยากดึงภาพส่วนที่มืดให้สว่างและเห็นรายละเอียดโดยที่ไม่สูญเสียส่วนที่แสงวัดไว้พอดี โดยในกล้อง A55V จะมีให้เลือก 6 ระดับ

ส่วนหลักการทำงานคือกล้องจะบันทึกส่วนที่มืดและสว่างหลายๆ ภาพและนำมาประมวลผลเป็นภาพๆ เดียว ดังตัวอย่างภาพประกอบด้านล่าง


HDR Off


HDR On


HDR Off


HDR On

(3D) Panorama



เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นมาตั้งแต่กล้องตระกูล NEX ที่ทำให้การถ่ายภาพพาโนรามาทำได้ง่ายขึ้นเพียงกดถ่ายและกวาดกล้องไปตามทิศทางที่ต้องการ จากนั้นตัวกล้องจะทำการรวมภาพที่ถ่ายทั้งหมดให้เป็นภาพนาโนรามาภาพเดียว โดยความละเอียดสูงสุดของภาพพาโนรามาที่ถ่ายได้จะอยู่ที่ 23 ล้านพิกเซล (12,416 x 1,856 พิกเซล)

EVF / Display



สำหรับช่องมองภาพ (Viewfinder) ใน Sony SLT-A55V จะเป็นลักษณะ Electronic Viewfinder โดยจะมีจอ LCD ขนาด 0.46 นิ้ว และภาพที่แสดงบนจอจะมีเส้นมาตรวัดระดับความลาดเอียงของตัวกล้อง ที่สามารถนำไปแสดงบนหน้าจอ Live View ได้เช่นกัน (ดูวิดีโอตัวอย่างที่ด้านบน)

Picture Effect / Anti Blur Mode



มาที่ฟังก์ชัน Picture Effect ที่อยู่ในโหมด SCN จะเป็นส่วนช่วยเติมแต่งภาพถ่ายให้ออกมาสวยงามแปลกตาเหมือนมี Photoshop อยู่ในเครื่องเฉกเช่นเดียวกับ NEX-C3 เช่นความสามารถในการดูดสีต่างๆ การปรับโทนภาพแบบ Retro โดย Picture Effect สามารถใช้ได้ทั้งโหมดภาพนิ่งและถ่ายวิดีโอ

อีกทั้ง Sony SLT-A55V ยังมาพร้อมโหมด Anti Blur ที่ช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยการถือถ่ายทำได้มีดีขึ้น โดยหลักการทำงานของโหมดนี้ กล้องจะถ่ายภาพทั้งหมด 6 ครั้งก่อนทำการประมวลผลภาพให้ออกมาเป็นภาพเดียว

Full HD 1080p Movie Record


วิดีโอชุด "Tempo" by Potsawat Sirichan

ท้ายสุดในส่วนที่เป็นฟังก์ชันเด่นของ SLT-A55V อีกหนึ่งส่วนที่ขาดไม่ได้ก็คือความสามารถในการบันทึกไฟล์วิดีโอคุณภาพ 1080p (1,920x1,080 พิกเซล) โดยความละเอียดของงานวิดีโอที่กล้องตัวนี้รองรับ ได้แก่ AVCHD: 1,920 x 1,080/ 60i ที่คุณภาพ 17Mbps / MP4 HD: 1440 x 1080/ 30p ที่คุณภาพ 12Mbps / MP4 VGA: 640 x 480/ 30p ที่คุณภาพ 3Mbps โดยในส่วนของเสียงจะถูกเข้ารหัส Stereo Dolby Digital (AC-3) หรือ MPEG-4 AAC-LC พร้อมไมโครโฟนบันทึกเสียงภายในแบบสเตอริโอ

ในส่วนตัวอย่างคุณภาพงานถ่ายวิดีโอสามารถดูได้จากตัวอย่างด้านบน

Menu and Setup Screen



ทดสอบประสิทธิภาพ

ISO Test




ISO 100


ISO 400


ISO 1,600


ISO 6,400


ISO 12,800

สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในส่วนค่าความไวแสง (ISO) ถือว่าอยู่ในระดับน่าพอใจ โดยค่า ISO ตั้งแต่ 100-1,600 อยู่ในเกณฑ์พอใช้ Noise ต่างๆ ค่อนข้างน้อย ส่วนในระดับ 12,800 สัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นค่อนข้างมากและสีของภาพเริ่มเพี้ยนออกอมม่วง

ทดสอบใช้งานจริง




มาที่การทดสอบแรกทีมงานได้ตั้งค่าความไวแสงไว้ที่ 100 พร้อมค่า f อยู่ที่ 10 โดยใช้เลนส์คิท 18-55 ซึ่งภาพที่ได้จากการครอป 100% ค่อนข้างคมชัด ส่วนเรื่องของการแสดงเม็ตสีทำออกมาได้ดี สีสันค่อนข้างจัดจ้านตามสไตล์โซนี่



ในส่วนการทดสอบต่อมาจะเป็นการถ่ายแบบ Close up ที่ ISO 100 f5.6 (คิทเลนส์ 18-55) ส่วนความเร็วชัตเตอร์ที่ใช้ถ่ายจะอยู่ที่ 1/1,250



เปลี่ยนมาใช้เลนส์ 50mm กับค่า f2.5 และเปลี่ยนมาใช้โหมดสำเร็จรูป Close up โดยค่าทุกค่ากล้องจะจัดการเอง ทีมงานมีหน้าที่เล็งและถ่ายเท่านั้น



ลองมาทดสอบการถ่ายด้วยการเปิดฟังก์ชัน DRO เพื่อให้กล้องปรับแต่งแสงและคอนทราสต์ให้อัตโนมัติ ซึ่งจากภาพจะเห็นว่า ในความจริงแล้วทีมงานได้วัดแสงและล็อคค่าแสงไว้บริเวณลำต้นไม้เฉียดหญ้าสีเขียว ซึ่งแน่นอนว่าภาพสะท้อนในน้ำจะติด Under เล็กน้อย แต่เมื่อทีมงานเปิดฟังก์ชัน DRO ประมาณ Level 1-2 ภาพต้นไม้ที่สะท้อนผืนน้ำจะถูกปรับแสงให้สว่างขึ้นและมีการกดคอนทราสต์ของภาพให้เข้มขึ้นเล็กน้อยดังภาพที่ได้

**ภาพนี้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/320 ที่ค่า f1.4 และ ISO100**



มาที่การทดสอบระบบ Steady Shot หรือระบบกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง โดยทีมงานได้ใช้มือถือกล้องโดยให้ฐานกล้องค้ำยันกับขา Monopod ถ่ายที่ความเร็วประมาณ 0.6 วินาที ที่ ISO 400 ถือว่าภาพที่ได้ยังคงคมชัด ผิดจากกล้องอีกตัว (ไม่ขอเอ่ยนามและรุ่น) ที่ไม่สามารถถ่ายได้แต่อย่างใด




ลองมาทดสอบถ่ายภาพกลางคืนด้วยการเปิดหน้ากล้องเป็นเวลานาน เพื่อทดสอบระบบขจัดสัญญาณรบกวน โดยภาพแรกเปิดหน้ากล้องไว้ที่ 4 วินาที ส่วนภาพที่สองเปิดหน้ากล้องไว้ที่ 8 วินาที ที่ ISO 100



หันมาทดสอบเรื่องความเรียบเนียนของเม็ดสีเมื่อต้องเจอกับสภาพแสงที่น้อยมากๆ โดยภาพนี้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/8 ที่ค่าISO 100 f1.7 และชดเชยแสง +0.7 พบว่าเม็ดสีต่างๆ ไม่ผิดเพี้ยนแต่ประการใด




กลับมาทดสอบเรื่อง Picture Effect ที่เคยสาธิตไปแล้วในบทความรีวิว Sony NEX-C3 กลับมาในกล้อง A55 พบว่าทำงานได้ดีและผู้ใช้ก็สามารถใช้การปรับ White Balance เพื่อดูดสีอื่นๆ ที่ไม่ได้ให้มาในฟังก์ชันได้เช่นกัน



สุดท้ายขอทดสอบการ Process ภาพไฟล์ RAW จากสีเป็นขาวดำดูบ้าง โดยภาพนี้ถ่ายที่ ISO 100 ที่ความเร็ว 1/100 f3.2 และใช้โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 เฟรมต่อวินาที ถ่ายหลายภาพก่อนเลือกภาพที่ดีที่สุด

>>รับชมภาพถ่ายทั้งหมดในรีวิวแบบขนาดใหญ่คลิก See Full Album ด้านล่างนี้<<
>>หรือรับชมภาพถ่ายจากกล้องตัวอื่นๆ ได้โดย คลิกที่นี่<<



สรุป

สำหรับกล้อง Sony SLT-A55V ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่จากตระกูลอัลฟ่าของโซนี่ ที่สร้างจุดเด่นมาได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโหมดถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง พาโนรามาแบบ 3 มิติหรือแม้แต่การบรรจุฟังก์ชันการปรับแต่งภาพต่างๆ มาอย่างครบครันด้วยราคาเปิดตัวเพียง 27,000-30,000 กว่าบาทเท่านั้น

อีกทั้งการติดตั้งปุ่ม Fn ไว้ที่บริเวณด้านข้าง Live View ก็ทำให้การปรับแต่งค่าใช้งานต่างๆ สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นการปรับ Drive Mode - AF Area - ISO - White Balance สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่มๆ นี้ปุ่มเดียวและใช้ปุ่มทิศทางเลือกเข้าใช้งานได้ทันที

และในส่วนของประสิทธิภาพก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉพาะการบรรจุ Picture Effect และโหมดช่วยเหลือการถ่ายภาพอย่าง Anti Blur หรือ HDR ที่ใช้งานในการสร้างสรรค์ภาพได้ยอดเยี่ยมและโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นๆ มาก ส่วนโหมดถ่ายวิดีโอที่ถึงแม้อาจจะปรับแต่งอะไรไม่ได้มาก นอกจากค่ารูรับแสง แต่คุณภาพงานที่ถ่ายออกมาก็เนียบและเนียนใช้ได้ อีกทั้งยังสามารถต่อไมโครโฟนที่ใช้หัวแจ็คขนาด 3.5 มิลลิเมตรเสริมเข้าไปได้ด้วย

แต่ทั้งนี้ตัวกล้องก็มีข้อติที่ถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งก็คือเรื่องของเซนเซอร์ที่ร้อนง่ายมาก โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอบนความละเอียด 1080p พร้อมเปิดโหมดกันสั่น จะถ่ายต่อเนื่องได้ประมาณ 5-9 นาทีเท่านั้น จากนั้นเครื่องจะฟ้องข้อความเตือนอุณหภูมิสูงและปิดตัวเองไป เฉกเช่นเดียวกับงานถ่ายภาพนิ่งกลางแดดจัดและเป็นการถ่ายภาพต่อเนื่องซึ่งใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ ติดต่อกันนานๆ ปัญหาเรื่อง Overheat ก็สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เช่นกัน

และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องของการบริโภคพลังงานที่ค่อนข้างมาก อย่างที่ทีมงานทดสอบกล้องด้วยการนำออกไปถ่ายงานในสถานการณ์จริงๆ ซึ่งมีทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ซึ่งปกติจากการใช้งานของทีมงานกับกล้องแบรนด์อื่นจะใช้แบตเตอรีไม่เกิน 2 ก้อนก็เพียงพอกับงาน แต่สำหรับ Sony SLT-A55V ต้องใช้แบตเตอรีถึงเกือบ 3 ก้อน ถึงจะเพียงพอต่อการใช้งานแบบหนักหน่วงใน 1 วันเต็มๆ

อีกทั้งในส่วนช่องมองภาพ Viewfinder ที่ทางโซนี่เลือกติดตั้งเป็น EVF แบบจอ LCD ความละเอียดกลางๆ มาให้ ซึ่งผู้ใช้ที่เคยใช้ Viewfinder แบบเก่ามาอาจต้องมีการปรับตัวเล็กน้อย (อย่างทีมงานที่ทดสอบค่อนข้างรู้สึกมึนหัวเมื่อมองจากช่องมองภาพลักษณะนี่)

ซึ่งสุดท้ายแล้วกล้อง Sony SLT-A55V ก็คงเป็นกล้อง DSLT (กล้องกระจกโปร่งแสง) ที่มาพร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือตกแต่งภาพที่ครบครันและเปิดตัวมาด้วยราคาที่ไม่แรงมากและเน้นจับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการ DSLR ที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้มือใหม่และผู้ใช้ระดับกลางได้เป็นอย่างดี

ขอชม
- ราคาเปิดตัวไม่แรง เทียบกับฟังก์ชันใช้งานที่ได้รับ
- ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที
- สามารถถ่ายพาโนรามาทั้งแบบ 2D และ 3D
- โฟกัสได้รวดเร็วแม้มองผ่าน Live View
- Buffer ให้มามากทำให้ถ่ายภาพโดยการกดชัตเตอร์ 1 ครั้งสามารถถ่ายได้ต่อเนื่องสูงสุดกว่า 30 ภาพ
- Picture Effect และฟังก์ชันอย่าง Anti Blur , HDR มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
- มีช่องเชื่อมต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ขอติ
- เซนเซอร์รับภาพ โดยเฉพาะขณะถ่ายวิดีโอ (เปิด Steady Shot) ร้อนได้ง่าย
- แบตเตอรีหมดไว
- ฟังก์ชันบางตัวมีความซับซ้อนในการเรียกใช้งาน

Company Related Link :
Sony









กำลังโหลดความคิดเห็น