ในอดีตเราอาจจะรู้จักบริษัทเดลล์ (Dell) จากวงการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในช่วงปี 2010 ที่ผ่านมาเดลล์ได้ปรับตัวให้เข้าสู่โลกแห่งสมาร์ทโฟน โดยส่ง Dell Streak 5" และ Dell Streak 7" ชิมลางในตลาดใหม่ แม้ว่าอาจจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดสมาร์ทโฟนขยายตัวถึงขีดสุด เดลล์ ไม่พลาดจึงส่ง Dell Venue สมาร์ทโฟนตัวใหม่ ด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ชูจุดเด่นดีไซน์สวยหรูหรา หน้าจอขนาดใหญ่เหมาะมือ และสเปกภายในที่แรงพอควรในสมาร์ทโฟนระดับกลาง
ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2 (Froyo), หน้าจอ AMOLED 4.1 นิ้ว, ซีพียู Qualcomm QSD8250 1 GHz, RAM 512 MB, ความละเอียดกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโตโฟกัส และถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 720p
ตัวเครื่องรองรับ 3G ในเครือข่าย 900/1900/2100 MHz ทำให่ผู้ใช้งานในโอเปอเรเตอร์อย่างทรู และดีแทค จะไม่สามารถใช้เครือข่าย 3G
ถึงแม้ว่าสเปกเครื่องภายในของ Dell Venue อาจจะไม่ใช่สเปกสมาร์ทโฟนระดับท็อป หากเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ แต่ถ้าหาก Dell Venue อยู่ภายใต้ราคาที่เหมาะสม สเปกเครื่องไม่ขี้เหร่แน่นอนว่าไม่ว่ายังไงก็สามารถยืนหยัดได้บนตลาดสมาร์ทโฟนที่ร้อนระอุคล้ายกับสงครามเหมือน ณ ตอนนี้
Feature On Dell Venue
Dell Venue มาพร้อมกับอินเตอร์เฟส Stage UI ซึ่งมีหน้าจอล็อคสกรีน คล้ายกับแอนดรอยด์โฟนรุ่นอื่นๆ คือเลื่อนแถบไปทางขวาสำหรับปลดล็อก แต่ถ้าเลื่อนแถบไปทางซ้ายจะเป็นการปิดเสียงแทน
หน้าจอหลักจะมีทั้งหมด 7 หน้า และกำหนดให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ เช่นการเพิ่มวิตเจ็ต ด้วย Dell Stage Widget ที่มีมาให้ 7 รูปแบบ พอดีกับหน้าจอหลักที่มีอยู่ 7 หน้า
Dell Apps คือ แอปฯที่ทางเดลล์พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่จำเป็นแก่ผู้ใช้
Welcome to Dell เป็นแอปฯ สำหรับแนะนำการใช้งานเครื่อง Dell Venue ที่สำคัญมีวิดีโอสาธิตการใช้งานอีกด้วย
AccuWeather แอปฯ พยากรณ์อากาศ ที่จะต้องเชื่อมต่อกับเครื่อข่ายอินเทอร์เน็ต เช่น 3G/Edge หรือ Wifi สามารถเลือกสถานที่ เมือง หรือประเทศได้ตามต้องการ
Backup and Restore ที่จำเป็นและมีความสำคัญเพื่อช่วยในการสำรองข้อมูลการใช้งานลงในหน่วยการ์ดความจำ
Dell Sync มีไว้สำหรับ Sync ข้อมูลเครื่อง Dell Venue ลงใน PC
ฟังก์ชันกล้องถ่ายรูปที่เดลล์ให้มามีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมระบบออโตโฟกัส และแอลอีดี แฟลช ที่พิเศษที่สุดสำหรับ Dell Venue คือมีปุ่มชัตเตอร์ แต่ปัญหาที่พบจากการใช้งานด้านกล้อง ชัตเตอร์จับภาพได้ค่อนข้างช้า
กล้องวิดีโอสามารถถ่ายความละเอียดได้สูงสุด 720p ทุกอย่างคล้ายกับฟังก์ชันกล้องถ่ายรูป มีระบบป้องกันการสั่นไหว ตรวจสอบใบหน้า
การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์บนแอนดรอยด์จุดเด่นยังเป็นเรื่องการใช้งานภาพเคลื่อนไหวที่เป็นแฟลชได้ การประมวลผลของตัวบราวเซอร์และหน้าเว็บค่อนข้างเร็ว ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก และยังพบในเบราวเซอร์รุ่นนี้คือลิงก์ที่เป็นภาษาไทยจะสัมผัสได้ไม่ตรงลิงก์ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายสมบูรณ์แบบ สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งอินเทอร์เน็ตไร้สาย 3G HSDPA, 7.2 Mbps; HSUPA, 5.76 Mbps ส่วน Wi-Fi 802.11 b/g
แอปฯสำหรับความบันเทิงมีอินเตอร์เฟสที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรที่โดดเด่นมากนัก ส่วนฟีเจอร์เกี่ยวกับการเล่นเพลงมีเพียงแค่สุ่มเพลง ถ้าหากต้องการปรับแต่งเสียงต้องใช้แอปพลิเคชันอื่นเสริมเอง
การใช้งานโทรศัพท์ ไม่แตกต่างจากแอนดรอยด์รุ่นอื่นๆมากนัก ปุ่มเบอร์โทรศัพท์ใหญ่พอสมควร ด้านบนมีบันทึกการโทรเข้า-ออก เบอร์ติดต่อ และเบอร์ติดต่อสำคัญ หน้าจอสายเรียกเข้าใช้การสไลด์เพื่อรับสาย
Design of Dell Venue
การออกแบบของ Dell ทำได้ดี น่าพอใจ เน้นความเป็นสมาร์ทโฟนสไตล์อเมริกัน การออกแบบหรูหรา สวยงาม หน้าจอใหญ่ จับกระชับมือ แต่นั่นทำให้เครื่องมีน้ำหนักมากกว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ โดยน้ำหนักเครื่องทั้งหมดอยู่ที่ 164 กรัม และขนาดเครื่อง 121 x 64 x 12.9มิลลิเมตร ตัวเครื่องค่อนข้างแตกต่างจากเดลล์ สมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ ที่ออกวางจำหน่ายก่อนหน้านี้พอสมควร จุดแตกต่างคือ Dell Venue คงความเป็นสมาร์ทโฟนที่ชัดเจนกว่า Dell Streak ที่ก้ำกึ่งความเป็นสมาร์ทโฟนและความเป็นแท็บเลต
ด้านหน้า - บนสุดมีเซนเซอร์ สองตัว Proximity sensor สำหรับตรวจจับระยะห่างระหว่างใบหน้ากับตัวเครื่อง เพื่อปิดหน้าจอขณะสนทนา และ Light Sensor สำหรับปรับแสงให้เหมาะสม ตรงกลางมีลำโพง หน้าจอแสดงผลใช้เป็น AMOLED ทำให้การแสดงผลสีสันมีความสดมากกว่าหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
ขนาดหน้าจออยู่ที่ 4.1 นิ้ว แบบ Capacitive 16 ล้านสี ด้านล่างมีแผงควบคุมแบบสัมผัสสามปุ่ม Back, Menu และ Home โดยทั้งหมดตอบสนองค่อนข้างไว และถ้ากดปุ่ม Home ค้างไว้ จะแสดงผล Recent App (แอปฯ ที่มีการใช้งานล่าสุด)
ด้านหลัง - กล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช 1 ตัว ตรงกลางมีโลโก้ Dell
ด้านบน - มีช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง
ด้านล่าง - มีลำโพงเล็กๆสองข้าง ตรงกลางเป็นพอร์ตไมโคร ยูเอสบี
ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มเดียวคือโหมดตั้งค่าเสียงหรือตั้งค่าสั่น
ด้านขวา มีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ถัดลงมามีปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายรูป
บทสรุป
สำหรับ Dell Venue ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อปประจำปี 2010 แต่ในศักราช 2011 ที่ตลาดปัจจุบันกลายเป็นซีพียูระดับ Dual Core ขณะที่ Dell Venue เป็นเพียงแค่ Single Core แต่ถึงอย่างไรการใช้งานภาพรวมทั้งหมด ไม่ได้ถือว่าเลวร้ายมากนัก เครื่องไม่อืด ไม่หน่วงจนน่าเกลียด อินเตอร์เฟส Stage UI ที่มากับตัวเครื่องนั้นกินทรัพยากรเครื่องน้อย การออกแบบเป็นแบบแท่ง ขนาดเหมาะมือ มีความกระชับ จุดเด่นที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทุกรุ่นในตลาดคือ มีปุ่มชัตเตอร์ข้างตัวเครื่อง
ส่วนแบตเตอรี่จากการทดสอบพบว่าสามารถสแตนด์บายรับสายได้ประมาณ 1 วัน ถ้าหากใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ รวมถึงการเข้าสู่อินเทอร์เน็ตผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แบตเตอรี่จะอยู่ได้ราว 7-8 ชั่วโมง ระยะเวลาที่ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มหนึ่งครั้งอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ขอชม
- หน้าจอใหญ่ สว่างคมชัด
- สเปกกลางที่สามารถเล่นเกมแรงๆได้
- มีปุ่มชัตเตอร์ข้างตัวเครื่อง ต่างจากแอนดรอยด์ตัวอื่นๆ ที่ต้องกดชัตเตอร์จากหน้าจอ
- ออกแบบเครื่องได้สวยงาม เหมาะมือ
- หน้าจอเป็น Gorilla Glass ทนทานกว่าจอทั่วไป
ขอติ
- ชัตเตอร์ในโหมดกล้องช้า
- ไม่มีไฟ LED แสดงสถานะบนหน้าจอเครื่อง
- การใช้งานยังไม่ลื่น มีอาการกระตุกระหว่างการใช้งาน
- ปุ่มกล้องชัตเตอร์ ไม่สามารถใช้เป็นปุ่มลัดเรียกโหมดถ่ายภาพขึ้นมาได้
Company Related Links :
Dell