กลายเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองเมื่อเริ่มมีราคาหลุดออกมาอยู่ในช่วง หมื่นปลายๆ สำหรับ Incredible S สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ที่เป็น 1 ใน 6-7 ขุนพลของเอชทีซีที่เตรียมเข้ามาเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนแบบเต็มสูบในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้
ด้วยความที่เป็นเครื่องที่มาพร้อมสเปกระดับซีพียู 1 GHz รวมกับเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศไทยพร้อมจะอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.3 (GingerBread) ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็ว และรูปแบบของอินเตอร์เฟสอย่าง Sense ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ความสามารถของ Incredible S แทบไม่เป็นรองรุ่นพี่สุดไฮเอนด์อย่าง Desire HD แม้แต่น้อย เนื่องจากฮาร์ดแวร์ภายในใช้เหมือนกับแทบทั้งหมด มีการปรับขนาดหน้าจอให้เหมาะกับการพกพามากขึ้น เพิ่มกล้องหน้าสำหรับใช้งานวิดีโอคอลล์ และดีไซน์ให้ดูสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
Feature On HTC Incredible S
Incredible S ยังคงใช้งานอินเตอร์เฟสอย่าง HTC Sense ที่มีการอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดเป็น 2.1 โดยยังคงใช้รูปแบบหน้าจอหลักแบบเดิม ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วลากลงเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ การจัดการวิตเจ็ตภายในยังมีการแบ่งรูปแบบตามลักษณะการใช้งานที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกปรับเปลี่ยนได้เองทั้งหมด รวมถึง Helicopter View ที่ใช้เอชทีซีคิดค้นขึ้นเป็นต้นแบบในการเลือกดูหน้าจอหลักทั้งหมด 7 หน้า ก่อนที่ผู้ผลิตรายอื่นจะเริ่มนำไปใช้ตามๆกัน
จุดเปลี่ยนแปลงของ Sense 2.1 ที่เห็นชัดเจนมากที่สุดคือ หน้าจอเมนูหลัก ที่มีการแบ่งแอปพลิเคชันออกเป็นหน้าๆ จากเดิมที่ผู้ใช้สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ตามใจ แต่ในเวอร์ชัน 2.1 เมื่อสบัดนิ้วหนึ่งครั้งจะเป็นการเปลี่ยนหน้าลงทีละหน้าเรื่อยๆ ป้องกันการเลื่อนไม่ถูกจังหวะ
นอกจากนี้ในส่วนล่างของหน้าจอยังมีการแบ่งแยกประเภทออกเป็น 3 แถบ คือ แอปฯทั้งหมด แอปฯที่ใช้บ่อยที่สุดเรียงตามลำดับไปเรื่อยๆ และแอปฯที่ดาวน์โหลดเพิ่มเติมเข้ามา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกเข้าใช้งานแอปฯได้อย่างเป็นสัดส่วนมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเปิดหาจากในหน้ารวมเมนูเพียงอย่างเดียว
สำหรับแอปฯที่มากับตัวเครื่องของ Incredible S ในเฟิร์มแวร์ เวอร์ชัน 2.3 นี้ ไล่ตั้งแต่ Adobe Reader, Car Panel, Downloads, Facebook, Friend Stream, Gmail, Google Search, HTC Hub, HTC Likes, Latitude, Maps, Market, Peep, Places, Plurk, Quickoffice, Soundhound, Talk, Teeter, Tranfer Data, Twitter, Voice Search, Wi-Fi Hotspot
แน่นอนว่า Sense 2.1 ยังมาพร้อมกับเมนูภาษาไทยที่สมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อยอย่าง กล้อง, วิดีโอ, นำทาง, ข้อความ, ข่าว, พยากรณ์อากาศ, ค้นหารายชื่อ, ค้นหาอย่างเร็ว, เครื่องคิดเลข, เชื่อมต่อมีเดีย, ดนตรี, ตั้งค่า, ติดตั้ง, โทรศัพท์, นัดหมาย, นาฬิกา, บันทึกเสียง, ประวัติโทร, ผู้อ่าน, ไฟฉาย, กระจก, เมล์, รายชื่อ, วิทยุ, สถานที่, สภาพอากาศ, หุ้น, อัลบั้ม, และเว็บเบราว์เซอร์
อีกจุดหนึ่งคือแถบการแจ้งเตือน ที่จากเวอร์ชันเดิมใน Desire HD มีเพียงแค่แอปฯที่ใช้ล่าสุดอยู่ตรงแถบบน ในเวอร์ชันนี้มีเพิ่มการตั้งค่าด่วนลงมาในแถบล่าง เพื่อเลือกเข้าไปเปิดใช้งายไวไฟ บลูทูธ ฮ็อตสป็อต จีพีเอส การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และเข้าสู่หน้าการตั้งค่า
ที่น่าสนใจอีกที่คือ การพัฒนาให้การเสียบสายไมโครเอสดี ไม่เป็นเพียงการชาร์จ หรือ เชื่อมต่อเพียงอย่างเดียว เพราะผู้ใช้งานเอชทีซี สามารถที่จะเลือกรูปแบบการใช้งานได้ เช่นถ้าเชื่อมต่อกับคอมพ์ แต่ไม่ต้องการซิงค์ข้อมูลก็เลือกชาร์จเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าต้องการซิงค์ข้อมูลก็เลือกใช้งาน HTC Sync ถ้าต้องการย้ายไฟล์ก็เลือกเป็น Disk Drive หรือจะแชร์อินเทอร์เน็ตผ่านสายยูเอสบี หรือให้ตัวเครื่องใช้อินเทอร์เน็ตจากคอมพ์ก็สามารถเลือกเป็น USB Tethering และ Internet pass-through ได้
การอัปเดตเฟซบุ๊กเวอร์ชันล่าสุด ที่นอกจากผู้ใช้แอนดรอยด์สามารถเรียกดูสถานะล่าสุดของเพื่อนได้แล้ว เฟซบุ๊กในแอนดรอยด์ ยังสามารถใช้งาน แชต เช็กอินผ่าน Place ได้เช่นเดียวกับในแบล็กเบอรี รวมถึงยังเข้าไปดูหน้า Group ที่เข้าไปร่วมกลุ่มได้จากในแอปฯได้ทันที
ในส่วนของการเชื่อมต่อมีเดีย หรือ Connected Media เป็นการนำเทคโนโลยี DLNA (Digital Living Network Alliance) ที่เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายที่เป็นมาตรฐานสากล ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกเชื่อมต่อมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ เพลง วิดีโอ ไปยังอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน DLNA ได้ทันที
ยกตัวอย่างเช่นการใช้งานร่วมกับ Windows 7 ผ่านโปรแกรม Windows Media Player ให้ผู้ใช้เข้าไปเลือกให้ตัวโปรแกรมรองรับการสตรีมก่อน หลังจากนั้นเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าไว้ในวงไร้สายเดียวกันแล้ว ก็สามารถสั่งงานเล่นเพลง ภาพยนตร์ และสไลด์โชว์รูปภาพได้ทันที โดยใช้ Incredible S เป็นตัวควบคุม
การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ในแอนดรอยด์ 2.3 เครื่องที่มีสเปกสูงๆ นั้น ทำให้ผู้ใช้ได้รับรู้ถึงความเร็วในการใช้งานที่อยู่ในระดับมาตรฐาน แถมยังรองรับ Flash เวอร์ชัน 10.2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดอ่านหน้าเว็บไซต์ได้หมดทุกเว็บ ยังคงเป็นจุดเด่นของเว็บเบราว์เซอร์บนแอนดรอยด์อยู่เช่นเดิม
คีย์บอร์ดเป็นอีกจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมาในเวอร์ชัน 2.3 จากเดิมที่ผู้ใช้งานเอชทีซีต้องไปโหลดใช้งานคีย์บอร์ดจาก CNthai แต่ใน Incredible S เวอร์ชัน 2.3 นี้ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะตัวเครื่องมีการลงคีย์บอร์ดภาษาไทยมาให้พร้อมในรอม
ซึ่งรูปแบบการเปลี่ยนภาษาระหว่างไทยและอังกฤษมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากเดิมที่กดปุ่มเพื่อเปลี่ยนภาษาได้เลย กลายเป็นการกดค้างที่ปุ่ม Space Bar และเลื่อนนิ้วไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนภาษา
ขณะที่เลย์เอาท์ของคีย์บอร์ดเองก็เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การพิมพ์แบบที่ต้องการความรวดเร็วจึงจำเป็นต้องเอียงเครื่องเพื่อใช้คีย์บอร์ดในแนวนอนที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น แน่นอนว่าตัวคีย์บอร์ดยังมาพร้อมกับระบบเดาคำจากการพิมพ์เช่นเดิม ใครที่ไม่ชอบก็สามารถปิดการใช้งานได้
โหมดกล้องใน Incredible S ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก Desire HD มากนัก ยกเว้นเพิ่มปุ่มสลับกล้องหน้าหลัง ที่สามารถใช้งานได้ทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจคือคุณภาพของกล้องจาก Incredible S นั้นดีกว่า Desire HD แบบเห็นได้ชัด
ฟีเจอร์ใส่เอฟเฟกต์ในรูปยังคงมีให้เลือกใช้งานอยู่เหมือนใน Desire HD ไม่ว่าจะเป็น Distortion, Vignette, Depth of field, Dots, Vintage, Vintage Warm, Vintage Cold, Grayscale,Sepia, Negative, Solarize, Posterize และ Aqua ในขณะที่การปรับสมดุลแสงขาว มีให้เลือกแบบอัตโนมัติ Incandescent, Fluorescent, Daylight และ Cloudy
มาถึงในส่วนของการตั้งค่า ซึ่งแถบไม่แตกต่างจากใน Desire HD คือมีให้ตั้งค่าส่วนตัวสำหรับหน้าจอหลัก การเชื่อมต่อ โทรศัพท์ เสียง หน้าจอ บัญชีและการซิงค์ข้อมูล โลเคชัน ค้นหา ความเป็นส่วนตัว การเชื่อมต่อกับคอมพ์ ความปลอดภัย เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม จัดการพลังงาน แอปพลิเคชัน หน่วยความจำ วันเวลา ภาษาและคีย์บอร์ด คำสั่งเสียง และข้อมูลโทรศัพท์
หนึ่งในแอปฯที่น่าสนใจในเครื่องรุ่นใหม่ๆของ เอชทีซี คือ HTCsense.com ที่รองรับการใช้งานในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านประโยชน์ของการใช้งานระบบคลาวด์ของเอชทีซีได้จากรีวิว Desire HD ก่อนหน้านี้
ซึ่งในการใช้งานผู้ใช้จำเป็นต้องเข้าไปสมัครใช้งาน และเลือกการเชื่อมต่อ HTC Sense เข้ากับสมาร์ทโฟนเอชทีซี และเลือกให้มีการซิงค์ข้อมูล รวมถึงเปิดระบบระบุตำแหน่ง (Phone finder) ภายในการตั้งค่าโลเคชัน เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถส่งตำแหน่งปัจจุบันไปยังเว็บไซต์ได้
โหมดการประหยัดพลังงาน ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการรูปแบบการเชื่อมต่อที่ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะได้ โดยสามารถตั้งให้ระบบทำงานเมื่อแบตเตอรีเหลือต่ำกว่ากี่เปอเซนต์ก็ได้ รวมถึงระบบ Fast boot ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเปิดเครื่องใหม่ ที่ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาทีก็สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้เช่นเดียวกับใน Desire HD
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้งานคอมพ์ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ การเพิ่มการส่งต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสายยูเอสบีในรุ่นนี้ ได้มีการเพิ่มรูปแบบการเชื่อมต่อเข้ากับ ระบบปฏิบัติการ Mac OSX เรียบร้อยแล้วทำให้สามารถเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานได้ทันที ขณะที่การส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านไวไฟก็ยังสามารถทำได้อยู่เช่นเดิม
สิ่งที่เอชทีซี และหลายๆแบรนด์ใหญ่เริ่มมีมาให้ในเครื่องแอนดรอยด์รุ่นหลังๆคือการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สายได้ทันที (OTA) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดเวอร์ชันแอนดรอยด์จาก 2.2 เป็น 2.3 ในทันทีที่ผู้ผลิตเปิดให้ดาวน์โหลด รวมถึงการส่งข้อมูลผิดพลาดกับไปยังผู้ผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกับที่คุ้นเคยกันในวินโดวส์
ในส่วนของสเปกภายในของ HTC Incredible S หรือในชื่อโมเดล vivo ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM 8255 บนสถาปัตยกรรม ARMv7 rev1 ความเร็ว 1 GHz หน่วยความจำภายใน ROM 1.1 GB RAM 768 MB พร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพบนชิปเซ็ต Qualcomm Adreno 205 หน้าจอสามารถรองรับมัลติทัชได้ทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบนโปรแกรม Quadrant พบว่า Incredible S สามารถทำคะแนนได้ 1442 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องที่อยู่ในระดับบนๆของหน่วยประมวลผล 1GHz และอาจเกิดจากเฟิร์มแวร์ล่าสุดที่เป็น 2.3 ขณะที่การทดสอบบน An3DBench และ An3DBenchXL อยู่ที่ 6070 และ 25319 ส่วน Neocore ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 57.4 FPS
Design of HTC Incredible S
การดีไซน์ของ Incredible S ถ้ามองเผินๆ อาจไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆของเอชทีซีมากนัก จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่การดีไซน์ฝาหลังให้มีลักษณะพิเศษ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับถือเครื่องได้ถนัดมือมากขึ้น แม้ว่าตัวเครื่องจะไม่ได้ใช้แบบยูนิบอดี้แล้ว แต่คุณภาพของวัสดุและการประกอบของเอชทีซี ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐาน ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 120 x 64 x 11.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 135.5 กรัม
ด้านหน้า - ไล่ตั้งแต่ลำโพงสนทนา ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง และช่วยปิดหน้าจอขณะสนทนา พร้อมกับไฟแสดงสถานะอยู่ใกล้เคียงกัน ถัดลงมามีตราสัญลักษณ์เอชทีซี และกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล ซ่อนอยู่มุมขวาบน
หน้าจอของ Incredible S เป็น Capasitive ทัชสกรีนแบบ Super Clear LCD ที่ช่วยให้สีสันของภาพที่สดใสกว่าหน้าจอสัมผัสทั่วๆไป ขนาดหน้าจออยู่ที่ 4 นิ้ว ความละเอียด WVGA (480 x 800 พิกเซล) ล่างหน้าจอเป็นปุ่มควบคุมหลักของเครื่องประกอบไปด้วยปุ่มโฮม เมนู ย้อนกลับ และค้นหา
ที่น่าสนใจคือบริเวณปุ่มควบคุมด้านล่างใช้การแสดงผลผ่านไฟแอลอีดี ไม่ใช่การสกรีนลวดลายลงไป ทำให้เมื่อเอียงเครื่องมาใช้งานในแนวนอน ตัวสัญลักษณ์จะเอียงตามแนวของเครื่องด้วย ถือเป็นความแปลกใหม่ที่เพิ่งมีมาในรุ่นนี้
ด้านหลัง - อย่างที่บอกว่าเอชทีซี ทำให้ฝาหลังของเครื่องรุ่นนี้กลายเป็นจุดเด่นจากการใช้รอยนูนสูง มาเพิ่มมิติให้กับตัวเครื่อง คล้ายเป็นที่อยู่ของตัวเครื่องหลัก ประกอบกับการใส่กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช Dual LED ลำโพงสเตอริโอ แปะลาย "hTC" สีเงิน พร้อมตัวอักษรสกรีน With HTC Sense
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาพบกับแบตเตอรี 1,450 mAh อยู่กลางเครื่อง มีช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ใต้แบตฯ และช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดอยู่ข้างเครื่อง ทำให้สามารถถอดใส่เมมโมรีการ์ดแบบ Hot Swap ได้ ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่าภายในตัวเครื่องยังคงใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก
ด้านซ้าย - มีปุ่มปรับระดับเสียงที่เป็นพลาสติก กับช่องเสียบไมโครยูเอสบี สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านขวา - ถูกปล่อยโล่งเอาไว้ ยังคงไม่มีปุ่มชัตเตอร์กล้องอยู่เช่นเดิม
ด้านบน - มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง เป็นพลาสติกนูนขึ้นมา และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง - มีรูไมโครโฟนสนทนา และช่องสำหรับงัดฝาหลัง
บทสรุป
จากราคาเปิดตัวของ Incredible S ที่เปิดมาที่ 16,900 บาท ทำให้ผู้ที่สนใจต้องคิดหนักว่าจะรอและเพิ่มเงินอีกสักนิด เพื่อหันไปหาสมาร์ทโฟนที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบดูอัลคอร์แทนดีหรือไม่ ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้ว ในการใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วไป ถ้าไม่ต้องการเล่นเกมกราฟิกหนักๆ หรือรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ 1080p แล้ว หน่วยความจำแบบดูอัลคอร์แทบไม่จำเป็นต้องนำมาใช้งาน
มองกันที่ความสามารถของ Incredible S ถือว่ายังคงอยู่ในระดับไฮเอนด์ แถมด้วยพื้นที่หน่วยความจำที่ให้มาในเครื่องระดับ 1.1 GB ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมจากมาเก็ตได้อย่างมหาศาล ส่งผลให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ครบตามรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ต้องการ
ตัวเครื่องสามารถใช้งาน 3G บนคลื่นความถี่ 900 / 2100 MHz ความเร็วดาวน์โหลด-อัปโหลด สูงสุด 14.4 / 5.76 Mbps รองรับไวไฟ 802.11 b/g/n บลูทูธ 2.1 จีพีเอส พร้อมระบบนำทางในตัว และวิทยุเอฟเอ็ม ขณะที่กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สามารถรองรับการถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูง 720p ได้อย่างไม่มีปัญหา
แน่นอนว่าความน่าสนใจของสินค้าแบรนด์เอชทีซี ไม่ได้อยู่แค่สเปกเครื่อง แต่ยังรวมถึง HTC Sense ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานสมาร์ทโฟน ให้แก่ผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็น การแบคอัปข้อมูลขึ้นไปไว้บนระบบคลาวด์คอมพิวติง การค้นหาพิกัดเครื่อง เปิดดูข้อมูลเครื่องได้จากบนคอมพ์ รวมถึงอินเตอร์เฟสการใช้งานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายสังคมเข้ากับรายชื่อในเครื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบที่หาไม่ได้จากแอนดรอยด์โฟนจากค่ายอื่นๆ
แต่ทั้งนี้ เมื่อมองไปในตลาดที่เต็มไปด้วยสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จำนวนมากแล้ว จุดเด่นอื่นๆของ Incredible S แทบจะไม่มีให้มองเห็น จากเหตุผลที่รู้กันว่า Incredible S เป็นตัวที่ออกมาแก้ขัดของตัว Desire HD ที่ไม่มีกล้องหน้ามาให้ และมีการปรับขนาดให้เล็กลง จับถนัดมือมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยังไม่มีเทคโนโลยีเด่นๆใหม่ๆที่น่าสนใจ
ด้วยเหตุนี้ Incredible S จึงเหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการเข้าสู่โลกแอนดรอยด์ และมีงบประมาณสูงพอสมควร แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีแอนดรอยด์โฟนอยู่แล้ว และต้องการอัปเกรดเครื่องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะถ้ารอเวลาอีกสักไตรมาส จะเห็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ดูอัลคอร์เข้ามาในตลาด 2-3 รุ่นแน่นอน
ขอชม
- HTC Sense ที่สวยงามใช้งานง่าย
- หน้าจอ SuperLCD ขนาด 4 นิ้ว ไม่เล็ก-ใหญ่เกินไป
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช
ขอติ
- ตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือง่าย
- ยังไม่รองรับระบบ NFC
Company Related Links :
HTC