แอลจี Optimus Black ถือเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อีกตัวหนึ่งของแอลจีที่เข้ามาทำตลาดในครึ่งปีแรก โดยมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอแสดงผลแบบ NOVA ขนาด 4 นิ้ว ที่มีความสว่างสูง ให้สีที่สมจริงมากสุด และสามารถแสดงผลได้อย่างคมชัดแม้จะอยู่กลางแดดจ้า
นอกจากนี้ยังเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi Direct ที่ช่วยให้อุปกรณ์พกพาสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว โดยผ่านการเชื่อมต่อไวไฟ คล้ายกับการเชื่อมต่อบลูทูธแต่มีประสิทธิภาพดีกว่า
ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2 (Froyo), ซีพียู 1 GHz, กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล สำหรับวิดีโอคอลล์ และการเชื่อมต่อ 3G
Feature On LG Optimus Black
ในส่วนของฟีเจอร์การใช้งาน Optimus Black ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2 (Froyo) ซึ่งแอลจีระบุว่าสามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.3 (GingerBread) ได้ ทำให้รูปแบบการใช้งานนั้นแทบไม่ต่างอะไรจากแอนดรอยด์โฟนรุ่นอื่นๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเดียวกัน
สิ่งที่ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นคือ การใช้อินเตอร์เฟสตัวใหม่ที่แอลจีพัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน LG Optimus 2X ที่ทีมงานเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ใช้งานจะทำการปลดล็อกได้โดยลากหน้าต่างกระจกใสขึ้นไปด้านบน เพื่อเข้าสู่หน้าโฮม
แอปพลิเคชันที่มีมาให้ในเครื่องประกอบไปด้วย นาฬิกา/นาฬิกาปลุก, App Advisor, เบราว์เซอร์, เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, รายการโทร, กล้องถ่ายรูป, Car Home, นาฬิกา, รายชื่อ, อีเมล, Facebook for LG, Finance, วิทยุ FM, คลังภาพ, Gmail, Google Search, Latitude, LG World, Maps, Market, บันทึก, ข้อความ, เพลง, My Space for LG, การนำทาง, ข่าว, News and Weather, โทรศัพท์, Place, Polaris Office, Remote Call, ตั้งค่า, Smart Share, Talk, Twitter for LG, เครื่องเล่นวิดีโอ, บันทึกเสียง, Voice Search, สภาพอากาศ, What's New และ Youtube
นอกจากนี้ฟีเจอร์การใช้งานภายในยังสามารถทำได้เหมือน Optimus 2X ทุกประการ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Review : LG Optimus 2X สมาร์ทโฟนดูอัลคอร์ตัวแรกของโลก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยซะทีเดียว อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Optimus Black เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi Direct ซึ่งทำให้อุปกรณ์สามารถเชื่อมต่อกันได้แบบเครื่องต่อเครื่อง (peer-to-peer) ด้วยความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 54Mbps ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งไฟล์ภาพความละเอียดสูงไปยังเครื่องพิมพ์ หรือส่งไฟล์วิดีโอแบบ HD จากโทรศัพท์ไปยังเครื่องเพื่อนข้างเคียงได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมีรัศมีการใช้งานที่กว้างกว่า
ในส่วนของกล้องถ่ายรูปที่ให้มานั้น มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีระบบออโต้ โฟกัส และไฟแฟลช สามารถปรับค่าความไวแสง (ISO), ความสมดุลแสง (White Balance) และใส่เอฟเฟกต์สีได้
สำหรับสเปกภายใน LG Optimus Black ใช้หน่วยประมวลผล Texas Instrument OMAP3630 ความเร็ว 1GHz ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARMv7 rev2 หน่วยความจำ RAM ขนาด 512 MB หน่วยความจำภายใน 2GB ที่รองรับหน่วยความจำไมโครเอสดีความจุสูงสุด 32GB ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2.2 (Froyo) หน้าจอสามารถรองรับการใช้งานมัลติทัชทั้งหมด 5 จุด
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบนโปรแกรม Quadrant พบว่า Optimus Black สามารถทำคะแนนได้ 1,271 ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องสเปกเดียวกันที่ใช้แอนดรอยด์ 2.2 ขณะที่การทดสอบบน An3DBench และ An3DBenchXL อยู่ที่ 6,088 และ 19,712 ส่วน Neocore ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 45.3 FPS
Design of LG Optimus Black
การออกแบบตัวเครื่องยังคงความเป็น Optimus เหมือนรุ่นก่อนหน้า คือมีรูปทรงบาร์ไทป์ที่มุมโค้งมน มีสีดำรอบตัวเครื่อง มีความบางบริเวณขอบเครื่องเพียง 6 มม. (ตัวเครื่องขนาด 122 x 64 x 9.2 มม.) และมีน้ำหนักรวมแบตเตอรี 109 กรัม
ด้านหน้า - บนสุดมีเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอ, ตรวจจับระยะห่างระหว่างใบหน้ากับตัวเครื่อง ข้างๆ กันมีกล้องตัวหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับวิดีโอคอลล์ มีโลโก้ LG สีขาวอยู่ตรงกลาง หน้าจอแสดงผลที่ใช้เป็นหน้าจอ NOVA ที่ให้ความสว่างสูงสุดถึง 700 nit ซึ่งถือเป็นจอที่สว่างที่สุดในตอนนี้ ในขณะที่สมาร์ทโฟนคู่แข่งรุ่นอื่นๆ มีค่าความสว่างเฉลี่ยอยู่ที่ 300-500 nit
มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 4 นิ้ว TFT-LCD 16 ล้านสี ที่ใช้หน้าจอแบบ IPS ให้ความเที่ยงตรงในเรื่องเชดสีที่เป็นธรรมชาติ ในหลากหลายมุมมอง ด้านล่างมีแผงควบคุมการทำงานแบบสัมผัส 4 ปุ่มคือปุ่มแก้ไข, โฮม, ย้อนกลับ และค้นหา
ด้านหลัง - บนสุดมีโลโก้ Google กล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช ด้านล่างมีลำโพงสเตอริโอ และโลโก้ LG
ด้านบน - มีปุ่มปลอดล็อกหน้าจอ/ปุ่มปิด-เปิดเครื่อง, พอร์ตไมโคร ยูเอสบี และช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม. ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มปรับระดับความดังของเสียง และปุ่ม G-Key ที่จะทำงานร่วมกับ Gedture UI เพื่อการใช้จัดไอคอน ดูภาพ ฟังเพลง และปิดเสียง โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
บทสรุป
ถ้าไม่นับรวมสมาร์ทโฟนดูอัลคอร์ของแอลจี อย่าง Optimus 2X ก็ต้องยอมรับว่า Optimus Black เครื่องนี้ถือเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่น่าจับต้องที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ ด้วยราคาเปิดตัวเพียง 13,900 บาท แต่ผู้ใช้งานจะได้ใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 ที่สามารถอัปเป็น 2.3 ได้, ตัวเครื่องที่บาง และเบา(มาก), กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล, ซีพียูความเร็ว 1GHz, รวมถึงหน้าจอแสดงผลแบบ NOVA ขนาด 4 นิ้ว ที่มีความสว่าง และคมชัดกว่าหน้าจอของไอโฟน 4 และซัมซุง Galaxy S2 สามารถใช้งานได้ดีแม้จะยืนอยู่ริมชายหาดที่มีแสงแดดจ้า
ตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อ 3G บนคลื่นความถี่ 900/2100 ความเร็วอัปโหลดสูงสุด 5.76 Mbps. ดาวน์โหลดสูงสุด 7.2 Mbps. รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n, บลูทูธ, DNLA, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot, GPS และพอร์ตไมโครยูเอสบี
การใช้งานกล้องถ่ายรูปให้ความคมชัดระดับหนึ่ง มีลูกเล่น และเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้มากมาย, การใช้งานแบตเตอรีความจุ 1500 mAh สามารถเปิดสแตนบายได้นาน 2-3 วันขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานโทรศัพท์, อินเทอร์เน็ต, ฟังเพลง MP3 และกล้องถ่ายรูปตลอดสามารถอยู่ได้นาน 1 วัน ซึ่งในส่วนของลำโพงขยายเสียงด้านหลังยังให้เสียงค่อนข้างเบาแม้จะเปิดดังสุดแล้วก็ตาม
LG Optimus Black จะเริ่มวางจำหน่ายภายในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กโปร์ ที่จะจัดขึ้นวันที่ 2 - 5 มิถุนายน 2554 ที่่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกำหนดราคาเปิดตัวไว้ที่ 13,900 บาท พร้อมไมโครเอสดีการ์ดความจุ 2 GB
ขอชม
- หน้าจอมีความสว่างคมชัด ให้สีที่แม่นยำ
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบา
- สามารถอัปเกรดเป็นแอนดรอยด์ 2.3 ได้
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi Direct
- ราคาน่าจับต้องมาก เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับเดียวกัน
ขอติ
- ลำโพงสเตอริโอให้เสียงค่อนข้างเบา
- คีย์บอร์ดภาษาไทยแนวตั้งยังคงพิมพ์ยากเนื่องจามีการซ่อนตัวหนังสือบางตัว หากอยากเห็นครบทุกตัวต้องหมุนหน้าจอเป็นแนวนอน
Company Related Links :
LG