เอชทีซียังคงเดินหน้าทำตลาดสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 7 (WP7) เพียงรายเดียวต่อไปหลังจากที่ทางแอลจีปฏิเสธการนำเข้ามาจำหน่ายภายในปีนี้ ส่วนทางซัมซุงและเดลล์ ตัดสินใจรอให้ตัวระบบปฏิบัติการมีความพร้อมกับคนไทยมากกว่านี้
ทำให้ปัจจุบันเครื่องทั้ง 2 รุ่นของเอชทีซีอย่าง HD7 และ 7 Mozart กลายเป็น 2 สมาร์ทโฟน WP7 ที่อยู่ในตลาดประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ไมโครซอฟท์เองยังไม่ได้มีการออกอัปเดตเวอร์ชันใหม่ในโค้ดเนม "แมงโก้" ออกมาแต่อย่างใด ทำให้ความสามารถในส่วนของซอฟต์แวร์ทั้ง 2 รุ่นนั้นแทบไม่แตกต่างกัน
สิ่งที่แตกต่างกันคงเป็นในเรื่องของสเปกฮาร์ดแวร์เล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดตัวเครื่อง หน้าจอที่ลดลงมาเหลือ 3.7 นิ้ว เพิ่มความละเอียดกล้องเป็น 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟซีนอน ระบบลำโพงสเตอริโอ ส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล 1GHz เท่ากัน แต่ 7 Mozart มีหน่วยความจำภายใน 8GB ขณะที่ HD7 ให้มาที่ 16GB
Feature On HTC 7 Mozart
ในส่วนของฟีเจอร์นั้น ยังคงเดิมทุกอย่าง ดังนั้นถ้าต้องการชมวิดีโอการใช้งานอย่างละเอียด สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่ "Review : HTC HD7 ประเดิมวินโดวส์โฟน 7" เนื่องจากยังคงใช้ระบบปฏิบัติการตัวเดียวกัน รุ่นเดียวกัน และมี HTC Hub เหมือนกัน
ในหน้าจอหลักของ WP7 ประกอบไปด้วยช่อง 4 เหลี่ยมหลากหลายช่องที่ผู้ใช้สามารถปรับ เคลื่อนย้าย จัดวาง หรือนำแอปฯที่ใช้บ่อยๆมาวางไว้ได้เหมือนเดิม โดยในแต่ละช่องจะแบ่งการแสดงผลออกเฉพาะเช่นโหมดโทรศัพท์ถ้ามีการแจ้งเตือนสายไม่ได้รับ ก็จะมีขึ้นโชว์ไว้
ขณะที่ส่วนของ People Hub ยังคงดึงจุดเด่นของการแสดงรายชื่อถ้ามีการซิงค์รูปจากเครือข่ายสังคมมาไว้ ก็จะแสดงผลรายชื่อทั้งเบอร์โทรศัพท์ และชื่อในเครือข่ายสังคมพร้อมรูป รวมถึงยังสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดได้ตลอดเวลา
สิ่งที่เอชทีซี พยายามนำเสนอมาตั้งแต่ HD7 คือการนำ HTC Hub มาอำนวยความสะดวกในการใข้งานให้กับผู้บริโภค ซึ่งถ้าดูผ่านๆแล้ว เหมือนเป็นการนำอินเตอร์เฟส Sense ของเอชทีซี มาใส่ไว้ใน WP7 เพื่อแสดงผลสภาพอากาศ ข้อมูลข่าวสาร แอปฯใหม่ๆที่น่าสนใจให้ผู้ใช้ได้เข้าไปเลือกดาวน์โหลดจากมาเก็ตเพลส
ส่วนที่เหลืออย่างอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอ เอ็กซ์บ็อกซ์ไลฟ์ ปฏิทิน อัลบั้มรูป วิดีโอ การจัดการอีเมลต่างๆ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก เนื่องจากยังคงเอกลักษณ์ของความง่ายในการใช้งาน (ผู้ใช้ควรลืมภาพเดิมๆของวินโดวส์โมบายล์ ก่อนหันมาใช้ WP7 แบบจริงจัง)
แอปพลิเคชันที่ให้มาในเครื่องตั้งแต่เริ่ม มีทั้งนาฬิกาปลุก เครื่องคิดเลข ปฏิทิน กล้อง เกม อีเมล เอชทีซีฮับ อินเทอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอ แผนที่ มาเก็ตเพลส มีเดียเซ็นเตอร์ ข้อความ โมบายล์ทีวี เครื่องเล่นเพลงและวิดีโอ โปรแกรมออฟฟิศ รายชื่อ โทรศัพท์ อัลบั้มรูปภาพ ตั้งค่า ปรับเสียง เป็นต้น
ส่วนที่ทางเอชทีซี มีการพัฒนาให้ผู้ใช้คนไทยได้มีโอกาสใช้งาน คีย์บอร์ดภาษาไทย แบบเต็มตัวคงอยู่ไม่ไกลเอือมหลังจากล่าสุด มีการนำคีย์บอร์ดภาษาไทยมาลงให้พร้อมใช้งานแล้ว เพียงแต่เลย์เอาท์ของคีย์บอร์ดออกจะแปลกไปสักหน่อย
ที่ว่าแปลกคือจากปกติที่เวอร์ชัลคีย์บอร์ดส่วนใหญ่สามารถทำให้เป็นไปตามมาตรฐาน QWERTY แต่สำหรับภาษาไทย ที่มีตัวอักษรค่อนข้างเยอะ ทำให้จำเป็นต้องแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 หน้าจากเดิมที่ใช้งานกันเพียง 2-3 หน้า โดยสามารถสลับหน้าจากการสัมผัสลูกศร ทำให้ในการใช้งานจริงยังค่อนข้างลำบาก แต่ก็ดีกว่าใช้งานในแอปฯเหมือนตอน HD7
ในส่วนของการตั้งค่าเองก็เช่นกัน ยังคงยึดรูปแบบเดิมไล่ตั้งแต่ ตั้งค่าเสียง เปลี่ยนธีม เปิดใช้งานไฟลท์โหมด ไวไฟ บลูทูธ จัดการบัญชีอีเมล ตั้งค่าล็อกเครื่องและเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ระบบจีพีเอส ตั้งค่าเครือข่าย วันเวลา ความสว่างหน้าจอ คีย์บอร์ด ภาษา ตั้งระบบค้นหาเครื่อง ค้นหาการอัปเดต ข้อมูลตัวเครื่อง
ทั้งนี้ข้อมูลสเปกภายในของ 7 Mozart ได้แก่ หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon QSD8250 1 GHz พร้อม หน่วยประมวลผลภาพ Adreno 200 มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 8 GB ROM 512 MB RAM 576 MB โดยยังใช้งานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 7 เวอร์ชันแรก ที่ล่าสุดมีการออกอัปเดตเพิ่มความเสถียรมาเล็กน้อย
Design of 7 Mozart
หนึ่งจุดเด่นสำคัญที่หนีไม่พ้นของ 7 Mozart คือตัวเครื่องที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบ Unibody ทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างคงทนแข็งแรง และให้น้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ทั้งยังมีดีไซน์ในลักษณะที่ออกแนวทันสมัยมากกว่าแนวนักธุรกิจ ผสมกับความเป็นมัลติมีเดียโฟน ตัวเครื่องมีขนาด 119 x 60.2 x 11.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 130 กรัม
ด้านหน้า - ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอ Capacitive ทัชสกรีน แบบ Super LCD ขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 พิกเซล ที่ให้สีสันสดใส เป็นรองเพียง SuperAMOLED ของทางซัมซุง นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ปิดหน้าจออัตโนมัติ ซ่อนอยู่แถวแนวลำโพงสนทนาสีเงินที่วางพาดอยู่บนหน้าจอและตัวอักษร "hTC" ล่างหน้าจอมี 3 ปุ่มหลักของ WP7 ที่ประกอบไปด้วยปุ่มย้อนกลับ ปุ่มวินโดวส์ และปุ่มค้นหาที่เป็นแบบสัมผัส
ด้านหลัง - เนื่องจากตัวเครื่องเป็น Unibody ทำให้ไม่มีส่วนของฝาหลัง แต่ใช้การถอดพลาสติกส่วนล่างเพื่อใส่แบตฯ และซิมการ์ด คล้ายๆกับในรุ่น HTC Legend ก่อนหน้านี้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าตัวเครื่องมีการเล่นลวดลายด้านหลังเล็กน้อย ให้เป็นแบบส่วนโค้งส่วนเว้าด้วย
จุดเด่นที่สำคัญของเครื่องรุ่นนี้คือกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลชซีนอนคู่ ประกอบกับลำโพงสเตอริโอที่วางตัวอยู่ใกล้กัน ที่ให้พลังเสียงสมกับชื่อรุ่นอย่าง Mozart ทั้งนี้ตรงกลางมีการแกะสลักอะลูมิเนียมเป็นโลโก้ "hTC" และส่วนของพลาสติกด้านล่างก็มีสกรีนคำว่า "Windows Phone" แสดงถึงระบบปฏิบัติการที่ใช้
ด้านซ้าย - มีปุ่มปรับระดับเสียงสีเงิน ที่มีสกรีนเครื่องหมายบวก-ลบ และช่องเสียบไมโครยูเอสบีสำหรับชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านขวา - มีปุ่มลัดเข้าใช้งานโหมดถ่ายภาพ และเป็นชัตเตอร์แบบ 2 จังหวะไปในตัว ซึ่งน้อยรุ่นของเอชทีซีที่จะมีปุ่มดังกล่าวมาให้
ด้านบน - เป็นที่อยู่ของปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง (ล็อกหน้าจอ) และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ด้านล่าง มีไมโครโฟนสนทนาและช่องร้อยสายโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆกัน
บทสรุป
7 Mozart กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการลองใช้งาน WP7 ที่ต้องการความสามารถทางมัลติมีเดียที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมความสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 720p (ที่มีใน WP7 ทุกรุ่น) แต่น่าเสียดายที่ให้หน่วยความจำมาเพียง 8GB เท่านั้น ส่วนการแสดงผลบนหน้าจอ S-LCD ผ่านระบบเสียง SRS และ Dolby Mobile เพิ่มความคุ้มค่าให้กับราคาเปิดตัวที่ 17,900 บาท
ทั้งนี้ ใช่ว่ากล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จะให้ภาพที่ดูดีเหมือนที่หวังไว้ เพราะคุณภาพของรูปที่ออกมายังอยู่ในระดับกลางๆ แต่การที่มีแฟลช ซีนอนคู่มาช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพในที่มืดเพิ่มเติม อีกข้อจำกัดคืออินเตอร์เฟสการใช้งานของโหมดกล้องที่ค่อนข้างธรรมดาไม่มีฟีเจอร์อะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ คงต้องรอให้มีการอัปเดตในจุดนี้เพิ่มเติม
ในส่วนของการเชื่อมต่อ 7 Mozart รองรับการใช้งาน 3G บนคลื่นความถี่ 900 / 2100 MHz ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 7.2 Mbps อัปโหลด 2 Mbps และยังรองรับการเชื่อมต่อไวเลสบนมาตรฐาน 802.11 b/g/n บลูทูธ 2.1 A2DP จีพีเอส วิทยุ FM ที่กลายเป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
เรื่องของเสียงสนทนาต้องยอมรับว่า 7 Mozart ทำได้ดี เสียงดังชัดเจน เพียงแต่ในการใช้งานต้องวางตำแหน่งของลำโพงสนทนาให้เข้ากับใบหูให้ตรงจุด ส่วนเรื่องของระยะเวลาการใช้งานอย่างที่รู้กันว่าจากความสามารถของสมาร์ทโฟน แบตเตอรีสามารถใช้งานหนักๆได้ไม่เต็มวัน แต่ถ้าใช้งานทั่วๆไปก็อยู่ได้ราวๆ 1 วัน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติไปเรียบร้อยแล้ว
การใช้งานด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ยังถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดของ WP7 จากการที่ยังมีแอปฯรองรับไม่มากนัก รวมถึงแอปฯที่สมบูรณ์และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยังมีน้อย ดังนั้นเบื้องต้นใครที่ต้องการเชื่อมต่อเฟซบุ๊กเข้ากับตัวเครื่องสามารถทำได้ แต่กับเจ้าอื่นคงต้องรอนักพัฒนาช่วยกันต่อไป
รวมกับอีกหลากหลายข้อจำกัดภายใน WP7 เช่นไม่สามารถส่งไฟล์ผ่านบลูทูธ ถ้าเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ต้องผ่านโปรแกรม Zune ไม่มีตัวจัดการไฟล์ภายในเครื่อง เว็บเบราว์เซอร์ยังไม่รองรับแฟลช ตั้งเสียงเรียกเข้าด้วยตนเองไม่ได้ คัดลอก-วาง แชร์อินเทอร์เน็ตผ่านไวไฟ สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ WP7 ยังไม่สามารถเทียบกับแอนดรอยด์ หรือ ไอโฟนในปัจจุบันได้
ขอชม
- ตัวเครื่องมีความแข็งแรงจาก Unibody
- กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชซีนอนคู่
- ความสามารถของ WP7 ที่ใช้ง่ายและน่าสนใจ
ขอติ
- หน่วยความจำภายในเพียง 8 GB ไม่สามารถใส่เพิ่มได้
- ระบบถ่ายภาพน่าจะมีลูกเล่นที่มากกว่านี้
- ปุ่มสัมผัสที่อยู่ล่างหน้าจอ ทำให้มีการกดโดยไม่ตั้งใจได้
Company Related Links :
HTC
