"TWZ BlueBerry8 (BB8)" เป็นโทรศัพท์เฮ้าส์แบรนด์ที่ครบเครื่องตัวหนึ่ง โดยยังคงจุดเด่นด้านมัลติมีเดียครบ พ่วงด้วยการใช้งาน 2 ซิมการ์ดเหมือนเดิม แต่รุ่นนี้ได้เพิ่มปุ่มคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ติดมาให้ใช้งาน ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มเข้ามาให้มีทางเลือกหลายเท่านั้น รุ่นนี้ยังได้ถูกดีไซน์รูปทรงให้สอดรับกับเทรนด์ปัจจุบันที่ผู้คนจำนวนมากกำลังนิยมอีกด้วย เรียกได้ว่า ไหลตามกระแสน้ำได้อย่างกลืนเป็นเนื้อเดียวกันทีเดียว
Design of TWZ BlueBerry8 (BB8)
สำหรับโทรศัพท์มือถือที่นำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ แค่ได้เห็นหน้าตาเพียงแวบเดียวก็ถึงกับต้องเหลียวหลังมองแล้ว เนื่องจากการออกแบบของตัวเครื่อง บลูเบอรี 8 หรือ BB8 นั้น มีรูปทรงเดียวกับสมาร์ทโฟนยอดฮิตอย่าง BB ชนิดที่เรียกว่าถอดแบบเหมือนกันแทบทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะพลิกตะแคงดูด้านหน้า-หลัง-ข้าง กลับเครื่องดูด้านบน-ล่าง อย่างไรก็ไม่อาจชวนให้นึกถึง BB ไปได้ หลังลองจับถือพบว่า ตัวเครื่องมีน้ำหนักกำลังพอเหมาะมือ วัสดุทำจากพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก โดยตัวเครื่องที่มีขนาด 109 x 60 x 14 ม.ม. น้ำหนัก 135 กรัม
ด้านหน้า : พื้นผิวทางด้านนี้มีลักษณะมันวาวด้วยสีดำขลับ ล้อมกรอบด้านข้างด้วยสีเงินเงาทั้ง 2 ข้าง ไล่จากส่วนบนสุดจะพบลำโพงสนทนาวางเด่นอยู่ตรงกึ่งกลาง ใกล้กันทางด้านขวาเป็นกล้องตัวที่สองสำหรับถ่ายภาพทางด้านหน้า ถัดลงมาเป็นยี่ห้อ "TWZ" สีเงินวางพาดอยู่ตรงกึ่งกลางเช่นเดียวกัน ถัดมาทางด้านล่างเป็นจอแสดงผลแบบTFT-LCD ขนาด 2.4 นิ้ว (320x240 พิกเซล)
ใต้จอแสดงผล เป็นส่วนของปุ่มควบคุมไล่จากแถวด้านบน ประกอบไปด้วย ปุ่มโทรออกซิม 1, ปุ่มเมนู สามารถใช้เป็นซอฟต์คีย์ด้านซ้าย กับปุ่มโทรออกซิม 2 ในตัว(สัญลักษณ์รูปบ้าน), ถัดมาตรงกลางเป็นปุ่มควบคุมทิศทางแบบลูกบอล (TrackBall), ปุ่มย้อนกลับ สามารถใช้เป็นซอฟต์คีย์ด้านขวาในตัวด้วย และปุ่มวางสาย(กดค้างเปิด-ปิดเครื่อง) วางเรียงตามลำดับ ถัดมาด้านล่างเป็นส่วนของแผงคีย์บอร์ดแบบ QWERTY สกรีนตัวอักษรสีขาว ตัวเลขสีแดง พร้อมด้วยปุ่มใช้งานฟังก์ชันต่างๆตามคีย์บอร์ดฉบับ QWERTY มาตรฐานทั่วไป เช่น ปุ่ม Alt ปุ่ม sym เป็นต้น ใต้ล่างเลข 0 มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา-บันทึกเสียงวางอยู่
ด้านหลัง : พลิกมาดูด้านหลังจะพบกับพื้นผิวที่แตกต่างไปจากด้านหน้าอย่างสิ้นเชิง ซึ่งพื้นผิวทางด้านนี้ถูกห่อหุ้มด้วยไยสังเคราะห์สีดำ โดยมีลวดลายเส้นกราฟิกวางแทรกอยู่ตรงกลางเครื่อง ทำให้ช่วยจับถือกระชับมือยิ่งขึ้น เมื่อไล่ดูจากส่วนบนสุดจะพบกับเลนส์กล้อง มีไฟแฟลชอยู่ด้านบน และมีข้อความการันตีความละเอียด "2.0 MP Digital Camera" วางกำกับอยู่ทางด้านขวา ใต้ล่างเป็นช่องระบายของลำโพงเสียง(วงกลมสีน้ำเงิน) ถัดลงมาในส่วนของฝาหลังมีชื่อยี่ห้อ "TWZ" วางพาดอยู่ ส่วนด้านล่างมีพื้นที่ยื่นออกมาเพื่อให้ถอดฝาหลังได้ง่ายขึ้น
เมื่อเปิดฝาหลังออก จะพบกับแบตเตอรีชนิด Li-Ion 1,000 mAh วางอยู่ทางด้านบน ใต้ล่างแบตฯจะพบกับ ช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง วางอยู่ทางด้านขวา ซึ่งมีตัวอักษรเขียนบอกอย่างชัดเจนว่าช่องไหน SIM 1, SIM 2 ถัดเยื้องมาทางด้านล่างฝั่งซ้ายเป็นช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ รองรับแบบ microSD สูงสุดถึง 8 GB (แถมมากับตัวเครื่อง 2 GB)
ด้านขวา : ไล่จากด้านบนจะพบกับ ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาใกล้กันเป็นปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง และขยาย-ย่อภาพในฟังก์ชันกล้อง ถัดลงมาใกล้บริเวณกลางเครื่องเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป(กดค้างเข้าฟังก์ชันกล้องได้โดยตรง) และถัดลงมาเป็นช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกแบบ microUSB
ด้านซ้าย : ไล่จากด้านบนสุดจะพบกับช่องสำหรับร้อยสายคล้องมือ-คอ ถัดลมาเป็นปุ่มล็อก-ปลดล็อกเครื่อง
ด้านบน และด้านล่าง : ด้านบนถูกปล่อยไว้โล่งๆมีเพียงเสาอากาศรับสัญญารายการโทรทัศน์ซ่อนอยู่ (รับได้ทั้งคลื่นทีวี และคลื่นวิทยุ) ส่วนทางด้านล่างมีเพียงช่องสำหรับเสียบสายชาร์จโทรศัพท์อยู่ตรงกลางเท่านั้น
Function on TWZ BlueBerry8 (BB8)
เอาล่ะ...เมื่อรู้จักกับส่วนประกอบต่างๆไปเรียบร้อยแล้ว มาดูกันที่ฟีเจอร์ภายในที่ใส่ให้มาใช้กันบ้าง เริ่มจากหน้าจอแสดงผลที่เปิดเครื่องมาผู้ใช้จะพบเป็นส่วนแรกกันเลย โดย "หน้าจอหลัก" ไล่จากด้านบน ประกอบไปด้วย สัญญาณคลื่นโทรศัพท์ทั้ง 2 ซิมการ์ด ชื่อโอเปอเรเตอร์ที่ใช้ สถานะแบตฯ ถัดลงมาเป็นสัญลักษณ์แสดงรูปแบบการใช้งาน ข้อความ SMS แยกซิม 1,2 อย่างชัดเจน สัญลักษณ์เปิดใช้งานบลูทูธ ล็อกเครื่อง ฯลฯ ตามด้วยเวลาและวันที่การใช้งาน ส่วนด้านล่างมีไอคอนทางลัดให้เลือกใช้อยู่ 6 ฟังก์ชันไล่จากซ้ายไปขวา ประกอบไปด้วย ข้อความ, สมุดโทรศัพท์, ปฏิทิน, เบราว์เซอร์, มัลติมีเดีย และบันทึกการโทร เลื่อนเลือกฟังก์ชันต่างๆโดยการสั่งงานผ่านปุ่มควบคุมทิศทางแบบลูกบอล (TrackBall) และกดตกลงเพื่อยืนยันการใช้งานได้เช่นเดียวกัน
ถัดมาดูกันในส่วนของเมนูกันบ้าง รุ่นนี้กดเข้าใช้งานผ่านปุ่มที่มีสัญลักษณ์รูปบ้าน เมื่อกดเข้ามาจะพบเมนูวางเรียงรายอัดเน่นเต็มพื้นที่ นับรวมได้ 19 เมนู ประกอบไปด้วย ข้อความ(Messages), สมุดโทรศัพท์(Phonebook), ปฏิทิน(Calendar), บริการ(Services), มัลติมีเดีย(Multimedia), ปลุก(Alarm), กล้องถ่ายรูป(Camera), ศูนย์บริการ(Call Center), งานที่จะทำ(Tasks), เครื่องเล่นเสียง(Audio Player), จัดการไฟล์(File Manager), พิเศษ(Extra), จาวา(Java), จัดการระบบ(Organizer), เครื่องคิดเลข(Calculator), รูปแบบการใช้งาน(User Profiles), การจัดการเครือข่าย(Manage Connections), ค่าติดตั้ง(Settings) และFacebook
2 SIM
มาเริ่มในส่วนของการทำงาน 2 ซิมอันเป็นตัวชูโรงของเหล่าบรรดาโทรศัพท์เฮ้าส์แบรนด์กันก่อน ซึ่งหลักการทำงานภายในยังคงมาในรูปแบบเดิม กล่าวคือ เมื่อผู้ใช้กดหมายเลขตามที่ต้องการแล้วให้เลือกปุ่มโทร.ออกทางด้านล่างว่าจะใช้ SIM1(ปุ่มโทรออกสีแดง) หรือSIM2(ปุ่มโฮมสีขาว) ในการติดต่อไปยังหมายเลขปลายทาง ส่วนการรับสายเข้านั้นสามารถกดรับได้ตามมาตรฐานสากลทั่วไป
การ"ตั้งค่า"ใช้งาน 2 ซิมการ์ด ทำได้โดยเลือกที่ เมนู > ค่าติดตั้ง > ตั้งค่า SIM คู่ ซึ่งภายในจะมีให้เลือกปรับค่าดังนี้ ซิมคู่เปิด, เฉพาะซิม 1 เปิด, เฉพาะซิม 2 เปิด และโหมดเครื่องบิน อีกทั้งในขณะสนทนายังมีลูกเล่นใส่มาให้เลือกเปลี่ยนเพื่อดัดเสียงสนทนา ได้แก่ เสียงเด็ก, เสียงเด็กผู้หญิง, เสียงผู้หญิง, เสียงผู้หญิงวัยรุ่น, เสียงเด็กผู้ชาย, เสียงผู้ชาย, เสียง และเสียงแหบ หรือจะปิดเสียงหากไม่ต้องการใช้งานในภายหลังได้
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลการโทรได้ที่เมนู 'ศูนย์การโทร' ซึ่งภายในเมนูนี้มีการบันทึกการโทรไว้อย่างละเอียดของทั้ง 2 ซิม ได้แก่ เบอร์ที่ไม่ได้รับสาย, เบอร์ที่โทรออก, เบอร์ที่ได้รับสาย, เวลาที่ใช้ในการโทร, ค่าโทร(ตามที่ได้ตั้งค่าไว้) และ GPRS รวมถึงสามารถตั้งค่าการโทรตามความสะดวกของผู้ใช้งานได้ด้วย หลังการใช้งาน พบว่ามีการแบ่งการทำงานระหว่าง 2 ซิมได้ชัดเจนทั้งการโทรออกและรับสาย เสียงการสนทนาดังชัดเจนดี รวมถึงการรับข้อความทาง SMS และMMS สามารถแบ่งแยกให้ทราบได้ชัดเจนเช่นกัน
Messages
ถัดมาดูในส่วนของการ"ป้อนข้อความ"กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้ออกแบบแป้นคีย์บอร์ด QWERTY เต็มรูปแบบ มาช่วยอำนวยความสะดวกในการป้อนข้อความ รองรับทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่บนแป้นพิมพ์จะสกรีนเฉพาะตัวอักษรภาษาอังกฤษเท่านั้น ส่วนภาษาไทยให้ดูตำแหน่งตัวอักษรผ่านทางหน้าจอ โดยกดเปลี่ยนภาษาที่ปุ่ม 'Alt' ซึ่งจะมีให้เปลี่ยน 4 โหมดหลักๆคือ อักษรภาษาอังกฤษตัวใหญ่, อักษรภาษาอังกฤษตัวเล็ก, ภาษาไทย และตัวเลข ถ้าต้องการเรียกใช้สัญลักษณ์ต่างๆนอกเหนือจากที่มีบนแป้นพิมพ์ให้กดที่ปุ่ม 'Sym'
นอกจากนี้ ยังสามารถแทรกออปเจกต์ต่างๆ ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียงได้เหมือนกับเครื่องทั่วไป หลังการใช้งานพบว่า ถ้าใช้ป้อนข้อความภาษาอังกฤษจะทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่า เนื่องจากสามารถมองที่แป้นแล้วป้อนข้อความที่ต้องการได้เลย แต่ถ้าเป็นภาษาไทยต้องมองตำแหน่งผ่านทางหน้าจอ และต้องอาศัยความคุ้นชินในการปรับตัวพอสมควร แต่ฟังก์ชันที่ใส่มารองรับครอบคลุมทั้งหมดซึ่งนับว่าช่วยให้ใช้งานได้สะดวกดี
Multimedia
ในเมนู"มัลติมีเดีย" ของรุ่นนี้ยังคงเหมือนกับเครื่องยี่ห้อทีดับบลิวแซดก่อนหน้านี้ ที่เป็นแหล่งรวมฟังก์ชันมัลติมีเดียล้วนๆไว้ในกลุ่มก้อนเดียวกัน ประกอบไปด้วย โทรทัศน์, โทรทัศน์แบบอัดรายการ, กล้องถ่ายรูป, อัลบั้มภาพ, เครื่องบันทีกวิดีโอ, เครื่องเล่นวิดีโอ, เครื่องเล่นเสียง, เครื่องบันทึกเสียง และวิทยุ FM ซึ่งรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับลูกเล่นโมชัน เซ็นเซอร์ ที่ให้ผู้ใช้งานได้เขย่าตัวเครื่องเพื่อควบคุมฟังก์ชันต่างๆในเมนูมัลติมีเดียด้วย
โดยเข้าไปตั้งค่าการใช้งานโมชัน เซ็นเซอร์ได้ที่ เมนู > ค่าติดตั้ง > ตั้งค่าโทรศัพท์ > ตั้งค่าการสั่น เมื่อเข้ามาจะพบกับฟังก์ชันให้เลือกเซ็ตค่าดังนี้ เปลี่ยนเพลง, เปลี่ยนรายการวิทยุ, เปลี่ยนรายการ TV, ปิดเสียงโทร.เข้าอัตโนมัติ(เมื่อคว่ำโทรศัพท์) และเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ฟังก์ชันเหล่านี้เลือกใช้งานด้วยการติ๊กเครื่องหมายถูกข้างหน้า ถ้าไม่ต้องการใช้งานก็กดเครื่องหมายถูกด้านหน้าออก
TV
มัลติมีเดียยอดฮิตที่ชอบติดมากับเครื่องเฮ้าส์แบรนด์คงหนีไม่พ้น เมนู "โทรทัศน์" ไปได้ ซึ่งใช้เสาอากาศที่ติดมากับตัวเครื่องทางด้านบนเป็นตัวรับสัญญาณ มีเขตค้นหาให้เลือกกว่า 30 ประเทศทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย รับชมได้เฉพาะช่องฟรีทีวีเท่านั้น(3, 5, 7, 9, NBT, ThaiPBS), สามารถค้นหาช่องรายการ ณ พื้นที่บริเวณนั้นอัตโนมัติ สามารถบันทึกช่องรายการได้ 10 รายการ อินเตอร์เฟสการใช้งานออกแบบมาให้ใช้ง่าย เปลี่ยนช่องโดยการควบคุมผ่านปุ่ม "TrackBall" (เลื่อนไปทางซ้าย-ขวา) เพิ่ม-ลดระดับเสียงที่ปุ่มด้านข้างเครื่อง
ส่วนการปรับค่ามีให้เลือกเฉพาะปรับเอฟเฟกต์การเล่น ซึ่งมีให้เลือกปรับค่าความสว่าง(0-15), สัญญาณ(เปิด-ปิด), สัญญาณอ่อน(เปิด-ปิด) หากต้องการบันทึกรายการโทรทัศน์รุ่นนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องออกมาเข้าเมนู "โทรทัศน์อัด" ที่แยกออกมาต่างหากอีก 1 เมนู โดยไฟล์ที่อีดได้จะออกมาในรูปแบบนามสกุล 3GP
Camera
"กล้องถ่ายภาพ" ที่ติดมากับเครื่องรุ่นนี้มีมาให้ใช้ทั้งกล้องหลัก(ด้านหลัง) และกล้องรอง(ด้านหน้า) ซึ่งมาพร้อมกับความละเอียด 2 ล้านพิกเซลสำหรับภาพนิ่ง(วิดีโอ 176x144 พิกเซล) พร้อมไฟแฟลชสำหรับช่วยถ่ายในที่แสงน้อยทางด้านหลัง ไม่มีออโต้โฟกัส สามารถเข้าใช้งานได้ 3 ช่องทาง คือ เมนูกล้องโดยตรง โหมดกล้องที่อยู่ในเมนูมัลติมีเดีย และปุ่มทางลัดทางด้านข้างตัวเครื่อง เมื่อกดเข้าใช้งานจะพบกับหน้าจอพร้อมใช้งาน โดยมีแถบเครื่องมือให้เลือกอยู่ทางด้านข้างฝั่งขวา เลื่อนปุ่มควบคุมทิศทางแบบลูกบอล (TrackBall)ขึ้น-ลงเพื่อซูมขยาย-ลดภาพ ถ้าเลื่อนซ้าย-ขวาจะเป็นการปรับแสง EV และกดตรงกลางเพื่อบันทึกภาพ
"การตั้งค่า" แบ่งออกเป็น 1.การตั้งค่ากล้องถ่ายรูป ที่มีให้ปรับเรื่องการวัดแสง, เสียงชัตเตอร์, การตั้งค่าชดเชยแสง, ความคมชัด, ป้องกันการกระพริบ, ถ่ายภาพแบบหน่วงเวลา และถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 2.การตั้งค่าภาพถ่าย มีให้เลือกปรับขนาดภาพถ่าย ได้แก่ 1600x1200, 1280x960, 640x480 และ320x240 พิกเซล กับคุณภาพของภาพถ่าย ได้แก่ สูง, ปานกลาง, ต่ำ 3. สมดุลของแสง มีให้เลือกปรับได้แก่ อัตโนมัติ, แสงกลางวัน, แสงทังสเตน, แสงฟลูออเรสเซนท์, เมฆมาก และแสงเทียน
4. ลักษณะฉากหลัง มีให้เลือกแบบอัตโนมัติ กับภาพกลางคืน 5. การตั้งค่าเอฟเฟกต์ มีให้เลือกแบบ ปกติ, ขาวดำ, สีซีเปีย, ซีเปียสีเขียว, ซีเปียสีน้ำเงิน และใช้สีกลับ 6. แหล่งเก็บข้อมูลมีให้เลือกว่าจะให้เก็บลงเครื่องหรือการ์ดความจำ ซึ่งการตั้งค่าทั้งหมดสามารถปรับค่าได้โดยการกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์บ้านแล้วเข้าไปไล่หาที่ละฟังก์ชัน หรือจะกดปุ่มตัวเลข 0-9 ที่เป็นปุ่มทางลัดในการตั้งค่าก็สามารถทำได้เหมือนกัน
ส่วนการตั้งค่าเครื่องบันทึกวิดีโอมีลักษณะคล้ายกับการตั้งค่ากล้องถ่ายภาพทุกประการ เว้นแต่การปรับขนาดที่ไม่มีให้เลือก แต่เป็นการฟิกค่าความละเอียดที่ 176x144 พิกเซล บันทึกในรูปแบบไฟล์ 3GP เท่านั้น
Music
"เครื่องเล่นเพลง" ถูกออกแบบให้มีอินเตอร์เฟสที่เข้าใจง่าย ควบคุมปุ่มเครื่องเล่นเพลงผ่าน "TrackBall" รองรับไฟล์เสียง MP3, WAV ถ้าต้องการเลือกรายการเพลงให้กดปุ่มโฮมเพื่อย้อนออกไปยังหน้ารายการเพลง และถ้าต้องการรีเฟรชรายการเพลงในกรณีที่เพิ่งใส่เพลงเข้ามาใหม่ รวมถึงการปรับตั้งค่าต่างๆให้กดปุ่มโฮมเพื่อออกไปยังหน้ารายการตั้งค่าอีกหน้าหนึ่ง
"การตั้งค่า" ของเครื่องเล่นเพลงแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ประกอบไปด้วย 1. ตั้งค่าเครื่องเล่น ภายในมีฟังก์ชันให้เลือกปรับดังนี้ แหล่งเก็บเพลง(เครื่อง หรือการ์ด), สร้างรายการอัตโนมัติ, เล่นซ้ำ, เล่นสุ่ม และเล่นเบื้องหน้าให้เลือกเปิด-ปิด 2. ตั้งค่าหน้าจอ มีให้เลือกใช้ฟังก์ชันเดียว คือ แสดงเนื้อเพลงให้เลือกเปิด-ปิด
3. เอฟเฟกต์เสียง ภายในมีให้เลือกปรับ 3 ส่วนหลัก แบ่งเป็น 3.1 เอฟเฟกต์เสียง ที่มีฟังก์ชันย่อย 4 โหมด ได้แก่ อีควอไลเซฮร์ (8 รูปแบบ ปกติ, เบส, แดนซ์, คลาสสิค, ทรีเบิล, ปาร์ตี้, ป็อป, ร็อค) เอฟเฟกต์สะท้อน (6 รูปแบบ คอนเสิร์ต, อาบน้ำฝักบัว, โบสถ์, ห้องขนาดเล็ก, โอเปร่า, ห้องน้ำ), เซอร์ราวนด์ 3 มิติ มีให้เลือกใช้ 2 โหมด และปิด 3.2 Bass Enhancement (เปิด-ปิด) 3.4 ปรับความเร็วในการเล่นเพลงได้ 5 ระดับ ได้แก่ ปกติ, เร็ว, เร็วที่สุด, ช้าที่สุด และช้า 4. การตั้งค่าในส่วนของบลูทูธแฮนด์เซ็ต
FM
"วิทยุ FM" ในรุ่นนี้ใช้เสาอากาศเป็นตัวรับสัญญาณเหมือนกับในเมนูทีวี ควบคุมการทำงานทำได้ง่ายๆเหมือนเครื่องเล่นเพลงผ่านปุ่มเลื่อน 'TrackBall' ระบบค้นหาคลื่นมีให้เลือกใช้ทั้ง อัตโนมัติ และกำหนดคลื่นเอง(ทศนิยม 1 ตำแหน่ง) บันทึกรายการสถานีได้ทั้งหมด 20 สถานี ส่วนการตั้งค่ามีให้เลือกเล่นเพลงพื้นหลัง(เปิด-ปิด), ลำโพงสเตริโอ(เปิด-ปิด), รูปแบบไฟล์บันทึก(AMR, WAV), คุณภาพเสียง(ต่ำ, สูง) และแหล่งเก็บไฟล์บันทึก(เครื่อง, การ์ดหน่วยความจำ)
Internet
เครื่องเฮ้าส์แบรนด์ไม่ได้มีเฉพาะแค่ใช้งาน 2 SIM หรืออุดมไปด้วยฟังก์ชันมัลติมีเดียเท่านั้น การใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้าเว็บต่างๆต้องบอกว่ามีดีไม่แพ้อินเตอร์แบรนด์เหมือนกัน ซึ่งรุ่นนี้มีช่องทางการเชื่อมต่อให้เลือกใช้ครบเช่นกัน ทั้งผ่านเครือข่าย EDGE, GPRS หรือจะผ่านเครือข่าย Wi-Fi ที่ติดมาให้ใช้งานเหมือนกัน โดยใช้เว็บเบราว์เซอร์ 'Opera Mini' เป็นสื่อกลางในการเข้าถึงหน้าเว็บต่างๆ หลังลองใช้พบว่าสามารถแสดงผลภาษาไทยได้ฉลุย แต่ไม่รองรับคอนเทนต์ที่อยู่ในรูปแบบของแฟลช นอกจากนี้ ในเครื่องยังใส่เมนูเฟสบุ๊กมาให้เล่นกันตกเทรนด์อีกด้วย
บทสรุป
"TWZ BlueBerry8 (BB8)" ยังคงครบเครื่องในเรื่องมัลติมีเดียตามฉบับของเฮ้าส์แบรนด์ยี้ห้อ 'TWZ' อยู่ การใช้งานซิมการ์ด 2 ซิมใช้งานง่าย แยกแต่ละซิมชัดเจนดี ส่วนคีย์บอร์ด 'QWERTY' ที่ใส่มาให้ใช้งานตอบสนองได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ ปุ่มกดใช้งานง่าย แต่ทั้งนี้ ต้องอาศัยความคุ้นชินในการพิมพ์ตัวอักษรภาษาไทยสักระยะจึงจะพิมพ์ได้ถนัด ด้านการออกแบบจัดว่าลงตัวพอสมควรแต่ยังไม่สมบูรณ์แบบ เพราะติดตรงที่หูฟังใช้งานมาอยู่ด้านข้างเครื่องทำให้ใส่กระเป๋าลำบากเหมือนกัน
การเชื่อมต่อมีมาให้ใช้อย่างครบครันทั้ง พอร์ต USB2.0, บลูทูธ และWi-Fi ปุ่มควบคุมทิศทางแบบลูกบอล (TrackBall) ทำงานได้น่าประทับใจถึงแม้ว่าจะตอบสนองหลุดๆบ้างแต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดไว้ เสียงที่ขับผ่านทางลำโพงด้านหลังให้เสียงดังชัดจน ออกแหลมใสแต่ไม่มีมิติ เสียงสนทนาจากลำโพงด้านหน้าดังชัดเจนดี ส่วนภาพถ่ายที่ได้จากกล้องทางด้านหลังต้องบอกว่าผิดหวังเล็กน้อย ยังไม่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นไปกว่าเดิม กล่าวคือ กล้องไม่สามารถควบคุมปริมาณแสงสว่างในตอนกลางวันได้ แม้ว่าแสงนั้นจะไม่ได้จ้ามากก็ตาม
ด้านพลังงานจากแบตฯที่ให้มาถือว่าใช้งานได้ไม่เลวเลยครับ โดยในกล่องให้แบตฯสำรองมาใช้งานด้วยอีก 1 ก้อน ตามสไตล์โทรศัพท์มือถือเฮ้าส์แบรนด์ ซึ่งหลังจากทดลองใช้งานพบว่า แบตฯ 1 ก้อนสามารถดูโทรทัศน์ได้ต่อเนื่องประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ถ้าใช้งานหนักๆอย่างละนิดอย่างละหน่อยสามารถอยู่ได้วันต่อวันพอดี แต่หากใช้งานปกติเน้นแสตนบายรับสายเข้าก็อยู่ได้ 2 วันเลยทีเดียว
ขอชม
- ปุ่มกดแบบคีย์บอร์ด QWERTY ตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่าที่คาดไว้
- คุณภาพวัสดุตัวเครื่องที่เลือกนำมาประกอบไม่แพ้อินเตอร์แบรนด์
- ฟังก์ชันมัลติมีเดียที่เป็นตัวชูโรงมาตลอดยังคงคุณภาพเหมือนเดิม
ขอติ
- วัสดุทางด้านหน้ามีความมันวาว ซึ่งทำให้ดูหรูก็จริงแต่ก็ทำเกิดรอย-คราบนิ้วมือได้ง่ายเหมือนกัน
- ฟังก์ชันการทำงานในโหมดกล้องยังไม่พัฒนาเหมือนเดิม รวมถึงคุณภาพภาพถ่ายด้วย
- ช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. ถ้าย้ายมาอยู่ทางด้านบน หรือด้านล่างจะใช้งานสพดวกกว่ามาก
Company Related Links :
TWZ