หลังจากปล่อย Nokia N97 ลงสู่ตลาดประเทศไทยไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และตามมาด้วยเสียงวิจารณ์ต่างๆนานาถึงการดีไซน์ที่ดูใหญ่เทอะทะจนพกพาไปไหนลำบาก จนกระทั่งมีการคาดการณ์ รวมถึงมีภาพหลุดตัวเครื่อง N97 เล็ก-บางลงกว่าเดิม ในที่สุดสิ่งที่ทุกคนวาดฝันว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ถึงจะสมบูรณ์แบบก็ได้เป็นความจริง เมื่อโนเกียได้เผยโฉมรุ่นใหม่ในชื่อว่า "N97mini" โดยโนเกียไม่กลัวว่า N97 mini จะไม่ไปกินตลาด N97 ตัวเดิม แต่กลับเชื่อว่ารุ่นนี้จะทำตลาดได้กว้างกว่า เนื่องจากมีขนาดเล็กเจาะกลุ่มเป้าหมายหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ชื่นชอบความมีสไตล์ แต่ต้องการเครื่องที่มีขนาดเล็กลงโดยยังคุณสมบัติเด่นๆที่มีอยู่ใน N97 รุ่นเดิม
Design of Nokia N97mini
"Nokia N97mini" เมื่อเห็นคำว่า 'mini' ห้อยตามต่อท้าย คงเดากันไม่ยากว่าจุดเด่นของรุ่นนี้คืออะไร แน่นอน! รุ่นนี้เด่นที่ดีไซน์ของตัวเครื่องที่ถูกลดขนาดให้กะทัดลง ทั้งขนาดรอบตัว ความบาง และน้ำหนักตัว ทำให้สามารถจับกระชับได้มากยิ่งขึ้น โดยตัวเครื่องมีขนาด 113 x 52.5 x 14.2 มม. จากเดิมใน 'N97' ผู้พี่ที่มีขนาด 117.2 x 55.3 x 15.9 มม. ส่วนน้ำหนักตัวของรุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 138 กรัม(รวมแบตฯ) จากเดิม 150 กรัม ซึ่งรุ่นนี้ยังคงเป็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัส พ่วงด้วยแป้นพิมพ์แบบ QWERTY ที่ซ่อนอยู่ใต้จอแสดงผล สามารถเรียกใช้งานโดยการเลื่อนออกมาทางด้านข้าง (ซ้ายไปขวา)เหมือนเดิม และยังคงความหรูหราอยู่เหมือนเดิมเช่นกัน มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ ดำเชอรี่ (Cherry Black) กับโกเมน (Garnet)
ด้านหน้า : ไล่จากบนสุดของตัวเครื่องจะพบลำโพงสนทนาวางอยู่ตรงกึ่งกลางของตัวเครื่อง ฝั่งซ้ายเป็นเซ็นเซอร์พร็อกซิมิตีเซ็นเซอร์ (Proximity sensor) เซ็นเซอร์ตรวจสอบระยะห่างสำหรับปิดการใช้งานจอแสดงผลอัตโนมัติในระหว่างสนทนา ฝั่งขวาของลำโพงเป็นกล้องรูเข็มกล้องตัวที่สองของเครื่อง (ใช้ได้ทั้งถ่ายภาพ และวิดีโอคอล) ด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์วัดแสง สำหรับปรับความสว่างหน้าจอให้เข้ากับสภาพแสงในขณะนั้น ถัดลงมาจะพบตัวอักษรยี่ห้อ "NOKIA" วางพาดอยู่ตรงกึ่งกลาง และชื่อรุ่น"N97" วางแนวเดียวกันฝั่งซ้าย ด้านล่างส่วนของจอแสดงผล TFT-LCDสัมผัสแบบ Resistive 16.7 ล้านสี ขนาด 3.2 นิ้ว (640 x 360 พิกเซล) แสดงผลแนวนอนและแนวตั้งอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
ใต้จอแสดงผลเป็นชุดปุ่มควบคุมไล่จากซ้ายไปขวา ประกอบไปด้วย ปุ่มเมนู เป็นปุ่มนูนเด่นขึ้นมาจากตัวเครื่อง ถูกดีไซน์ให้เป็นวงรีวางเอียง 45 องศา ถัดมาเป็นปุ่มรับสาย และวางสายตามลำดับ ซึ่งทั้ง 2 ปุ่มเป็นแบบสัมผัส โดยในส่วนของปุ่มควบคุมนี้ยังคงเหมือนกับรุ่น N97 ผู้พี่ทุกประการ
เมื่อสไลด์ตัวเครื่องออกทางด้านข้างจากซ้ายไปขวา จะพบกับแผงคีย์บอร์ด "QWERTY" แบบ 3 แถว ซึ่งหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นแนวนอนตามคีย์บอร์ดโดยอัตโนมัติ ตัวอักษรบนแป้นพิมพ์มีการสกรีนทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ตัวเลข และสัญลักษณ์ต่างๆ เมื่อใช้งานในที่มืดตัวเครื่องจะมีแสงไฟส่องขึ้นมา สามารถมองเห็นตัวอักษรบนแป้นพิมพ์ได้ชัดเจนดี ซึ่งรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งการวางปุ่มเล็กน้อย คือ ปุ่มลูกศรควบคุมทิศทางย้ายมารวมอยู่ในแป้นตัวอักษรด้านขวา ปุ่ม Shift ปุ่มฟังก์ชัน และปุ่ม Sym ถูกย้ายไปเรียงอยู่ฝั่งซ้ายสุดแทน รวมถึงยังมีปุ่ม '@' แทรกมาให้ใช้งานอยู่ในแถวบนสุดอีกด้วย
***หมายเหตุ หากต้องการกดปุ่มเปลี่ยนภาษาสามารถกดได้ โดยการกดปุ่ม "Shift" (ลูกศรขึ้น) แล้วตามด้วย ปุ่ม "Sym" ส่วนถ้าต้องการใช้สัญลักษณ์ก็ให้กด "Sym" แล้วเลือกหาสัญลักษณ์ที่ต้องการ หากต้องการพิมพ์ตัวอักษรสีส้ม ให้กดปุ่มฟังก์ชัน (ปุ่มลูกศรเฉียงมุมขวา)
ข้อต่อบานพับของเครื่องรุ่นนี้ ต้องยอมรับว่าทำได้ค่อนข้างแข็งแรง ดูแน่นหนากว่ารุ่นพี่เสียอีก เมื่อสไลด์ตัวเครื่องออกหน้าจอจะลาดเอนล็อกเข้ากับเครื่องพอดิบพอดีเหมือนเดิม ทำให้ป้องกันการลื่นไหลแบบไม่ได้ตั้งใจได้สบาย เมื่อกางออกสุดหน้าจอจะลาดเอียง 35 องศา ซึ่งออกแบบได้พอดีกับระดับสายตาในขณะใช้งาน ความสมดุลของเครื่องเวลากางหน้าจอออก แล้ววางตั้งไว้กับพื้นพบว่า ยังสามารถทรงตัวอยู่ได้โดยไม่เอนไปด้านหลัง จุดนี้ยังรักษามาตรฐานไว้เหมือนเช่นรุ่นก่อนหน้านี้
ด้านหลัง : ไล่จากด้านบนสุดจะพบกับเลนส์กล้องพร้อมกับไฟแฟลชชนิด LED แบบคู่ วางอยู่ใกล้กัน ส่วนใต้เลนส์มีข้อความการันตีถึงชนิดเลนส์ และความละเอียดใจความว่า "Carl Zeiss Tessar 2.8/5.4 AF 5MP" ซึ่งรุ่นนี้ต่างจากรุ่นแรกตรงที่ไม่มีฝาปิดเลนส์กล้องติดมาให้ใช้ ถัดลงมาด้านล่างเป็นส่วนของฝาหลังทำจากสแตนเลส สตีล รุ่นก่อนหน้าเป็นพลาสติกคุณภาพสูง โดยบนฝาด้านล่างฝั่งซ้ายมีข้อความ "Nokia Nseries" วางพาดอยู่ หากต้องการเปิดฝาหลังให้งัดตรงช่องทางด้านขวา
เมื่อเปิดฝาหลังออกจะพบแบตเตอรี่ชนิด Li-Ion 1,200 mAh รุ่น BL-4D (เดิม 1,500 mAh) ช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ใต้แบตฯซึ่งเป็นถาดวางซ่อนอยู่ในตัวเครื่องอีกทีหนึ่ง มีสัญลักษณ์บอกทิศทางการใส่อย่งชัดเจน ส่วนช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำอยู่เหนือช่องวางแบตฯฝั่งขวา รองรับการ์ดแบบ MicroSD สูงสุด 16 GB
ด้านขวา : ไล่จากบนสุดเป็นปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง/ซูมขยาย-ลดภาพในโหมดกล้อง ถัดมาเป็นปุ่มชัตเตอร์ในการถ่ายภาพของเมนูกล้อง (กดค้างเข้าเมนูถ่ายภาพ)
ด้านซ้าย : มีลำโพงเสียงแบบสเตริโออยู่ขนาบข้างบริเวณมุมเครื่องทั้งซ้าย-ขวา ถัดมาไล่จากทางด้านซ้ายเป็นช่อง MicroUSB สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆรวมถึงชาร์จแบตฯด้วย มีไฟสีขาวดวงเล็กแสดงสถานะการชาร์จหากเต็มไฟจะดับ ถัดไปบริเวณกลางเครื่องค่อนไปด้านล่างเป็นปุ่มล็อก-ปลดล็อคหน้าจอ โดยการผลักไปทางขวาแล้วปล่อย
ด้านบน และด้านล่าง : ด้านบนมีช่องต่อชุดหูฟังมาตรฐาน หรือสาย AV Cable ขนาด 3.5 ม.ม.(ขนาดปกติทั่วไป)อยู่ตรงกลาง ถัดมาด้านขวาเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนด้านล่างมีเพียงช่องร้อยสายคล้องมือ-คอ หรือจะร้อยปากกาสไตลัสที่แถมมาให้ภายในกล่องก็ได้
Function On Nokia N97mini
หลังจากดูการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอกที่ถูกลดขนาดให้เล็กลงกว่าเดิมแล้ว คราวนี้มาดูด้านฟังก์ชันภายในที่ให้มากันบ้าง ซึ่ง"โนเกีย N97mini"มีลูกเล่นฟังก์ชันภายในไม่ต่างจาก"โนเกีย N97"ผู้พี่แต่ประการใด โดยยังใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน เวอร์ชัน 9.4 (S60 5th Edition) หน้าจอสั่งงานด้วยการสัมผัสแบบตัวต้านทาน(Resistive) ที่รองรับการสั่งงานผ่านปากกาสไตลัสที่แถมให้มาห้อยข้างเครื่อง หรือปลายนิ้วมือเท่านั้น ถ้าจะใช้นิ้วมือแบบเต็มๆก็สามารถใช้งานได้เพียงแต่เครื่องจะตอบสนองช้าลง อาจทำให้ขาดความต่อเนื่องในการเรียกใช้งานได้
เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาจะพบกับหน้าจอหลัก ประกอบไปด้วย เหล่าบรรดาวิตเจ็ตที่ได้ตั้งค่าไว้ ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ทันที และยังสามารถแก้ไขได้ตามความต้องการของผู้ใช้ทั้งเพิ่มหรือลบออกในภายหลังได้ ส่วนใครที่ชอบสไตล์ดั้งเดิมแบบเรียบง่าย โดยที่ไม่มีวิตเจ็ตมาโชว์ให้เลอะเทอะหน้าจอ ก็สามารถเลื่อนหน้าจอโดยใช้นิ้วลากไปทางซ้าย หรือทางขวา หรืออีกวิธี คือ เลือกตัวเลือก > ซ่อนเนื้อหา หน้าจอจะแสดงเป็นหน้าว่างเปล่า ซึ่งมีเพียงนาฬิกา, วัน, วันที่ และสถานะการใช้งานเครื่องปรากฎอยู่ทางด้านบนเท่านั้น
"หน้าจอหลัก"สามารถแสดงผลได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยจะเปลี่ยนมุมมองเป็นแนวนอนอัตโนมัติเมื่อสไลด์แผงแป้นพิมพ์ QWERTY ออกมา หรือผู้ใช้งานเอียงเครื่องแนวนอนหน้าจอก็จะปรับแสดงผลเป็นแนวนอนเช่นเดียวกัน คราวนี้กลับมาดูหน้าจอหลักที่โชว์วิตเจ็ตต่างๆให้เลือกใช้งานกันต่อ อย่างที่บอกตอนต้นว่าสามารถปรับแต่งแก้ไขวิตเจ็ตต่างๆได้ตามใจผู้ใช้ โดยเลือก ตัวเลือก > แก้ไขเนื้อหา ทีนี้ก็เลือกช่องว่างที่ต้องการนำวิตเจ็ตมาใส่ไว้ จากที่ให้มาทั้งหมด 5 ช่องด้วยกัน เมื่อเลือกช่องว่างได้แล้วให้กดที่ตัวเลือกอีกครั้ง แล้วเลือก"เพิ่มเนื้อหา" จากนั้นก็เลือกแอปฯตามความต้องการที่มีอยู่ทั้งหมดในเครื่อง หรือใครอยากจะได้นอกเหนือจากในเครื่องก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ store.ovi.com เมื่อเลือกเสร็จก็ให้กด "เรียบร้อย" นอกจากนี้ยังสามารถสลับช่องโดยการลากย้ายช่องได้อิสระอีกด้วย
ส่วน"เมนูทางลัด"ที่ค่าเดิมให้มาเป็น "รายชื่อ" นั้นสามารถเปลี่ยนเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้เช่นกัน โดยเลือกที่ตัวเลือก > แก้ไขเนื้อหา จากนั้นเลือกตัวเลือกอีกครั้ง แล้วเลือก "ปุ่มเลือกด้านขวา" หน้าจอจะแสดงเมนูย่อยให้เลือกระหว่าง แอปพลิเคชัน กับบุ๊คมาร์ค สำหรับแอปพลิเคชันจะแสดงรายชื่อฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อย เช่น กล้อง, การค้นหา, รายชื่อ, การเชื่อมต่อ, เครื่องคิดเลข, วิทยุ และอีกมากมายที่มีอยู่ทั้งหมดในเครื่อง ส่วนบุ๊คมาร์คจะแสดงรายชื่อเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ได้บุ๊คมาร์คเอาไว้ เพื่อจะได้เข้าถึงเว็บไซต์เหล่านั้นได้อย่างสะดวก รวดเร็วขึ้น
"เมนูหลัก"ของ 'N97mini' สามารถแสดงผลการจัดวางได้ 2 รูปแบบ แบบตาราง กับแบบรายการ เหมือนกับทุกๆรุ่น ซึ่งประกอบไปด้วย ปฏิทิน(Calendar), รายชื่อ(Contacts), เพลง(Music), เว็บ(Web), ข้อความ(Messaging), รูปถ่าย(Photos), ร้านค้า(Store),แผนที่(Maps), วิดิโอและทีวี(Videos&TV), การตั้งค่า(Setting), เกม(Games), แอปพลิเคชัน(Applications) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจาก Nokia N97 ที่ออกมาก่อนหน้านี้แต่ประการใด
Note
ถัดมาดูที่ระบบการป้อนข้อความกันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้มีช่องทางให้เลือกใช้งานอยู่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบปุ่มกดตัวเลขที่อยู่บนหน้าจอ (Multi Tap), แบบเขียนด้วยลายมือ สามารถอ่านลายมือได้ทั้งภาษาไทย-อังกฤษ และผ่านปุ่มบนคีย์บอร์ด QWERTY แบบ 3 แถว ที่สไลด์ออกมาทางด้านข้างตัวเครื่อง กล่าวโดยรวมในส่วนนี้คือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้นเมื่อเทียบกับ Nokia N97
Map
รุ่นนี้ยังคงใช้แผนที่ 'Nokia Maps' เวอร์ชัน 3.0 รองรับระบบนำทางผ่านสัญญาณดาวเทียมแบบ A-GPS สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการแสดงแผนที่ได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ แผนที่, แผนที่ 3 มิติ, ดาวเทียม(แสดงภาพถ่ายทางดาวเทียม) และแบบภูมิประเทศ มีลูกเล่นของการแสดงผลให้เป็นแบบในเวลากลางวัน กลางคืน หรือจะเลือกแบบอัตโนมัติก็ได้ มีระบบค้นหาสถานที่สำคัญต่างๆแบ่งตามหมวดหมู่ เช่น ร้านอาหาร, โรงแรม, วัด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้นำทางโดยการเดิน หรือขับรถยนต์ ไปยังสถานที่ปลายทางตามที่ระบุไว้ได้อีกด้วย ซึ่งรายละเอียดของการใช้งานส่วนนี้สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ ที่ Review : Nokia N86 8MP เด่นที่กล้องพร้อมมัลติมีเดียครบ
Internet & Social Network
'การใช้งานด้านอินเทอร์เน็ต' สามารถเรียกเปิดใช้งานเว็บเพจผ่านเบราว์เซอร์เฉพาะของโนเกียเหมือนเช่นเคย แสดงผลได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน รวมถึงสามารถขยายแบบเต็มจอได้ด้วย รองรับ'Flash Player' ทำให้สามารถเข้าดูเว็บต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ ภายหลังทดสอบการเข้าใช้งานพบว่า เบราว์เซอร์ของเครื่องรุ่นนี้สามารถตอบสนองได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ไม่พบอาการเด้งหลุด หรือแฮงก์ไปเฉยๆ ส่วนโซเชียลเน็ตเวิร์กยังมีแอปพลิเคชันภูมิอากาศ ที่สามารถตรวจดูสภาพภูมิอากาศได้โดยตรง ซึ่งอิงจากเว็บไซต์ AccuWeather.com มาแสดงผลทางหน้าจอทุกครั้งที่มีการเรียกใช้งาน แอบพลิเคชันเฟสบุ๊ก, ยูทูป, ไฮไฟว์, มายสเปซ เป็นต้น ซึ่งสามารถโหลดแอปเพิ่มเติมได้ภายหลังที่ store.ovi.com
Camera
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพที่ติดมาให้ใช้งานกับเครื่องรุ่นนี้ ยังคงใช้ฟังก์ชันเดียวกับ 'Nokia N97' แบบยกชุด โดยให้ความละเอียดที่ระดับ 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ใช้เลนส์คุณภาพสูงเจ้าเก่าอย่าง 'Carl Zeiss' พร้อมมีไฟแฟลชชนิด LED 2 ดวง ติดมาให้ใช้งานเหมือนเดิม ส่วนกล้องด้านหน้าของรุ่นนี้สามารถบันทึกภาพได้ทั้งภาพนิ่ง (ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล) และ176 x 144 พิกเซล สำหรับการถ่ายภาพวิดิโอ
อินเตอร์เฟสของทั้งกล้องถ่ายภาพนิ่ง และกล้องถ่ายวิดีโอยังคงเอกลักษณ์เดิม ประกอบไปด้วย สัญลักษณ์โหมด(อยู่ทางมุมบนด้านซ้าย) ถัดลงมาเป็นอัตราการซูมขยาภาพ(แบบดิจิตอล) สามารถกดเลือกผ่านหน้าจอได้เลย หรือว่าจะกดปุ่ม +/- ทางด้านข้างของตัวเครื่องก็ได้ ล่างสุดเป็นแถบแสดงสถานะแบตฯ, ขนาดภาพ, จำนวนภาพ, แหล่งเก็บภาพ และสถานะเปิดใช้ตำแหน่ง GPS ให้กับภาพ ตามลำดับ ส่วนทางด้านขวามีให้เลือกใช้งานดังนี้ จับภาพอัตโนมัติ ถัดลงมาเป็นการปรับการใช้งานของแฟลช และแถบเครื่องมือเพิ่มเติม
ส่วนการปรับแต่งค่า และการตั้งค่า ในฟังก์ชันของกล้องถ่ายภาพ กล้องบันทึกวิดีโอ รวมถึงกล้องหน้านั้น ลูกเล่นทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมกับรุ่น 'N97' ก่อนหน้านี้ สามารถย้อนกลับไปดูรายละเอียดได้ที่นี่
หลังการใช้งานกล้องรุ่นนี้พบว่า ความไวชัตเตอร์ยังทำได้ไวเหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา อาการแฮงก์ยังไม่พบเหมือนจุดนี้ทางโนเกียได้กลับปรับปรุงมา สีสันความคมชัดยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้เหมือนเดิม โดยคุณภาพของภาพนิ่งอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว ส่วนคุณภาพของไฟล์วิดีโอนั้นจัดอยู่ในระดับปานกลาง จากคุณภาพที่ทดสอบถือว่าสามารถงานได้ไม่ต่างจากกล้องคอมแพกต์
Music
ในส่วนของความบันเทิงด้านเสียงเพลงยังคงเหมือนกับในรุ่น N97 ที่เป็นศูนย์รวมการใช้งานด้านเสียงไว้ในแมนูเดียว ประกอบไปด้วย เครื่องเล่นเพลง, ร้านค้าเพลง และวิทยุ โดย "เครื่องเล่นเพลง" ที่ยังคงมีการแบ่งรายการฟังก์ชันการใช้งานในรูปแบบเดิม ประกอบไปด้วย ศิลปิน : แสดงแยกออกตามรายชื่อศิลปิน, อัลบั้ม : แสดงตามชื่ออัลบั้ม, รายการเล่น : แสดงรายการเพลงที่ถูกเลือกเล่นบ่อยที่สุด, เพลงทั้งหมด : เพลงทั้งหมดที่พร้อมเล่น, พอดแคสต์, ประเภทของเพลง : แยกเพลงตามประเภทต่างๆ และผู้เรียบเรียง สามารถใช้นิ้วรูดหาชื่อเพลง อัลบั้ม หรือศิลปินได้ตามหมวดหมู่ตัวอักษร
รูปแบบอินเตอร์เฟสของเครื่องเล่นเพลง ยังคงเอกลักษณ์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี คือ มีการโชว์ภาพอัลบั้ม(ถ้ามี) แถบแสดงเวลาการเล่นแต่ละเพลง ปุ่มควบคุมเครื่องเล่นเพลง ซึ่งรุ่นนี้เป็นปุ่มกดแบบสัมผัสบนหน้าจอ เครื่องเล่นเพลงสามารถหมุนปรับได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนตามการจับถือของผู้ใช้ ส่วนการปรับค่าต่างๆ มีให้เลือกปรับดังนี้ สลับเล่นเพลง(เปิด/ปิด), เล่นซ้ำ(ปิด, เล่นซ้ำทั้งหมด, เล่นซ้ำเพลง), อีควอไลเซอร์ตัวเครื่องมีให้เลือกปรับแต่ง 5 แบบ ได้แก่ เบส, คลาสิก, แจ๊ส, ป๊อป และร็อก ด้าน"การตั้งค่า" มีให้เลือกปรับเหมือนเดิม ได้แก่ สมดุล(Balance) เป็นการปรับความดังเสียงซ้าย-ขวาของลำโพง ความดัง และขยายแถบเสียงสเตอริโอ(Stereo widening) สำหรับเพิ่มเสียงให้ดูมีมิติและใสขึ้น
ส่วน"วิทยุ FM" ยังต้องอาศัยชุดหูฟังเป็นเสาอากาศคอยรับสัญญาณ มีระบบสแกนหาความถี่ทั้งแบบค้นหาอัตโนมัติ และค้นหาด้วยตัวผู้ใช้งานเอง (ทศนิยมแบบ 2 ตำแหน่ง) เมื่อแสกนความถี่ได้ตามต้องการแล้วสามารถเลือกที่จะจัดเก็บได้ ซึ่งเครื่องรองรับได้ทั้งหมด 20 สถานี นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกรูปแบบการฟังได้ว่าจะฟังผ่านชุดหูฟัง หรือฟังผ่านลำโพงสเตริโอของเครื่อง และยังสามารถเลือกให้เล่นเป็นพื้นหลังได้ด้วย โดยรวมทั้งหมดยังคงใช้ลูกเล่นเดียวกับ'N97'
ภายหลังการใช้งานในส่วนนี้พบว่า ลูกเล่นต่างๆยังเหมือนเดิมไม่มีลูกเล่นอะไรใหม่เพิ่มเติมเข้ามา ความดังของเสียงอยู่ในระดับปานกลางค่อนไปทางดัง เสียงออกโทนแหลมปนนุ่ม มิติของเสียงมีให้ได้ยินบ้างเป็นบางช่วง แต่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร เสียงออกแนวแบนเสียมากกว่า ส่วนเสียงเรียกเข้าที่ใช้ลำโพงเดียวกันดังใสชัดเจนดี
บทสรุป
สำหรับโนเกีย N97mini รุ่นนี้มีดีไม่ต่างจากรุ่นพี่ N97 เพียงแต่ถูกลดขนาดลงมาให้จับกระชับขึ้น และสามารถพกพาไปไหนได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าหลายคนจะมองว่าตัวเครื่องมีขนาดเกือบๆเท่าเดิมก็ตาม โดยรุ่นนี้ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถหลากหลายอยู่เหมือนเดิม มีคีย์บอร์ด QWERTY แบบ 3 แถวมาให้ใช้งาน, การเชื่อมต่อที่ครบครัน รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย GPRS, EDGE, HSDPA และWi-Fi 802.11b ส่วนการเชื่อมต่อแบบออฟไลน์รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ (รองรับ A2DP) การเชื่อมต่อผ่านสายดาต้าลิงก์แบบ Micro USB นอกจากนี้ยังมีช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 นิ้ว สามารถต่อ TV OUT มาให้ใช้งานด้วยเหมือนเดิม
ประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องนั้นต้องขอชมว่าปรับปรุงได้ดี ทั้งในส่วนของการดีไซน์ที่ออกแบบมาแน่นหนากว่ารุ่นแรกมาก ทำให้มั่นใจถึงความแรงทนทานที่จะอยู่คู่กับการใช้งานจนครบเทอม การวางปุ่มเลย์เอาท์ยังคงใช้โครงเดิมที่ยกมาทั้งชุด ซึ่งถือว่าออกแบบได้กำลังพอเหมาะพอดี ส่วนการใช้งานภายในนั้นยังมีลูกเล่นฟังก์ชันที่อัดแน่นรอให้ใช้งานหลากหลายเหมือนเดิม การตอบสนองเครื่องทำได้ลื่นไหลดี เท่าที่ทดสอบยังไม่พบอาการค้างให้เห็นแต่อย่างใด(รุ่นเก่ามีให้เห็นบ้าง) สัญญาณของตัวเครื่องสามารถจับได้นิ่งดี รวมถึงสัญญาณ GPS มีการจับสัญญาณที่ค่อนข้างไวกว่าเดิม เสียงสนทนาดังชัดเจน
ส่วนความบันเทิงที่ใส่มาให้ใช้ถือว่าครบไม่มีกั๊กตามสไตล์ตระกูล 'N ซีรีส์' เช่นกัน ซึ่งกล่าวโดยสรุปการใช้งานไปแล้วในข้างต้น ด้านความอึดของแบตเตอรี่ของรุ่นนี้จัดว่าอยู่ในเกณฑ์พอเหมาะ โดยรุ่นนี้ได้เลือกใช้แบตฯขนาด 1,200 mAh สามารถใช้งานพื้นฐานทั่วไปอย่างการโทร-รับสาย, รับ-ส่งข้อความ ถ่ายภาพ-ฟังเพลงอย่างละนิดอยู่ได้เกือบ 3 - 4 วันเลยทีเดียว แต่ถ้าหากใช้งานแบบหนักๆสามารถอยู่ได้ประมาณ 1 วันครึ่ง - 2 วัน
ขอชม
- ขนาดกะทัดรัดกำลังพอเหมาะมือ
- งานประกอบรุ่นนี้ดูแน่นหนากว่ารุ่นเดิม
- ลูกเล่นฟังก์ชันยังอัดแน่นครบครันเหมือนเดิม(N97)
ขอติ
- หน้าจอด้านหน้ามีความมันวาว ทำให้เกิดคราบนิ้วมือได้ง่าย
- เครื่องรองรับการต่อ TV out แต่อุปกรณ์ในกล่องไม่มีสาย A/V Cable แถมมาให้ใช้งาน(เหมือนรุ่นก่อน)
- รุ่นเดิมมีฝาปิดป้องกันเลนส์กล้องอยู่แล้ว น่าจะนำมาใช้ในรุ่นนี้ด้วย
Company Related Links :
Nokia
