xs
xsm
sm
md
lg

Review : Nokia N86 8MP เด่นที่กล้องพร้อมมัลติมีเดียครบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ช่วงเวลานี้คงต้องบอกว่าไม่มีโทรศัพท์มือถือรุ่นใด ที่มีกล้องคุณภาพชัดไปกว่าโนเกีย N86 8MP ก็เห็นจะเป็นได้ เนื่องจากเป็นกล้องที่ได้รับการการันตีจาก TIPA หรือ กลุ่มสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพในกลุ่มประเทศยุโรปให้เป็นกล้องโทรศัทพ์มือถือยอดเยี่ยม

เหตุที่กล้องของโนเกีย N86 8MP มีจุดเด่นเหนือกล้องรุ่นอื่นๆ ที่มีจำนวนความละเอียดภาพเท่ากันที่ 8 ล้านพิกเซล คงจะอยู่ที่เลนส์คุณภาพของ Carl Zeiss เจ้าประจำของโนเกีย แต่จะให้โดดเด่นที่กล้องอย่างเดียวเห็นจะไม่ใช่โนเกียแล้วเพราะ ความสามารถทางด้านมัลติมีเดียของ N ซีรีส์ ยังมีมาให้ครบครันในเครื่องรุ่นนี้เช่นเดียวกัน

แต่ด้วยความที่อยู่ในช่วงพัฒนาของเทคโนโลยี คุณภาพของกล้อง 8 ล้านพิกเซลเห็นจะไม่เพียงพอต่อการแข่งกัน เพราะคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ต่างเร่งทำโทรศัพท์ที่มีกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลจ่อคิวรอออกวางจำหน่ายกันอยู่

ซึ่งนายชูมิท คาพูร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย โนเกีย ได้ให้ความเห็นถึงความละเอียดของกล้องโทรศัพท์มือถือว่า เป็นตัวเลขที่คู่แข่งนำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่าเลขยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเลนส์ไม่มีคุณภาพกล้องความละเอียด 12 ล้านก็จริง แต่คุณภาพอาจจะสู้กับกล้องความละเอียด 8 ล้านที่มีเลนส์ดีๆไม่ได้

Feature On Nokia N86 8MP 



โนเกีย N86 8MP ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน เวอร์ชัน 9.3 (S60 3rd Edition Pack2) ที่รองรับการใช้งานด้านมัลติมีเดียครบถ้วนตามสไตล์ของ N ซีรีส์ หน้าจอหลักในเครื่องรุ่นนี้สามารถปรับเปลี่ยนเมนูลัดได้ 6 เมนูด้วยกัน ส่วนการแสดงผลตารางนัดหมาย เพลงที่เล่น อีเมล รวมไปถึงการแชร์รูปผ่าน share.ovi.com สามารถทำได้จากหน้าจอหลักเช่นเดียวกัน

สำหรับโปรแกรมที่อยู่ในหน้าเมนูแรกจะประกอบไปด้วย ตารางนัดหมาย รายชื่อผู้ติดต่อ มัลติมีเดีย เว็บบราวเซอร์ ข้อความ รูปภาพ ดาวน์โหลด แผนที่ ค้นหา เครื่องมือ เกม และแอปพลิเคชันอื่นๆที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งเพิ่มได้จาก store.ovi.com

ความสามารถด้านมัลติมีเดียที่ให้มาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร คือ การฟังวิทยุเอฟเอ็ม ฟังวิทยุจากอินเทอร์เน็ต เครื่องเล่นเพลง และยังมี FM Transmit สำหรับส่งสัญญาณ FM เข้าวิทยุในการขยายเสียงได้อีกด้วย แน่นอนว่าลูกเล่นต่างๆเหล่านี้มีมาให้ครบอยู่แล้วในเครื่อง N ซีรีส์ส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าต้องการทราบรายละเอียดสามารถกลับไปอ่านได้ที่ Review : Nokia E75 เรื่องรับ-ส่งอีเมลง่ายนิดเดียว

Camera

แน่นอนว่าฟีเจอร์ที่โดดเด่นของโทรศัพท์รุ่นนี้เรื่องแรกคงหนีไม่พ้น กล้อง ที่การันตีนักหนาว่าเป็นกล้องที่ชัดที่สุดในขณะนี้ ซึ่งจากการได้ไปทดลองใช้งานมาแล้วหนึ่งรอบกับทริปของน้อง ยิปซี ยอมรับว่าคุณภาพที่ได้แทบไม่ต่างจากกล้องคอมแพกต์บางรุ่นที่วางตลาดอยู่ในขณะนี้ทีเดียว

การทำงานของชัตเตอร์ตอบสนองกับการกดได้เป็นอย่างดี ปุ่มกดไม่แข็งจนเกินไป การประมวลผลภาพหลังจากถ่ายที่เป็นปัญหากับความละเอียดภาพเยอะๆ แทบไม่มีให้เห็น ถ่ายเสร็จรอประมวลผล 2-3 วินาที ก็แสดงผลให้ดูได้รวดเร็วดี



เมื่อเข้าโปรแกรมกล้องหน้าจอจะหมุนมาอยู่ในแนวนอนรับกับปุ่มกดชัตเตอร์และปุ่มซูมภาพเข้าออกด้านบน โดยในหน้าจอหลักของโปรแกรมกล้อง จะมีรูปแสดงโหมดการใช้งานอยู่บริเวณมุมซ้ายบน ส่วนซ้ายล่างจะบอกรายละเอียดของภาพ จำนวนภาพที่ถ่ายได้ เก็บภาพในเครื่องหรือเมมโมรี่การ์ด และ เปิดโหมดบันทกพิกัดหรือไม่

ส่วนด้านขวาบนจะเป็นปุ่มออกจากโหมดกล้อง ตรงกลางจะเป็นแถบเครื่องมือต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่าจะให้แสดงโหมดอะไรให้ปรับบ้าง และขวาล่างจะเป็นปุ่มสำหรับกดเข้าไปดูเมนูอื่นๆ หน้าจอของการถ่ายภาพนิ่งและภาพวิดีโอมีลักษณะแบบเดียวกัน ส่วนในโหมดพาโนราม่า จะมีแถบแสดงภาพที่ถ่ายก่อนหน้าขึ้นมาอยู่ตรงกลาง เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่าถ่ายภาพสุดท้ายไว้ที่ตรงไหน



สำหรับเมนูแถบเครื่องมือจะประกอบด้วย 16 เมนูคือ โหมดวิดีโอ โหมดพาโนรามา เลือกซีน แฟลช ตั้งเวลาถ่ายภาพ ตั้งรูปแบบการถ่ายภาพ ดูรูปภาพที่ถ่าย ปรับสี ปรับมุมมอง ตั้งค่าแสง ปรับชดเชยแสง ปรับความคมชัด ปรับคอนทราสต์ ปรับความสว่าง ปรับค่าความไวแสง และ ปรับแต่งเมนู



ซีนจะมีให้เลือกทั้งหมด 8 แบบ คือ อัตโนมัติ ปรับแต่งเอง ถ่ายภาพระยะใกล้ ถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพสถานที่ ถ่ายภาพเคลื่อนไหว ถ่ายภาพตอนกลางคืน และ ภาพบุคคลตอนกลางคืน ซึ่งการเลือกแต่ละโหมดให้เหมาะสมจะช่วยทำให้ภาพที่ได้ สวยงามขึ้น เช่นในการถ่ายภาพบุคคลถ้าตั้งค่าและมุมกล้องดีๆ อาจจะเห็นภาพบุคคลชัดฉากหลังเบลอก็เป็นได้



ในโหมดการปรับแต่งเอง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าต่างๆได้ตามนี้คือ เลือกใช้รูปแบบใดเป็นค่ามาตรฐาน ตั้งค่าแฟลช ตั้งค่าแสง ปรับชดเชยแสง ปรับสี ค่าความไวแสง ความคมชัด คอนทราสต์ และ กลับคืนค่าเดิม



แฟลชสามารถปรับได้เป็นแบบอัตโนมัติ เปิด โหมดแก้ตาแดง และ ปิดการใช้งาน ตั้งเวลาถ่ายเลือกได้ตั้งแต่ 2 วินาที 10 วินาที และ 20 วินาที รูปแบบการถ่ายภาพจะมีให้เลือกแบบ ทีละภาพ ถ่ายแบบต่อเนื่อง ถ่ายภาพทุกๆ 10 วินาที 30 วินาที 1 นาที 5 นาที 10 นาที และ 30 วินาที



Color Tone จะมีให้เลือกทั้งแบบ ปกติ ซีเปีย ขาว&ดำ สีฉูดฉาด และ สีตรงข้าม ปรับมุมมองจะเป็นการเพิ่มตาราง 9 ช่องเข้าไปในหน้าจอ และตั้งค่าแสงจะมีให้เลือกแบบอัตโนมัติ แดดจัด มีเมฆ แสงไฟ Incandesc และ แสงไฟ Fluorescent



การปรับค่าชดเชยแสงมีให้เลือกตั้งแต่ 2.0 ถึง -2.0 โดยจะแบ่งเป็นด้านละ 6 ระดับ ค่าความคมชัดจะมีให้เลือกแบบ แข็ง ปกติ และ อ่อน ส่วนปรับคอนทราสต์ จะมีให้เพิ่มลดอย่างละ 2 ระดับ



ปรับค่าความสว่างมีให้เลือกค่าละ 2 ระดับเช่นเดียวกัน ส่วนการปรับค่าความไวแสงที่จะมีให้ปรับแบบอัตโนมัติ ต่ำ ปานกลาง และ สูง



สุดท้ายคือการตั้งค่าภาพถ่าย ที่จะมีให้เลือกปรับความละเอียดของภาพ เปิดการใช้งานบันทึกพิกัดสถานที่ เพิ่มอัลบั้มรูปภาพ แสดงภาพหลังจากการบันทึก กำหนดชื่อรูปภาพ เปิดการใช้งานดิจิตอลซูม เสียงเวลาบันทึกภาพ เลือกหน่วยความจำ หมุนภาพอัตโนมัติ และ กลับสู่ค่าเริ่มต้น

เรียกได้ว่าการปรับแต่งค่าต่างๆ เริ่มจะเหมือนกับกล้องคอมแพกต์มากขึ้นทุกทีๆ จุดเด่นคิดว่าน่าจะมีประโยชน์ในอนาคตคือ การบันทึกพิกัดสถานที่ลงในรูปภาพหรือที่เรียกกันว่า Geotagging นั่นเอง แต่ในการถ่ายภาพเพื่อบันทึกพิกัดสถานที่ จำเป็นที่ต้องให้ดาวเทียมจับตำแหน่งหรือเปิดการใช้งาน AGPS เพื่อที่เครื่องจะช่วยคำนวนสถานที่จากเสาของเครือข่ายนั่นเอง

Maps

แผนที่จาก maps.ovi.com ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจในเครื่องรุ่นนี้ โดยหลักการทำงานของระบบนำทางบนโทรศัพท์มือถือที่ใช้แผนที่จากโนเกีย ซึ่งมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลาทั้งจากบริษัทผู้พัฒนาเอง ผู้ใช้คนอื่นๆ รวมถึงตัวคุณเองก็สามารถเข้าไปช่วยโนเกียอัปเดตแผนที่ได้ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว



ในหน้าจอแผนที่ด้านซ้ายบนจะบอกถึงตำแหน่งปัจจุบัน ส่วนตัวเลือกที่มีให้จากหน้าจอแผนที่จะประกอบไปด้วย ค้นหาที่อยู่ รายการโปรด ประวัติ แดชบอร์ด โหมดแผนที่ การจราจร เครื่องมือ ร้านค้าและใบอนุญาติ เกี่ยวกับ การสนับสนุน และ ออกจากโปรแกรม



การค้นหาที่อยู่สามารถทำได้โดยกำหนดประเทศ/ภูมิภาค ใส่ชื่อเมือง/รหัสไปรษณีย์ ถนน บ้านเลขที่ โดยโปรแกรมจะแสดงสถานที่ได้ชัดเจนแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการป้อนค่าต่างๆของผู้ใช้ ต่อมาคือรายการโปรดที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปบันทึกตำแหน่งที่ต้องการได้ภายในเว็บไซต์ maps.ovi.com เพื่อให้เครื่องเชื่อมต่อกับบริการดังกล่าวได้ ส่วนประวัติจะเป็นการแสดงถึงสถานที่ล่าสุดที่ผู้ใช้ได้ทำการค้นหา และกำหนดให้เครื่องนำทางไปให้




แดชบอร์ดเป็นส่วนที่บอกถึงความเร็วขณะเดินทางเป็น กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ ระยะก้าวเป็น นาทีต่อกิโลเมตร ถัดมาคือบอกคามสูงจากระดับน้ำทะเล และสุดท้ายคือตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ หรือ พิกัดสถานที่นั่นเอง ส่วนโหมดแผนที่จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบคือ ปกติ ดาวเทียม และ ภูมิประเทศ



เครื่องมือจะประกอบไปด้วย การเข้าสู่โหมดออฟไลน์ แผนที่ 3มิติ ปิดบริการบอกตำแหน่ง ปิดเข็มทิศ วางแผนที่ไปทางเหนือ จับเก็บภาพหน้าจอ และตั้งค่า โดยเมื่อเข้าสู่โหมด 3 มิติ แผนที่จะแสดงผลดังภาพขวาสุด



ในหน้าจอการตั้งค่า จะแบ่งออกเป็นหมวดๆคือ อินเทอร์เน็ต สำหรับใช้ตั้งค่าการเชื่อมต่อต่างๆเช่นการเข้าสู่โหมดออนไลน์เมื่อเริ่มใช้งาน ต้องให้โปรแกรมถามผู้ใช้ก่อนเชื่อมต่อหรือเชื่อมต่อทันที ส่วนปลายทางเครือข่าย คือเลือกว่าจะเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรือจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และสุดท้ายคำเตือนการโทรข้ามแดน ในกรณีที่นำเครื่องไปใช้งานในต่างประเทศ

หมวดถัดมาคือการนำทาง ซึ่งมีให้ตั้งค่าเสียงขณะนำทางเป็นภาษาใด เสียงผู้ชายหรือผู้หญิง ไฟด้านหลัง(backlight) ย่อ/ขยายภาพแบบอัตโนมัติ อัปเดตข้อมูลจราจร เปลี่ยนทางหลบการจราจร ตัวระบุเวลา ตัวเตือนขีดจำกัดความเร็ว และตัวเตือนจุดความปลอดภัย



ต่อมาคือหมวดเส้นทาง โดยจะแบ่งออกไปนำทางโดยใช้การเดิน ที่จะนำทางตามถนน และเปิดให้บริการเรือข้ามฝาก หรือ ขับรถ ที่มีการเลือกเส้นทาง เปิดใช้มอเตอร์เวย์ อุโมงค์ เรือข้ามฝาก ทางด่วน ถนนลูกรัง เรือเฟอรรี่



สุดท้ายหมวดแผนที่ แบ่งออกเป็นประเภท สี ความจำที่ใช้ ใช้ความจำสูงสุด และ ระบบของหน่วยวัด โดยในส่วนของประเภท จะมีให้เลือกทั้งหมด 25 ประเภท คือ กีฬากลางแจ้ง การศึกษา จุดผักผ่อน จุดรับจ่ายเงิน ซ่อมรถ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ตำรวจ ที่จอดรถ



ที่ทำการไปรษณีย์ บริการรถเช่า ปั้มน้ำมัน พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร เวชภัณฑ์ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ศูนย์แสดงสินค้า ศาสนสถาน สถานที่ท่องเที่ยว สวนสนุก สำนักงานรัฐบาล และ ห้องสมุด



เมื่อเจอจุดสนใจที่ต้องการแล้ว สามารถกดเข้าไปเพื่อเลือกรูปแบบการนำทาง หรือใช้สำรวจพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียง แสดงรายละเอียดของจุดสนใจนั้นๆ จัดเก็บ และเพิ่มในเส้นทาง





โดยเมื่อเข้าสู่โหมดสำรวจ จะแบ่งออกเป็นบริการสำหรับรถยนต์ บริการขนส่ง ทิวทัศน์และพิพิธภัณฑ์ กินดื่ม นอกบ้านและความบันเทิง ที่พัก ช็อปปิ้ง ธุรกิจและบริการ และเวลาว่างและกลางแจ้ง ซึ่งแต่ละบริการจะแบ่งออกเป็นรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมาย



ในโหมดการนำทางผู้ใช้สามารถเลือกที่จะซูมเข้า-ออกแผนที่ได้จากการกดปุ่ม # และ * บนโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสามารถเปลี่ยนรูปแบบการนำทางจาก 2 มิติ ไปเป็น 3 มิติก็ได้ ซึ่งในหน้าจอจะมีการแสดงรายละเอียด ความเร็วในการเดินทาง ระยะทางที่จะถึง และ เวลาที่จะถึงถ้าขับในความเร็วคงที่

Design of Nokia N86 8MP



สำหรับดีไซน์ของเครื่องรุ่นนี้แทบจะไม่แตกต่างจากรุ่นที่ออกมาก่อนอย่าง N81 เลยยิ่งถ้านำไปเทียบกับ N85 แล้วเรียกได้ว่าเหมือนกันอย่างกับแกะ จะมีจุดต่างอยู่ตรงปุ่มควบคุมที่มีการเปลี่ยนรูปแบบเล็กน้อยเท่านั้นเอง แน่นอนว่าเครื่องรุ่นนี้ยังเป็นสไลด์โฟน 2 ทิศทาง ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 103.4 x 51.4 x 16.5 มิลลิเมตร

ส่วนที่น่าสนใจคือน้ำหนักของตัวเครื่องที่หนักถึง 149 กรัม เรียกได้ว่าหนักที่สุดในบรรดาโทรศัพท์ที่มีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลด้วยกันได้เลย ซึ่งถ้าผู้ที่ได้สัมผัสตัวเครื่องจะรู้สึกว่าวัสดุที่ใช้ประกอบมีความคงทนแข็งแรงกว่าหลายๆรุ่นที่อยู่ในตลาดปัจจุบันนี้ หรือถ้าเทียบกับเครื่องรุ่นที่วางจำหน่ายพร้อมกันอย่าง N97 ยังต้องบอกว่าเครื่องรุ่นนี้วัสดุดูดีกว่าอย่างรู้สึกได้ ส่วนสีที่มีวางจำหน่ายจะมี 2 สีคือ ขาว และ ดำ



ด้านหน้า - มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED 16 ล้านสี ขนาด 2.6 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล ส่วนบนจะมีลำโพงสนทนาวางอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายจะเป็นตัววัดระดับแสง ส่วนด้านขวาจะเป็นกล้องวิดีโอคอล ถัดลงมาจะมีสัญลักษณ์ "NOKIA" อยู่มุมซ้ายบนหน้าจอ และตัวอักษรบอกชื่อรุ่น "N86 8MP" อยู่มุมขวา



ในส่วนของปุ่มกดจะประกอบไปด้วย ปุ่มซอฟต์คีย์ซ้าย - ขวา ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง ปุ่มรับสาย - วางสาย ปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ โดยลักษณะของปุ่มจะเป็นเหมือนพลาสติกยื่นขึ้นมาจากตัวเครื่องทำให้เวลากดใช้งานจำเป็นต้องใช้บริเวณปลายนิ้วกด ซึ่งผู้ที่มีเล็บอาจจะใช้งานได้ลำบากนิดนึง



เมื่อสไลด์โทรศัพท์ลงมาด้านล่างจะพบกับแผงปุ่มกดตัวเลข ซึ่งถ้าเป็นเครื่องที่วางจำหน่ายจะมีสกรีนภาษาไทยมาให้เรียบร้อย แผงปุ่มกดมีการเว้นช่องไฟให้สามารถกดได้ถนัดนิ้วมากขึ้น



ส่วนแผงปุ่มมัลติมีเดียเมื่อสไลด์โทรศัพท์ขึ้นด้านบนจะประกอบไปด้วย ปุ่ม เลื่อนไปข้างหน้า เล่น หยุด และเลื่อนไปข้างหลัง ซึ่งในการใช้งานดูรูปภาพสามารถใช้ปุ่ม บนและล่าง ในการซูมเข้า-ออก ส่วนถ้าใช้ในการเล่นเกม N-Gage ก็ยังเป็นปุ่มกดด้วย

ด้านซ้าย - จะมีเพียงปุ่มสไลด์สำหรับล็อกโทรศัพท์เท่านั้น ส่วนด้านขวา - จะมีปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง (ซูมภาพ) พร้อมลำโพงสเตอริโออยู่มุมบนและล่าง



ด้านบน - ประกอบไปด้วยปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเปลี่ยนมาใช้ MicroUSB ตามมาตรฐานสากลเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ที่มีที่ชาร์จเก่าๆของโนเกียต้องทำใจว่าไม่สามารถนำมาใช้กับรุ่นนี้ได้



ด้านหลัง - ฝาหลังที่ใช้จะเป็นพลาสติก มีกล้องติดเลนส์ Carl Zeiss Tessar 2.4-4.8/4.6 Wide-Angle Lens 8MP/AF ติดอยู่ พร้อมกับแฟลชคู่ LED โดนใน่ส่วนของเลนส์จะมีพลาสติกเลื่อนเพื่อเปิด-ปิดหน้ากล้องเช่นเดียวกับรุ่นก่อนๆ ซึ่งในจุดนี้สามารถกางขาตั้งเครื่องออกมาได้ด้วย ส่วนมุมล่างจะมีสัญลักษณ์ "NOKIA Nseries" ติดอยู่ การแกะฝาสำหรับเครื่องรุ่นนี้ใช้วิธีการงัดออกมาได้เลย



เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ Li-lon ขนาด 1200 mAh ช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่บริเวณใต้กล้อง ตรงแผงวงจรสีเขียวแปะสติกเกอร์สีขาว ส่วนช่องใส่หน่วยความจำไมโครเอสดีจะอยู่ด้านข้างสามารถถอดได้แม้ไม่ถอดแบตเตอรี่

บทสรุป

โดยรวมแล้วลูกเล่นส่วนใหญ่ของเครื่องรุ่นนี้แทบไม่ต่างจาก N85 ที่ออกมาวางจำหน่ายในช่วงปลายปีที่ผ่านมาสักเท่าไหร่ ทำให้สิ่งเดียวที่จะดึงดูดผู้บริโภคในการเปลี่ยนมาใช้เครื่องรุ่นนี้ จึงอยู่ที่คุณภาพของกล้องเป็นหลัก ซึ่งผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการกล้องถ่ายภาพที่ให้ความละเอียดชัดเจน ก็สามารถหาโทรศัพท์รุ่นอื่นของโนเกียที่มีลูกเล่นใกล้เคียงกันได้ไม่ยาก

ความสามารถของกล้อง 8 ล้านพิกเซล ที่ใช้เลนส์ Carl Zeiss นอกจากจะให้ความชัดที่ดีกว่าคู่แข่งในแต่ละสภาพแสงแล้วคือ ความกว้างของเลนส์ที่ 28 มิลลิเมตร ทำให้มุมมองของการถ่ายภาพกว้างขึ้นอย่างรู้สึกได้

ในส่วนของตัวเครื่องที่รองรับการใช้งานแบบ GSM 850/900/1800/1900 MHz แล้วยังรองรับ 3G ในคลื่นความถี่ 900/2100MHz อีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อผ่านไวไฟ บลูทูธ เชื่อมต่อกับโทรทัศน์ วิทยุเอฟเอ็ม ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร หน่วยความจำภายใน 8 กิกะไบต์ สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบไมโครเอสดีได้สูงสุดถึง 16 กิกะไบต์ ระบบนำทางผ่าน AGPS ภายในเครื่อง และบริการเสริมต่างๆจากโอวี่

เรื่องของเสียงสนทนายังคงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของโทรศัพท์โนเกีย ที่ให้เสียงสนทนาดังชัดเจนแม้อยู่ในที่ๆมีเสียงรบกวน ส่วนเวลาการใช้งานเท่าที่ทีมงานได้ทดลองใช้งานทั่วไป ใช้โทรศัพท์ เปิดใช้งานอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อผ่าน EDGE/GPRS และ เปิดใช้งานโหมดกล้องเป็นเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แบตสามารถอยู่ได้ประมาณ 1 วันเศษๆ แน่นอนว่าถ้าไม่เปิดโหมดกล้องใช้งานหนักๆก็สามารถอยู่ได้เกิน 2 วันแน่นอน

ขอชม
- เลนส์ Carl Zeiss พร้อมกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับมัลติมีเดียครบครัน พร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
- การเชื่อมต่อที่มีมาให้ครบครัน สมกับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

ขอติ
- ด้วยความที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักมา ทำให้อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงในการพกพา
- เซนเซอร์ตรวจจับการเอียงหน้าจอทำงานได้รวดเร็วเกินไป แม้ขยับเครื่องเล็กน้อยก็เอียงแล้ว
- แฟลชที่ให้มาเป็น LED ยังสู่ความสามารถของแฟลช Xenon ไม่ได้

คุณสมบัติทั่วไปของ Nokia N86 8MP


ระบบเครือข่าย : GSM 850/900/1800/1900 MHz
รองรับ : GPRS/EDGE, HSDPA 3.6Mbps (900, 2100 เมกะเฮิร์ต)
หน้าจอ : AMOLED 16 ล้านสี ขนาด 2.6 นิ้ว (240 x 320 พิกเซล)
ขนาดตัวเครื่อง : 103.4 x 51.4 x 16.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 149 กรัม
หน่วยความจำภายใน : 8 GB
หน่วยความจำภายนอก : รองรับ MicroSD สูงสุด 16 GB
เสียงเรียกเข้า : Polyphonic, MP3
กล้องด้านหลัง : 8 ล้านพิกเซล Carl Zeiss ออโต้โฟกัส พร้อมแฟลช Dual Power LED
กล้องด้านหน้า : มี (Video Call)
เครื่องเล่น MP3 Player : มี
วิทยุ FM Radio : มี
เชื่อมต่อ : บลูทูธ 2.0, microUSB 2.0, Wi-Fi 802.11 b/g และช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.
ระบบค้นหาตำแหน่ง : มี
แบตเตอรี่ : Li-ion 1200 mAh

สำหรับราคาเปิดตัวของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 18,040 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Company Related Links :
Nokia







แม้ถ่ายในสภาพแสงน้อย แต่ได้ยังรายละเอียดชัดเจนดี

ภาพถ่ายจากโหมดพาโนรามา ที่ผู้ใช้เพียงแค่เลื่อนมือไปตามแนวภาพเท่านั้น


ถ่ายในที่มืด มีเพียงแสงจากบริเวณต้นไม้เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น