xs
xsm
sm
md
lg

Review: HTC HD2 จอใหญ่ เร็ว รับความบันเทิงเต็มรูปแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ถ้ามีใครถามว่าสมาร์ทโฟนรุ่นไหนเร็วและลื่นที่สุดในตอนนี้ คงตอบได้ไม่ยากว่า เอชทีซี HD2 เป็นมือถือที่เร็วและลื่นไหล พร้อมใช้งานมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากในตลาดสมาร์ทโฟนปี 2552 ที่ผ่านมา มีเครื่องที่ใช้ซีพียู 1GHz อยู่เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ทีมงานจึงยกได้ว่าเป็นมือถือที่เร็ว ใหญ่ และครบเครื่องที่สุดแห่งปีที่ผ่านมา

ความโดดเด่นทั้งขนาดหน้าจอ และความเร็วในการประมวลผลของ HD2 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ 1 ปี ทางเอชทีซี ได้ออกเครื่องรุ่นแรกที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 3.8 นิ้วในชื่อ HD มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่หน่วยประมวลผลยังคงเป็น 528MHz อยู่ ทำให้การตอบสนองไม่รวดเร็วเท่าที่ควร

การพัฒนาจากรุ่นเดิมมาเป็น HD2 นั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ดูเพรียวบางมากขึ้น ขนาดหน้าจอ 4.3 นิ้ว กล้องที่เพิ่มมาเป็น 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED ส่วนวัสดุและการประกอบยังคงเป็นไปตามมาตรฐานของเอชทีซีอยู่เช่นเดิม

Feature On HTC HD2

ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล วินโดวส์ โมบายของเอชทีซี ย่อมมีอินเตอร์เฟส ที่นำมาครอบตัววินโดวส์ โมบายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเครื่องรุ่นนี้ที่ใช้หน้าจอแบบ Capacitive ทำให้ต้องใช้นิ้วในการสัมผัสปุ่มต่างๆจึงควรจะใหญ่กว่าขนาดทั่วไปของวินโดวส์ โมบายอยู่แล้ว

จากเดิมที่เอชทีซีจะใช้อินเตอร์เฟสชื่อ Touch Flo 3D ในเครื่องรุ่นสูงๆ แต่เมื่อมาถึงรุ่น HD2 ได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น Sense เช่นเดียวกับในเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุดของเอชทีซีคือ Hero แม้ว่าชื่อจะเหมือนกัน แต่หน้าตาของอินเตอร์เฟสทั้ง 2 รุ่นนั้นมีจุดที่เหมือนกันเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น



เริ่มกันจากหน้าจอล็อกเครื่องตามสไตล์ของวินโดวส์ โฟนรุ่นใหม่ ที่ต้องใช้นิ้วสไลด์แถบล็อกออกทางซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าสู่หน้าจอหลัก นอกจากนี้แถบ Notifications สามารถเข้าใช้งานได้โดยการแตะบริเวณแถบด้านบนของเครื่อง ที่จะช่วยในการแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ สุดท้ายคือ Quick List ที่เข้าใช้โดยการกดปุ่มวางสายทิ้งไว้ สำหรับเลือกปิดเครื่อง ล็อกเครื่อง ตั้งระบบสั่น และยกเลิกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต



หน้าแรกสุด ผู้ใช้งาน Touch Flo 3D อยู่แล้วคงจะคุ้นเคยกับหน้าดังกล่าวเป็นอย่างดี แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นมานอกจาก นาฬิกาขนาดใหญ่ที่มีบอกสภาพอากาศแล้ว ส่วนกลางมีบอกวันที่พร้อมปฏิทิน ส่วนล่างเป็นปุ่มลัดสำหรับเรียกใช้งานโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำ

โดยผู้ใช้สามารถใช้นิ้วลากขึ้นเพื่อดูไอคอนลัดที่ผู้ใช้กำหนดเองได้ทั้งหมด 9 แอปพลิเคชันด้วยกัน นอกจากนี้เมื่อกดปุ่มเมนูซ้ายล่าง ยังสามารถเข้าไปเปลี่ยนพื้นหลัง ตั้งค่าแท็ปต่างๆ ลบไอคอนลัด ตั้งเวลา ตั้งการเชื่อมต่อกับพยากรณ์อากาศ และสุดท้ายคือแสดงอนิเมชันในแต่ละสภาพอากาศนั่นเอง





ส่วนแท็ปถัดๆมาอย่าง รายชื่อผู้ติดต่อ ข้อความสั้น อีเมล อินเทอร์เน็ต ตารางปฏิทิน ที่สามารถเลือกดูเฉพาะสิ่งที่ต้องทำได้ รูปภาพและวิดีโอ เครื่องเล่นเพลง แสดงสภาพอากาศ นั้นไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่นก่อนๆมากนัก



ที่น่าสนใจคือในโหมดรูปภาพและวิดีโอ กับ เครื่องเล่นเพลง ผู้ใช้สามารถเอียงเครื่องเพื่อให้ G-Sensor ทำงาน จะสามารถเลื่อนรูป / เพลงในแนวนอนได้ ช่วยอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น



แท็ปถัดมาอย่างทวิตเตอร์นั้นช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ต่อมาคือ Footprints ที่มีติดตั้งมาให้ตามปกติในเครื่องรุ่นหลังๆของเอชทีซี สุดท้ายคือแท็ป ตั้งค่า ที่ครอบคลุมการตั้งค่าต่างๆทั้งหมดของเครื่องแทนการตั้งค่าในวินโดวส์ โมบาย ก็ว่าได้



เมื่อเข้ามาในส่วนของตั้งค่า เริ่มจากการตั้งค่าการเชื่อมต่อ (Wireless Controls) สำหรับเปิด-ปิดการเชื่อมต่อในรูปแบบต่างๆ โดยมีเพิ่มเข้ามาคือ Wi-Fi Router เนืองจากเครื่องรุ่นนี้สามารถส่งสัญญาณไวไฟเพื่อแชร์อินเทอร์เน็ตได้ ถัดมาเป็น ตั้งค่าเสียงและหน้าจอ (Sound & Display) ที่เริ่มจากการตั้งค่าโปรไฟล์ต่างๆ ในส่วนของ Volume ใช้ปรับความดังของเสียงเรียกเข้าและเสียงแจ้งเตือนต่างๆ

Ring & Notifications สำหรับเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าและการแจ้งเตือน พิเศษตรงที่มีระบบ Quiet ring on pickup คือเมื่อมีสายเรียกเข้าและผู้ใช้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เสียงเรียกเข้าจะค่อยๆเงียบลง ถัดมาเป็นตั้งค่าความสว่างของหน้าจอ และปรับ G-Sensor



ในส่วนของการตั้งค่าความสว่างหน้าจอนั้น เมื่อเปิดโหมดปรับแสงอัตโนมัติผู้ใช้จะไม่สามารถปรับแสงได้ด้วยตนเอง ในกรณีที่ต้องการปรับจำเป็นต้องติ้กเอาปรับแสงอัตโนมัติออกก่อน นอกจากนี้ก็ยังมีการตั้งปิดหน้าจอตามเวลาเมื่อใช้แบตเตอรี่ และเมื่อเสียบเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือเสียบสายชาร์จนั่นเอง

ที่สำคัญคือในส่วนของ Data Services ที่ทำออกมาเพื่อลดอัตราเสี่ยงของ "EDGE รั่ว" ที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่รู้เท่าไม่ถึงการ ดังนั้นก่อนอื่นควรเข้าไปตั้งค่าให้ส่วนของ Stock และ Weather ไม่ทำการเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติเสียก่อน ส่วนล่างจะเป็นการเชื่อมต่อกับโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้อีกที่หนึ่ง



ถัดมาในส่วนของ Location เป็นการช่วยให้ตัวเครื่องจับสัญญาณ GPS ได้เร็วขึ้น รวมไปถึงในกรณีที่เครื่องหายผู้ใช้ยังสามารถใช้ระบบติดตามดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน (อนาคตสามารถใช้งานร่วมกับ My Phone ในการติดตามเครื่องหายได้) Security เป็นการตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆของเครื่อง รวมไปถึงในการล้างเครื่องหรือ Factory Reset (Hard Reset) Application เป็นหน้าสำหรับลบแอปพลิเคชันที่ติดตั้งเพิ่มเข้าไปในตัวเครื่อง



SD Card & Phone Storage แสดงพื้นที่การใช้งานต่างๆของเครื่องและไมโครเอสดีการ์ดที่ใส่อยู่ Date & Time ใช้ในการตั้งเวลาตามปกติทั่วไป สุดท้าย Other ประกอบไปด้วยการตั้งค่าการแสดงผลของข้อความสั้น เข้าสู่เทสก์เมเนเจอร์ ซิงค์ข้อมูลกับไมโครซอฟท์ มายโฟน และตั้งค่าการเชื่อมต่อ USB กับคอมพิวเตอร์นั่นเอง

Program And Setting



หน้าตาเมนูของวินโดวส์ โฟน อย่างที่รู้กันว่าได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบรังผึ้งแล้ว เพื่อช่วยให้สามารถใช้นิ้วในการสั่งงานได้ง่ายขึ้น โดยประกอบไปด้วย ตั้งค่า (Setting), ข้อความสั้น (HTC Messages), โทรศัพท์ (Phone), อีเมล (E-mail), อินเทอร์เน็ต เอ็กพลอเรอร์ (Internet explorer), รายชื่อผู้ติดต่อ (People), ปฏิทิน (HTC Calender), เครื่องเล่นเพลง (Music), โปรแกรมดูภาพ (Albums), ยูทูป (Youtube) และ Footprint

ถัดมาเป็น กล้อง (Camera), มัลติมีเดีย (Multimedia), กล้องบันทึกวิดีโอ (Camcoder), เกม (Games), Microsoft My Phone, Market Place, Windows Live, Office Mobile, Outlook, Messaging, Tools, Calls, File Explorer, Search Widget, Wi-Fi Router, Facebook, Google Maps, Opera และ Peep



เมื่อกดเข้ามาในส่วนของ มัลติมีเดีย จะประกอบไปด้วย Picture & Video, Audio Booster, Windows Media, MP3 Trimmer, Streaming Media และ FM Radio ส่วนใน Outlook ประกอบไปด้วย Contact, Notes,Calender และ Tasks ส่วน Messaging มีเพียง Messenger และ Mail Setup ไว้เป็นตัวช่วยในการตั้งค่าอีเมล



ใน Tools จะประกอบไปด้วยแอปพลิเคชันอีกมากมายได้แก่ Calculator, Comm Manager, Active Sync, Internet Sharing, QuickGPS, Search Phone, Voice Recorder, WorldCard Mobile, RSS Hub, Jetcet Print5, Remote Desktop, Jblend, Adobe Reader LE, Digital Compass และ Format SD Card



สำหรับแอปที่เพิ่มเข้ามาอย่าง Wi-Fi Router นั้น มีไว้เพื่อช่วยให้สามารถใช้เครื่องในการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากการเชื่อมต่อ EDGE/3G ผ่านทางไวไฟ ให้กับเครื่องลูกข่ายที่อยู่บริเวณรอบๆได้




ในการเข้าสู่หน้าจอตั้งค่าแบบปกตินั้นทำได้โดย กดปุ่ม เมนู ที่หน้าจอ Setting บนอินเตอร์เฟส Sense แล้วเลือก All Setting ก็จะพบกับหน้าจอการตั้งค่าตามปกติของวินโดวส์ โฟนที่คุ้นเคยกันดี



สุดท้ายมาดูในส่วนของฮาร์ดแวร์ภายในกันบ้าง เริ่มกันที่จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือ หน่วยประมวลผลที่ใช้ Qualcomm 8250B 1GHz Ram ขนาด 448 MB Rom 512 MB ส่วนเวอร์ชันของ ROM เป็น 1.48.707.2(71294)

Design of HTC HD2

ในส่วนของดีไซน์นั้น แรกเห็นหลายๆคนคงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "จะใหญ่ไปไหน" เนื่องจากความกว้างของหน้าจอที่ 4.3 นิ้ว ทำให้ขนาดของตัวเครื่องกว้างและยาวกว่าเครื่องทุกรุ่นในตลาดทีเป็นทัชสกรีนด้วยกัน ขนาดรอบตัวอยู่ที่ 120.5 x 67 x 11 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 157 กรัม ถือว่าหนักพอสมควรกันเลนทีเดียว เรื่องของรูปแบบนั้น ยังออกแนวเรียบๆสไตล์นักธุรกิจเสียส่วนใหญ่ ตัวเครื่องมีเพียงสีดำสีเดียวเท่านั้น



ด้านหน้า - ไล่จากบนสุด ที่มีช่องพาดยาวลวดลายคล้ายตะแกรงถี่ๆ แสดงพื้นที่ของลำโพงสนทนา โดยเยื้องไปทางฝั่งซ้ายเล็กน้อยจะมีไฟแสดงสถานะ เซ็นเซอร์ตรวจจับแสง และ Proximity sensor ที่เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้าเพื่อปิดหน้าจอขณะสนทนา

ถัดลงมาเป็นหน้าจอ Capacitive ทัชสกรีน ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด WVGA (480 x 800 พิกเซล) ระหว่างปุ่มกดและหน้าจอมีโลโก้ "hTC" สีเงินวางพาดอยู่กึ่งกลาง แถบปุ่มกดด้านล่างประกอบไปด้วย ปุ่มรับสาย ปุ่มกลับสู่หน้าแรก ปุ่มวินโดวส์ ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มวางสาย (ใช้ในการปิดหน้าจอ กดค้างเพื่อเข้าสู่ Quick List)



ด้านหลัง - ถูกออกแบบมาให้มีความเว้าขึ้นมาทำให้บริเวณส่วนกลางของเครื่องมีความหนามากกว่าขอบทั้งบน-ล่าง โดยไล่จากส่วนบนประกอบไปด้วย กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่ช่องลำโพงอยู่ทางซ้ายและแฟลช Dual LED อยู่ทางด้านขวา โดยเลนส์กล้องจะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องพอสมควร มาพร้อมกับขอบที่แข็งแรงเพื่อช่วยไม่ให้กระจกหน้ากล้องเกิดรอยได้ (ขอบมีความคมมากควรระมัดระวัง)

ตรงส่วนกลางเป็นฝาหลังของเครื่อง โดยบนฝาหลังมีตราโลโก้ "hTC" และตัวอักษรอธิบายว่า "With HTC Sense" ซึ่งเป็นชื่ออินเตอร์เฟสรุ่นใหม่ของเอชทีซี ทำการเปิดฝาหลังโดยการงัดจากด้านซ้ายของเครื่อง เปิดขึ้นมาจะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ขนาด 1,230 mAh ช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ตรงกลาง ส่วนช่องใส่ไมโครเอสดีอยู่ริมฝั่งซ้ายใกล้ๆกับปุ่มรีเซ็ต




ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มปรับระดับเสียงเท่านั้น ด้านขวา / ด้านบน - ถูกปล่อยให้ว่างไว้ ไม่มีปุ่มใดๆทั้งสิ้น ด้านล่าง - เป็นที่อยู่ของช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่องไมโครยูเอสบี สำหรับเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ที่มีช่องไมโครโฟนสนทนาอยู่ข้างๆ

บทสรุป

ด้วยราคาที่เปิดตัวมาที่ 28,500 พร้อมไมโครเอสดี 8GB ทำให้มองว่าเครื่องรุ่นนี้ไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับความสามารถที่ได้มา หลายคนอาจจะมองว่าราคาพอๆกับไอโฟน 3Gs แต่ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนที่ออกมาเจาะกลุ่มผู้บริหาร หรือนักธุรกิจระดับสูงมากกว่าวัยรุ่น ทำให้วินโดวส์ โฟนยังเป็นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานดังกล่าวอยู่ดี

HD2 รองรับการเชื่อมต่อ 3G ในคลื่นความถี่ 900/2100 MHz รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย ไวไฟ 802.11b/g บลูทูธ 2.1+EDR ระบบนำทางGPS ด้านมัลติมีเดียเริ่มกันที่กล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช Dual LED เชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม. วิทยุFM ส่วนฟีเจอร์เสริมอื่นๆอย่าง G-Sensor เข็มทิศดิจิตอล ก็ใส่มาให้เต็มที่

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือทางเอชทีซี พยายามพัฒนาให้เครื่องสามารถรองรับการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้อย่างลงตัว ด้วยการเพิ่มความสามารถให้ผนวกรายชื่อผู้ติดต่อเข้ากับข้อมูลบุคคลในเฟสบุ๊กได้ รวมไปถึงเข้าไปดูรูปในเฟสบุ๊กได้ทันทีจาก Albums รูปภาพภายในเครื่อง เช่นเดียวกับในแอนดรอยด์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ส่วนทวิตเตอร์ก็เช่นเดียวกัน ผู้ใช้สามารถพิมพ์ส่งสถานะ อ่านข้อมูล อัปโหลดรูปภาพได้ทันทีเช่นเดียวกัน

การใช้งานอีกอย่างที่ทำได้ดีคือการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์อย่างโอเปร่า ที่ถือว่าแสดงผลได้รวดเร็วขึ้นกว่าเครื่องรุ่นเดิมๆมาก รวมไปกับความสามารถด้านมัลติทัช ที่ช่วยให้ซูมเข้า-ออก ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และการรับชมภาพยนตร์ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับขนาดหน้าจอ ที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

สุดท้ายคือเรื่องของการใช้งานโทรศัพท์ การตัดเสียงทำได้ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ปัญหาสำคัญที่พบเจอคือเรื่องของแบตเตอรี่ เมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือรับชมภาพยนตร์ ในระยะเวลานาน ทำให้แบตเตอรีอยู่ไม่ถึงวัน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าซีพียู 1GHz นั้นกินไฟพอสมควร แต่ในกรณีที่ ใช้งานเครื่องในการสนทนา กลับไม่ค่อยกินแบตเตอรีมากนัก เนื่องจากอยู่ในโหมดพักหน้าจอนั่นเอง

ขอชม
- หน้าจอ Capacitive ขนาด 4.3 นิ้ว ที่รองรับมัลติทัช
- ความเร็วในการตอบสนองที่ทำให้ลืมจุดอ่อนของวินโดวส์โฟนไปเลย
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และคุณภาพของเสียงจากลำโพงที่ตัวเครื่องอยู่ในเกณฑ์ดี

ขอติ
- ขนาดของเครื่องใหญ่เกินไปทำให้พกพาไม่สะดวก
- ไม่มีกล้องวิดีโอคอล แม้จะรองรับเครือข่าย 3G
- แบตเตอรีใช้งานได้ไม่ถึงวันกรณีที่ใช้งานหนักๆ

ปิดท้ายด้วยวิดีโอ เปรียบเทียบระหว่าง HTC Hd2 กับ iPhone 3Gs


Company Related Links :
HTC












กำลังโหลดความคิดเห็น