xs
xsm
sm
md
lg

Review : HTC Hero ยกระดับแอนดรอยด์สู่ความสมบูรณ์แบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




เอชทีซี ฮีโร่ ถือเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สมบูรณ์แบบเครื่องแรกที่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศ ซึ่งทางเอชทีซีได้นำอินเตอร์เฟสที่ชื่อ Sense มาครอบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น กว่าแอนดรอยด์แบบดั้งเดิมในรุ่นเก่าอย่าง เอชทีซี เมจิกส์

แต่กระนั้นยังคงต้องบอกว่าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ยังคงเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับคนไทย เนื่องจากยอดผู้ใช้งานในประเทศไทยปัจจุบันยังคงอยู่ในหลักหมื่นเท่านั้น จากยอดจำหน่ายของเอชทีซี เมจิกส์ในช่วงที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ทำให้แอนดรอยด์ยังไม่ค่อยได้รับความนิยม อาจจะเป็นเพราะยังเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่ผู้ใช้ยังไม่รู้จัก เลยไม่กล้าที่จะเสียเงินในระดับ 2 หมื่นกว่าบาทเพื่อหามาลองใช้งาน

อนาคตหลังจากที่เอชทีซีเริ่มทำตลาดในด้านนี้ไปแล้ว รายต่อไปที่กำลังจะมีการเปิดตัวเห็นจะเป็นซัมซุง ที่กำลังรอฤกษ์งามยามดีในช่วงงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือที่กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆนี้ ส่วนในช่วงต้นปีหน้าไม่แน่อาจจะได้เห็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์บนเครื่องภายใต้แบรนด์โซนี อีริคสันก็เป็นได้

ส่วนผู้ที่กำลังรอเครื่องแอนดรอยด์ราคาประมาณหมื่นต้นๆ อดใจรอปลายเดือนนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์จากทางเอชทีซี ที่กำลังจะนำเอชทีซี Tatoo (คลิก หรือ โดนัท) ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือสำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

Feature On HTC Hero



ความโดดเด่นของแอนดรอยด์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ความง่ายในการใช้งาน ยิ่งมารวมกับเจ้าพ่อสมาร์ทโฟนที่มีการพัฒนายูสเซอร์อินเตอร์เฟสอย่างเอชทีซีแล้ว Sense ถือเป็นหน้าจอหลักที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ ที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ตามสไตล์ของแต่ละคนกันเลยทีเดียว

วิดีโอสาธิตการตอบสนองของ HTC Hero




โดยหน้าจอของอินเตอร์เฟสในชื่อ Sense นั้นมีมาให้เลือกในวิดเจ็ตกันถึง 7 หน้าด้วยกัน นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถบันทึกการจัดหน้าวิดเจ็ตต่างๆเป็น Scene ในการใช้งานตามแต่ลักษณะของแต่ละบุคคลได้อีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจรายละเอียดของวิดเจ็ตต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 18 หมวดให้เลือกสามารถกดไปดูได้ที่นี่

จุดสำคัญนอกจากวิดเจ็ตแล้วทีมงานให้ความสนใจไปในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมต่างๆอย่าง ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊กและ Flickr ได้อย่างสมบูรณ์แบบในการอัปเดตสถานะผู้ใช้ รูปภาพ รายชื่อผู้ติดต่อภายในเครือข่ายสังคม ซึ่งอำนวยความสะดวกในการใช้งานให้กับผู้ใช้เป็นอย่างมาก



เริ่มกันที่ทวิตเตอร์ ที่ทางเอชทีซีนำแอปพลิเคชันที่ชื่อ Peep เข้ามาใช้ร่วมกับอินเตอร์เฟสของตนเอง ซึ่งผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความสั้นขึ้นบนทวิตเตอร์ได้ทันที นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปตอบกลับข้อความต่างๆได้อีกด้วย ส่วนการแสดงผลเป็นไปตามปกติ สามารถคลิกลิงก์เพื่อเปิดเบราว์เซอร์ได้ทันที



เมื่อกดปุ่มเมนู จะแสดงแถบเครื่องมือต่างๆขึ้นให้ได้แก่ รีเฟรช เขียนข้อความสั้นใหม่ ส่งข้อความ อัปเดตสถานที่ แก้ไขข้อมูลส่วนตัว และเข้าสู่หน้าการตั้งค่า ซึ่งมีให้ตั้งค่าชื่อผู้ใช้ การตั้งค่าทั่วไป ตั้งเวลาการรับ-ส่งข้อมูล บริการอัปโหลดรูปภาพและสถานที่ และสุดท้ายคือตั้งค่าการเตือนต่างๆ



ถัดจากทวิตเตอร์ มาดูกันที่เฟสบุ๊กบ้าง อันแรกคือผู้ใช้สามารถเข้าไปดูรูปภาพของเพื่อนในเฟสบุ๊กได้จากการเข้า Albums รูปภาพทั่วไป เลือกโลโก้ตัว F หลังจากนั้น จะมีรายชื่อเพื่อนในเฟสบุ๊กปรากฏขึ้นมา ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกดูอัลบั้มรูปภาพ ของเพื่อนๆในเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ทันที ซึ่งความเร็วในการดาวน์โหลดนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย (สามารถใช้กับ Flicker ได้เช่นเดียวกัน)



เมื่อเข้าไปดูในรายชื่อผู้ติดต่อ (People) จะเห็นว่ามีการซิงค์ข้อมูลจากในเฟสบุ๊กมาเรียบร้อย (ผู้ใช้สามารถตั้งได้) เมื่อกดเข้าไปในรายชื่อนั้นๆ จะปรากฏสถานะล่าสุดที่เพื่อนแต่ละคนเขียนไว้ รวมไปถึงการแจ้งเตือนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถ้าเพื่อนมีการตั้งไว้ ซึ่งในส่วนนี้ก็สามารถเข้าไปดูอัลบั้มรูปต่างๆและข้อมูลส่วนตัวของเพื่อนในเฟสบุ๊กได้อีกด้วย



ถัดมาคือความสามารถในการรับ-ส่งอีเมล ก็ไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นแต่อย่างใด เนื่องจากด้วยความที่เป็นแอนดรอยด์ ความง่ายในการใช้งานยังคงมาเป็นอันดับหนึ่ง เพียงแค่ผู้ใช้กรอกบัญชีอีเมลและรหัสผ่าน ตัวแอปพลิเคชันจะทำการตั้งค่าให้โดยอัตโนมัติ

โดยในส่วนของหน้าจออีเมลจะประกอบไปด้วยหน้า Inbox แสดงอีเมลที่เข้ามาใหม่ตามปกติ ถัดมาเป็น Conversations สำหรับดูย้อนหลังว่ามีการรับ-ส่งอีเมลอะไรบ้างจากรายชื่อนี้ สุดท้ายคือ Attachments ในการแสดงว่าได้มีการดาวน์โหลดไฟล์แนบอะไรมาบ้าง (สามารถเลือกโหลดได้ในหน้าจออ่านอีเมล)

เมื่อกดปุ่มเมนูดู ก็จะมีแถบเครื่องมือขึ้นมาให้เลือกว่า จะทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ จัดเรียงอีเมล พิมพ์อีเมลใหม่ จัดการโฟลเดอร์ ลบอีเมล และอื่นๆคือส่วนของการตั้งค่า



ในส่วนของตั้งค่าอีเมลประกอบไปด้วย การตั้งบัญชีผู้ใช้ ตั้งค่าทั่วไป เช่น ขนาดตัวอักษร ลายเซ็นภายในอีเมล บันทึกไฟล์แนบลงที่ไหน ตั้งให้มีการเตือนก่อนลบ ส่วนการตั้งค่ารับ-ส่งอีเมลประกอบไปด้วย การกำหนดขนาดอีเมล ตั้งค่าความถี่ในการดาวน์โหลด จำกัดการดาวน์โหลดอีเมลย้อนหลัง การตอบกลับให้ส่งต้นฉบับกลับไปด้วยหรือไม่ ลบเมลในเซิร์ฟเวอร์ และตั้งค่าให้เวลาส่งเมลต้อง bcc เข้าเมลตนเองด้วย




ซึ่งการตั้งค่าการดาวน์โหลดอีเมลย้อนหลัง สามารถเลือกได้ว่าจะให้เป็นจำนวนวัน คือ เฉพาะวันนี้ 3 วัน, 7วั น, 14 วัน หรือ1 เดือน และกำหนดเป็นจำนวนอีเมล ต่อมาคือการกำหนดการรับ-ส่งที่สามารถเลือกได้ว่าเป็นแบบ กำหนดเอง ทุกๆ 5, 10, 15, 30 นาที 1, 2, 4 ชั่วโมง และทุกวัน ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกในกรณีที่ไม่ได้เปิดบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัดชั่วโมงไว้ ส่วนการแจ้งเตือนสามารถตั้งได้ว่าให้เป็นเสียง หรือสั่นก็ได้

ในรุ่นของเอชทีซี เมจิกส์ ที่เคยรีวิวไปนั้นมีบริการของกูเกิลเพียงแค่ Gmail, Google Search และ Youtube แต่ในเอชทีซี ฮีโร่ที่กำลังจะออกมาวางจำหน่ายนั้น สามารถใช้บริการ GMS ได้แบบเต็มๆ โดยที่เพิ่มมาคือ Google Maps, Googla Talk, Google Street View, Market Place และ Sync (ในอนาคตผู้ใช้เมจิกส์ สามารถนำเครื่องไปอัปเกรดให้ใช้บริการ GMS ได้ฟรี)

ดังนั้นมาดูถึง การเข้าใช้งานแอนดรอยด์มาเก็ต (Android Market) ที่มีไว้ให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ที่ดีและฟรีมากมาย โดยเบื้องต้นทีมงานได้เคยแนะนำ "10 แอปฯ เรียกน้ำย่อยจากแอนดรอยด์มาร์เก็ต" ไปแล้ว ผู้สนใจสามารถย้อนกลับไปอ่านกันได้



โดยเมื่อเข้ามาภายใน แอนดรอยด์มาเก็ต จะเจอหน้าจอหลักสำหรับเลือกว่าจะเข้าสุ่การดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน เกมส์ ค้นหาแอปฯ และ แอปฯที่ดาวน์โหลดมาแล้ว เมื่อเข้ามาภายในผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าให้แสดงรายชื่อแอปฯ ตามมความนิยม หรือ แอปที่ใส่เข้ามาล่าสุด



ส่วนในกรณีใช้การค้นหา จะมีหมวดของแอปฯขึ้นมาให้เลือก ได้แก่ ทั้งหมด การติดต่อสื่อสาร ความบันเทิง ไฟแนนซ์ ไลฟ์สไตล์ มัลติมีเดีย ข่าวและพยากรณ์อากาศ ผลิตภัณฑ์ อ้างอิง ชอปปิ้ง เครือข่ายสังคม เครื่องมือ ท่องเที่ยว ส่วนของเกมก็มีแบ่งเช่นเดียวกันคือเป็น Arcade & Action, Brain & Puzzle, Card & Casino และ Casual



บริการต่อมาคือ Google Maps ที่ฝั่งความสามารถของ Google Latitude มาพร้อมกัน หลักการใช้งานของกูเกิลแมป แทบจะไม่ต่างจากในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆที่มีบริการเสริมในส่วนนี้มาให้ โดยความโดดเด่นที่เพิ่มเข้ามาคือบริการ Street View ซึ่งเมื่อใช้ร่วมกับเข็มทิศดิจิตอล จะทำให้สามารถมองเห็นมุมมองตามทิศทางจริงได้ทันที แต่น่าเสียดายที่บริการดังกล่าวยังไม่สามารถใช้ได้ในประเทศไทย ทั้งนี้ถ้าอยากทดลองใช้จริงๆ ผู้ใช้ก็สามารถไปเดินเล่นที่ลอนดอนโดยการเล่นผ่านโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน

จุดเด่นของบริการ Latitude ของกูเกิลคือการบอกตำแหน่งสถานที่ของเพื่อนๆ ที่ใช้บริการนี้เช่นเดียวกันว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ซึ่งในการใช้งานจำเป็นต้องมีการเพิ่มรายชื่อเข้าไปก่อน ส่วนคุณผู้ชายทั้งหลายที่ไม่ต้องการให้แฟนหรือภรรยารู้ว่าไปอยู่จุดใด ผู้ใช้สามารถกำหนดจุดสมมติในโปรแกรมได้เองเช่นกัน (แต่ทีมงานไม่แนะนำให้ทำนะครับ)

ส่วนบริการนำทางนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่า จะใช้รูปแบบการเดินทางแบบใด ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ รถโดยสาร หรือเดินเท้า เพียงแค่กำหนดจุดเริ่มต้น และปลายทางสถานที่ ซึ่งในจุดนี้ต้องยอมรับว่าแผนที่ของกูเกิลในประเทศไทยละเอียดขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากหลังจากมีการอัปเดตครั้งใหญ่ที่ผ่านมา



อีกโปรแกรมที่ใช้ความสามารถของกูเกิลแมป คือ บริการ Footprints ที่ทางเอชทีซีเคยนำมาใส่ในเครื่องรุ่น Touch Cruise'09 ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายๆกัน คือ ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปสถานที่พร้อมบันทึกพิกัด GPS ไว้ รวมไปถึงสามารถใส่ข้อมูลรายละเอียดต่างๆไว้ได้ด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้นถ้าต้องการส่งให้เพื่อน เพื่อเดินทางมาจุดเดียวกัน หรือใช้ในกรณีต้องการเดินทางไปยังสถานที่เดิมที่บันทึกไว้ ก็สามารถเปิดขึ้นมาเพื่อให้โปรแกรมนำทางไปได้ทันที ซึ่งในที่นี้จะใช้บริการนำทางของกูเกิลแมปนั่นเอง



ส่วนการดูยูทูป เพียงแค่เข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชันในหน้าโปรแกรม ก็จะเข้าสู่หน้าจอหลักซึ่งสามารถกดปุ่ม ค้นหา เพื่อทำการค้นหาวิดีโอได้ทันที โดยในหน้าจอขณะรับชมนั้นผู้ใช้สามารถที่จะบันทึกไว้เป็นวิดีโอโปรด ดูรายละเอียดของวิดีโอ แชร์วิดีโอให้เพื่อนๆ ให้คะแนนวิดีโอ ส่งคอมเมนต์ และเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่า ส่วนปุ่มคำสั่งก็มีทั่วๆไปคือ ปุ่มเล่น/หยุด ฟอร์เวิร์ด รีเวิร์ด และขยายหน้าจอ



ในหน้าจอการใช้งานโทรศัพท์มือถือ สามารถเข้าใช้งานได้ด้วยการกดปุ่มรับสาย หรือเข้าแอปฯPhoneในเครื่อง โดยปุ่มกดมีขนาดใหญ่ สามารถใช้นิ้วกดได้อย่างสบายๆ ปุ่มกดรับสาย-วางสาย แสดงด้วยสีเขียวและสีแดงตามลำดับ ซึ่งถ้าไม่ต้องการกดที่หน้าจอก็สามารถใช้ปุ่มที่ตัวเครื่องได้เช่นเดียวกัน

Program And Setting



โปรแกรมที่มีมาให้ในเครื่องเบื้องต้นจะประกอบไปด้วย 29 แอปพลิเคชัน ไล่ตั้งแต่ AK Notepad สมุดจดโน้ตสารพัดประโยชน์ อัลบั้มสำหรับดูรูปภาพ เบราว์เซอร์ เครื่องคิดเลข ตารางนัดหมาย บันทึกวิดีโอ กล้อง นาฬิกา Footprint Gmail Google Maps Google Talk Java Mail แอนดรอยด์มาเก็ต

Massages ในการดูข้อความสั้นรวมไปถึงข้อมูลอัปเดตในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เครื่องเล่นเพลง โปรแกรมอ่านไฟล์PDF Peep แอปฯสำหรับทวิตเตอร์ People หรือรายชื่อผู้ติดต่อโทรศัพท์ โปรแกรมจัดการไฟล์เอกสาร ตั้งค่า ข้อมูลหุ้น เกม Teeter บันทึกเสียง พยากรณ์อากาศ และโปรแกรมดูยูทูป




มาดูกันในโปรแกรมเล่นเพลง หน้าจอเครื่องเล่นเพลงสามารถเลื่อนไปมาเพื่อเลือกเพลงที่ต้องการได้ โดยถ้ามีปกอัลบั้มก็จะมีการแสดงขึ้นมาด้วย ส่วนปุ่มควบคุมไล่จากซ้ายประกอบไปด้วย รายชื่อเพลง ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มเล่น/หยุด ปุ่มไปข้างหน้า และข้อมูลของเพลง สามารถเลือกโหมดการเล่นได้ 2 วิธี คือ กดบริเวณมุมซ้าย-ขวาบน หรือกดปุ่มเมนูเพื่อเลือกก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ถ้ากดตั้งเป็นเพลงสำหรับสายเรียกเข้ายังมีให้เลือกว่า จะตั้งเป็นเพลงสำหรับโทรศัพท์ทั้งหมด เพลงสำหรับรายชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และนำไปตัดเสียงเพลงรอสายก็ได้เช่นเดียวกัน



Stock หรือโปรแกรมดูหุ้นนั้น ใช้บริการจาก Yahoo Finance เป็นแอปพลิเคชันสำคัญสำหรับนักเล่นหุ้นก็ว่าได้ เนื่องจากสามารถใช้ในการดูข้อมูลของหุ้นแต่ละตัวย้อนหลังได้เป็นเวลา 2 ปี พร้อมอัปเดตราคาซื้อขาย ณ ปัจจุบันให้ดูกันด้วย



Voice Recorder เป็นโปรแกรมบันทึกเสียง ที่เพิ่มเอกลักษณ์ขึ้นมาในส่วนของแถบบ่งบอกความดังของเสียงขณะบันทึกเป็น เดซิเบล ทำให้ผู้ใช้สามารถรู้ได้ว่าเสียงที่บันทึกดังพอหรือไม่ โดยหลังจากบันทึกเสียงก็สามารถตั้งให้เป็นเสียงเรียกเข้าได้ทันทีอีกด้วย



สำหรับหน้าจอของพยากรณ์อากาศ ผู้ใช้เอชทีซีเองคงคุ้นเคยกันดีเพราะมีบริการมาให้ตั้งแต่ เอชทีซีเริ่มพัฒนาอินเตอร์เฟส TouchFLO ซึ่งหลักการทำงานก็คล้ายๆกัน ผู้ใช้สามารถเพิ่มสถานที่ รวมถึงกำหนดการอัปเดตข้อมูลได้ด้วยตนเองตามปกติ




ในส่วนของการตั้งค่ามีส่วนที่แตกต่างเอชทีซี เมจิกส์อยู่เพียงเล็กน้อยคือ ในส่วนของ Personalize ที่ใช้สำหรับปรับแต่งหน้าจอหลักตาม Scene รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลังและเสียงเรียกเข้า ตามแต่ละรูปแบบการใช้งาน สำหรับ Location ก็มีคำสั่งเพิ่มเข้ามาให้เลือกคือ ผู้ใช้สามารถเปิด-ปิดการใช้งาน GPS ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และการใช้งาน GPS ซึ่งถ้าปิดการทำงานจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้

นอกจากนี้ คือการตั้งค่าเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในที่นี้มีเพียงแค่ เฟสบุ๊ก Flickr และทวิตเตอร์เท่านั้น ส่วนเฟิร์มแวร์ที่ใช้ในเครื่องรุ่นนี้จะเป็น 1.5 เครื่องที่นำมาทดสอบใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชัน 1.0.0.A6288 ซึ่งยังมีบางอย่างไม่สมบูรณ์



อีกสิ่งหนึ่งที่มีเข้ามาในเครื่องรุ่นนี้ คือ Phone Options ที่ผู้ใช้สามารถกดปุ่มวางสายค้างไว้จากหน้าจอแรก ในการเข้ามาตั้งค่าปิดเสียง เปิดระบบสั่น เปิดใช้งานไฟล์ทโหมด และ การเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (เปิด-ปิดการใช้งาน EDGE/GPRS สำหรับผู้ที่ไม่ได้เปิดใช้งานแบบไม่จำกัดชั่วโมง)

สำหรับอุปกรณ์ภายในไล่ตั้งแต่หน่วยประมวลผลที่ใช้คือ Qualcomm MSM7200A 528MHz Rom ขนาด 512 MB RAM ขนาด 288 MB ซึ่งเห็นได้ว่า ซีพียูรุ่นนี้ได้ถูกนำมาใช้ในเอชทีซี เมจิกส์ ด้วยเช่นเดียวกันดังนั้นใครที่มีเครื่องเดิมอยู่แล้ว เพียงแค่นำไปอัปเกรด ROM ใหม่ในหลังจากที่ทางเอชทีซีได้วางจำหน่ายฮีโร่แล้ว เครื่องของเท่าคงจะมีความเร็วในการตอบสนองพอๆกัน

Design of HTC Hero



เรื่องของดีไซน์ของเครื่องรุ่นนี้ถือว่าได้รับการพูดถึงกันพอสมควรว่า จะมีส่วนงอตรงบริเวณปลายเครื่องทำไม ซึ่งทางเอชทีซีให้ข้อมูลมาว่า เพื่อให้ตัวเครื่องรับเข้ากับใบหน้าเพื่อช่วยให้เสียงสนทนาชัดเจน (ผลวิจัยจากทางกูเกิล) แต่ในความเห็ของผมนั่นกลับคิดว่า การที่มีส่วนงอตรงปลายขึ้นมา ทำให้สามารถใช้มือเพียงข้างเดียวในการสั่งงานได้ เนื่องจากดีไซน์ตอบรับกับฝ่ามือ ไม่ทำให้เครื่องลื่นไหล

ตัวเครื่องออกเป็นแนวสี่เหลี่ยม ลบมุม วัสดุที่ใช้เป็นโพลิททราฟลูโอโรอีธิลีน เคลือบสารเทฟลอนบริเวณขอบเครื่องในส่วนที่เป็นสีเทา ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่มีคุณภาพตามสไตล์ของเอชทีซี ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 112 x 56.2 x 14.35 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 135 กรัม วางจำหน่าย 2 สี คือสีขาวและสีน้ำตาล



เริ่มกันที่ด้านหน้า - ส่วนบนสุดเป็นลำโพงสนทนาเป็นแนวยาว ลวดลายตะแกรงเหล็กพร้อมไฟแสดงสถานะทั้งฝั่งซ้ายและขวา ถัดลงมาเป็นโลโก้ "hTC" สำหรับหน้าจอที่ใช้เป็นจอทัชสกรีนแบบ Capasitive ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด HVGA (320 x 480 พิกเซล) ทำให้เวลาใช้งานจำเป็นต้องใช้บริเวณปลายนิ้ว ไม่สามารถใช้เล็บหรือปากกาจิ้มได้



บริเวณปุ่มควบคุมด้านล่างประกอบไปด้วย ปุ่มรับสาย ปุ่มกลับหน้าแรก ปุ่มเมนู ปุ่มวางสาย (ใช้สำหรับล็อกหน้าจอและเปิด-ปิดเครื่อง รวมถึงเข้า Phone Option) ถัดลงมาเป็นแทร็กบอลอยู่ตรงกลาง และปุ่มค้นหา กับปุ่มย้อนกลับอยู่ทางด้านขวา



ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มปรับระดับเสียงอยู่บริเวณมุมบนเท่านั้น ซึ่งถัดลงมาจะมีตัวอักษรเขียนว่า "hTC INNOVATION" ติดอยู่ บ่งบอกว่าเป็นเครื่องที่มีความล้ำสมัยเช่นเดียวกับเครื่องรุ่นแรกที่มีติดอยู่คือ Touch Diamond



ด้านขวา - ถูกปล่อยให้โล่งไว้ สังเกตได้ว่าไม่มีปุ่มกล้องเหมือนในเมจิกส์ และทัช ไดมอนด์2 ทำให้เวลาใช้งานกล้องต้องใช้ปุ่มแทร็กบอลในการกดชัตเตอร์แทน ทำให้ไม่สามารถกดเพื่อให้กล้องออโต้โฟกัสเพื่อดูได้



ด้านล่าง - มีพอร์ตมินิยูเอสบี ตามแบบฉบับของเอชทีซีเช่นเดิมใช้ในการเสียบสายชาร์จและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้านบน - มาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำหูฟังทั่วๆไปมาเสียบใช้งานได้ทันที



ด้านหลัง - ส่วนบนเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมระบบออโต้โฟกัส แต่ยังคงไม่มีแฟลชมาให้ ซ้ายมือของกล้องมีช่องลำโพงอยู่ ส่วนตรงกลางมือตัวอักษรบอกคุณสมบัติของกล้อง บริเวณกลางเครื่องมีสัญลักษณ์ "hTC" และช่องสำหรับร้อยสายโทรศัพท์



ถ้าสังเกตจะพบว่าบริเวณส่วนที่มีการงอนั้นจะถูกถูไปกับโต๊ะ และทำให้เกิดรอยได้ง่าย ดังนั้นควรระมัดระวังในการใช้งานด้วยเมื่อแกะฝาหลังออกจะพบกับแบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 1350 mAh ช่องใส่ซิมจะอยู่ใต้แบตฯ ส่วนช่องเสียบไมโครเอสดีการ์ดอยู่ทางด้านขวา

บทสรุป

ยังคงต้องบอกเหมือนเดิมว่าแอนดรอยด์ยังเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่ยังมีผู้ใช้น้อย ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ค่อยน่าสนใจสำหรับบุคคลทั่วไปสักเท่าไหร่ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ความสามารถในการใช้งานพอสมควร ซึ่งผู้ทีได้ทดลองใช้ส่วนใหญ่จะติดใจกันได้ง่ายๆ จากความง่ายและความสามารถในการปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้

อินเตอร์เฟสการใช้งาน Sense ช่วยทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงการใช้งานแอนดรอยด์ได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าความสวยงามและความเร็วในการตอบสนองของฮีโร่ ได้พัฒนาขึ้นมาจากเมจิกส์พอสมควร แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถนำไปเทียบกับเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายผลไม้ได้ แต่เชื่อว่าในอนาคตถ้ามีการพัฒนามากขึ้น เจ้าพ่อเสิร์จเอนจิ้นกับค่ายผลไม้จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญเลยก็ได้

ตัวเครื่องรองรับการใช้งานบนเครือข่าย GSM 850/900/1800/1900MHz ส่วน HSPA ที่ 900/2100MHz การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g บลูทูธ 2.0 รองรับ A2DP+EDR GPSภายในตัวพร้อมระบบเข็มทิศดิจิตอล จีเซ็นเซอร์ กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ซึ่งเรียกได้ว่ามาครบตามมาตรฐานทั่วไปของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ส่วนสิ่งที่พิเศษขึ้นมา คือ หน้าจอทัชสกรีนแบบ capacitive สามารถรองรับการใช้งานแบบมัลติทัชได้

ด้านการใช้งานเสียงสนทนาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เบาจนเกินไป เสียงเรียกเข้าดังพอสมควร แต่ในเรื่องของระยะเวลาการใช้งาน เมื่อทดลองใช้งานหนักๆอาจจะต้องชาร์จกันวันต่อวันเลยทีเดียว ยิ่งถ้ามีการเปิดใช้งาน GPS ควบคู่ไปด้วยจะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน แต่ทั้งนี้เครื่องที่ทีมงานได้มาทดสอบยังคงเป็นโปรโตไทป์ซึ่งให้แบตฯขนาด 1100 mAh แต่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงจะเป็นแบตเตอรี่ขนาด 1350mAh

วันวางจำหน่ายที่ทางเอชทีซีประกาศล่าสุดนั้น คือ ช่วงกลางเดือนกันยายน หรือประมาณวันที่ 15 ที่จะถึงนี้ โดยราคาค่าตัวของ เอชทีซี ฮีโร่ อยู่ที่ 22,900 บาท เรียกได้ว่าถูกกว่าราคาเปิดตัวของเอชทีซี เมจิกส์ (ราคารวมโปรโมชัน EDGE/GPRS จากเอไอเอส) เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งราคาปัจจุบันลงไปอยู่ที่ 19,900 บาท ซึ่งทางเอชทีซีประกาศไว้ว่าผู้ที่ซื้อเมจิกส์ไปสามารถนำเครื่องไปอัปรอมภายในให้สามารถใช้งาน GMS ได้เช่นเดียวกับเอชทีซี ฮีโร่ ในช่วงปลายเดือนที่จะถึงนี้ตามศูนย์บริการของเอชทีซี

ขอชม
- ดีไซน์แปลกแนว ที่เหมาะกับการใช้งาน / ผิวของวัสดุเคลือยเทฟลอน ช่วยกันรอยขีดข่วน / ตัวเครื่องตอบสนองการใช้งานที่รวดเร็ว
- สามารถใช้งาน GMS ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอปฯเพิ่มจากแอนดรอยด์มาร์เก็ตได้
- เว็บเบราว์เซอร์รองรับการใช้งานแฟลช / เชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ทันที

ขอติ
- กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมระบบออโต้โฟกัส แต่ยังคงไม่มีแฟลช
- เครื่องรุ่นสีน้ำตาล ไม่มีการเคลือบสารเทฟลอนที่พื้นผิว
- ไม่สามารถส่งไฟล์ผ่านบลูทูธได้ (จำเป็นต้องใช้แอปฯเสริมในการส่งไฟล์)

Company Related Links :
HTC











HTC Sense




อย่างที่บอกไว้แล้วว่าอินเตอร์เฟสการใช้งานของ HTC Sense ถือเป็นจุดเด่นสำคัญที่สุด ที่ทำให้ผู้ใช้เอชทีซี ฮีโร่ ภูมิใจ เนื่องจากผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอได้ตามความต้องการของตนเอง เรียกได้ว่าอยากให้วิดเจ็ตอะไรอยู่ตรงไหนก็สามารถกำหนดได้ จากหน้าจอที่แตกต่างกันถึง 7 หน้า ไม่นับรวมกับอีกหลากหลาย Scene ที่สามารถกำหนดได้เช่นเดียวกัน



เริ่มจากในหน้าของการล็อกหน้าจอ ในการปลดล็อกต้องใช้นิ้วลากบริเวณตัวเลขนาฬิกาลงมาข้างล่าง ซึ่งในกรณีที่เปิดฟังเพลงอยู่ ผู้ใช้สามารถดูได้ว่าขณะนี้กำลังฟังเพลงอะไรอยู่ รวมไปถึงสามารถเปลี่ยนเพลงได้ทันทีโดยไม่ต้องปลดล็อกเพื่อเข้าไปเปลี่ยนภายในโปรแกรม ถือเป็นการอำนวยความสะดวกแก้ผู้ที่ชื่นชอบในเสียงเพลง



ในการปรับแต่งหน้าจอนั้น ผู้ใช้สามารถกดปุ่มเมนูที่หน้าจอเพื่อเรียกแถบเมนูขึ้นมา ซึ่งจะมีให้เลือกว่าต้องการเข้าสู่โปรแกรมทั้งหมด เลือก Scenes ที่ต้องการ เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ เปลี่ยนภาพพื้นหลัง เข้าสู่หน้าจอการแจ้งเตือน และตั้งค่าตัวเครื่อง หรือเพียงแค่กดปุ่ม + ตรงมุมขวาล่างก็สามารถเข้าสู่หน้าจอการเพิ่มวิดเจ็ตได้เช่นเดียวกัน

ส่วนของ Scene ทางเอชทีซีมีมาให้เบื้องต้นด้วยกันทั้งหมด 6 แบบ คือ HTC Socail Work Play Travel และ Clean Slate ซึ่งผู้ใช้สามารถเพิ่ม Scene ได้ด้วยตนเอง โดยเข้าไปตั้งค่าส่วนของ Personalize ใน Settings นั่นเอง

สำหรับวิดเจ็ตที่สามารถใส่เข้าไปใส่หน้าจอหลักนั้นประกอบไปด้วย ช็อตคัทสำหรับเข้าสู่แอปพลิเคชัน เอชทีซี วิดเจ็ต แอนดรอยด์ วิดเจ็ต และ ทางลัดเข้าสู่โฟลเดอร์ในเครื่อง



โดยในส่วนของเอชทีซี วิดเจ็ตที่มีให้ประกอบไปด้วย Bookmarks, Calendar, Clock, Footprints, Insing Search, Mail, Messages, Music, People, Photo Album, Photo Frame, Search, Setting, Stocks, Twitter และ Weather ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดของแต่ละวิดเจ็ตข้างล่างนี้



Bookmarks มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบที่แสดงภาพของหน้าเว็บเหล่านั้นล่าสุด และแบบที่ 2 คือแสดงเพียงชื่อเว็บไซต์ และ URL เท่านั้น ที่สำคัญสำหรับแฟนๆเว็บไซต์ "ASTVผู้จัดการออนไลน์" ทางเอชทีซีได้ทำการบุ๊กมาร์คเว็บไซต์มาให้จากโรงงานกันเลยทีเดียว



Calendar มีให้เลือกใช้ 2 แบบเช่นเดียวกัน คือ แสดงผลเป็นปฏิทิน ซึ่งจะใช้พื้นที่ทั้งหน้าจอเลย ส่วนแบบถัดมาจะแสดงเพียงตารางนัดหมายที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งแบบที่ 2 จะใช้พื้นที่เพียงแค่แถวเดียวเท่านั้น




Clock มีให้เลือกใช้งานทั้งหมด 12 แบบด้วยกัน ซึ่งรูปแบบส่วนใหญ่จะกินพื้นที่ทั้งหน้าจอ มีเพียงแบบที่ 2 3 4 และ 5 เท่านั้น ที่ใช้พื้นที่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แน่นอนว่าผู้ใช้สามารถกำหนดเวลาได้หลายๆประเทศเพื่อใช้ดูได้เช่นเดียวกับใน TouchFLO



Footprints สำหรับหน้าจอบันทึกการเดินทางนี้ มีให้เลือกด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ แบบใหญ่และเล็ก โดยทั้ง 2 แบบจะมีคีย์ลัดสำหรับเพิ่มสถานที่ใหม่ๆได้ทันที ถือว่าเป็นช็อตคัทสำหรับเข้าโปรแกรมก็ว่าได้



Mail / Messages มีไว้สำหรับแสดงผล HTC Mail และข้อความสั้นที่เข้ามา โดยผู้ใช้สามารถใช้นิ้วเลื่อนขึ้นลงเพื่อเลื่อนดูจดหมายฉบับอื่นๆได้ นอกจากนี้ยังมีปุ่มลัดสำหรับเขียนอีเมล/ข้อความสั้น ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน



Music นั้นจะคล้ายกับการนำเครื่องเล่นเพลงขึ้นมาแปะอยู่บนหน้าจอแรก ซึ่งวิดเจ็ตจะแสดงหน้าปกอัลบั้ม(ถ้ามี)รวมไปถึงปุ่มเล่นเพลงและเปลี่ยนเพลงตามปกติ มีให้เลือก 2 แบบคือใหญ่และเล็กเช่นเดียวกัน



Photo Album / Photo Frame เป็นวิดเจ็ตสำหรับนำภาพมาแปะไว้ที่หน้าจอ ส่วน Search คือ แถบค้นหา Settings คือ การเรียกช็อตคัทสำหรับเปิดปิดโหมดการใช้งานต่างๆขึ้นมาไว้บนหน้าจอ



Stock จะเป็นวิดเจ็ตสำหรับแสดงความเคลื่อนไหวของหุ้นตัวที่ผู้ใช้ให้ความสนใจอยู่ โดยมีให้เลือกด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ แสดงเป็นภาพรวมของหุ้นทั้งหมดในกระดานที่เลือกไว้ อีกแบบหนึ่งคือแสดงเฉพาะชื่อของหุ้นและความเคลื่อนไหวในขณะนั้น สุดท้ายคือแสดงผลหุ้นเฉพาะตัวที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ



Twitter ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งวิดเจ็ตที่น่าสนใจ เนื่องจากต้องยอมรับว่าปัจจุบันกระแสการใช้งานดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ซึ่งมีรูปแบบให้เลือก 2 แบบ คือ แสดงรูปพร้อมข้อความ Tweet ล่าสุด กับอีกแบบหนึ่งคือ เป็นช่องสำหรับให้ผู้ใช้เขียนข้อความเพียงอย่างเดียว



Weather เป็นวิดเจ็ตสุดท้ายของเอชทีซี วิดเจ็ตในอินเตอร์เฟสการใช้งาน Sense มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ คือ ขนาดใหญ่สุดพร้อมแสดงสภาพอากาศล่วงหน้า แบบต่อมาคือเป็นรูปภาพกราฟิกขนาดปานกลางแสดงผลเฉพาะปัจจุบัน และแบบสุดท้ายคือแสดงผลเป็นรูปภาพกราฟิกขนาดเล็กแสดงผลเฉพาะวันที่ปัจจุบันเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น