ASTVผู้จัดการรายวัน - HTECH เผยปี 53 ลุยงานเต็มที่รับมืออุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมเจาะตลาดใหม่เพิ่ม และผลิตแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) Construction และ ในฝั่งสหรัฐอเมริกา ทั้งชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องบิน ชี้มีศักยภาพการเติบโตสูง "พีท " ระบุกำลังผลิตปีหน้าขยับเพิ่มอีก 25% หลังติดตั้งเครื่องจักรใหม่บางส่วน มั่นใจดันรายได้เติบโตสัดส่วนเท่ากัน
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทปี 2553 ว่ายังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีความแม่นยำ คุณภาพการทำงานสูง และช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้ รวมถึงการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตจากระบบ Manual เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติเพื่อรับมือกับแนวโน้มอุตสาหกรรมทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ HARD DISK DRIVE (HDD) ที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี52 และต่อเนื่องถึงปี 53 สะท้อนได้จากอัตราส่วนคำสั่งซื้อต่อกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น
โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ประเภท Carbide Cutting Tools ซึ่งเป็นเครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำจาก Carbide ซึ่งมีปริมาณการใช้สูงมาก และกลุ่มสว่านปลายเพชร (PCD Drill) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ค่อนข้างสูง และได้ทยอยซื้อเครื่องจักรใหม่ ๆ เพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งปี53 วางแผนใช้งบ 35 ล้านบาทซื้อเครื่องจักรเพิ่ม หลังจากปี 52 บริษัทได้เพิ่มเครื่องจักรใหม่ 4 เครื่อง ซึ่งได้ทยอยติดตั้งแล้ว และบางส่วนจะทยอยติดตั้งช่วงต้นปีหน้า โดยจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 25%
สำหรับแนวโน้มเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ปี 53 คาดว่าน่าจะขยายตัวประมาณ 10-15% จากปี 52 เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมฯ ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเป็นส่วนประกอบสำคัญมีเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Hard Disk 2.5 นิ้ว ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ใน Notebook และ External Hard Drive ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้ อย่างมากและต่อเนื่องมา จนทำให้สินค้าขาดตลาดในบางช่วง ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทโดยตรงหลังกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
" หากประเมินในแง่ของการขยายตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ในปี52 และปี53 พบว่ามีความต่างกันมาก เพราะความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และหากอุตสาหกรรมรถยนต์กลับมาคึกคักและปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 10% การเพิ่มขึ้นของรายได้ปีหน้าที่บริษัทประเมินไว้ระดับ 25% ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50% ได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับบริษัท เพราะขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเครื่องจักรที่มีศักยภาพสูงและบุคลากร " นายพีทกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฯ อาจมีผลทำให้มีการแข่งขันกันทางธุรกิจมากขึ้นแต่ความได้เปรียบด้านเครื่องจักรและบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์สูง ทั้งยังเป็นผู้นำตลาด PCD Cutting Tools ในส่วนของลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ระดับผู้นำของโลกหลายค่ายซึ่งมีฐานการผลิตหลักในเมืองไทยทั้งเก่าและใหม่ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นของบริษัท
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทปี 2553 ว่ายังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีความแม่นยำ คุณภาพการทำงานสูง และช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้ รวมถึงการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตจากระบบ Manual เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติเพื่อรับมือกับแนวโน้มอุตสาหกรรมทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ HARD DISK DRIVE (HDD) ที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี52 และต่อเนื่องถึงปี 53 สะท้อนได้จากอัตราส่วนคำสั่งซื้อต่อกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้น
โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ประเภท Carbide Cutting Tools ซึ่งเป็นเครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ทำจาก Carbide ซึ่งมีปริมาณการใช้สูงมาก และกลุ่มสว่านปลายเพชร (PCD Drill) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ค่อนข้างสูง และได้ทยอยซื้อเครื่องจักรใหม่ ๆ เพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งปี53 วางแผนใช้งบ 35 ล้านบาทซื้อเครื่องจักรเพิ่ม หลังจากปี 52 บริษัทได้เพิ่มเครื่องจักรใหม่ 4 เครื่อง ซึ่งได้ทยอยติดตั้งแล้ว และบางส่วนจะทยอยติดตั้งช่วงต้นปีหน้า โดยจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 25%
สำหรับแนวโน้มเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ปี 53 คาดว่าน่าจะขยายตัวประมาณ 10-15% จากปี 52 เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมฯ ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเป็นส่วนประกอบสำคัญมีเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Hard Disk 2.5 นิ้ว ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ใน Notebook และ External Hard Drive ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากผู้ใช้ อย่างมากและต่อเนื่องมา จนทำให้สินค้าขาดตลาดในบางช่วง ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทโดยตรงหลังกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
" หากประเมินในแง่ของการขยายตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ในปี52 และปี53 พบว่ามีความต่างกันมาก เพราะความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และหากอุตสาหกรรมรถยนต์กลับมาคึกคักและปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 10% การเพิ่มขึ้นของรายได้ปีหน้าที่บริษัทประเมินไว้ระดับ 25% ก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 50% ได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับบริษัท เพราะขณะนี้มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งเครื่องจักรที่มีศักยภาพสูงและบุคลากร " นายพีทกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมฯ อาจมีผลทำให้มีการแข่งขันกันทางธุรกิจมากขึ้นแต่ความได้เปรียบด้านเครื่องจักรและบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์สูง ทั้งยังเป็นผู้นำตลาด PCD Cutting Tools ในส่วนของลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ระดับผู้นำของโลกหลายค่ายซึ่งมีฐานการผลิตหลักในเมืองไทยทั้งเก่าและใหม่ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นของบริษัท
