แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ฯ ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เสริมทัพรับมืออุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE และอิเล็กทรอนิกส์ฟื้น ฟุ้งดันรายได้ไตรมาส 3 โตเกิน 25% เล็งซื้อเพิ่มอีก 2 เครื่องในสิ้นปีนี้ รองรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ PCD ที่มีมาร์จิ้นสูง ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์จากนี้ขยายตัวปีละ 10-15%
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วบริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรรวมทั้งซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE ( HDD ) และอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่มีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการที่บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่
โดยเครื่องจักรที่ได้ติดตั้งใช้งานแล้วรวมทั้งหมด 4 เครื่อง มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 56 ล้านบาท ประกอบด้วย เครื่องจักรที่ใช้ผลิต Carbide Cutting Tools และ เครื่องจักรที่ใช้ผลิต PCD Cutting Tools โดยมีการทยอยรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เครื่องจักรใหม่ดังกล่าว ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นมาและสามารถเพิ่มรายได้ในผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องมือตัด (Cutting Tool) ได้ประมาณ 20%
สำหรับในเดือนตุลาคมนี้บริษัทจะดำเนินการติดตั้งซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มอีก 1 เครื่อง เป็นเครื่องเจียระไน Carbide (Carbide Grinding Machine) มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งใช้สำหรับผลิต Carbide Cutting Tools เพื่อรองรับคำสั่งซื้อและเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า อีกทั้งใช้สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Carbide Cutting tools มีกำลังการผลิตสามารถเสริมรายได้ให้บริษัทประมาณ 1-1.2 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากเครื่องจักรใหม่นี้ ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป
นายพีทกล่าวต่อว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทยังมีแผนซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 2 เครื่อง เพื่อรองรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเพชรสังเคราะห์ ( Polycrystalline Diamond :PCD ) หรือ PCD Cutting Tools และยังสามารถผลิต Carbide Cutting Tools ได้ด้วย ดังนั้นปี 52 จึงเป็นปีที่บริษัทเดินกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่ารายได้และกำไรจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเปรียบเทียบจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเป็นส่วนประกอบมีเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเฉือนโลหะที่ทำจากเพชรสังเคราะห์ ( PCD Cutting Tools ) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ต่อจากนี้น่าจะดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี
ขณะที่ผลงานไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 12.09 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.45 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 90 ล้านบาทลดลงจากงวดบัญชีเดียวกันของปีก่อน 40.44% เนื่องจากปริมาณการผลิตที่ลดลงตามสภาวะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำเพราะผลิตไม่เต็มกำลัง
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วบริษัทได้ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรรวมทั้งซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE ( HDD ) และอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่มีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการที่บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่
โดยเครื่องจักรที่ได้ติดตั้งใช้งานแล้วรวมทั้งหมด 4 เครื่อง มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 56 ล้านบาท ประกอบด้วย เครื่องจักรที่ใช้ผลิต Carbide Cutting Tools และ เครื่องจักรที่ใช้ผลิต PCD Cutting Tools โดยมีการทยอยรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เครื่องจักรใหม่ดังกล่าว ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นมาและสามารถเพิ่มรายได้ในผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องมือตัด (Cutting Tool) ได้ประมาณ 20%
สำหรับในเดือนตุลาคมนี้บริษัทจะดำเนินการติดตั้งซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มอีก 1 เครื่อง เป็นเครื่องเจียระไน Carbide (Carbide Grinding Machine) มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งใช้สำหรับผลิต Carbide Cutting Tools เพื่อรองรับคำสั่งซื้อและเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันตามคำสั่งซื้อจากลูกค้า อีกทั้งใช้สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Carbide Cutting tools มีกำลังการผลิตสามารถเสริมรายได้ให้บริษัทประมาณ 1-1.2 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากเครื่องจักรใหม่นี้ ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป
นายพีทกล่าวต่อว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทยังมีแผนซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 2 เครื่อง เพื่อรองรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเพชรสังเคราะห์ ( Polycrystalline Diamond :PCD ) หรือ PCD Cutting Tools และยังสามารถผลิต Carbide Cutting Tools ได้ด้วย ดังนั้นปี 52 จึงเป็นปีที่บริษัทเดินกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่ารายได้และกำไรจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเปรียบเทียบจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเป็นส่วนประกอบมีเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงไตรมาส 3 โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเฉือนโลหะที่ทำจากเพชรสังเคราะห์ ( PCD Cutting Tools ) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HDD และอิเล็กทรอนิกส์ ต่อจากนี้น่าจะดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี
ขณะที่ผลงานไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 12.09 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.45 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 90 ล้านบาทลดลงจากงวดบัญชีเดียวกันของปีก่อน 40.44% เนื่องจากปริมาณการผลิตที่ลดลงตามสภาวะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำเพราะผลิตไม่เต็มกำลัง